ตอนที่ 808 ความสงบสุข
หัวหน้าอารามแห่งอารามจิตพิสุทธิ์กล่าวว่า เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก ตระกูลเจียงหยางของเจ้าเป็นตระกูลสาขาหนึ่งในสิบตระกูลผู้พิทักษ์ ทั้งยังให้กำเนิดเจียงหยาง เซียงเทียน ผู้ซึ่งเป็นอัจฉริยะที่ไม่เคยมีก่อน ตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางจักปกป้องทุกคนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หนึ่งในสายเลือดของตระกูลของเจ้าซ้ำยังเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกด้วยอีก ด้วยความสัมพันธ์ดังกล่าวต่อให้สิบตระกูลผู้พิทักษ์ต้องการจะทำอะไรที่เลวร้ายกับตระกูลเจียงหยาง พวกเขาก็ต้องวางแผนอย่างรอบคอบกันบ้าง แม้ว่าปัญหาอย่างเรื่องเจียงหยางเซียงเทียนกับพยัคฆ์ปีกเทวะจักหายไป ถ้าหากเจ้าต้องการที่จะปกป้องเขาคงจะมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น -จงได้มาซึ่งกำปั้นที่เหนือกว่ามัน
เจียงหยางหู่พยักหน้า เอาล่ะ ข้าจะเข้าร่วมอารามจิตพิสุทธิ์ของท่านและกลายเป็นศิษย์ของอาราม
ข้าเป็นหัวหน้าอารามแห่งอารามจิตพิสุทธิ์ หวู่เฉิน ชื่อของเจ้าควรจักเป็นเจียงหยางหู่ เจียงหยางหู่ แม้ว่าเจ้าจะตระหนักรู้ถึงขอบเขตแห่งสวัสติกะอันยิ่งใหญ่ เจ้าก็ย่อมอยู่ที่ขอบเขตแรกเริ่มเท่านั้น ถ้าหากเจ้าต้องการเข้าถึงขั้นปรมัตถ์อันยิ่งใหญ่ เจ้าจะต้องตัดขาดกับทุกสิ่งทุกอย่างรวมไปถึงสายสัมพันธ์ของครอบครัว มิตรภาพและความกังวลทั้งหมดของเจ้า หัวหน้าอารามกล่าวอย่างโหดร้าย
ตัดขาดกับทุกสิ่งทุกอย่างรวมไปถึงสายสัมพันธ์ของครอบครัว มิตรภาพและความกังวลทั้งหมด เจียงหยาง หู่ค่อยๆ หลับตาลงขณะที่รำพึงออกมา เขาแลดูจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
ไม่ได้นะ อาหู่ เจ้าไม่สามารถเข้าร่วมกับอารามจิตพิสุทธิ์ได้ ข้าเป็นแม่ของเจ้า เจ้าไม่สามารถลืมแม่ของเจ้าได้ ป้าสองและป้าสามของเจ้า น้องสาวเจียงหยางหมิงเยว่ น้องชายเจียงหยางเค่อและเจียงหยางเซียงเทียน พวกเขาทั้งหมดเป็นครอบครัวของเจ้า เจ้าจักมีวิธีที่สามารถลืมพวกเขาได้ยังไง เมื่อได้ยินว่าเจียงหยางหู่จักต้องตัดความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีอยู่ หลิงหลงก็พลันกลายเป็นคลุ้มคลั่ง นางพูดอย่างเร่งรีบในขณะที่น้ำเสียงของนางถูกเอ่ยขึ้นอย่างน่ากลัวแปลก ๆ ชั่วครู่นั้นนางกระทั่งลืมเกี่ยวกับแขนขาที่หายเป็นปกติของเจียงหยาง หู่
ถึงแม้ว่าหลิงหลงจักได้คิดถึงเกี่ยวกับการรักษาเจียงหยางหู่มาหลายครั้ง ถ้าหากการคืนสภาพอย่างเต็มที่มาพร้อมกับการตัดขาดสานสัมพันธ์ทั้งหมดของครอบครัว หลิงหลงก็ยินดีที่จะให้เจียงหยางหู่ยังคงอยู่ในสภาพเดิม เป็นเพราะนางรู้ดีว่าเมื่อเจียงหยางหู่ตัดความรู้สึกและสายสัมพันธ์กับครอบครัวทั้งหมด นางก็จะเสียลูกของนางไป ลูกชายของนางก็จะไม่รู้จักนางอีกต่อไป ซึ่งในฐานะแม่แล้ว นี่นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมาก แม่ไม่เคยต้องการให้ลูกชายของพวกนางตีตัวออกห่างเช่นนี้
เจียงหยางหู่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เขาสงบนิ่งไร้ซึ่งความผันผวนของอารมณ์ใด ๆ ท่านแม่อย่ากังวลเลย ไม่ว่าข้าจักเปลี่ยนไปแค่ไหน ท่านจักยังคงเป็นท่านแม่ของข้าตลอดไป ทั้งท่านพ่อ ลุงเจียง ป้าสอง ป้าสาม ป้าสี่ น้องรอง น้องสาม น้องเล็ก ข้าจักไม่ลืมพวกเขาเลย
อาหู่ เจ้าจักทอดทิ้งท่านแม่ของเจ้าไปจริง ๆ หรือ? สีหน้าของหลิงหลงน่าเวทนานัก นางร้องไห้อย่างเจ็บปวดราวกับว่าพวกเขาต้องตายจากกัน น้ำตาสองสายที่เจ็บปวดไหลออกมาจากดวงตาของนาง
นางได้สูญเสียสามีของนางไปแล้ว นางไม่ต้องการเสียลูกชายของนางอีก ประหนึ่งลูกชายของนางเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สนับสนุนจิตใจของนาง
ความเศร้าโศกของหลิงหลงก่อให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่างในสภาวะจิตใจที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ของเจียงหยาง หู่ ดวงตาของเขาที่ซึ่งสงบนิ่งอยู่ ในที่สุดก็แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึก เขาได้เดินไปถึงข้างหน้าหลิง หลงและใช้มือหนาของเขาจับมือของหลิงหลงไว้อย่างแนบแน่น ท่านแม่ ข้าจะไม่ทอดทิ้งท่าน ข้าจะไปที่อารามจิตพิสุทธิ์เพื่อหาเส้นทางที่ข้าควรจักเดิน ท่านแม่ ข้าจะกลับมาพบท่านบ่อย ๆ นะ
ถ้าหากเจ้าไม่ได้ตัดความยึดติดและความกังวลของเจ้าอย่างสมบูรณ์แล้ว เจ้าจะบรรลุปรมัตถ์อันยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ? ดูเหมือนว่าเจียงหยางหู่ยังคงมีทางอีกยาวไกลในอนาคต
เมื่อไปถึงที่ตรงที่หลิงหลงอยู่แล้ว หัวหน้าอารามรู้ว่าถ้าหากนางปล่อยเจียงหยางหู่ไว้เช่นนี้ จักทำให้ความยึดติดของเขาแข็งกล้าขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยคลื่นของพลังงานโลกของนางห่อหุ้มรอบ ๆ ตัวเจียงหยางหู่ไว้เบา ๆ แล้วนำพาเขาออกไป หลังจากนั้นนางก็เดินผ่านประตูมิติพร้อมกับคนอื่น ๆ จากอารามจิตพิสุทธิ์ มีเพียงแต่น้ำเสียงที่ไร้ซึ่งอารมณ์ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศว่า มารดาของเจียงหยางหู่ ถ้าหากเจ้าต้องการให้ลูกของเจ้ากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปนี้ จงอย่าหยุดเขาเลย มิฉะนั้นเจ้าจักทำลายศักยภาพของเขาไป
เจียงหยางหู่และผู้คนจากอารามจิตพิสุทธิ์ต่างก็หายตัวไปจนหมด พวกเขาออกเดินทางไปแล้ว หลิงหลงจ้องมองที่ท้องฟ้าที่ซึ่งหายตัวไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองออกมาจากดวงตาราวกับน้ำพุ
อาหู่ อาหู่ เจ้าต้องกลับมาน่ะ แม่มักจะรอเจ้าอยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าจะกลับมา เจ้าไม่สามารถลืมแม่ของเจ้าได้ หลิงหลงพูดเบา ๆ ราวกับว่านางสูญเสียความสามารถของเธอในการพูด นางเสียใจ นางรู้สึกราวกับว่าเจียงหยางหู่ทอดทิ้ง เขาจักไม่มีวันหวนกลับมาอีก
เป็นเพราะนางรู้ว่าครั้งต่อไปที่นางเห็นลูกชายของนาง เขาอาจจะไม่รู้จักนางอีกต่อไป
พี่สาว จงอย่าได้เศร้าใจอีกเลย ท่านเลิกกังวลเถิด อาหู่เองแน่นอนว่าเขาย่อมไม่ลืมท่าน ข้ามั่นใจว่าเขาย่อมแวะมาเยี่ยมท่านอีกครั้งเร็ว ๆ นี้เป็นแน่ หยูเฟิงหยานรีบไปปลอบโยนนาง
คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ได้ประจักษ์แก่ทุกสิ่งทุกอย่างขณะที่พวกเขาลอยตัวอยู่บนท้องฟ้า ไม่มีใครสามารถสงบสติได้และหลาย ๆ คนมองไปที่เจียงหยาง ซู หยวนเซียวและเจียงหยางอวี้หยวนด้วยความอิจฉาที่ไม่อาจคาดเดาได้
ตระกูลสาขาของตระกูลเจียงหยางแห่งนี้โดดเด่นมาก มันเป็นความจริงที่ให้กำเนิดสามอัจฉริยะที่ไร้ผู้ใดเปรียบ และการเกิดขึ้นโดยพลันถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกและอารามจิตพิสุทธิ์แห่งสิบตระกูลผู้พิทักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความสำคัญที่หัวหน้าอารามให้กับเจียงหยางหู่ บางคนถึงกับกระทั่งเชื่อว่าเขาจักกลายเป็นหัวหน้าอารามในอนาคตเป็นที่แน่นอน ด้วยเหตุนี้ตระกูลเจียงหยางและอารามจิตพิสุทธิ์จึงได้รับความสนใจอย่างใกล้ชิด พวกเขายังจะเชื่ออีกว่าตระกูลเจียงหยางจักได้ควบคุมอารามจิตพิสุทธิ์ในอนาคต
ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะข่มขู่เจี้ยนเฉินด้วยการควบคุมตระกูลสาขาของตระกูลเจียงหยางแห่งนี้แล้วสิ หลายคนในตระกูลผู้พิทักษ์ลอบถอนหายใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็อำลาคนของศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอย่างสุภาพ ก่อนที่จะเปิดมิติและออกเดินทางไปกับตระกูลของตนเอง
ไม่นาน ทุกคนก็ได้ออกไปยกเว้นตระกูลเจียงหยาง
ไปกันเถอะ ! ประธานของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ผู้เฝ้ามองจากระยะไกล ๆ ได้ถอนหายใจเบา ๆ อารมณ์ของเขาหนักอึ้งมาก พื้นหลังของหยางยู่เทียนทรงพลังมากกว่าที่เขาคิด พวกเขามีพี่น้อง 4 คน พี่ชายคนโตได้กลายเป็นศิษย์ของอารามจิตพิสุทธิ์ในขณะที่น้องสาว เจียงหยางหมิงเยว่กลายเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติก ซ้ำพวกเขายังมีตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางอยู่เบื้องหลัง สมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงของพวกเขาคงไร้ความสามารถที่จะจัดการกับสามสิ่งนี้ได้
ประธานได้ตระหนักว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับวัตถุเซียนกลับคืน เว้นแต่หยางยู่เทียนเองจักมอบมันด้วยความเต็มใจ
ทุกคนในสมาคมจึงได้คอตกกลับไปยังสำนักงานใหญ่ผ่านทางประตูมิติในเมืองแห่งเทพเจ้า ไม่นานหลังจากนั้นหยุนเทียนก็ได้ออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่บนเมฆขาวโดยคนเดียว ขณะที่สายตาของเขาเยือกเย็นอย่างมาก
หยางยู่เทียน ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมีพื้นหลังใหญ่เช่นนี้ แต่ไม่ว่าพื้นหลังของเจ้าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ข้า หยุน เทียน จะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่อย่างเรียบง่าย ข้าสงสัยนักว่าผู้เชี่ยวชาญของทวีปสัตว์เทวะจะทำอย่างไรเมื่อพวกมันรู้ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะอยู่กับเจ้า
ตระกูลเจียงหยางแห่งเมืองลอร์
เทียนเจี้ยนจ้องมองที่เรือนผมสีขาวของเจียงหยางหมิงเยว่ ก่อนที่จะพูดอย่างเงียบ ๆ ว่า ไปกันเถอะ โดยเทียนเจี้ยนนั้นผ่าช่องว่างมิติออกและสร้างประตูมิติขึ้นมา
โปรดรอก่อน ผู้อาวุโสสูงสุด น้ำเสียงของเจียงหยาง ซู หยวนเซียวดังขึ้น
เทียนเจี้ยนหยุดชะงักก่อนที่จะจ้องมองเข้าไปในสายตาของเขา เขาหันไปรอบ ๆ และมองไปที่คนจากตระกูลเจียงหยางพร้อมกับจ้องมองด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
หลังจากที่ใคร่ครวญเล็กน้อย เจียงหยาง ซู หยวนเซียวประสานมือไปที่เทียนเจี้ยน ผู้อาวุโสเทียนเจี้ยน ท่านรู้ที่อยู่ของผู้สืบเชื้อสายของคงเอ๋อ เจียงหยางเซียงเทียนหรือไม่ ?
ถ้าหากท่านต้องการหาที่อยู่ของตระกูลของท่านเอง ตระกูลเจียงหยางของท่านควรจะมีวิธีการตามหาของพวกท่านเอง เหตุใดถึงมาถามข้า ? บางทีท่านคงจะไม่สามารถหาคนในตระกูลที่เป็นของตระกูลผู้พิทักษ์ได้ เทียนเจี้ยนตอบอย่างเย็นชาก่อนที่จะหายตัวไปโดยตรงในประตูมิติพร้อมกับผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังเขา
หลังจากที่เทียนเจี้ยนจากไป มีพลังที่ทรงแสนยาอนุภาพปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วและแผ่กระจายออกไปในระยะไกล มันก่อตัวเป็นระลอก ๆ อยู่ตลอดเวลาทั้งยังแผ่ซ่านไปทั่วทั้งทวีปอย่างรวดเร็ว
มีผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถรับรู้ถึงการปรากฏของพลังที่ทรงอานุภาพนั้นได้ ประกายแสงเล็ก ๆ แวบเข้ามาในดวงตาของบรรดาผู้อาวุโสทั้งเจ็ดคนจากตระกูลเจียงหยาง สายตาของพวกเขาหรี่แคบลงมองไปที่ขอบฟ้าไกล
“แปดตระกูลได้เริ่มร่วมมือกันเพื่อใช้ทักษะลับในการค้นหาทั่วทั้งทวีปกันแล้ว ดูเหมือนพวกเขาจะทิ้งเราไว้ที่ตระกูลเจียงหยาง เจียงหยาง ชิงหยุนคำรามขึ้น
แล้วยังไงเล่า ถ้าหากพวกเขาจะทิ้งเรา ? ทั้งพยัคฆ์ปีกเทวะกับผู้สืบเชื้อสายจากตระกูลเรา เราจำเป็นต้องค้นหาเขาโดยเร็ว การปล่อยให้พยัคฆ์ปีกเทวะไปกับเขานั้นไม่ปลอดภัย ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวว่าเคร่งเครียด
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงหยาง ซู หยวนเซียวและเจียงหยาง ซู เซียว ขมวดคิ้วก่อนที่จะผ่อนคลาย พวกเขาไม่ได้พูดอะไรต่อ
เจียงหยาง ชิง หยุนมองไปที่คนจากศาลาเทพธิดาน้ำแข็งและพูดว่า ไปคุยกับคนจากศาลาเทพธิดาน้ำแข็งก่อน สตรีศักดิ์สิทธิ์เองก็มาจากตระกูลเจียงหยางของเรา กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเขาเองก็เป็นหนึ่งในของพวกเราด้วยเช่นกัน
เจียงหยาง ชิง หยุนได้สนทนากับชายชราโจวจากศาลาเทพธิดาน้ำแข็งพักหนึ่งก่อนที่ไม่นานจะถึงหัวข้อของทวีปเทพอสูร
ไม่ใช่ว่าตระกูลผู้พิทักษ์ของท่านไม่ทราบกฎของศาลาเทพธิดาน้ำแข็งของข้าหรอกหรือ แม้ว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์จักมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลเจียงหยางของท่าน กฎของศาลาเทพธิดาน้ำแข็งก็ต้องไม่ยอมให้การต่อสู้ใด ๆ ในทวีปเทียนหยวนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งเรา ศาลาเทพธิดาน้ำแข็งจะไม่ช่วยท่านในการรับมือทวีปสัตว์เทวะ แม้ว่าเพื่อเพียงคน ๆ เดียวก็ตาม ชายชราโจวกล่าวอย่างเย็นชาโดยไม่แสดงความเคารพต่อเจียงหยาง ชิง หยุน
เจียงหยาง ชิง หยุนหัวเราะอย่างงุ่มง่าม เขาไม่โกรธ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงกฎที่ตั้งไว้ในตระกูลของเขาตั้งแต่สมัยโบราณ
กฎข้อแรกคือการปกป้องทวีปเทียนหยวนและยับยั้งการรุกรานของบุคคลภายนอก
กฎข้อที่สองคือไม่ควรยั่วยุเกิดศาลาเทพธิดาน้ำแข็งแห่งอาร์กติก
เจียงหยางหมิงเยว่อยู่ที่คฤหาสน์เพียงครึ่งวันเท่านั้น ในช่วงเวลาขณะนั้นศาลาศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่มหึมาที่ลอยอยู่ห่างออกไปหลายพันเมตรเหนือคฤหาสน์ ทำให้รัศมีนับพัน ๆ กิโลเมตรโดยรอบนั้นหนาวจัดและเต็มไปด้วยหิมะ ทั้งยังก่อตัวเป็นชั้นหิมะปกคลุมหนาทึบ
หลังจากช่วงเวลานั้นเจียงหยางหมิงเยว่ได้อำลากับแม่ของนาง หยูเฟิงหยานอย่างไม่เต็มใจนัก หลังจากนั้นนางก็ถูกนำตัวเข้าไปในศาลาโดยชายชราโจว และแล้วศาลาศักดิ์สิทธิ์ขนาดมหึมาเหนือคฤหาสน์เจียงหยาง มานอร์ก็เริ่มลอยขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะหายตัวไป
การหายตัวไปของศาลาเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ทำให้หิมะที่กำลังตกหนักหยุดลง ดวงอาทิตย์ที่แผดจ้าได้เริ่มส่องแสงลงมาอีกครั้ง ส่องสว่างไปทั่วดินแดนและค่อย ๆ ละลายน้ำค้างแข็งและหิมะ
ด้วยการจากไปของศาลาเทพธิดาน้ำแข็งแห่งอาร์กติก ตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางก็จากไปเช่นกัน มีเพียงเจียงหยาง ซู อวี้หยวนและเจียงหยาง ซู หยวนเซียวเท่านั้นที่อยู่ในเมืองลอร์เพื่อปกป้องตระกูล
นี่เป็นตระกูลที่ก่อตั้งโดยลูกชายของพวกเขา เจียงหยาง ซู หยุนคง นี่เป็นเครื่องหมายที่ลูกชายทิ้งไว้ในอดีต ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะรอจนกว่าลูกชายจะกลับมา