ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 638 พิธีกรรมอาทิตย์มืดจันทร์ยะเยือก

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งลอยขึ้นเบื้องหน้า เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่รู้สึกถึงความร้อนและความอบอุ่นแม้แต่น้อย

เพราะว่าดวงอาทิตย์เบื้องหน้าเป็นสีดำสนิท

ไม่ได้ส่องแสงสว่างในความมืดไร้สิ้นสุด แต่ให้กำเนิดความมืดที่ไร้ขอบเขตออกมาจากด้านในแสงสว่าง

เยี่ยนจ้าวเกอพลันรู้สึกหวั่นใจ เขาเพ่งสายตามองไป เห็นขอบของดวงอาทิตย์สีดำยังมีแสงดวงจันทร์สีฟ้าสลัวดวงหนึ่ง

ดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์เคลื่อนที่พร้อมกัน ดวงอาทิตย์เป็นสีดำสนิท แต่แสงจันทร์กลับไม่ได้สุกสกาว สาดส่องฟ้าดินเหมือนในสถานการณ์ทั่วไป

จันทร์เต็มดวงดวงนี้ เป็นสีขาวและสีเทาหม่น ฉายแสงสีฟ้าหลายสาย ทำให้คนรู้สึกเย็นเยียบ

‘อาทิตย์มืดกับจันทร์ยะเยือก?’ เยี่ยนจ้าวเกอมองเหตุการณ์นี้ รู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อย แต่ก็ทอดถอนใจว่าควรจะเป็นเช่นนี้

ถึงพิธีกรรมอาทิตย์มืดจันทร์ยะเยือกจะเป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์ ก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ทว่าขณะเห็นดวงอาทิตย์สีดำกับจันทร์เต็มดวงสีฟ้า เมื่อเชื่อมโยงวิชาวรยุทธ์กับสถานการณ์ในตอนนี้ของสำนักความมืด เยี่ยนจ้าวเกอก็เข้าใจถึงเป้าหมายที่สำนักความมืดใช้ความพยายามมากมายถึงเพียงนี้เพื่อดำเนินพิธีแล้ว

คนของสำนักความมืดต้องการสร้างอาทิตย์มืดและจันทร์ยะเยือกด้วยมือคน จากนั้นก็อาศัยพลังอาทิตย์ย้อนและจันทร์ย้อนดำเนินการชำระล้าง

ปัจจุบันยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักความมืด ยังคงเป็นโจวฮ่าวเซิง เจ้าสำนักของพวกเขา เป็นคู่ปรับเก่าของหลัวจื้อเทา ผู้เป็นเจ้าสำนักแสงสว่าง

โจวฮ่าวเซิงซึ่งอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายเหมือนกัน ติดอยู่ในระดับนี้มาโดยตลอด

ครั้งนี้เขาคิดจะใช้การช่วยเหลือจากพิธีอาทิตย์มืดจันทร์ยะเยือก ทำลายคอขวดที่ติดมาหลายปี ก้าวสู่ขั้นสะพานเซียน อันเป็นขั้นที่เจ็ดของระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์

เยี่ยนจ้าวเกอขณะที่ครุ่นคิด ก็เห็นอาทิตย์มืดกับจันทร์ยะเยือกเบื้องหน้าสั่นไหวเบาๆ มิติความมืดอันเป็นเอกเทศที่ตนอยู่ก็กำลังสั่นสะเทือนเหมือนกัน

‘ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสืบสาวหาตัว หาที่อยู่ของหอสักการะหลักสำนักความมืดเจอแล้ว’ เยี่ยนจ้าวเกอเข้าใจแล้ว ‘มาเร็วจริงๆ’

ณ บริเวณหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลหวงเจีย กลางอากาศด้านบนท้องสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาลเปิดเป็นรู เหมือนกับมีหลุมดำขนาดมหึมาปรากฏขึ้น

ส่วนลึกของหลุมดำ ภูเขาขนาดยักษ์ลูกหนึ่งลอยอยู่ตรงกลาง ด้านบนยอดเขามีเมืองใหญ่ตั้งอยู่

กำแพงเมืองกับยอดเขาเป็นสีดำสนิททั้งแถบ เหมือนกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความมืดรอบๆ ความมืดกำลังแผ่ขยายไปทั่วบริเวณอย่างต่อเนื่อง กลืนกินแสงสว่างมากกว่าเดิม

บนกำแพงเมืองและยอดเขาในตอนนี้ เชื่อมต่อกับเสาแสงอันมืดมน รวมถึงควันสีดำที่เหมือนกับโซ่หลายสาย เสาแสงมืดสลัวกับควันสีดำต่างแผ่เข้าไปในทิศทางที่เป็นปริศนาซึ่งอยู่กลางอากาศ

เสาแสงและควันสีดำเหล่านี้มาจากหอสักการะย่อยสำนักความมืดแต่ละแห่งที่อยู่ไกลออกไปอย่างไม่ต้องสงสัย

เสาแสงมืดมัวข้ามผ่านฟ้าดิน ตัดสลับรวมกันอยู่บนหอสักการะหลักสำนักความมืด เชื่อมต่อกับหอสักการะย่อยแต่ละที่เป็นค่ายกลวิญญาณขนาดยักษ์ ปกคลุมมุมหนึ่งของทะเลหวงเจียเอาไว้

แต่ก่อนที่เสาแสงอันมืดมัวมากมายจะสว่างขึ้น หมอกควันสีดำที่มาจากหอสักการะย่อยแต่ละแห่งนั้น ได้รวมกันอยู่บนหอสักการะหลักสำนักความมืดเรียบร้อยแล้ว ทำให้หอสักการะหลักปรากฏออกมา

อากาศสั่นสะเทือน ทะเลเพลิงม้วนพัด

อานุภาพของเปลวเพลิงน่ากลัวยิ่งกว่าการโจมตีที่ยอดฝีมือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสร้างขึ้น ที่หอสักการะย่อยสำนักความมืดบนเกาะเซิ่งเหอเสียอีก

เพลิงผลาญลุกโหมไม่ได้ถูกหลุมดำกลืนกิน กลับทำให้หลุมดำบิดเบี้ยวพังทลาย สุดท้ายกลายเป็นอากาศที่กลืนกินและเผาไหม้ความมืดอย่างต่อเนื่อง

แสงไฟค่อยๆ เริ่มขับไล่ความมืด ถึงขั้นส่องให้กำแพงเมืองและยอดเขาสีดำสนิทนั้นสว่างไสว

เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในมิติพิเศษซึ่งเกิดขึ้นจากพิธีอาทิตย์มืดจันทร์ยะเยือก รู้สึกได้ว่าทางขวามือใกล้ๆ มีเจตจำนงอันยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้น ราวกับว่าครอบคลุมท้องฟ้า

ประดุจมีดวงตาคู่หนึ่งเปิดขึ้น มองเพลิงลุกโหมที่เข้ามารอบๆ ด้านนอก

กลิ่นอายที่อีกฝ่ายเผยออกมา แข็งแกร่งยิ่งกว่าเจิ้งกั๋วกงแห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องเสียอีก

ถึงจะเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกเหมือนกัน ทว่าก็มีแบ่งสูงต่ำ ยอดฝีมือมากประสบการณ์เช่นโจวฮ่าวเซิงผู้เป็นเจ้าสำนักความมืด มีความน่าเกรงขามชัดเจนยิ่งกว่า

แม้ดวงตาคู่นี้จะไม่ได้จ้องมองตน แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าร่างกายชาด้าน

ชายหนุ่มแอบใช้ความสามารถของคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต บัดนี้เหมือนกับปล่อยวางทุกสิ่ง กลายเป็นอากาศธาตุ รวมกับลำแสงมืดมัวกลางมิติเหล่านั้น แทบจะแยกจากกันไม่ออก

ความสนใจของเจ้าสำนักความมืดโจวฮ่าวเซิงในตอนนี้อยู่ที่โลกภายนอก

เนื่องจากศัตรูที่เขากำลังเผชิญ แข็งแกร่งยิ่งกว่าตัวเขา!

ทะเลเพลิงไร้ขอบเขตอันน่าสะพรึงเปิดออกเป็นสองทาง ปรากฏเงาคนหนาหนัก จัดเรียงเป็นกองทัพเรียบร้อย ยืนอยู่กลางอากาศด้วยกัน

ตรงกลางทัพ ยอดฝีมือหลายคนห้อมล้อมราชรถมังกรคันหนึ่ง โบกธงมังกร ชูพัดทรงกลม ถือร่มทอง ชูธงมังกรใหญ่ ทั้งยังมีฉัตรห้าสีคลุมอยู่

บนราชรถมีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่ สวมฉลองพระองค์มังกร ใส่มงกุฎผิงเทียน ดวงตาน่าเกรงขาม เป็นอ๋ององค์ปัจจุบันแห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ต้าเสวียนอ๋องที่สาม เสวียนมู่อ๋อง

ด้านข้างเสวียนมู่อ๋องยังมีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่เคียงข้าง สภาวะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเสวียนมู่อ๋องเสียอีก

คนผู้นี้ภายนอกมองไปเป็นคนหนุ่มอายุไม่เกินยี่สิบปี แต่ดวงตาแก่ชรายิ่ง

ถึงแม้ว่าจะนั่งอยู่กับเสวียนมู่อ๋อง แต่ว่าความรู้สึกที่เขามอบให้ผู้คนกลับคล้ายคนที่อยู่อีกระดับ ทำให้คนที่เห็นอดนับถือไม่ได้

เสวียนมู่อ๋องหันไปมองคนผู้นี้ กล่าวอย่างเชื่องช้า “ท่านอาจารย์อาได้โปรดช่วยอีกแรง”

อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไร เพียงยกมือกระดิกนิ้วไปทางหอสักการะหลักของสำนักความมืด ประกายกระบี่ที่เหมือนกระแสน้ำสายหนึ่งก็พลันปรากฏขึ้น ก่อนจะม้วนพัดไปทางภูเขาและกำแพงเมืองสีดำเหมือนกับแม่น้ำ

ประกายแสงอันมืดมัวหลายสายรอบๆ หอสักการะความมืดหลั่งไหล เชื่อมต่อกันเป็นค่ายกลขนาดมหึมา กลายเป็นเป็นความมืดไร้ขอบเขต

ทุกที่ที่ความมืดไปถึง เพลิงโหมพลันถูกหยุดยั้ง ถึงขั้นกลายเป็นฝ่ายถูกความมืดกลืนกิน

แต่ว่าประกายกระบี่ที่เหมือนกระแสน้ำนั้นไปยังที่ใด สีสันต่างๆ เหมือนกับเปลี่ยนเป็นซีดขาวไร้พลัง คล้ายกับผ่านการกระแสเวลาอันยาวนาน กำลังจะเสื่อมสลายลง

แสงสว่างและความมืดในตอนนี้เหมือนกับสูญเสียความหมาย ต่อหน้ากาลเวลา ทุกสรรพสิ่งต่างกลายเป็นเพียงเครื่องหมายโดยสิ้นเชิง

ในหอสักการะหลักสำนักความมืด ชายชราในอาภรณ์ขาวคนหนึ่งมองภาพนี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เหนือศีรษะของเขามีดวงอาทิตย์สีดำกับจันทร์เต็มดวงสีฟ้าลอยสูง แสงสว่างอันมืดมัวสาดลง ส่องต้องร่างของเขา

แสงสีดำสว่างขึ้นบนตัวของชายชราอาภรณ์ขาว บนเสื้อคลุมสีขาวพลันมีอักขระสีดำถี่ยิบลอยขึ้นมา

เขาผลักสองมือออกด้านหน้าพร้อมกัน ความมืดไร้ขอบเขตปกคลุมหอสักการะหลักสำนักความมืด กั้นประกายแสงทั้งหมดไว้ด้านนอก

โลกคล้ายกับไม่มีแสงสว่างอีก ทุกสิ่งกลับคืนสู่จักรวาลอันมืดมนของจุดเริ่มต้นแรกสุด

ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำนั้น ยามนี้ถูกความมืดกั้นไว้ด้านนอก

ทว่าประกายกระบี่เลื้อยลดคดเคี้ยว อ้อมผ่านความมืด เริ่มทำลายพลังป้องกันของค่ายกลความมืดบรรพกาล ค่ายกลคุ้มภูเขาของสำนักความมืด

เสวียนมู่อ๋องขณะนี้ฉวยโอกาสลงมือเช่นกัน ยอดฝีมือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการ โจมตีค่ายกลความมืดบรรพกาล

เพลิงผลาญม้วนพัดอีกครั้ง อาศัยประกายกระบี่กระแสน้ำ ขับไล่ความมืดหนาหนัก

ในหอสักการะหลักสำนักความมืด เสื้อคลุมขาวบนร่างเจ้าสำนักโจวฮ่าวเซิงเต็มไปด้วยลวดลายอักขระ เสื้อคลุมกลายเป็นสีขาวดำ

ความมืดที่เหมือนกับการมาถึงของราตรีนิรันดร ต้านทานการโจมตีที่มาจากโลกภายนอกอย่างต่อเนื่อง กระนั้นในตอนนี้กลับมีความรู้สึกเคลื่อนไหวลำบาก

โจวฮ่าวเชิงไม่ได้มองเสวียนมู่อ๋อง แต่จดจ้องคนที่ภายนอกเหมือนคนหนุ่ม ทว่ากลับมีดวงตาชราผู้นั้น

“จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น!” โจวฮ่าวเซิงพูดทีละคำ

ผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างเสวียนมู่อ๋อง ครั้งนี้พลันผุดกายขึ้น แสงวิญญาณเหนือศีรษะสว่างวาบ ก้าวลงมาจากราชรถมังกร

เขาก้าวเท้าแค่ครั้งหนึ่งก็มาถึงเหนือหอสักการะหลักสำนักความมืด จากนั้นก็เหยียบเท้าหนึ่งลงไป

ใต้เท้ามีแสงสว่างหลั่งไหล ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง ตกลงใส่หอสักการะหลักสำนักความมืดเหมือนกับน้ำตก