มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 751
“น้ำกับไฟเข้ากันไม่ได้ ในเมื่อน้ำมรณาจิ่วหยินคือภูตน้ำชนิดหนึ่ง เช่นนั้นข้าข่มด้วยภูตอัคคี ไม่รู้ว่าจะต่อต้านได้หรือไม่?”

หลัวซิวความคิดผันเปลี่ยน ยกมือและซัดมกุฎอัคคีนภาเหลืองก้อนหนึ่งออกไปทันที

วินาทีที่มกุฎอัคคีนภาเหลืองสีทองและน้ำมรณาจิ่วหยินกระทบกัน เสียงซู่ซ่าก็ดังมาไม่ขาดสาย น้ำสีดำถูกเปลวเพลิงแผดเผา ควันสีดำลอยโขมง กลิ่นเหม็นสาบกระทบจมูก ทำให้คนแทบอยากจะอาเจียน

ยิ่งไปกว่านั้นแล้วกลิ่นเหม็นสาบนี้ ต่อให้ปิดกั้นประสาทสัมผัสทั้งห้า ก็ส่งผลกระทบต่อตัวสำนึกของจอมยุทธ์ ทำให้คนหน้ามืดเวียนหัว

เมื่อเทียบกับน้ำมรณาจิ่วหยินในทะเลสาบแล้ว มกุฎอัคคีนภาเหลืองก้อนหนึ่งที่หลัวซิวซัดออกไปนั้นไม่เป็นที่สะดุดตาเลยสักนิด ดังนั้นในระยะเวลาเพียงแค่สองลมหายใจเข้าออก มกุฎอัคคีนภาเหลืองก้อนนั้นก็ได้ถูกน้ำมรณาจิ่วหยินทับถมไป แม้ว่าจะได้แผดเผาน้ำมรณาจิ่วหยินไปไม่น้อย แต่สำหรับน้ำในทะเลสาบแล้ว มันไม่นับอะไรเลย

แต่จากการทดสอบในเมื่อสักครู่ หลัวซิวพบว่าใช้วิธีไฟต้านน้ำ สามารถถ่วงดุลน้ำมรณาจิ่วหยินได้จริง

ถึงแม้น้ำมรณาจิ่วหยินจะชั่วร้ายอย่างที่สุดก็ตาม แต่มกุฎอัคคีนภาเหลืองของหลัวซิวก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน มันเป็นสิ่งที่การรวมไฟทิพย์ทั้งสามชนิด

“โฮกก!”

ทันใดนั้นเอง เสียงร้องคำรามดังมาจากก้นทะเลสาบดำ ราวกับว่ามีสัตว์ร้ายโบราณได้ถูกทำให้ตื่นจากการหลับใหล จึงคำรามออกมาด้วยความโมโห

“พวกเจ้าสองคนถอยไป!” หลัวซิวสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“กลิ่นความชั่วร้ายอันเป็นที่น่ารังเกียจ ทว่าแข็งแกร่งยิ่งนัก” เหลียนเอ๋อร์เองก็ได้ตกใจเสียงนี้คำรามนี้จนหน้าถอดสี

“เป็นภูตน้ำมรณาจิ่วหยินหรือ?” ต้าวหวูซินดึงเหลียนเอ๋อร์ถอยไปอย่างรวด ในเมื่อน้ำมรณาจิ่วหยินเป็นน้ำทิพย์ ก็ต้องมีภูตน้ำเป็นธรรมดา

และเวลานี้ภูตน้ำได้ตื่นจากการหลับใหล เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะมกุฎอัคคีนภาเหลืองที่หลัวซิวซัดออกไปเมื่อสักครู่

น้ำกับไฟเข้ากันไม่ได้ ภูตน้ำใด ๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของภูตอัคคี ล้วนต้องรู้สึกรังเกียจโดยสัญชาตญาณ

ไม่รู้ว่าทะเลสาบน้ำมรณาจิ่วหยินแห่งนี้ผ่านกาลเวลามานานเพียงใด ภูตน้ำที่กำเนิดขึ้นมานั้นจะต้องแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบเป็นแน่

“ศิษย์พี่หลัว!” เมื่อต้าวหวูซินพบว่าหลัวซิวไม่มีทางหนีทีไล่แล้ว จึงได้ร้องเรียกเขาขึ้นมา

เหวปีศาจมรณาดำรงอยู่มาเป็นเวลานานเช่นนี้ ในยุคสมัยที่ผ่านมาเคยมีผู้แข็งแกร่งมากมายมายังที่แห่งนี้ แต่ทะเลสาบน้ำมรณาจิ่วหยินแห่งนี้กลับดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน เห็นได้ว่าไม่ธรรมดาเลย

หลัวซิวได้ยินเสียงของต้าวหวูซิน ภายในใจรู้สึกยิ้มไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “ข้าก็อยากถอยไปเหมือนกัน แต่ข้ามิอาจถอยได้เลย”

วินาทีที่ภูตน้ำตื่นคำรามในเมื่อสักครู่นั่นเอง กระแสพลังอันน่าเกรงขามอย่างสุดขีดได้ขังหลัวซิวเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย ทำให้เขาขยับไม่ได้เลยสักนิด

ดังนั้นเขาถึงได้ให้ต้าวหวูซินและเหลียนเอ๋อร์ถอยไปก่อน โชคยังดีเป็นตนเองที่ทำให้ภูตน้ำตื่นขึ้นมา ทำให้พวกนางได้ไม่ถูกกระแสพลังของภูตน้ำกักขังเอาไว้

“ไม่ต้องสนใจข้า พวกเจ้าหนีไปให้ไกลที่สุด” ร่างของหลัวซิวไม่สามารถขยับ แต่ก็ยังเอ่ยปากพูดได้

ต้าวหวูซินเห็นหลัวซิวยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเหมือนกับตะปู ก็เข้าใจขึ้นมาในทันทีว่ามิใช่ว่าหลัวซิวไม่อยากจะหนี แต่เป็นเพราะไม่อาจหนีได้

เขามองหลัวซิวอย่างลึกซึ้ง และแอบรู้สึกเสียดายอยู่ภายในใจ อัจฉริยะผู้ลึกลับแข็งแกร่งที่มีพลังแฝงไม่สิ้นสุดผู้นี้ วันนี้เกรงว่าต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว

ตูม!

ภายในทะเลสาบดำ คลื่นน้ำทะยานสู่ฟ้า ภายในน้ำสีดำที่ซัดกระเซ็น กัดเซาะช่องอากาศให้กลายเป็นหลุมเป็นบ่อ ราวกับรังผึ้งอย่างไรอย่างนั้น

ศีรษะขนาดใหญ่มหึมาทะยานขึ้นมาจากใต้น้ำ ศีรษะมีรูปสามเหลี่ยม ผมดำสนิท รูม่านตาที่ตั้งกลับหัวคู่หนึ่งส่องประกายสีแดง

ฟู่!

ลิ้นงูที่ยาวสิบกว่าเมตรแลบเข้าแลบออก ศีรษะของภูตน้ำมรณาจิ่วหยิน มีขนาดเท่ากับภูเขาเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง

“บัดซบ ภูตน้ำนี้คงฝึกตนมาหลายหมื่นปีแล้วสินะ?” หลัวซิวหมดคำจะพูดเป็นที่สุด รู้สึกราวกับว่าตนได้ถูกเทวทูตจื่อเยียนหลอกเข้าให้เสียแล้ว

บทที่ 750

บทที่ 752