ไพบูลย์ตบหน้าขาตัวเอง: “นี่ก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ เขามีนิสัยรักความสะอาดเกินไป คุณจับเขาทำไม? คนที่มีนิสัยรักความสะอาด มักจะกีดกันที่คนอื่นแตะต้องเขา”
“แต่ว่า พวกเราสองคนคือ…”
“ผมรู้ แต่เขาในตอนนี้ไม่ใช่เขาในอดีตแล้วนะ อีกอย่าง คุณก็ไม่ได้เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงต่อผู้อื่น คุณสวมใส่สิ่งนี้ เขาที่เป็นคนบุคลิกแตกแยก จะรู้จักคุณได้ยังไง?”
ผู้อำนวยการคนนี้ตั้งใจหยิบกระจกมาให้เธอส่องใบหน้าของตัวเอง
ผู้ช่วยหญิง: “…”
เธอก็ถูกตัวเองในสภาพที่น่ากลัวที่อยู่ในกระจกทำให้ตื่นตกใจ
นี่มันอะไรกัน?
เธอรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ รีบจัดการใบหน้านี้ออกไป
เพียงแต่ ตอนที่ล้างหน้า ในตอนที่เธอลอกใบหน้านี้ออก มองเห็นใบหน้าที่เดิมทีสวยงามมากที่ซ่อนอยู่ข้างใต้ แต่ตอนนี้กลับเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผล เธอเศร้าใจยิ่งกว่าเดิม
“พี่ชาย ฉันก็ไม่อยากใช้หน้าปลอมนี้มาพบพี่ แต่ว่า ใบหน้าของฉันกลายเป็นแบบนี้แล้ว ฉันกลัวจะทำให้พี่ตกใจ”
เธอลูบไร้ร้อยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอที่ยังแดงก่ำในกระจก เจ็บหัวใจเหมือนถูกมีดแทงแล้วบิดไปมาอย่างไงอย่างงั้น
เส้นหมี่!
ถูกต้อง คนคนนี้ก็คือเส้นหมี่ที่เพิ่งฟื้นขึ้นที่ญี่ปุ่นไม่นานนักแล้วรีบตามมา
จากการฟื้นฟูของเธอ อันที่จริงเธอยังไม่ควรจะมาในตอนนี้ เพราะว่า กระดูกที่หักภายในร่างกายของเธอยังไม่หายดี เพื่อทำการผ่าตัด ผมบนหัวที่โกนทิ้งไปก็ยังไม่งอกขึ้นมา
ยังมีใบหน้าของเธอ
โชกิ โดโมโตะบอกว่า ใบหน้าของเธอสามารถศัลยกรรมฟื้นฟูได้
แต่ว่า เธอมีเวลารอซะที่ไหน? คนรักของเธอทุกข์ยากลำบากอยู่ที่นี่ อยู่ภายใต้ความอันตรายตลอดเวลา และการศัลยกรรม ตั้งแต่ผ่าตัดจนหายเป็นปกติ อย่างน้อยต้องใช้เวลาครึ่งปีขึ้นไป
เธอรอได้ที่ไหน?
ดังนั้น สุดท้ายจึงทำได้แค่เพียงหาคนทำหน้าปลอมแบบนี้ ก็เหมือนกับตอนแรกที่ชายคนนี้ที่ปลอมเป็นปอร์เช่อยู่ข้างกายเธอ
เส้นหมี่อยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานาน จิตใจถึงได้สงบลง
ไพบูลย์เห็นเธอออกมาในที่สุด ก็เบาใจขึ้น: “คุณไม่ต้องเป็นกังวล ตอนนี้เขาเพียงแค่กีดกันที่เห็นคุณกะทันหัน ในเมื่อพวกคุณคือสามีภรรยาที่รักใคร่กันมาก เวลานานไป จะต้องจดจำสิ่งที่คุ้นเคยบนตัวของอีกฝ่ายได้เสมอ ถึงตอนนั้น พวกคุณก็สามารถหวนกลับมาร่วมชีวิตกันใหม่”
เส้นหมี่เริ่มแสบตาขึ้นมาอีก
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ร้องไห้อีก
หลังจากที่สงบจิตใจตัวเองครู่หนึ่ง ก็ขอบคุณผู้อำนวยการคนนี้จากใจจริง: “ขอบคุณค่ะ ด็อกเตอร์ไพบูลย์”
ไพบูลย์ยิ้มอ่อน: “ขอบคุณอะไร ตอนนั้นคุณธิปช่วยผมไว้เยอะมาก ผมทำเรื่องเล็กแค่นี้แทนเขาไม่นับประสาอะไร”
“ค่ะ”
“อ่อใช่ คุณระวังคนตระกูลเทวเทพไว้ค่อนข้างดีกว่านะครับ โดยเฉพาะ ไชยันต์ วันนี้เขาสังเกตเห็นคุณแล้ว คุณต้องห้ามให้เขารู้ว่าคุณคือเส้นหมี่เด็ดขาด”
ผู้อำนวยการคนนี้สุดท้ายตั้งใจกำชับเธอประโยคหนึ่ง
เส้นหมี่พยักหน้าในทันที แสดงออกว่าตัวเองจำเอาไว้
เธอรู้ถึงความสัมพันธ์ที่สำคัญนี้อยู่แล้ว
เธอไม่เพียงจะต้องระวัง ไชยันต์ เธอยังต้องระวังคนตระกูลเทวเทพทุกคน เพราะว่า พวกเขาต้องการชีวิตของแสนรัก ถ้าหากรู้ว่าเธอยังไม่ตาย แถมยังมาถึงเมืองหลวง
พวกเขาจะต้องไม่ปล่อยเธอไว้แน่
โดยเฉพาะเชื้อสาย ประพันธ์หลังจากเหตุการณ์นี้
เส้นหมี่กลับมาถึงห้องพักผู้ป่วยพร้อมกับ ไพบูลย์
“คุณแสนรักครับ ขอประทานโทษครับ ผู้ช่วยของผมคนนี้เพิ่งมาใหม่ เธอไม่รู้ว่าคุณแสนรักไม่ชอบให้คนอื่นสัมผัสตัว เมื่อครู่ผมได้ต่อว่าเธอไปแล้ว ครั้งหน้าเธอไม่ทำอีกครั้งแล้วครับ”
“ไสหัวไป!”
เผชิญหน้ากับคำอธิบายของผู้อำนวยการ แสนรักที่ถูกทรมานด้วยความเจ็บปวดที่อยู่บนเตียง อีกประโยคหนึ่งที่รุนแรงอย่างมาก
เส้นหมี่ได้ยิน หัวใจจมดิ่งทันที
ถ้าหากเขาปฏิเสธตัวเองที่เข้าใกล้เขาอยู่ตลอด งั้นต่อไปเธอควรจะทำอย่างไร?
“คุณแสนรัก คุณใจเย็นก่อนครับ ฟังผมพูด ทักษะทางการแพทย์ของมาม่าดีมาก เธอไม่เพียงสามารถผ่อนคลายความเจ็บปวดของคุณได้ ที่สำคัญคือ เธอรักษาอาการนอนไม่หลับได้ดีมาก พวกนี้ พยาบาลธรรมดาในโรงพยาบาลของผมไม่มีทางทำได้”
ตาแก่เจ้าเล่คนนี้ จู่ๆ ก็เริ่มหลอกล่อขึ้นมา
เส้นหมี่หันหน้ามองไปทางแสนรักทันที
ผู้ชายคนนี้… นอนหลับไม่สนิท?
งั้น…ฉากนี้ มองยังไงก็เหมือนฉากที่เธอเพิ่งถูกเขาจับมาจากเมืองเคลียร์นะ? ตอนนี้กลายเป็นไม่ใช่จับ แต่เธอเป็นฝ่ายมาด้วยตัวเอง
เส้นหมี่ตกอยู่ในภวังค์
เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อได้ยินว่าเส้นหมี่สามารถรักษาอาการนอนหลับได้ ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงที่ทรมานจากความเจ็บปวด ก็ไม่เอ่ยปากอีก
ไพบูลย์เห็นดังนี้ ก็ส่งสายตาให้เส้นหมี่ทันที จากนั้นเขาก็เดินออกไป
เส้นหมี่: “…”
หลายวินาที เธอยืนเหม่ออยู่ตรงนั้นไม่กล้าขยับเขยื้อน
“แควก—”
จนกระทั่ง เสียงฉีกขาดของผ้าที่ดังขึ้นกะทันหัน
สายตาของเส้นหมี่มองไปอย่างรวดเร็ว ในตอนที่เห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่บนเตียง เป็นเพราะความเจ็บปวดรุนแรง จึงทำให้เขาฉีกผ้าปูเตียงที่อยู่ใต้ตัว
เธอจึงไม่สนใจอย่างอื่นอีกต่อไป แล้วพุ่งตัวเข้าไป
“ฉัน…ฉันฉีดยาแก้ปวดให้คุณก่อน”
เธอที่หยิบเข็มฉีดยาออกมาอย่างประหม่า ต้องการที่จะฉีดยาให้เขา
แต่ว่า ในตอนที่ปลายเข็มของเธอจะทิ่มลงไป ชายหนุ่มคนนี้ที่เดิมทีเจ็บจนเหงื่อท่วม และตัวสั่นไปหมด จู่ๆ กลับลืมตาขึ้น
จู่ๆ เส้นหมี่รู้สึกหายใจไม่ออก!
น่ากลัวจริงๆ ดวงตาคู่นี้!
ก็เหมือนกับใบมีด ทั้งๆ ที่เจ็บปวดจนเลือดสูบฉีดอยู่ภายใน แต่ในตอนนี้ เขาจ้องมองเธออย่างแรง เต็มไปด้วยความหวาดระแวงความระวังตัว เหมือนหมาป่าโดดเดี่ยวที่ดิ้นรน
“คุณวางใจได้ ฉัน…ฉันไม่แตะต้องคุณ ฉันเพียงแค่เอาเข็มฉีดเข้าไป”
เส้นหมี่ยกเข็มในมือขึ้นด้วยรอยยิ้มอันแรงกล้า อดกลั้นความเจ็บปวดในใจที่เหมือนกับถูกอะไรบางอย่างฉีกขาด