ตอนที่ 702 เจอคนที่ไม่อยากเจอ + ตอนที่ 703 อู่เจิ้งซือที่โกรธเคือง โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 702 เจอคนที่ไม่อยากเจอ
สองปีนี้เหยียนซินหย่าเองก็เปลี่ยนไปมาก ฝีมือการวาดรูปของเธอดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ระยะนี้กลับมาจับดินสอวาดรูปใหม่อีกครั้งก็เริ่มคล่องมือขึ้นเรื่อยๆ นานวันเข้าเริ่มมีชื่อเสียงในวงการศิลปะ ปีนี้ยังจัดนิทรรศการศิลปะที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จถึงสองครั้ง นับว่าเป็นดาวดวงใหม่แห่งวงการศิลปะ
อีกทั้งเหยียนซินหย่ายังเขียนข่าวให้สำนักหนังสือพิมพ์อันโด่งดัง พรสวรรค์ด้านศิลปะของเธอได้มาจากคุณพ่ออาจารย์เหยียนไม่มีผิดเพี้ยน ใช้คำได้สละสลวยและเขียนบทความได้มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง จนถึงขั้นตีพิมพ์ฉบับรวมทุกบทความ ทั้งยังมีนามแฝงนักเขียนมาอีกคน!
เหยียนซินหย่าที่มีทั้งอาชีพนักวาดและนักเขียนใช้ชีวิตทุกวันได้อย่างเต็มอิ่ม ดูอ่อนแอน้อยลงและกระฉับกระเฉงมากขึ้น แต่ยังคงความสวยงามไว้เฉกเช่นปกติ
“แม่คะ เราจะไปห้างกันเหรอ?” เหมยเหมยถาม
“อื้ม ไปห้างกันก่อน”
เหยียนซินหย่ากับเหมยเหมยปั่นจักรยานคนละคัน มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า ไม่นานก็มาถึง พอทั้งคู่เก็บรถเสร็จก็เดินเข้าไปในห้าง กลับเจอบุคคลสองคนที่คาดไม่ถึง
อู่เจิ้งซือกับเหมยซูหานที่กำลังเตรียมออกจากห้าง ท่าทางเพิ่งซื้อของเสร็จเพราะมีถุงเล็กถุงใหญ่เต็มไปหมด มิหนำซ้ำอู่เจิ้งซือได้เปลี่ยนแปลงตัวเองสลัดคราบมอซอเมื่อสองปีก่อนทิ้งไปแล้ว กลับมาดูสง่าภูมิฐานเหมือนเคย
อู่เจิ้งซือกับเหมยซูหานเดินไปคุยไปอย่างออกรส เมื่อเห็นสองแม่ลูกเหยียนซินหย่าก็ตะลึงงัน รอยยิ้มค้างอยู่บนใบหน้า
เหมยซูหานเองก็ชะงักชั่วครู่ รีบยิ้มทักทาย “คุณน้า เหมยเหมย มาซื้อของเหมือนกันเหรอ!”
เหยียนซินหย่าพยักหน้าให้เหมยซูหานเล็กน้อยด้วยสีหน้าเย็นชา เธอเคยเจอเหมยซูหานหลายครั้ง เด็กคนนี้ดีกับลูกสาวมาก แต่เธอกลับไม่ชอบเด็กผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่ว่าเหมยซูหานไม่ดีพอ เด็กคนนี้ก็โดดเด่นไม่แพ้เหยียนหมิงซุ่นเป็นลูกรักของสวรรค์
แต่มีจุดหนึ่งของเหมยซูหานที่ไม่ดีเลย เขาใกล้ชิดกับอู่เจิ้งซือมากเกินไป!
อีกอย่างเธอคิดว่าความคิดของเหมยซูหานเจ้าเข้าถึงยากเกินไป เหยียนหมิงซุ่นเองก็มีความคิดที่เข้าถึงยากเช่นกัน แต่เธอไม่รู้สึกต่อต้านเพราะเหยียนหมิงซุ่นทำดีกับเหมยเหมยอย่างไม่คิดจะปิดบัง เธอเห็นได้ชัดเจน แน่นอนว่าเหมยซูหานก็ดีกับเหมยเหมยเช่นกันแต่ประเด็นสำคัญคือ–
ลูกสาวไม่ชอบเหมยซูหาน!
เหมยเหมยไม่คิดจะปิดบังความรำคาญที่มีต่อเหมยซูหานสักนิด เหยียนซินหย่าย่อมต้องเคารพการตัดสินใจของลูกสาว
เหมยเหมยมุ่นคิ้วน้อยๆ วันนี้ออกจากบ้านลืมดูปฏิทินหรือไร ทำไมถึงเจอสองคนนี้ได้?
เธอไม่ตอบแค่อมยิ้มกลับพอเป็นมารยาท ไม่อยากแม้แต่จะยิ้มฉาบหน้าแล้วด้วยซ้ำ นับตั้งแต่รู้ว่าเหมยซูหานยอมออกเงินค่าผ่าตัดเพื่อรักษาเยื่อแก้วหูให้อู่เยวี่ย
ติดต่องานให้อู่เจิ้งซือก็ช่างในเมื่ออู่เจิ้งซือดีกับเหมยซูหานมากจริงๆ เป็นปกติที่เขารู้กตัญญูรู้จักตอบแทน แต่เพราะเขาออกเงินค่าผ่าตัดให้อู่เยวี่ย หลังจากที่เธอได้ฟังเรื่องนี้จากเจินหวานหว่านก็รู้สึกสะอิดสะเอียนใจแทบแย่
เป็นเหมือนชาติที่แล้วไม่มีผิด สองคนนี้เริ่มพัวพันกันอีกแล้ว แต่เธอจะไม่ใช่คนโง่อย่างในชาติที่แล้วอีกต่อไป!
เธอในตอนนี้เป็นผู้รับชม จะรอดูว่าสองคนนี้จะมีจุดจบอย่างไร!
เหมยซูหานย่อมรู้สึกได้ถึงความเย็นชาของเหมยเหมย เขายิ้มอย่างขมขื่นและรู้สึกแย่
เขารู้ว่าทำไมเหมยเหมยถึงโกรธ แต่เขาใจร้ายไม่ลง สองปีนี้ความฝันของเขามีฉากอื่นโผล่มา แต่กลับปรากฏตัวอู่เยวี่ยออกมา!
ในฝันเขากับอู่เยวี่ยกำลังทำบางสิ่งที่มีเพียงคนรักกันเท่านั้นถึงทำด้วยกัน เขาชักแปลกใจ ทั้งที่คนรักเขาคือเหมยเหมยแต่ทำไมในฝันเขากลับสนิทชิดเชื้อกับอู่เยวี่ยมากกว่า คนรักของเขาคือใครกันแน่?
เหมยซูหานที่ฉงนปนไม่สบายใจแม้ใจจะเชื่อว่าเหมยเหมยต่างหากที่เป็นคนรักของเขา แต่ขณะที่เขาเผชิญหน้ากับอู่เยวี่ยกลับใจร้ายไม่ลง เขาที่มีนิสัยลังเลอยู่แล้วจะปฏิเสธอู่เยวี่ยได้ลงที่ไหนกันล่ะ!
………………………….
ตอนที่ 703 อู่เจิ้งซือที่โกรธเคือง
ขณะนี้อู่เจิ้งซือยิ่งรู้สึกแย่ สองคนตรงหน้า หนึ่งคนคือหญิงสาวที่เขาเคยรักและตอนนี้ทั้งรักทั้งเกลียด อีกคนเคยเรียกเขาว่าคุณพ่อแต่ยามนี้กลับกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้า
พบเจอแต่กลับจำกันไม่ได้ ยืนอยู่ตรงหน้าแต่กลับเอื้อมไม่ถึง!
นอกจากความสูญเสีย อู่เจิ้งซือกลับรู้สึกโกรธแค้นเสียมากกว่า ความโกรธแค้นที่มีต่อเหยียนซินหย่า ความโกรธแค้นที่มีต่อจ้าวเหมย
เขาแค่เคยทำผิดเรื่องเดียวเท่านั้น แต่กลับกลบสิ่งที่เขาเคยทำให้ในอดีตไปทั้งหมด บุญคุณที่เขาเคยช่วยเหลือเหยียนซินหย่า บุญคุณที่เคยชุบเลี้ยงจ้าวเหมย สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หากเมื่อนั้นเขาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเหยียนซินหย่าที่อับจนหนทาง อย่าว่าแต่จะคลอดลูกได้อย่างปลอดภัย แม้แต่ชีวิตเธอเองก็คงไม่เหลือ พูดได้เลยว่าเขาเป็นคนให้ชีวิตสองแม่ลูกของจ้าวเหมย หากไม่มีเขาอู่เจิ้งซือ สองแม่ลูกคู่นี้คงไม่มีวันนี้ ถ้าอย่างนั้นเขาผิดอะไรที่ขโมยตัวจ้าวเหมยมางั้นเหรอ?
ต่อให้เขามีความผิดจริง แต่เขาได้ชุบเลี้ยงจ้าวเหมยจนเติบใหญ่และเลี้ยงดูได้ดีขนาดนี้ ร้องเพลงได้เต้นรำเป็น หน้าตาและความสามารถครบครัน หรือนี่ไม่ใช่คุณงามความดีของเขางั้นหรือ?
ครอบครัวนี้ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ แต่กลับปฏิเสธคุณงามความดีของเขาทั้งหมดเพียงเพราะความผิดอันเล็กน้อย ทำให้เขาต้องเสียงานคุณครูที่เขารักและโดนจับกุมคุมขัง นี่เป็นจุดแปดเปื้อนที่เขาไม่มีวันชะล้างออก นอกจากจะถูกคนนินทาลับหลังแล้วยังทำให้เขาหางานไม่ได้
หึ ครอบครัวเนรคุณนี้คิดจะเอาเขาถึงตาย!
แล้วพ่อแม่พี่น้องของเขา พวกเขามีความผิดอะไร?
ต้องพลอยติดร่างแหไปกับเขาด้วย พี่ใหญ่ผู้เป็นถึงศาตราจารย์มหาวิทยาลัยจินที่ผู้คนเคารพนับถือกลายเป็นเพียงคุณครูตำแหน่งธรรมดา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ทำให้พี่ใหญ่ที่ดูแลตัวเองให้สง่าตลอดเวลาต้องอาศัยเหล้าย้อมใจ ถอนหายใจไปวันๆ จวบจนกลายเป็นคุณลุงวัยกลางคนธรรมดาที่อ้วนลงพุง เหลือคราบศาตราจารย์มหาวิทยาลัยจินที่เคยเฉิดฉายคนนั้นเสียที่ไหนกันล่ะ!
แล้วก็น้องสาว ถึงอารมณ์ดุร้ายไปหน่อยแต่เธอมีความผิดอย่างไรต่อจ้าวเหมย?
ถูกตระกูลจ้าวโยกย้ายตำแหน่งงานจากโรงเรียนมัธยมชั้นนำในเมืองไปอยู่โรงเรียนมัธยมธรรมดาแถบชานเมือง เด็กนักเรียนที่มีความประพฤติย่ำแย่ ครูบาอาจารย์ไร้ความศรัทธาในการสอน แต่นั่นก็ช่างมันไป เจิ้งหงเธอต้องเสียเวลาห้าถึงหกชั่วโมงต่อวันในการเข้างานและออกงาน ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง พระจันทร์ลอยค้ำฟ้าถึงก้าวเข้าประตูบ้าน เหนื่อยสายตัวแทบขาด
แล้วพ่อแม่ของเขาล่ะ พวกท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ เดิมทีควรเป็นช่วงวัยที่ใช้เวลาหลังเกษียณอย่างสุขสบาย แถมผู้คนให้ความนับถือ มากมายไปด้วยลูกศิษย์ แต่แก่จนอายุปูนนี้แล้วยังถูกทางโรงเรียนหยามเหยียดเพราะเขา หนีจากมหาวิทยาลัยจินไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอก ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง
ทุกครั้งที่พ่อแม่เขาพูดถึงเรื่องนี้ต่างก็ถอนหายใจยาว เจ้าของบ้านพวกเขาเคยพูดเป็นนัยๆ บอกเขาหลายครั้งว่าต้องคอยระมัดระวัง จะปล่อยให้คนแก่ตายคาบ้านของเขาไม่ได้ ไม่เป็นมงคล!
ทุกครั้งที่อู่เจิ้งซือได้ยินเช่นนี้ก็มักเกิดอารมณ์โกรธเคืองขึ้นมาจนอยากลงไม้ลงมือ แต่เขาทำไม่ได้ สองปีนี้พวกเขาย้ายบ้านทั้งหมดห้าครั้งแล้ว ทุกทีที่ย้ายบ้านจะมีคนคอยนินทาตามหลัง
บอกว่าพ่อแม่ของเขาไร้ความสามารถ อายุปูนนี้แล้วยังไม่หาบ้านเป็นของตัวเองอีก บอกว่าเขาไร้ความสามารถยิ่งกว่า ปล่อยให้พ่อแม่ที่ผมหงอกเต็มหัวต้องมาทนลำบากไปด้วย
ครั้นได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ เหมือนใจของเขาถูกมีดคมกรีด ในฐานะลูกหลานไม่อาจให้พ่อแม่ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายของชีวิตได้อย่างสงบสุข กลับเป็นต้นเหตุให้พวกท่านต้องทุกข์ยากตรากตรำไปด้วย เขามันอกตัญญูจริงๆ!
แต่ต้นเหตุทุกอย่างนี้ก็คือตระกูลจ้าว!
ต่อให้เขามีความผิด ลงโทษเขาคนเดียวก็พอ เหตุใดต้องเดือดร้อนคนในครอบครัวเขาด้วย?
เขาเกลียดสองแม่ลูกเหยียนซินหย่ากับจ้าวเหมยที่สุด เพราะเขามีบุญคุณต่อพวกเธอแต่สองคนแม่ลูกกลับเนรคุณ นอกจากไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณแล้วยังตอบแทนคุณด้วยความแค้น ปล่อยให้จ้าวอิงหัวทำร้ายครอบครัวเขา น่าแค้นใจที่สุด!
………………