เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1123

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เพราะมันคิดว่าเจ้านายไม่ใช่นักบู๊ ขอแค่เป็นสิ่งที่มีพลังชี่ หรือเป็นคนที่มีพลังชี่ในตัว ก็จะโดนกดดันควบคุมทันที เห็นได้ชัดว่ามันมองเจ้านายออกแล้ว!”

จู่ๆ ลู่ฝานถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกว่าใช่สาเหตุนี้

มิน่าล่ะเขาถึงใช้ปราณชี่ไม่ได้ ที่แท้เห็นเป็นพลังชี่นี่เอง พลานุภาพสร้างความกดดันของเทพบู๊สารเลวพวกนี้ เห็นปราณชี่ในตัวเขาเป็นพลังปราณไม่ได้หรือไง มีแค่นิดเดียวก็กดดันงั้นเหรอ ไม่แยกถูกแยกผิดบุ่มบ่ามวู่วามจริงๆ

“แล้วจะทำยังไงดี ฉันจะทำลายปราณชี่ของตัวเองไม่ได้นะ”

ลู่ฝานใช้หัวสมองครุ่นคิด เริ่มคิดหาวิธี

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ แม้ฉันใช้พลังไม่ได้แล้ว แต่ฉันสามารถปล่อยค่ายกลที่เก็บไว้ในเจดีย์ออกมาได้ น่าจะช่วยเจ้านายต้านทานพลานุภาพกดดันได้ครู่หนึ่ง เจ้านายสามารถใช้เวลานี้เปลี่ยนแปลงปราณชี่ทั้งหมดให้เป็นพลังปราณ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ส่วนที่เหลือให้เก็บกลับมาที่ตันเถียน ห้ามปล่อยออกมาแม้แต่น้อย เมื่อเป็นเช่นนี้ น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว!”

ลู่ฝานพูดอย่างดีใจทันที “ไม่เลว งั้นทำตามนี้”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “ได้ครับ เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เจ้านายพร้อมหรือยัง ฉันจะเริ่มปล่อยค่ายกลออกมาแล้วนะ!”

ลู่ฝานสูดหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “เริ่ม!”

เมื่อสิ้นเสียง จู่ๆ ค่ายกลสองสามค่ายกลปรากฏขึ้นบนตัวลู่ฝาน

ทันใดนั้นพลานุภาพสร้างความกดดันของเทพบู๊หายไป ลู่ฝานรีบเปลี่ยนแปลงปราณชี่อย่างสุดชีวิต

เพียงครู่เดียว!

ค่ายกลแตกร้าว ค่ายกลที่ไม่มีพลังสนับสนุนของลู่ฝานและเจดีย์เสวียนเก้ามังกร อ่อนแอจนน่าสงสาร แต่ภายใต้พลานุภาพสร้างความกดดันของเทพบู๊ ถึงมีแรงสนับสนุนจากลู่ฝานและเจดีย์เสวียนเก้ามังกร ก็คงไม่ช่วยอะไรเลย

อีกครู่หนึ่งค่ายกลแตกสลายเรียบร้อย พลานุภาพสร้างความกดดันของเทพบู๊อันแข็งแกร่งโจมตีใส่ตัวลู่ฝานอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกัน ลู่ฝานเอาปราณชี่ที่ยังไม่ทันเปลี่ยนแปลงเก็บเข้าไปในตันเถียน

ทันใดนั้นพลังปราณในตัวลู่ฝานเคลื่อนไหว พลังกดดันบนตัวเริ่มหายไปอย่างรวดเร็ว

ลู่ฝานถอนหายใจยาวออกมา ในที่สุดจัดการได้แล้ว!

แต่ตอนนี้ ลู่ฝานยังไม่กล้าดูดซับพลังฟ้าดินรอบตัวมาฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

เขาลองขยับร่างกายที่แข็งทื่อของตัวเอง ลู่ฝานค่อยๆ ก้าวขาไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

เพียงแค่ก้าวเดียว กลับทำให้ลู่ฝานเกือบน้ำตาคลอเบ้า

ขยับได้แล้ว ในที่สุดก็ขยับได้แล้ว ผ่านมาห้าวัน ในที่สุดเขาก็ขยับได้แล้ว

ตอนที่ลู่ฝานกำลังตื่นเต้น จู่ๆ มีเสียงหัวเราะดังขึ้น

“ฮ่าๆ ลู่ฝาน นายยังยืนอยู่อีกเหรอ ฝืนไม่ไหวแล้วสินะ งั้นก็ไม่ต้องฝืนสิ!”

จู่ๆ มีเงาคนสองสามคนเดินลงเขามาจากไกลๆ หัวเราะแล้วมองลู่ฝาน

ลู่ฝานรู้จักพวกคนที่เดินนำมา คือพวกคนที่โยนหินใส่เขาไม่กี่วันก่อนหน้านี้

ลู่ฝานอ้าปากพูดด้วยเสียงที่แหบพร่ามาก “พวกนายจะมาโยนหินใส่อีกแล้วเหรอ”

พวกนักบู๊หัวเราะออกมาพร้อมกัน หนึ่งในนั้นปรบมือแล้วพูดว่า “เปล่า ฉันมาให้นายดูเรื่องสนุกต่างหาก!”

เมื่อพูดเช่นนี้ คนพวกนั้นพาชายที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดออกมา จากนั้นโยนลงบนพื้นเหมือนขยะ

“นายรู้จักคนนี้สินะ ฮ่าๆ หยวนเลี่ย เจอเพื่อนนายแล้ว นายมีอะไรอยากพูดไหม”

นักบู๊ที่นำมา เหยียบลงบนหัวหยวนเลี่ย

หยวนเลี่ยกัดฟัน ไม่พูดอะไรสักคำ!

ลู่ฝานเห็นภาพนี้ เขาค่อยๆ กำหมัดแน่น ความเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นนัยน์ตาทันที

ลู่ฝานพูดด้วยเสียงแหบพร่า “พวกนายกำลังรนหาที่ตาย!”