ตอนที่ 1192

Alchemy Emperor of the Divine Dao

มีคนไม่กี่คนที่อยู่ที่นี่

เพราะมันเป็นที่รกร้าง ใครอยากจะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่กัน?

หมอกควันสีดำที่ลอยอยู่ในอากาศทำให้บรรยกาศมือสลัว มันลอยสูงประมาณสองฟุตและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ดูค่อนข้างแปลกประหลาด

แต่หมอกควันดังกล่าวนั้นไม่อันตราย แล้วไม่มีใครตายหลังจากที่สูดดมเข้าไป

“นี่คือซากปรักหักพังที่เกิดขึ้นหลังจากการต่อสู้?” หลิงฮันคาดเดา

ไม่กี่วันก่อนมีพระราชวังอยู่ตรงหน้า ซึ่งสร้างอยู่ที่เชิงเขา

“เจ้าเข้าไปในหอคอยทมิฬก่อน” หลิงฮันกล่าว เขาไม่ต้องการให้พวกนางเข้ามาเสี่ยงอันตราย

สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้า ตั้งแต่มาที่นี่นางไม่สามารถช่วยหลิงฮันได้เลย และมักนำปัญหามาให้กับหลิงฮันแทน มันคงดีกว่าถ้าเข้าไปอยู่ในหอคอยทมิฬ แล้วฝึกฝนให้หนักเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น อย่างน้อยนางก็จะไม่เป็นตัวถ่วงของหลิงฮันในอนาคต

ในขณะที่หูเฟยหยินดูลังเลเล็กน้อย นางเป็นเด็กขี้สงสัย ถึงแม้ที่นี่จะมืดมนและน่ากลัว แต่นางก็รู้สึกสนใจอย่างมาก และไม่อยากพลาดอะไรไป แต่สุดท้ายแล้ว นางก็เข้าไปในหอคอยทมิฬ

“ข้าเองก็อยากเข้าไปด้วย!” โสมเฒ่ากล่าว สายตาของเขากลายเป็นแหลมคม

หลิงฮันรู้ว่าเจ้าโสมลามกนี่จะเข้าไปเล่นชู้กับสุ่ยเยี่ยนยวี่และหูเฟยหยินในขณะที่เขาไม่อยู่ แต่หารู้ไม่ว่าในหอคอยทมิฬนั้นมีเซียนหวู่เซียงอยู่ด้วย!

“ก็ได้!” หลิงฮันพยักหน้า “เจ้าอยู่นิ่งๆและห้ามขยับ”

เขาใช้สัมผัสสวรรค์ห้อมล้อมโสมเฒ่าและพาเข้าไปในหอคอยทมิฬ – ตราบใดที่พลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่าย เขาก็สามารถบังคับให้อีกฝ่ายเข้าไปในหอคอยทมิฬได้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม

“พรึบ!”

“ที่นี่ที่ไหน?”

“และต้นไม้นั่นมันอะไรกัน? ทำไมข้าถึงรู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์จากมัน!”

“อ๊าก เจ้าผีนี่มันอะไรกัน ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”

“รีบพาข้าออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”

ตอนแรกโสมเฒ่าอยากรู้อยากเห็น แต่ในไม่ช้ามันก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

แต่หลิงฮันก็ขี้เกียจสนใจและออกเดินทางต่อ นี่คือจุดหมายปลายทางสุดท้ายของเขาในเขตแดนลี้ลับ

เขามาที่ประตูของพระราชวัง ซึ่งมันปิดอยู่และมีคนห้าคนยืนอยู่หน้าประตู

“ศิษย์พี่ฮัน!” ทั้งห้าคนพยักหน้ารับหลิงฮัน แม้จะอึดอัดใจอยู่บ้างที่ถูกแย่งหยดเซียนหยวน แต่พวกเขาก็ไม่แสดงความรู้สึกนั้นออกมา และเก็บไว้ที่ก้นบึ้งของหัวใจ

หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “พวกเจ้ามาถึงเร็วยิ่งนัก”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเพิ่งมาถึงได้ไม่นานนัก” สืออันเกาพูดด้วยรอยยิ้มและจ้องมองไปที่หลิงฮัน แต่ก็แอบหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย

ในแง่ของพลังต่อสู้ เขาสามารถเอาชนะหลิงฮันได้ แต่ถ้าเป็นการต่อสู้เป็นตาย คนที่จะชนะจะต้องเป็นหลิงฮันอย่างแน่นอน เหตุผลนั้นง่ายมาก พลังป้องกันของหลิงฮันนั้นน่าหวาดกลัว แม้แต่เขาเองก็ไม่สามารถทำลายได้

ศัตรูดังกล่าวทำให้เขาหวาดกลัว

“ศิษย์น้องควงยังมาไม่ถึง บางทีนางอาจกำลังเดินทางมาที่นี่อยู่” อู๋เหวิ่นตงกล่าว

ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขาควรจะไร้พ่ายที่นี่ ดังนั้น บางทีควงเป๋ยซานอาจพบกับศัตรูที่แข็งแกร่ง จึงมาไม่ตรงเวลา

พวกเขานั่งลงและเริ่มพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยกัน

….

หลังจากรอมาสองวัน ในที่สุดควงเป๋ยซานก็มาถึง

“ถ้างั้นมาเริ่มกันเลย!”

บนประตูพระราชวังมีหลุมทั้งหมดสิบสี่หลุม โดยแต่ละหลุมนั้นจะมีขนาดเท่ากับฝ่ามือ พวกเขาทั้งเจ็ดคนยืนเคียงข้างกันและวางฝ่ามือเข้าไปในหลุมทีละคน

“ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม แล้วพวกเราทุกคนวางฝ่ามือเข้าไปในหลุมพร้อมกัน” เหอเต๋ากล่าว

“ตกลง!” ทั้งหกคนพยักหน้าโดยไม่มีใครคัดค้าน แต่ถ้าในสถานการณ์ปกติคงไม่มีใครเชื่อฟังคำสั่ง

“หนึ่ง!”

“สอง!”

“สาม!”

เมื่อนับถึงสาม พวกเขาทั้งเจ็ดคนก็ปลดปล่อยพลังทั้งหมดของตนเองออกมาและกดฝ่ามือเข้าไปในหลุม

ในไม่ช้า หลุมที่อยู่ใต้ฝ่ามือของพวกเขาก็เริ่มส่องแสง สอง สี่ หก แปด เมื่อหลุมทั้งสิบสี่หลุมสว่างพร้อมกัน ประตูพระราชวังก็เปิดออกอย่างช้าๆ

จากนั้น พวกเขาทั้งเจ็ดคนก็ถอยไปด้านหลังด้วยความระมัดระวัง

เมื่อประตูพระราชวังเปิดออกอย่างสมบูรณ์ เสาที่อยู่ด้านในก็เริ่มส่องแสง ทำให้ภายในพระราชวังสว่างเจิดจ้า

ฮึด!

ทั้งเจ็ดคนประหลาดใจ เพราะลึกเข้าไปด้านในพระราชวัง พวกเขาเห็นร่างของคนผู้หนึ่งนอนอยู่บนพื้น

ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาจะต้องเป็นคนที่สูงมาก อย่างน้อยสามฟุต ผิวของเขามีสีฟ้าทั้งร่างและสวมชุดเกราะเหล็ก แต่ก็ถูกโจมตีทะลุไปถึงกระดูกเผยให้เห็นกระดูกสีขาว

ด้านข้างศพของเขามีข้อความเขียนเอาไว้ว่า

“อัจฉริยะทั้งเจ็ดและผู้สืบทอดของข้า”

“จงสังหารสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายจากดินแดนใต้พิภพ!”

“สวรรค์ไร้ซึ่งความยุติธรรม เกลียดชัง! เกลียดชัง!”

เหอเต๋ากล่าว “อัจฉริยะทั้งเจ็ดเห็นได้ชัดว่าหมายถึงพวกเรา แต่ทายาทที่เขาพูดหมายถึงหนึ่งในพวกเราจะเป็นคนได้รับมรดกอย่างนั้นหรือ?”

เฉินจู๋เอ๋อก้าวไปข้างหน้า แต่ทันใดนั้นใบหน้าที่งดงามของนางก็กลายเป็นไร้สีสันทันที นางรีบถอยกลับมาและพูดว่า “ผู้อาวุโสท่านนี้แข็งแกร่งมาก ข้าไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย และวิญญาณชั่วร้ายดูเหมือนจะฉีกข้าเป็นชิ้นๆ”

หลิงฮันที่นั่งยองๆอยู่บนพื้นยืนขึ้นและพูดว่า “พื้นกระเบื้องที่นี่แข็งมาก แม้แต่ดาบของข้าก็ไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้มันได้”

ต้องทราบก่อนว่าตัวอักษรบนพื้นนั้นถูกเขียนขึ้นมาจากผู้อาวุโสท่านนี้ก่อนที่จะตาย เพราะมันไม่มีอาวุธอยู่ในมือของเขา ยิ่งไปกว่านั้นนิ้วชี้ของเขายังหยุดอยู่ที่คำสุดท้ายว่า “เกลียดชัง”

ไม่มีใครสามารถทิ้งร่องรอยเอาไว้ได้ แม้แต่ดาบของเขา นี่แสดงให้เห็นว่าผู้อาวุโสท่านนี้แข็งแกร่งแค่ไหน

ทั้งเจ็ดคนเดินสำรวจรอบๆ แม้ว่าผู้อาวุโสท่านนี้จะตายไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้ ถึงพวกเขาจะเป็นอัจฉริยะกันทุกคนและมีความหยิ่งยโสเป็นคนตัวเอง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสชุดท่านนี้ มันทำให้พวกเขาเป็นเหมือนมดตัวเล็กๆ

“เขาเป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์อย่างแน่นอน!”

“ถึงแม้ข้าจะไม่สามารถคาดเดาระดับบ่มเพาะพลังของผู้อาวุโสท่านนี้ได้ แต่ข้ารู้สึกได้ว่าเขามีแรงกดดันคล้ายกับอาจารย์ของข้า ซึ่งเหนือกว่าระดับดารา!”

“ถ้างั้นมรดกของเขา…”

“จะต้องล้ำค่ามากอย่างแน่นอน!”

เฉินจู๋เอ๋อและคนอื่นๆรู้สึกหวั่นไหว ถ้าได้รับมรดกของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์จะเป็นเช่นไร?

แม้ว่าปรมาจารย์สามวิถีจะยอมรับศิษย์เก้าคน แต่ใช่ว่าเขาจะถ่ายทอดวิชาให้กับศิษย์ทุกคน

แต่ที่นี่ไม่เหมือนกัน ผู้อาวุโสท่านนี้หลับไหลอยู่ที่นี่มาอย่างอย่างนาน มรดกที่เขาเหลือเอาไว้ยังไม่มีใครได้แตะต้อง

แล้วใครจะไม่สนใจกันล่ะ?