ตอนที่ 815: ภาพหลอนในหมอก
เจี้ยนเฉินจ้องตาไม่กระพริบไปที่ฝุ่นผงและถาม “อะไรกันนั่น ? ” ในตอนก่อนหน้านี้ เจี้ยนเฉินเห็นว่าบอลแสงสีขาวคืออะไร
“พวกนั้นคือปลาที่อาศัยอยู่ใกล้มหาสมุทรดวงดาว และมันได้กลายพันธุ์ไปเนื่องจากสภาพแวดล้อม ความเร็วของมันนั้นสูงมาก และปลาพวกนั้นยังเป็นถึงสัตว์อสูรระดับ 6 แต่มันไม่มีแกนอสูร ถ้าเซียนผู้คุมกฎไม่ใส่ใจละก็ พวกเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บได้จากปลาพวกนี้” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดอย่างเฉยเมย นางมีความเข้าใจที่ดีเยี่ยมเกี่ยวกับสถานที่นี้
เมื่อได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินก็ประหลาดใจ สัตว์อสูรระดับ 6 ก็เหมือนกับเซียนสวรรค์ ด้วยความแข็งแกร่งเท่านั้น พวกมันก็เหมือนมดปลวกสำหรับเซียนผู้คุมกฎและสามารถถูกกำจัดได้เพียงแต่ดีดนิ้ว พวกมันไม่เป็นอันตรายกับเซียนผู้คุมกฎเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม หมอกในมหาสมุทรดวงดาวนั้นทำให้ความสามารถของเซียนผู้คุมกฎถูกข่มเอาไว้ ไม่เพียงแต่สัมผัสทั้งห้าจะลดลงเท่านั้น แต่ความสามารถในการควบคุมพลังมิติยังลดลงไป อีกทั้งยังมองเห็นได้แค่ในระยะ 3 เมตร ทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาลดลงอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นโอกาสอันดีที่สัตว์อสูรระดับ 6 จะสังหารเซียนผู้คุมกฎได้
ทั้งสองคนเดินทางต่อไปในหมอก อย่างไรก็ตาม ด้วยการโจมตีจากปลาประหลาดก่อนหน้านี้ เจี้ยนเฉินก็ยิ่งระวังตัวมากขึ้นไปอีก ที่เก็บพลังบรรพกาลขนาดเท่าเมล็ดถั่วในตันเถียนของเขาปล่อยพลังบรรพกาลจำนวนมากออกมาอย่างไม่ลังเลและไหลไปทั่วร่างกายของเจี้ยนเฉิน เขาเพิ่มพลังบรรพกาลไปจนถึงจุดที่ถ้าเขาได้รับการโจมตีจากเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 เขาก็จะไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย
ในขณะที่พวกเขาเดินทางลึกเข้าไป หมอกประหลาดก็ยิ่งหนาขึ้นเรื่อย ๆ การมองเห็นของเจี้ยนเฉินแคบลงเหลือ 2 เมตรจาก 3 เมตร ในที่นี่ สัมผัสของเจียนถูกข่มไป เขาสูญเสียแม้กระทั่งความรู้สึกในการรับรู้ทิศทาง เขาได้แต่เดินตามหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ไปอย่างช้า ๆ และระยะห่างระหว่างพวกเขาก็เหลือแค่ครึ่งเมตรเท่านั้น เจี้ยนเฉินได้กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ที่ยั่วยวนจากหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์
“ท่าน บริเวณนี้มันกว้างใหญ่ขนาดไหนกัน ? อีกนานเท่าไรที่เราจำเป็นต้องผ่านเขตนี้ไป ? ” เจี้ยนเฉินหันไปทางหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และถาม แม้ว่าทั้งสองจะอยู่ห่างกันเพียงครึ่งเมตร แต่เขาก็ยังเห็นหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้ไม่ชัดเจน และนางดูเหมือนจะเป็นร่างเบลอ ๆ สีม่วง
“พวกเราจำเป็นที่จะต้องเดินทางต่อไปอีกร้อยเมตรเพื่อที่จะออกจากหมอกนี้ ด้วยความเร็วของพวกเราในตอนนี้ มันน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วยาม” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดอย่างเฉยเมยในขณะที่ดวงตาที่สวยงามจับใจของนางสังเกตไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง
ในตอนนั้นเอง แสงสีขาวหลายเส้นก็พุ่งมาจากรอบ ๆ ด้วยความเร็วแสง ในขณะที่พวกมันเข้าใกล้คนทั้งสอง พวกเขาก็พบมันตอนที่มันอยู่ห่างแค่ 2 เมตรออกไปเท่านั้น และมันมาถึงที่ตรงหน้าของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และเจี้ยนเฉินทันที
เจี้ยนเฉินยังคงสงบนิ่งและโจมตีแสงสีขาวอย่างไม่ลังเล แสงสีขาวนั่นคือปลากลายพันธุ์ที่พุ่งมาอย่างรวดเร็ว และเทียบเท่ากับเซียนสวรรค์เท่านั้นอย่างมาก การโจมตีที่อ่อนแอเช่นนี้ไม่สามารถทำอันตรายอะไรกับเขาได้เลย
ในขณะที่แสงสีขาวกำลังจะโจมตีพวกเขาทั้งสอง เสียงโน้ตชัดเจนก็ดังขึ้นมา มันเปลี่ยนไปเป็นคลื่นเสียงที่มองเห็นได้และขยายออกไปรอบ ๆ ในตอนที่แสงสีขาวสัมผัสกับคลื่นเสียง มันก็กลายเป็นฝุ่นผงทันทีจากเสียงโน้ตของพิณ
เมื่อได้เห็นดังนั้น ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็หรี่ลงเล็กน้อยอย่างสังเกตเห็นไม่ได้ ความเข้าใจในความแข็งแกร่งของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ของเขาเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น แค่เพียงโน้ตธรรมตา นางก็สามารถแสดงความแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่จะมีเซียนสวรรค์มากกว่านี้ พวกนั้นก็ไม่อาจสามารถที่จะทนพลังจากตัวโน้ตของนางได้
พวกเขาเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ และพบกับการโจมตีจากปลากลายพันธุ์ไปอย่างต่อเนื่อง จำนวนของปลาเพิ่มขึ้นจากครั้งละ 1 ตัวจนไปถึงพันตัวในแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม ปลาพวกนั้นมีพลังแค่เท่ากับสัตว์อสูรระดับ 6 ไม่ว่าพวกมันจะมาเยอะขนาดไหน พวกมันก็ไม่สามารถทนต่อเสียงพิณของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้ เพียงแค่ตัวโน้ตเดียว มันก็เพียงพอแล้วที่จะส่งให้ปลาซึ่งเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 ไปสู่ความตาย
พวกเขาบินอย่างต่อเนื่องผ่านหมอกไปอีก 1 ชั่วยาม และเดินทางมาได้ 80 กิโลเมตร พวกเขาผ่านเขตหมอกและมาถึงที่รอบนอกของมหาสมุทรดวงดาว
ยิ่งลึกเข้าไปเท่าไรหมอกก็ยิ่งหนาขึ้นไปเท่านั้น หลังจากที่ผ่านมา 80 กิโลเมตร หมอกก็บังไปหมดทั่วร่างกาย ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินไม่สามารถที่จะมองเห็นอะไรได้เลย ถ้าเขายื่นมือออกไป เขาก็คงไม่เห็นนิ้วของเขาด้วย หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มีเพียงกลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ที่จมูกของเจี้ยนเฉินสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของนาง นี่ทำให้เจี้ยนเฉินต้องพึ่งประสาทสัมผัสทางจมูกเพื่อดมกลิ่นน้ำหอมของนางเพื่อให้รู้ว่านางอยู่ที่ไหน
ทันใดนั้นเอง เจี้ยนเฉินก็รู้สึกว่าหมอกด้านหน้าเขานั้นกระเพื่อมอย่างรุนแรง หลังจากนั้นไม่นาน ร่างพร่ามัวก็ปรากฏขึ้น ก่อนที่จะถูกมองเห็นได้อย่างชัดเจน มันคือหญิงวัยกลางคนที่สง่างามในชุดขาว และนางกำลังยิ้มอย่างมีเมตตามาที่เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินจ้องตาไม่กระพริบไปที่หญิงด้านหน้าเขา ในขณะที่อารมณ์ของเขาถาโถมไปด้วยความเหลือเชื่อพร้อมกับความเจ็บปวดแปลก ๆ
“เซียงเอ๋อ ทำไมเจ้าถึงได้มาที่นี่ ? เจ้ามาเยี่ยมแม่ใช่หรือไม่ ? ” หญิงที่งดงามพูดออกมาอย่างนุ่มนวล รอยยิ้มที่มีเมตตาของนางละลายใจที่แข็งเหมือนหินของเจี้ยนเฉิน
“ท่านแม่ ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกไปอย่างไม่รู้ตัว เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและแม้แต่ตาของเขายังแดงก่ำ
แม้ว่าภาพหลอนจะมีผลกระทบกับการมองเห็นของเจี้ยนเฉิน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เจี้ยนเฉินสับสน เขารู้ดีว่าแม่ของเขาได้ตายไปแล้ว และร่างของนางนั้นถูกเก็บไว้ที่เมืองทหารรับจ้างเพื่อรอที่จะได้รับการชุบชีวิตหลังจากที่เขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 แล้ว แต่แม้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้น แต่รูปลักษณ์ของไป๋หยุนเทียนนั้นก็ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของเจี้ยนเฉิน เขาไม่สามารถที่จะไม่สนใจในมันได้
“ทั้งหมดที่เจ้าเห็นเป็นเพียงภาพลวงตา อย่าหลงกลมัน ไม่เช่นนั้นจิตใต้สำนึกของเจ้าจะจมลงไปและเจ้าจะติดอยู่ในนั้น” เสียงของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ปรากฎขึ้นในหูของเจี้ยนเฉิน เสียงที่เหมือนธรรมชาติของนางเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่จับใจ และมีพลังที่สามารถทำให้คนอื่นผ่อนคลายได้ มันเหมือนว่ามันสามารถปลุกคนให้หลุดออกมาจากภาพหลอนได้
ใจของเจี้ยนเฉินเต้นอย่างแรง สักพักต่อมา เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกและสงบใจลงอย่างช้า ๆ บังคับไม่ให้ตัวเองมองไปที่แม่ของเขา เขาบินตามหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ต่อไป
“เซียงเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ? ข้าเป็นแม่ของเจ้า เจ้าจำแม่ของเจ้าไม่ได้แล้วอย่างนั้นหรือ ? เซียงเอ๋อ เจ้าจะลืมแม่ไม่ได้นะ เจ้าคือลูกคนเดียวของแม่ ข้าไม่สามารถไปไหนได้โดยไม่มีเจ้า” ไป๋หยุนเทียนเศร้าโศกขึ้นทันทีและร้องไห้ออกมาจากใจ นางรู้สึกปวดร้าว
จิตใจของเจี้ยนเฉินเริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรงและเขากำหมัดของเขาแน่น เขารู้ดีว่านั่นคือภาพลวงจากหมอก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งหมดที่เขาจะทำได้มีเพียงทำหัวให้โล่งและไม่หลงกลไปกับมัน
ในตอนนั้นเอง ร่างของเจี้ยนเฉินก็กระตุกอย่างรุนแรง ข้าง ๆ เขา เขาเห็นพ่อของเขาทันที เจียงหยางป้า เขากำลังหนีในขณะที่ร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือดโดยที่โดนเซียนปฐพีไล่ตามอยู่
“เซียงเอ๋อ ช่วยข้าด้วย ข้าเป็นพ่อของเจ้า!” ทันใดนั้นเอง เจียงหยางป้าที่หน้าอาบเลือดก็มองไปที่เจี้ยนเฉินและร้องขอความช่วยเหลือออกมา เสียงของเขานั้นทุกข์ยากมาก
ร่างของเจี้ยนเฉินเริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรงในขณะที่จิตสังหารที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่ใจของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะเชื่อมโยงรูปร่างของเจียงหยางป้าในตอนนี้กับการตายของพ่อแม่ของเขาได้ มันเหมือนกับชายชราทั้งห้าคนนั้นได้ฆ่าพ่อและแม่เขาอีกครั้ง
“ทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพลวงตา พ่อแม่ของข้าตายแล้ว และข้าทิ้งพวกเขาไว้ที่เมืองทหารรับจ้าง” เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเองอย่างต่อเนื่องและบังคับให้ตัวเขาเองสงบลง แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าทั้งหมดนี้เป็นภาพหลอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เจี้ยนเฉินปวดร้าวอย่างมาก
“เซียงเอ๋อ ช่วยข้าด้วย ข้าคือพ่อของเจ้า” เจียงหยางป้าร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง น้ำเสียงที่สิ้นหวังของเขาที่เจี้ยนเฉินได้ยิน ทำให้จิตใจของเจี้ยนเฉินเจ็บปวดรวดร้าว
“อ้าก ! ” น้ำเสียงเจ็บปวกดังมาจากเจียงหยางป้า คนที่ไล่ตามเขาอยู่ขวางทางเขาเอาไว้ ในขณะที่หนึ่งในนั้นแทงเข้าไปที่อกของเจียงหยางป้าด้วยอาวุธเซียน เขากำลังพูดกับเจียงหยางป้าอย่างเหยียดหยาม
เจียงหยางป้าจมอยู่ในกองเลือด เสื้อของเขาย้อมไปด้วยสีแดงจากเลือด และแม้แต่พื้นยังกลายเป็นสีแดง
“เซียง เซียงเอ๋อ เซียงเอ๋อ ช่วย ช่วย ช่วยพ่อของเจ้าด้วย..” เจียงหยางป้ามองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างไร้เรี่ยวแรง และพูดอย่างอ่อนแรง แสงไฟในตาของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหม่นหมอง ในท้านที่สุดเขาก็นอนลงกับพื้นและไม่เคลื่อนไหว
ใจของเจี้ยนเฉินสั่นไหวอย่างรุนแรง ในขณะที่ความเจ็บปวดเต็มอยู่ในใจของเขา น้ำตาสองสายไหลออกมาจากตาของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเป็นเซียนผู้คุมกฎ แต่เขาก็เห็นว่าพ่อและแม่สำคัญกับเขามาก มันเป็นการทำร้ายจิตใจอย่างจินตนาการไม่ได้สำหรับเจี้ยนเฉินที่จะต้องมาเห็นพ่อแม่ของเขาต้องมาตายต่อหน้า เขาไม่สามารถที่จะสงบใจไว้ได้อีกต่อไป
นี่เป็นเพราะว่าต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เขาเสียใจนั้นเกิดขึ้นกับพ่อแม่ของเขา ภาพหลอนที่ถูกสร้างขึ้นจากหมอกได้กระทบเจี้ยนเฉินอย่างรุนแรง
“อ้าก ! ” เจี้ยนเฉินคำรามอย่างทรงพลังไปบนท้องฟ้า เสียงที่เหมือนแผ่นดินไหวดังไปทั่วทั้งบริเวณ เสียงคำรามเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่รุนแรง และจิตสังหารที่ทรงพลังที่เปล่งออกมาจากร่างกายของเขา และกระบี่สังหารมังกรก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาทันที พลังบรรพกาลในร่างของเขาไหลไปที่กระบี่อย่างคงที่ ทำให้มันเปล่งแสงสว่างสีดำออกมา หลังจากนั้น เขาก็เหวี่ยงมันไปที่เซียนปฐพีที่ฆ่าเจียงหยางป้าด้วยกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง
ตรึง !
ทันใดนั้นเอง เสียงดังและชัดเจนจากพิณ เหมือนระฆังใบใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมา คลื่นเสียงที่ทรงพลังที่มองเห็นได้ได้ปะทะกับกระบี่สังหารมังกร และการโจมตีที่ทรงพลังก็กระแทกให้กระบี่กระเด็นถอยไป
ไม่เพียงแค่เสียงที่เหมือนระฆังจะป้องกันการโจมตีของเจี้ยนเฉินเอาไว้ได้ แต่คลื่นเสียงที่เหลือยังเข้าไปในจิตใจของเจี้ยนเฉิน มันปะทะเข้ากับวิญญาณของเจี้ยนเฉินเหมือนหินก้อนใหญ่ ทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกเหมือนว่าหัวเขาจะระเบิด เขาอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“หืม ข้าคิดว่าเจ้าเป็นเซียนผู้คุมกฎ แค่ภาพหลอนธรรมดาต่ำช้านี้ก็หลอกเจ้าได้แล้ว นี่เป็นแค่ส่วนนอกของมหาสมุทรดวงดาวเท่านั้น ยังมีภาพหลอนที่ทรงพลังมากกว่านี้ลึกเข้าไปอีก ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเจ้าจะรับมือมันได้หรือไม่” เสียงที่เย็นชาของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ปรากฏขึ้นในใจของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินกลับมาสู่โลกแห่งความจริงทันที ก่อนหน้านั้น ตอนที่เขาเหวี่ยงกระบี่เพื่อที่จะไปโจมตีศัตรูที่ฆ่าพ่อแม่ของเขา แต่แท้จริงแล้วเขาเหวี่ยงมันไปที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์