ตอนที่ 1864 สังหารในทันที

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ไม่ต้องให้เขาบอกทุกผู้คนก็ต่างเห็นมัน

ไม่ไกลออกไปมันกลับมีโอเอซิสปรากฏขึ้นมา

และส่วนกลางของโอเอซิสนั้นมันก็มีโต๊ะหินและกล่องใบหนึ่งวางไว้บนนั้น

“เลือดแท้วิหคชาด! มันต้องเป็นเลือดแท้วิหคชาดแน่!”

ทุกคนแทบจะบ้าคลั่งไป ตอนนี้มีหรือที่ยังคิดจะสนใจใดๆ พวกเขาทั้งหลายนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่โอเอซิสอย่างบ้าคลั่ง

“เลือดแท้วิหคชาดเป็นของข้า! ใครก็ไม่มีสิทธิเอาไปทั้งนั้น!”

“ตาย!”

“พวกเจ้าหลบไป หลีกทางให้พ่อเจ้า!”

ภาพที่ยังดูสงบนิ่งเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนได้หายไปจนสิ้น

เหล่านักยุทธทั้งหลายต่างพุ่งตัวออกไปอย่างบ้าคลั่งพร้อมลงมือแย่งชิงกล่องใบนั้น

ไม่นานนักพวกนักยุทธนภาสวรรค์ทั้งหลายก็ได้รู้ว่าการต่อสู้แย่งชิงกล่องของเหล่ายอดยุทธทั้งหลายนี้พวกเขาไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้เลย

เพราะเหล่ายอดคนทั้งหลายนี้คือเทพถ่องแท้

แม้ว่าพวกเขาจะกดพลังบ่มเพาะของคนลงมาที่อาณาจักรนภาสวรรค์แต่พลังฝีมือของพวกเขานั้นมันก็เหนือล้ำกว่าที่นภาสวรรค์คนไหนๆ จะเทียบเคียงได้

พวกเขานั้นเข้าใจแนวคิดต่างๆ อย่างเหนือล้ำ อย่างที่เหล่านักยุทธนภาสวรรค์ไม่สามารถที่จะเทียบเคียงได้เลย

รอบๆ โต๊ะหินนั้นมีศพกองกันอยู่จนไม่เห็นพื้น

เย่หยวนและเล้งชิวหลิงนั้นยังไม่คิดขยับ เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านั้นเล้งชิวหลิงก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกก่อนจะบอก “แน่ล่ะนะ โอกาสเช่นนี้มันคงมีแต่เหล่าเทพถ่องแท้เท่านั้นที่จะรับมันไปได้”

เย่หยวนยิ้ม “อาจจะไม่แน่เสมอไป”

เล้งชิวหลิงเบิอกตากว้างขึ้นเมื่อได้ยิน “เจ้าหมายความว่า?”

เย่หยวนยิ้มตอบ “อีกไม่นานเจ้าก็จะรู้เอง แต่ก่อนอื่นเรายังต้องมีอะไรให้จัดการ”

ในหมู่นักยุทธนภาสวรรค์นั้นซัวหานหรี่ตาลงแคบทันที

เขาพบว่าตอนนี้เย่หยวนกลับกำลังเดินมาหาตัวเขา!

‘หรือว่ามันจะพบข้าแล้ว? บ้าน่า! เราเดินทางมาอย่างระมัดระวังตลอดมันไม่มีทางรู้ตัวได้แน่!’ ซัวหานได้แต่คิดในใจ

เพราะตอนนี้จี้ฉุนกำลังเข้าไปต่อสู้กับเทพถ่องแท้คนอื่นๆ เพื่อแย่งชิงเลือดแท้วิหคชาดอย่างที่ไม่มีเวลาใดมาสนใจซัวหานเลย

ตอนนี้เรื่องราวมันไม่เป็นไปตามที่ซัวหานต้องการแล้ว เย่หยวนกำลังค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

“หึๆ คิดอยากลอบสังหารเจ้าก็ควรปกปิดจิตสังหารของตนเสียหน่อยนะ เมื่อมีจี้ฉุนอยู่ด้วยแล้วเจ้ามันกลับบ้าบิ่นไม่กลัวตาย!”

คำพูดสบายๆ ของเย่หยวนนั้นดังเข้าหูซัวหานทำให้ความหวังใดๆ ที่เขาเคยมีแตกสลายลงไป

ซัวหานหน้าถอดสีลงทันที มีหรือที่เขาจะยังยืนนิ่งรอความตายได้ร่างกายของเขาพุ่งออกไปยังทิศทางของโอเอซิสในทันที

“อาจารย์ช่วยข้าด้วย!” ซัวหานร้องบอก

ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายกำลังปะทะกันอย่างดุเดือดโดยทางจี้ฉุนเริ่มที่จะได้เปรียบขึ้นเรื่อยๆ และเกือบที่จะแย่งชิงกล่องนั้นมาได้แล้ว

ใครจะไปคิดว่าวินาทีนี้ซัวหานกลับพุ่งตัวออกมาเสียอย่างนั้น

ส่วนที่ด้านหลังมีร่างของเย่หยวนกำลังพุ่งลอยตามออกมา

ดาบฝ่าน้ำค้างแข็งยกขึ้นสูงในมือ ท่าสังหารของเย่หยวนนั้นกำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว

“เย่หยวนเจ้ากล้า?!” จี้ฉุนร้องขึ้นด้วยท่าทางแสนโกรธแค้น

เย่หยวนยิ้ม “เจ้าคิดว่าข้ากล้าไหมล่ะ?”

เย่หยวนนั้นใช้จังหวะเวลาที่เหมาะเจาะเป็นเวลาที่จี้ฉุนไม่อาจวางมือได้เพราะที่ด้านหน้าเองเขาก็ต้องต่อสู้อยู่อย่างไม่สามารถหยุดพัก

สองตาของจี้ฉุนนั้นแดงก่ำ ระหว่างที่เขากำลังคิดลังเลเขาก็ถูกเทพถ่องแท้อีกคนหนึ่งซัดฝ่ามือใส่เข้า

“ดาบตัดผ่ามิติ!”

ซัวหานนั้นมีวรยุทธเคลื่อนที่ที่รวดเร็วไม่น้อย แต่ความเร็วของเย่หยวนนั้นมันเหมือนกับเขาหายตัวได้!

ไม่ว่าจะเร็วแค่ไหน มีหรือที่เขาจะหลบรอดดาบของเย่หยวนไปได้?

เมื่อดาบถูกปล่อยออกซัวหานก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้อง ร่างกายของเขาแตกสลายหายไปในทันที

ยอดอัจฉริยะของเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์นทีกลับต้องตายลงเช่นนี้!

ตอนนี้ทางฝั่งจี้ฉุนที่ต่อสู้ในศึกอันดุเดือดอยู่ก็ต้องบาดเจ็บอย่างสาหัสด้วยเพลงดาบของคู่ต่อสู้

แต่เขาไม่ได้คิดสนใจบาดแผลบนร่างเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาหันไปร้องตะโกนใส่เย่หยวน “เย่หยวน หากข้าไม่สังหารเจ้าอย่ามาเรียกข้าว่าคนอีก!”

เย่หยวนมองดูจี้ฉุนอย่างเย็นเยือก “ข้าเกรงว่าเจ้าคงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว! ข้านั้นไม่ได้เป็นผู้หาเรื่องพวกเจ้าศิษย์อาจารย์เลยแท้ๆ แต่พวกเจ้ากลับคิดสังหารข้าครั้งแล้วครั้งเล่า หึ เจ้าคิดว่าข้ามันอ่อนหัดขนาดนั้นเลย?”

เหล่านภาสวรรค์คนอื่นๆ ที่ได้ยินเช่นนั้นต่างหันมามองเย่หยวนอย่างตกตะลึง

เด็กคนนี้เป็นแค่นภาสวรรค์สองดาวแต่กลับกล้าไปท้าทายเทพถ่องแท้เช่นนี้มันเหมือนกับว่าเขาเบื่อชีวิตเสียเหลือเกินแล้ว

แต่ดาบเมื่อสักครู่นี้มันทำให้ไม่มีใครกล้าคิดเช่นนั้น

นภาสวรรค์สองดาวขั้นสุดกลับสามารถสังหารนภาสวรรค์ห้าดาวลงด้วยดาบเดียว!

ที่สำคัญคนที่เย่หยวนสังหารลงยังไม่ใช่ลูกหมูลูกหมาที่ไหน แต่เป็นถึงซัวหานยอดอัจฉริยะแห่งเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์นที

เด็กหนุ่มคนนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่?

“ฮ่าๆ เลือดแท้วิหคชาดเป็นของข้า!” ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมา ต้นเสียงมันคือเทพถ่องแท้ที่เพิ่งประดาบกับจี้ฉุนไปและตอนนี้เขาก็เข้าไปคว้าหยิบกล่องบนโต๊ะมาได้แล้ว

เขาพุ่งตัวผ่านเหล่ายอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งหลายและเข้ามาถึงเลือดแท้วิหคชาดได้ในที่สุด

จี้ฉุนเบิกตากว้างราวกับคนเสียสติก่อนจะพยายามกดดันอาการบาดเจ็บของตนไว้และพุ่งตัวส่งร่างออกไป!

ชัวะ!

เทพถ่องแท้ผู้นั้นที่กำลังหัวเราะร่ากลับได้เห็นว่าหัวใจของตนปลิวลอยหายไป ตอนนี้อกของเขาถูกใครบางคนแทงจากด้านหลังด้วยดาบเดียว

แน่นอนว่าคนผู้นั้นย่อมสามารถที่จะแย่งชิงกล่องในมือของเขาไปได้

และแน่นอนว่าคนที่ฆ่าสังหารเขามันย่อมเป็นจี้ฉุน

ในวินาทีสักครู่นี้เขาได้ใช้วิชาลับปล่อยพลังทั้งหมดของร่างกายออกมาพร้อมฆ่าสังหารเทพถ่องแท้คนนั้นในขณะที่เขาไม่ทันระวัง

หลังจากแย่งสมบัติไปได้แล้วเขาสก็ไม่คิดที่จะหยุดตัวลง ร่างของจี้ฉุนกลายเป็นแค่เงาติดตามุ่งหน้าหนีหายไปในทะเลทรายทันที

“เย่หยวน เมื่อข้าหลอมเลือดแท้วิหคชาดนี้ได้แล้วมันจะเป็นวันที่เจ้าต้องจบชีวิตลง!” เสียงของจี้ฉุนที่หนีไปลอยกลับมาตามอากาศ

การพูดอธิบายออกมามันอาจจะฟังเหมือนช้า แต่แท้จริงแล้วเรื่องเมื่อสักครู่นี้ทั้งหมดมันเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว

เมื่อได้ยินเสียงนั้นเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายก็รู้สึกราวกับว่าได้ตื่นขึ้นจากความฝันและทุกผู้คนต่างก็มุ่งหน้าไล่ตามจี้ฉุนไปทันที

นี่คือเลือดแท้วิหคชาดที่พวกอุตส่าห์ลำบากตามหา มีหรือที่จะปล่อยให้จี้ฉุนนำมันไปใช้ง่ายๆ?

“หากคิดอยากหลอมเลือดแท้วิหคชาดเจ้าก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”

“ทิ้งเลือดแท้วิหคชาดลงเดี๋ยวนี้!”

หลังจากกลุ่มเทพถ่องแท้ได้จากไปการเข่นฆ่าสังหารจึงได้จบลงตาม

เหล่านักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างหันมามองดูเย่หยวนด้วยสายตาเวทนา

จี้ฉุนได้เลือดแท้วิหคชาดไป หลังจากเขาหลอมกลั่นมันได้แล้วพลังของเขาคงพุ่งทะยานขึ้นอย่างมาก

เดิมทีเขาที่เป็นถึงเทพถ่องแท้อยู่แล้วมันย่อมยิ่งจะทำให้การสังหารเย่หยวนง่ายดายขึ้นมิใช่หรือ?

เมื่อไม่มีเลือดแท้วิหคชาดแล้วเหล่าผู้คนก็ย่อมไม่คิดที่จะอยู่ภายในนี้อีกต่อไป

หลังได้ยินเสียงถอนหายใจยาวติดๆ กันเหล่านักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์ทั้งหลายก็ได้เดินทางจากไป

เล้งชิวหลิงเองก็ได้แต่เดินมาหาเย่หยวนพร้อมถอนใจยาว “เจ้าเองก็ใจร้อนไป! สังหารซัวหานลงเช่นนั้นมันง่ายดายแต่เจ้ากลับไปทำให้จี้ฉุนโกรธแค้นขึ้นมาเช่นนี้ แถมตอนนี้เขายังได้เลือดแท้วิหคชาดไปแล้วด้วย หลังจากหลอมมันได้แล้วพลังของเขาคงพัฒนาขึ้นไปอีกมากมาย ถึงตอนนั้นเขาจะยิ่งเป็นตัวยุ่งยากเสียกว่าที่ผ่านๆ มา”

ต่อให้จี้ฉุนจะไม่สามารถใช้พลังของเทพถ่องแท้ได้ในที่แห่งนี้แต่พลังของเขาก็ยังเกือบเข้าขั้นเทพถ่องแท้

ที่สำคัญความเข้าใจในแนวคิดของจี้ฉุนนั้นสูงส่งมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นภาสวรรค์สักคนหนึ่งจะไปเทียบเคียงเขาได้

การไปท้าทายศัตรูที่แข็งแกร่งปานนั้นมันมิใช่เรื่องที่ฉลาดนัก

แต่ใครจะไปคาดว่าเย่หยวนกลับตอบมาด้วยรอยยิ้ม “จี้ฉุนได้เลือดแท้วิหคชาดไป? หึๆ ดูท่า… เขาคงต้องผิดหวังแล้ว”

เล้งชิวหลิงเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “หืม? เจ้าหมายความว่า?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เลือดแท้วิหคชาดนั้นยังอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้น… สิ่งที่จี้ฉุนนำไปมันย่อมมิใช่เลือดแท้วิหคชาดแน่”

“ยังอยู่? เรื่องนี้… มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”

ต่อให้เล้งชิวหลิงจะมีอารมณ์เย็นราวน้ำแข็งแต่คำพูดนี้ของเย่หยวนมันก็ทำเอานางตอบไม่ถูก

เพราะจี้ฉุนได้นำเลือดแท้วิหคชาดไปแล้วจริงๆ ภายใต้สายตาของทุกผู้คน แต่เย่หยวนกลับพูดบอกมาว่าเขานั้นไม่ได้มันไป!

…………………………