เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1109

“ไอบ้าเอ้ย!สมควรตายส่ะ!กล้าที่จะมาตบหน้าข้าอย่างงั้นหรอ หากไม่ได้ล้างแค้น ข้านั้นสาบานเลยว่าจะไม่เป็นคนอีกต่อไป !”

หลังจากที่กลับมาถึงบ้านแล้ว

หลี่เหิงนั้นระเบิดอารมณ์ออกมาราวกับสายฟ้า เมื่อมาถึงห้องโถงแล้วของอะไรที่สามารถจะเอามาปาทิ้งได้นั้นได้เอาออกมาปาจนแตกกระจายไปหมด

เขานั้นเป็นถึงคุณชายน้อยของตระกูลหลี่เลยนะ

แต่กลับอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายนั้น กลับโดนหยางเฟิงนั้นตบเข้าไปที่หน้าหนึ่งที

คำพูดที่น่าเกลียดขนาดนี้หากไม่เอ่ยออกมา เขานั้นเกรงว่าตนเองนั้นจะต้องกลั้นจนขาดอากาศหายใจจนตาย!

“นายท่าน ท่านใจเย็นๆสิ!”

ส่วนต่งกั้วที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้นก็เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างระมัดระวัง

หลี่เหิงมองไปที่ต่งกั้ว ก่อนที่จะเอ่ยตะโกนด่าออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “เป็นเพราะแกไร้ประโยชน์สะจริงๆ หากไม่ใช่แก ไม่งั้นบริษัทเฟิงเมิ่งกรุ๊ปจะมากล้าหยิ่งผยองต่อหน้าข้าขนาดนี้ไหม?”

อ้อ?

เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งกั้วชะงักไปครู่หนึ่ง

หลังจากนั้น ก็ได้เผยสีหน้าถึงความข้องใจออกมา

เขานั้นเพื่อที่จะล้างแค้นบริษัทเฟิงเมิ่งกรุ๊ป เขานั้นได้เหมือนตัดแขนไปแล้วข้างหนึ่ง

สุดท้ายแล้วในสายตาของหลี่เหิง ตนเองนั้นก็เหมือนไอ้คนที่ไร้ประโยชน์!

หลี่เหิงจ้องมองไปที่ต่งกั้ว ก่อนที่จะกัดฟันแล้วเอ่ยถาม“ตอนนี้เจ้านั้นได้มีวิธีการอะไรที่จะจัดการกับ บริษัท เฟิงเมิ่งกรุ๊ปไหมล่ะ?หากไม่มีวิธีล่ะก็ งั้นเจ้าก็รีบไสหัวออกไปจากหลี่ซื่อกรุ๊ปส่ะ!”

เมื่อได้ยินดังนี้ ต่งกั้วทันใดนั้นก็ได้ตื่นตระหนกขึ้น

ต้องทราบว่า เขานั้นตอนนี้ได้เสียแขนไปแล้วข้างหนึ่ง

หากตอนนี้ได้ถูกขับไล่ออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป งั้นเขานั้นจะสามารถไปที่ไหนได้?

เมื่อคิดถึงตอนนี้

ต่งกั้วคิดไปคิดมา ก่อนที่ภายในดวงตานั้นจะเปล่งประกายขึ้น หลังจากที่คิดออกแล้วเขานั้นก็มองไปที่ หลี่เหิง แล้วเอ่ยออกมาว่า “นายท่าน ผมนั้นมีอยู่หนึ่งวิธี”

“เอ่ยมาสิ ว่าเจ้านั้นมีวิธีอะไร?”

“หึหึ!”

ต่งกั้วเอ่ยหัวเราะเบาๆก่อนจะเอ่ย “นายท่าน คนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับด้านการตลาดต่างประเทศของบริษัท เฟิงเมิ่งกรุ๊ป ที่เมื่อก่อนอยู่ที่ตระกูลเย่เขาคือ เถียนเฟย หากพวกเรานั้นอยากที่จะคิดจับเถียนเฟยมา งั้นกลยุทธ์ด้านต่างประเทศของ บริษัท เฟิงเมิ่งกรุ๊ป ถ้าอย่างงั้นก็ไร้ความหมายเปล่าประโยชน์ใช่ไหมล่ะ?”

“เมื่อถึงเวลาเกรงว่าพวกเรานั้นไม่จำเป็นที่จะต้องลงมือ บริษัท เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นก็จะไหลออกไปจากเกาะดาวแห่งนี้เอง!”

เมื่อได้ยินดังนี้

สีหน้าของหลี่เหิงทันใดนั้นก็ปรากฏถึงความยินดี

ต่งกั้วเอ่ยมานั้นไม่เลวเลยทีเดียว

ตอนนี้คนที่ดูแลด้านการตลาดของฝ่ายต่างประเทศของบริษัทเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้น คือ เถียนเฟย

หากเถียนเฟยนั้นถูกตนเองจับมาได้ งั้นบริษัทเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้นจะตั้งหลักอยู่ต่อบนเกาะดาวได้หรอ?

เกรงว่าใช้เวลาแค่ไม่นาน บริษัทเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนั้น ก็จะต้องเผ่นออกไปจากเกาะดาวเอง

เมื่อรอให้ถึงเวลานั้น ในเกาะดาวแห่งนี้ก็จะมีแต่ตระกูลหลี่เท่านั้นที่จะพูดอะไรก็ได้!

เมื่อคิดได้ดังนี้ หลี่เหิงมองไปที่ต่งกั้ว แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ดีมาก เรื่องนี้ถ้าอย่างงั้นก็ให้เจ้าดูแลก็แล้วกัน!จำเอาไว้ ว่าจะต้องจัดการให้ข้าเสร็จนะ หากเจ้าล้มเหลวล่ะก็ อย่ามาหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน”

เมื่อเอ่ยดังนี้ หลี่เหิงก็มองไปที่ต่งกั้วด้วยสายที่เฉียบคม

ต่งกั้วทันใดนั้นภายในใจก็แอบสั่นขึ้นมา

เขารู้ดีว่า หากตนเองนั้นทำภารกิจล้มเหลวอีกครั้ง หลี่เหิงนั้นจะต้องไม่ยอมปล่อยตนเองเอาไว้อย่างแน่นอน!

“คุณชาย คุณวางใจเถอะ ภารกิจในรอบนี้ข้านั้นจะทำให้สำเร็จให้ได้อย่างแน่นอน!”ต่งกั้วเอ่ยพร้อมทั้งเอามือไปตบที่หน้าอกของตนเอง

“อืม!”

หลี่เหิงพยักหน้า ก่อนที่จะไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ

แค่ทำการลักพาตัวของเถียนเฟยมา

ถ้าหากแม้เรื่องนี้ต่งกั้วนั้นยังทำออกมาไม่ดี งั้นก็เหมือนฆ่าตัวตายไปยังจะดีสะกว่าอีก!

ต่งกั้วนั้นไม่ได้มีการลังเลแต่อย่างใด ก่อนที่จะรีบเอาคนเก่งปรมาจารย์ของตระกูลหลี่สิบกว่าคนพาออกไป

หลังจากที่ได้มีบทเรียนมาจากในครั้งก่อน

ในรอบนี้ ต่งกั้วได้พาปรมาจารย์ไปได้ ทั้งหมดนั้นต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งจากแดนปรมาจารย์ใหญ่

เขานั้นไม่เชื่อหรอกว่า หากพาผู้แข็งแกร่งจากแดนปรมาจารย์ใหญ่ไปสิบกว่าคนแล้ว ยังไม่สามารถที่จะจัดการกับเถียนเฟยคนเดียวได้?

ในเวลานี้เอง

ณ ในห้องหนึ่งในโรงแรม เถียนเฟยนั้นที่เตรียมที่จะเข้านอนพักผ่อน

เพล้ง!

ทันใดนั้น

ประตูห้องนั้นก็ได้โดนคนถีบออก

เถียนเฟยนั้นที่ตกใจจนกระโดดขึ้น

เขานั้นรีบที่จะหันหน้าไปมอง ก่อนที่จะพบว่าต่งกั้วนั้นได้พาคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา

“พวกเจ้านั้นคิดที่จะอะไร?”

ต่งกั้วเหนื่อยที่จะเอ่ยไร้สาระกับเถียนเฟย ก่อนที่จะทำมือ “รีบพาเขาไปให้ข้าส่ะ!”

“เฮ้!ต่งกั้ว เจ้าบ้าไปแล้วหรือไงกัน?”

“เจ้ากล้าที่จะที่นี่ คุณหยางจะต้องไม่ปล่อยแกไว้แน่ ……”