แต่หลัวซิวได้เพิ่มระดับขึ้นมายิ่งกว่า ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนมกุฎยุทธ์ขั้นแปด แม้จะต่ำกว่าเซี๋ยลี่เฟิงในหนึ่งแดนเล็ก แต่ด้วยพลังการต่อสู้ของหลัวซิว ความแตกต่างในหนึ่งแดนเล็ก สามารถเมินเฉยเลยก็ว่าได้

สำหรับหลัวซิวในปัจจุบันแล้ว ในบรรดาคนรุ่นใหม่นอกจาก หวูหยุน ซิงหลิง ต้าวหวูซิน และกุ่ยโยวที่พอให้เขาต้องปฏิบัติด้วยอย่างจริงจังแล้ว คนอื่น ๆ ในบรรดาคนรุ่นใหม่ โดยทั่วไปแล้วล้วนเปราะบางยิ่งนัก

ครืน!

หลัวซิวก้าวออกมาด้านหน้า การเคลื่อนไหวที่ดูแสนง่ายดาย กลับเคลื่อนผ่านระยะห่างในร้อยเมตรมาได้ภายในพริบตา เขาต่อยหมัดกระบี่ออกมา ปราณกระบี่เพลิงดำเหมือนดั่งจะฟันแยกฟ้าแยกแผ่นดิน

เซี๋ยลี่เฟิงตวาดออกมา รวบรวมพลังแห่งกฎสังหาร เพื่อต้องการทำลายปราณกระบี่เพลิงดำ

ทว่าในปราณกระบี่นี้กลับได้รวบรวมไว้ด้วยพลังของกฎความตาย เซี๋ยลี่เฟิงไม่อาจต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย ถูกฟันลอยออกไปอย่างทุลักทุเล เลือดไหลออกมาที่มุมปาก

ทั้งสองคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันเลย

“เจ้าคนนี้น่ากลัวถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” เมื่อเจียงหวูจี้เห็นเช่นนี้ก็รู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย มิน่าแม้แต่ศิษย์พี่กุ่ยโยวเองยังหวั่นเกรงมันถึงเพียงนั้น

เซี๋ยลี่เฟิงในฐานนะอันดับหนึ่งในบรรดาคนรุ่นใหม่ของ ฝีมือแข็งแกร่งไม่น้อย ถึงขนาดที่เจียงหวูจี้คิดว่าหากไม่ใช้ไพ่ไม้ตาย อย่างมากก็เพียงเสมอกันกับเขาเท่านั้น

แต่ตอนนี้เซี๋ยลี่เฟิงกลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิวเลยสักนิด เช่นนั้นก็ไม่หมายความว่าตนก็ห่างจากหลัวซิวอีกมากนักไม่ใช่หรอกหรือ?

“โฮ๋สง พวกเราลงมือข้ามันพร้อมกัน” เจียงหวูจี้มองดูชายอีกคนที่รูปร่างค่อนข้างเตี้ย และใช้การส่งเสียงผ่านตัวสำนึก

คนผู้นี้มีนามว่าโฮ๋สง เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์ญาณ และเป็นศิษย์พี่ของปี้คงที่พ่ายแพ้ให้กับหลัวซิวคนนั้น

ผลการฝึกตนของโฮ๋สงเองก็อยู่ในแดนมกุฎยุทธ์ขั้นเก้าเช่นเดียวกัน แต่แดนตัวสำนึกของเขา ได้บรรลุถึงมหายุทธ์ขั้นหกเป็นที่เรียบร้อย ได้ทะลวงผ่านชั้นที่สองของหอคอยเทพจิตในการฝึกทดสอบของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

“หลัวซิวแข็งแกร่งจนเกินไป พวกเราสามคนร่วมมือกัน เกรงว่าคงยากที่จะสังหารมันได้” โฮ๋สงขมวดคิ้ว แข็งแกร่งจนเกินไป

“โฮ๋สงพูดเช่นนี้จะมองหลัวซิวสูงเกินไปหน่อยไหม พูดตามตรง พวกเราสามคนใช้ไพ่ไม้ตายออกมาทั้งหมด แม้แต่เจ้ายุทธจักรโดยทั่วไปก็ใช่ว่าจะสามารถรับมือได้ หรือว่ายังจะฆ่ามันไม่ได้อย่างนั้นหรือ?” เจียงหวูจี้กล่าว

“แม้แต่เจ้ายุทธจักรของเผ่าหงส์ยังตายภายใต้เงื้อมมือของหลัวซิวตั้งสองคน บ่งบอกได้ว่าฝีมือของเขาร้ายกาจกว่าเจ้ายุทธจักรโดยทั่วไปเสียอีก นอกจากนี้แล้วพวกเรามีไพ่ไม่ตายในมือ แล้วหลัวซิวจะไม่มีหรืออย่างไรกัน?”

โฮ๋สงระมัดระวังเป็นพิเศษ ในสถานการณ์ที่ไม่มั่นใจว่าจะสามารถสังหารหลัวซิวได้ เขาจะไม่ลงมือโดยง่ายอย่างแน่นอน

“พี่เจียงฟังคำข้าทางที่ดีอย่างได้ลงมือ แม้ท่านต้องการจัดการหลัวซิว ตอนนี้ก็ไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุด” โฮ๋สงกล่าวเช่นนี้

เจียงหวูจี้ทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ ยังคงไม่ยินดีสักเท่าไหร่นัก ถึงขนาดที่คิดว่าโฮ๋สงคนนี้ขี้ขลาดเกินไป ไม่คู่ควรกับตำแหน่งยอดฝีมืออันดับหนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่ของแดนศักดิ์สิทธิ์ญาณ

ในตอนนี้นั่นเอง เงาร่างสายหนึ่งก็ได้ลอยเข้ามาในแนวนอน เสียงปังดังขึ้น หล่นลงที่ด้านหน้าของเขาและโฮ๋สง ฝุ่นละอองปลิวว่อน

เจ้าของของเงาร่างสายนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นเซี๋ยลี่เฟิง พึ่งจะประมือกันไปไม่ถึงสิบลมหายใจเข้าออก ก็ได้ถูกหลัวซิวอัดจนไม่เหลือรูปร่างเดิมไปเสียแล้ว ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล

หลัวซิวลงมืออย่างมีขอบเขต ไม่ได้มีเจตนาสังหาร เพราะเขาทราบเป็นอย่างดีว่าผู้สืบทอดใจกลางของแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างเซี๋ยลี่เฟิง หากถูกคนฆ่าตายละก็ พวกตาแก่เหล่านั้นของแดนศักดิ์สิทธิ์จะต้องกระโดดออกมาแน่

แน่นอน หากอีกฝ่ายยังคงไม่เลิกราอยู่ละก็ คนที่ควรฆ่าหลัวซิวก็จะไม่ยั้งมืออย่างแน่นอน

“ผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดมีฝีมือเท่านี้เองหรือ” หลัวซิวมองไปยังเจียงหวูจี้ “ศิษย์น้องเจียงจะลองสักสองสามกระบวนท่าหน่อยไหม?”

ความโมโหปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเจียงหวูจี้ อีกฝ่ายเรียกตนว่าศิษย์น้อง ไม่เท่ากับว่าสูงกว่าตัวเองหนึ่งขั้นหรอกหรือ?

บทที่ 756

บทที่ 758