ตอนที่ 884 เข็มเงินวิญญาณสะท้านจิต

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 884 เข็มเงินวิญญาณสะท้านจิต
เยวี่ยเจี้ยนหมิงสะท้านในใจ สีหน้าเปลี่ยนเป็นพิลึกพิลั่น

หลินสวินเลือกทะลวงปราณเวลานี้ หรือว่าจงใจ

เพียงแต่นำการทะลวงปราณมาทดสอบศัตรูในที่ลับ วิธีนี้เสี่ยงเกินไปแล้ว…

จากนั้นเยวี่ยเจี้ยนหมิงก็ยิ้มขื่น ก็ถูก หลินสวินน่ะอาศัยความกล้าเกินคนมาสร้างชื่อ เขาทำเช่นนี้กลับเหมาะสมกับนิสัยใจคอของเจ้าตัวจริงๆ

‘ไม่รู้ว่าในที่ลับจะมีคนกระโดดออกมาเท่าไหร่กันแน่…’ สายตาเยวี่ยเจี้ยนหมิงกวาดมองโดยรอบ ใคร่ครวญขบคิด

ครืน!

หลินสวินเวลานี้ร่างกายดุจเตาหลอมหนึ่ง ปราณภายในร่างควบทะยานดั่งอาชาไพร อาศัยสภาวะซึ่งบรรลุถึงขีดสุดบุกจู่โจมปราการทีละครา

ในระดับกระบวนแปรจุติ ความแข็งแกร่งแห่งปราณและรากฐานของเขา พอจะทำให้เขาไร้ซึ่งความหวาดหวั่นต่อคู่แข่งทั้งมวล เรียกได้ว่าเป็นมกุฎราชันของระดับ

แต่ทุกเรื่องมีคุณย่อมมีโทษ รากฐานแข็งแกร่งเกินไป ทำให้แต่ละครั้งที่เขาทะลวงปราณ ล้วนยากลำบากและเชื่องช้าผิดธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด

เฉกเช่นเวลานี้ แม้อาศัยคุณประโยชน์ของแหล่งผลึกเจตะ ก็ยังไม่อาจทำให้หลินสวินทะลวงปราณขึ้นไปได้ในชั่วขณะ

ทว่าหลินสวินหาได้เป็นกังวล ครั้งนี้เขามั่นใจเต็มเปี่ยม แม้ถูกคนฉวยโอกาสทำการรบกวนและจู่โจม เขาก็ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น!

ทะเลปรวนแปรอันตรายยิ่งยวด แต่ขณะเดียวกันก็จำกัดพลังของผู้แข็งแกร่งมากมาย ทำให้พวกเขาไม่อาจเหินนภาหรือลงทะเล ได้แต่ยืนอยู่บนเรือดอกบัว

อีกทั้งพวกเขาต่างต้องต่อต้านและคลี่คลายการโจมตีจิตวิญญาณตลอดเวลาเหมือนกัน หมายลงมือขัดจังหวะการทะลวงปราณของหลินสวิน ต้องเจออุปสรรคอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัย

แน่นอนว่า หนทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ ใช้พลังจิตวิญญาณทำการจู่โจมและรบกวน…

หืม?

ขณะหลินสวินคิดถึงตรงนี้ วิญญาณแห่งพลังจิตในห้วงนิมิตพลันสังเกตเห็นว่า มีแสงเยียบเย็นเสียดกระดูกดุจน้ำแข็งพุ่งมาอย่างเงียบเชียบ แทงเข้าสู่ห้วงนิมิตของตนอย่างหนักหน่วง

มีคนคิดโจมตีจิตวิญญาณของตนจริงดังคาด…

เพียงแต่หลินสวินเวลานี้ไม่ได้ยินดีที่รู้ล่วงหน้าแม้แต่น้อย การโจมตีนี้ซ่อนเร้นและอำมหิตยิ่งยวด เขาไม่อาจไม่รับมืออย่างระวัง

‘ผสาน!’

ในห้วงนิมิต วิญญาณแห่งพลังจิตซึ่งเฝ้าระวังอยู่ก่อนแล้วหยัดกายขึ้น เงาร่างสองชุ่นเหยียดตรง เอื้อมมือออกไปสำแดงเคล็ดเวทบริกรรม ก็จับกุมลำแสงเยียบเย็นเสียดกระดูกนั่นไว้ได้อย่างแน่นหนา

นี่ถึงกับเป็นเข็มเงินเล็กละเอียดราวขนวัวเล่มหนึ่ง แผ่ความหนาวเย็นออกมา ปลายเข็มห้อมล้อมรวงอสนีชวนประหวั่นหลากสาย

เข็มเงินวิญญาณสะท้านจิต!

นี่เป็นถึงสมบัติลับจิตวิญญาณที่ชั่วช้าร้ายกาจอย่างหนึ่ง สามารถแทงเข้าสู่ห้วงนิมิตคู่ต่อสู้ท่ามกลางความเงียบงัน รวงอสนีซึ่งรัดพันสามารถระเบิดพลังจิตจนละเอียดชั่วพริบตา!

ทว่าสมบัตินี้น่ากลัวก็ส่วนน่ากลัว แต่กลับยากจะหลอมเหลือประมาณ แม้แต่ในสำนักโบราณคนที่สามารถหลอมสมบัติลับเช่นนี้ได้มีเพียงบางตาไม่กี่คน

เท่านี้ก็สามารถสันนิษฐานได้ว่า คู่ต่อสู้ซึ่งลอบโจมตีครานี้ความเป็นมาต้องไม่ธรรมดา อีกทั้งเหี้ยมโหดอำมหิต สบโอกาสก็หมายจัดการหลินสวินทิ้งในคราเดียว!

น่าเสียดาย คู่ต่อสู้คงคาดไม่ถึงแต่แรก ว่าหลินสวินในระดับกระบวนแปรจุติจะสามารถควบรวมวิญญาณแห่งพลังจิตออกมาได้ ซ้ำยังครอบครองวิชาลับจิตวิญญาณอย่างเคล็ดเวทบริกรรม ต่อให้เข็มเงินวิญญาณสะท้านจิตแกร่งยิ่งกว่านี้ก็ยากจะทำร้ายหลินสวินได้…

ฟุ่บ!

เกือบจะเวลาเดียวกัน จิตรับรู้หลินสวินแผ่ขยายออก สะกดรอยย้อนไปตามทิศทางลอบสังหารของเข็มเงินวิญญาณสะท้านจิต

แค่ชั่วพริบตา เงาร่างสองร่างที่ยืนอยู่บนดอกบัวทองดอกหนึ่งก็สะท้อนในสมองหลินสวิน

คนหนึ่งคืออู่ต้วนหยาสำนักตะวันทมิฬ เจ้าหมอนี่กำลังจ้องมองตนด้วยหน้าตาอึมครึม ส่วนอีกคนคือหลี่ชิงฮวน สีหน้าอบอุ่นนิ่งสงบ

เป็นเขา?

หลินสวินยังจำได้ ตอนอยู่บนเขาน้ำแข็งปทุมเพลิงนั่น อู่ต้วนหยาเคยถูกตนแกล้งจนแค้นตนเข้ากระดูก

หากเข็มเงินวิญญาณสะท้านจิตมาจากน้ำมือของเขาก็สมเหตุสมผล

แต่ไม่ช้า หลินสวินก็สังเกตเห็นความผิดปกติ

ก็เห็นสีหน้าอู่ต้วนหยาพลันนิ่งงัน คล้ายประหลาดใจสงสัยไม่หยุด หันมาพูดกับหลี่ชิงฮวนอย่างอดไม่อยู่ “พี่หลี่ ทำไมของนั่นถึงไม่ได้ผล”

“หุบปาก!”

ยามนี้หลี่ชิงฮวนกลับสีหน้าอึมครึม ความอบอุ่นบนสีหน้าเลือนหาย เพิ่มความมีอำนาจข่มขู่ผู้คนวูบหนึ่ง “ใช้การสื่อจิตสนทนา อย่าให้เจ้านั่นได้ยินเข้า!”

อู่ต้วนหยาชะงักงัน ไม่ช้าจึงกล่าวคัดค้าน “เจ้าหมอนั่นกำลังทะลวงปราณ ไหนเลยจะได้ยินเสียงพูดคุยของเรา พี่หลี่ เจ้าระวังมากไปแล้ว”

หลี่ชิงฮวนกลับมุ่นคิ้ว แววตาเยียบเย็นกล่าวว่า “กันไว้ดีกว่าแก้!”

เวลาต่อมาหลินสวินก็ไม่ได้ยินเสียงสนทนาอีก เห็นชัดว่าทั้งสองเริ่มสื่อจิตแล้ว

‘เป็นเขาหรอกรึ’

หลินสวินสะท้านในใจ หลี่ชิงฮวน!

ความรู้สึกของเขาต่อคนผู้นี้ลึกล้ำยิ่งยวด ตอนอยู่บนเขาน้ำแข็งปทุมเพลิง เขาเคยเห็นหลี่ชิงฮวนลงมือมาก่อน ดูภายนอกเหมือนคนที่มีฝีมือไม่ได้โดดเด่นเท่าไร แต่แท้จริงแล้วความแข็งแกร่งแห่งศักยภาพถึงขั้นเหนือกว่าซาหลิวฉานอยู่บ้าง!

อีกทั้งคนผู้นี้ซ่อนเร้นเหลือประมาณ ความคิดยากหยั่งถึง คู่ต่อสู้เช่นนี้น่ากลัวที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย

‘ลอบโจมตีข้าครั้งนี้ แม้ไม่ได้มาจากการชี้นำของเขาก็ต้องเกี่ยวข้องกับเขาแน่… เพียงแต่ เหตุใดเขาต้องทำเช่นนี้ด้วย’

หลินสวินคิ้วขมวด

สวบ!

เวลาต่อมาหลินสวินปลุกหนอนกินเทพตัวหนึ่ง เปลี่ยนเป็นแสงไร้รูปหนึ่งสาย พุ่งไปทางหลี่ชิงฮวนที่อยู่ห่างไกลอย่างเงียบเชียบ

อู่ต้วนหยาไม่น่ากลัวพอ ที่ทำให้หลินสวินระมันระวังจริงๆ คือหลี่ชิงฮวน!

‘มีบางอย่างไม่เข้าที เข็มเงินวิญญาณสะท้านจิตเสียการควบคุมแล้ว ในมือเจ้าหมอนั่นคงมีสมบัติจิตวิญญาณบางอย่าง หรืออาจมีวิชาลับจิตวิญญาณ’

หลี่ชิงฮวนหัวคิ้วมุ่นเข้าหากัน

‘ไม่กระมัง ความลับบนตัวเจ้านั่นมากไปแล้ว ทั้งศุภโชคจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสมบัติอริยะ ตอนนี้ยังอาจครองสมบัติลับจิตวิญญาณอีกหรือ’

อู่ต้วนหยางงงันยากจะเชื่อ

ทั้งคู่อาศัยการสื่อจิตสนทนา จึงไม่ห่วงว่าจะถูกได้ยิน

‘สิ่งเหล่านี้จริงหรือเท็จใครต่างไม่อาจรู้ แต่ที่สามารถแน่ใจคือ เทพมารหลินเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือยากยิ่งคนหนึ่ง หมายสังหารเขาน่ะไม่ใช่เรื่องง่าย’

หลี่ชิงฮวนกล่าวถึงตรงนี้ ทั่วร่างพลันแข็งทื่อ ส่งเสียงอึดอัดในคอ บนใบหน้าพลันปรากฏความเจ็บปวดวูบหนึ่ง

ในห้วงนิมิต หนอนขนาดเท่าเมล็ดข้าวตัวหนึ่งกำลังจู่โจมและกัดกินพลังจิตของเขาอย่างบ้าคลั่ง!

ซ่า…

ฉับพลันนั้น พลังจิตของเขาส่องสว่าง ปรากฏเกราะเจิดจรัสขึ้นชั้นหนึ่ง คุ้มครองพลังจิตไว้ข้างในอย่างแน่นหนา

สวบ!

เพียงแต่เมื่อเขาทรงใช้วิชาลับจิตวิญญาณหมายจองจำหนอนตัวนี้ ฝ่ายหลังพลันกลายเป็นแสงวูบหนึ่งเผ่นแน่บลอยนวล

หลี่ชิงฮวนในใจหนักอึ้งทันควัน ตระหนักได้ว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้

“พี่หลี่ พี่หลี่ไม่เป็นไรใช่ไหม” ด้านข้าง อู่ต้วนหยากระสับกระส่าย

“ข้าไม่เป็นไร”

หลี่ชิงฮวนสีหน้าแปรปรวนไม่หยุด ครู่ใหญ่จึงสูดหายใจลึก ฟื้นคืนท่าทางถ่อมตัวละมุนละม่อม สายตาทอดมองมายังหลินสวินที่อยู่ห่างไกล

‘สหายยุทธ์หลินสวิน เมื่อครู่ล่วงเกินไปมาก ข้าทำเช่นนี้ออกจะเป็นการฉวยโอกาสจริงๆ แต่ข้าแค่ออกหน้าแทนสหาย หวังว่าเจ้าจะให้อภัย’

เขาสื่อจิตเอ่ยปาก น้ำเสียงเจือความรู้สึกเสียใจ

การลอบโจมตีที่ร้ายกาจหาใดเปรียบครั้งหนึ่ง ปากเขากลับบอกปัดไปอย่างง่ายๆ

‘ทำไปแล้ว ทำไมต้องขอโทษ’

น้ำเสียงหลินสวินเปี่ยมความเย็นชา

‘หนึ่งแลกหนึ่ง เมื่อครู่ข้าทำร้ายเจ้า เจ้าเองก็โจมตีข้ากลับเช่นกัน ไม่สู้ให้ความเข้าใจผิดระหว่างเราหักล้างกันเช่นนี้เป็นอย่างไร ว่ากันตามจริง หากไม่ขัดต่อคำขอของสหาย ข้าคงไม่ยอมเป็นศัตรูกับเจ้าแน่’

น้ำเสียงหลี่ชิงฮวนเปี่ยมความจริงใจ

‘เจ้าว่าเป็นไปได้หรือ’

เสียงหลินสวินเมินเฉย แท้จริงในใจระวังคนผู้นี้ยิ่งกว่าเดิม เจ้านี่ทำเรื่องต่ำทรามแล้วยังทำท่าอ่อนน้อมถ่อมตนขอโทษเช่นนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้

‘เฮ้อ ข้ารู้ว่าเจ้าหลินสวินเข้าใจผิด แต่ภายหลังข้าจะชดเชยให้ หวังเพียงเจ้าอย่ามองข้าหลี่ชิงฮวนเป็นคนถ่อยต่ำทรามก็พอ’

หลี่ชิงฮวนถอนใจคล้ายปลงตก ไม่กล่าวมากความอีก

หลินสวินเองก็ไม่พูดมาก เขาไม่มีทางถูกคำขอโทษสองสามคำเกลี้ยกล่อมได้

หลี่ชิงฮวนทำเช่นนี้อำมหิตเกินไป หากไม่ใช่ว่าเขาระวังตัวอยู่ก่อน ทันทีที่โดนโจมตี ไม่ใช่แค่ถูกคัดออกง่ายๆ แค่นั้น ยังอาจถูกทำลายจิตวิญญาณจนพิการสิ้นชีพ!

ความแค้นเช่นนี้ หลินสวินไม่มีทางรามือแค่นี้แน่

เพียงแต่ที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงคือ ในพลังจิตของหลี่ชิงฮวนยังซ่อนสมบัติลับจิตวิญญาณไว้ด้วย ทำการป้องกันพลังจิต สามารถต้านทานการโจมตีของหนอนกินเทพได้

‘น่าเสียดาย ปัจจุบันหนอนกินเทพยังอยู่ในระยะตัวอ่อน หากวิวัฒน์ต่อถึงขั้นถัดไปอาจสามารถฉีกกระชากการป้องกันเช่นนี้ได้…’

หลินสวินทอดถอนใจ เวลานี้เขาเองได้แค่อดทนชั่วคราว

เขายังคงทะลวงปราณ แบ่งมือไปจัดการหลี่ชิงฮวนไม่ได้จริงๆ

‘พี่อู่ ครั้งนี้ออกหน้าแทนเจ้า ข้าได้ล่วงเกินเทพมารหลินแล้ว’ หลี่ชิงฮวนถอนใจแผ่ว

‘อะไรนะ เขา… สังเกตเห็นการลงมือของพวกเรางั้นรึ’ อู่ต้วนหยาตกใจ ยากจะเชื่ออยู่บ้าง

‘ใช่น่ะสิ ข้าก็คิดไม่ถึงว่าเทพมารหลินจะแข็งแกร่งเช่นนี้ ยังเลี้ยงหนอนประหลาดที่จัดอยู่ในสิบอันดับแรกเมื่อครั้งบรรพกาลตัวหนึ่ง…’ นัยน์ตาหลี่ชิงฮวนเจือแววประหลาดวูบหนึ่ง

‘หนอนอะไร ถึงกับสามารถจัดอยู่ในสิบอันดับแรกสมัยบรรพกาลได้’ อู่ต้วนหยาตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม

หลี่ชิงฮวนส่ายศีรษะ ‘ไม่พูดถึงเรื่องนี้ เจ้าจำไว้แค่ต่อไปต้องระวังหลินสวินให้มาก ทางที่ดีอย่าปล่อยโอกาสให้เขาได้สัมผัสเจ้าแม้แต่น้อย ห่างได้เท่าไหร่จงหลีกไกลเท่านั้น ข้าสงสัยว่าเขาจะไม่เพียงแต่ลงมือกับข้า เกรงว่าเจ้าเองคงถูกเหมารวมไปด้วย’

อู่ต้วนหยากล่าวไม่พอใจ ‘กลัวอะไร เขาเทพมารหลินผูกพยาบาทกับบุคคลแห่งยุคมากขนาดนั้น พวกเรามีอะไรต้องหวาดกลัวด้วย’

หลี่ชิงฮวนแววตาพรั่งพรู เจือความเฉียบแหลม ‘คนอื่นส่วนคนอื่น เจ้าคือเจ้า หากเทพมารหลินคลั่งขึ้นมา… เฮ้อ สุดท้ายแม้เขาถูกฆ่าตายจริง ก็คงจะดึงอีกหลายคนร่วมทางไปปรโลกด้วยแน่!’

เขาหยุดไปชั่วขณะค่อยกล่าวต่อ ‘ข้าตัดสินใจแล้ว หนทางต่อจากนี้จะไม่ปล่อยให้หลินสวินลงมืออะไรกับข้าอีก ตรงไหนมีเขา ข้าจะไม่เข้าใกล้เพียงก้าว’

‘พี่หลี่ เจ้าไม่ระวังเกินไปหน่อยหรือ’ อู่ต้วนหยาคลางแคลงนัก

หลี่ชิงฮวนในความทรงจำของเขาเป็นบุคคลแห่งยุคผู้หนึ่ง มีท่วงท่าไร้เทียมทาน พลังต่อสู้เป็นเลิศ ไม่ด้อยไปกว่าบุคคลแห่งยุคคนใด

แต่ตอนนี้หลี่ชิงฮวนคล้ายหวาดกลัวเทพมารหลินนั่นอย่างที่สุด นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว

‘เจ้าไม่เข้าใจ หลินสวินนี่ไม่ธรรมดา ใครดูถูกเขา ต้องจ่ายค่าตอบแทนหนักหน่วงอย่างไม่อาจแบกรับ!’

หลี่ชิงฮวนเอ่ยราบเรียบ ‘คนประเภทนี้ข้าไม่กล้าแส่หาเรื่องชั่วคราว’

อู่ต้วนหยาสีหน้าแปรเปลี่ยน เพิ่งตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ อดไม่ได้ที่จะกล่าว ‘หรือเจ้าคิดว่าพวกอวี่หลิงคงลงมือก็เอาชนะเทพมารหลินไม่ได้’

หลี่ชิงฮวนเงียบอยู่นานจึงค่อยกล่าว ‘เช่นนั้นก็ต้องดูว่าในมือหลินสวินมีสมบัติอริยะจริงหรือไม่กันแน่’