ตอนที่ 1430 จุดจบที่ไม่สามารแก้ไขได้ โดย Ink Stone_Fantasy
“เจ้ากำลังทำอะไร!” สกายลอร์ดคำราม
ถ้าไม่เป็นเพราะมันสังเกตเห็นไซเลนท์ที่จู่ๆก็เดินออกมา ถ้าเมื่อครู่มันช้ากว่านี้อีกเพียงก้าวเดียว เกรงว่าคงไม่ใช่แค่อีกฝ่าย แม้แต่ตัวมันเองก็คงจะหนีออกมาไม่ทัน! ทันทีที่คิดถึงว่าถ้าอีกด้านหนึ่งของประตูยังคงเป็นบ่อละอองชีวิตหรือว่ามันเปิดประตูมิติบานที่ 2 ขึ้นมาไม่ทัน เฮคซอดพลันรู้สึกว่าแผ่นหลังมีเหงื่อที่เย็นยะเยือกไหลออกมา
แต่ตอนนี้สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่ ไม่ว่าเดอะแมสก์จะตายหรือไม่ จักรพรรดิก็จะต้องรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน ต่อให้มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะปัดความรับผิดชอบไปได้ ขอเพียงจักรพรรดิอ่านความทรงจำดู มันก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย!
นี่ทำให้มันรู้สึกโมโหขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ที่ไซเลนท์ปฏิเสธมัน มันยังนึกว่าอีกฝ่ายใจเย็นและมีเหตุผล คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ได้ไปเจอวัลคีรีย์มา ท่าทีของเซโรเชสจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ไม่สิ เจ้านี่มันยังคงใจเย็นและมีเหตุผล มันถึงได้แอบออกมาเงียบๆอย่างนี้ แทนที่จะมาพูดคุยหารือกับตัวเองก่อน เพราะมันรู้ว่าตัวเองจะต้องหยุดมันแน่!
“ทันทีที่แผนการที่สองเริ่มขึ้น เราก็จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก และวิธีที่จะหยุดมันก็มีแค่วิธีนี้เท่านั้น” น้ำเสียงของไซเลนท์ยังคงราบเรียบ เหมือนไม่ได้สนใจเลยว่าเมื่อครู่ตัวเองเกือบจะตายไปแล้ว
“ใครบอกว่ามีแค่วิธีนี้? ถ้าใจเย็นลงหน่อยแล้วคิดดีๆล่ะก็…”
พอพูดถึงตรงนี้ เสียงของเฮคซอดก็เบาลงไปทันที
มีวิธีที่ดีกว่านี้จริงๆ เหรอ?
การจะทําให้พระผู้สร้างอยู่ในสภาพเดิมโดยไม่ให้เดอะแมสก์สังเกตเห็น หรือทำให้จักรพรรดิรับรู้…บางทีมันอาจจะมีวิธีแบบนี้อยู่ แต่เวลาล่ะ? ความจริงยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องแผนการที่จำเป็นต้องใช้ทั้งเวลาและกำลังในการวางแผน เอาแค่ตัดสินใจว่ามันจะทำแบบนี้หรือไม่ มันก็ยังไม่อาจตัดสินใจได้เลย
เจ้านี่…มันมองออกอย่างนั้นหรือ?
ริมฝีปากเฮคซอดสั่นอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายมันจึงได้แต่ต้องเปลี่ยนประเด็น
“ทำไม?”
เซโรเชสมองมัน เหมือนกำลังรอให้มันถามออกมามากกว่านี้อีก
“แบบนี้พวกเราก็จะต้องไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจักรพรรดิ ราชาตนอื่นๆ ก็จะมองพวกเราเป็นศัตรู ยิ่งไปกว่านั้น…” สกายลอร์ดหยุดไปเล็กน้อย “มนุษย์เองก็ไม่มีทางปล่อยพวกเราไปแน่”
“เพราะชั่งน้ำหนัก” เซโรเชสตอบออกมาง่ายๆ
“ชั่งน้ำหนัก?”
“ในสายตาของข้า คำถามนี้มันไม่ได้เลือกยากขนาดนั้น” มันหมุนตัวเดินออกไปนอกห้อง ถึงแม้ในเวลานี้ภายในห้องควบคุมจะเหลือกำแพงเพียงครึ่งหนึ่งกับประตูที่เหมือนจะหลุดอยู่อีกบานหนึ่ง “เรื่องหลังจากนี้เดี๋ยวค่อยคิดก็ได้ แต่วัลคีรีย์จะตายด้วยวิธีนี้ไม่ได้”
นี่มันคำตอบอะไรเนี่ย… “มีเจ้ากำลังจะบอกว่าวัลคีรีย์สำคัญกว่าชะตาชีวิตของทั้งเผ่าพันธุ์อย่างนั้นหรือ?” เฮคซอดพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง “ข้าไม่เชื่อว่านี่จะเป็นเจตนาของมัน เจ้าแน่ใจนะว่าคนที่เจ้าไปเจอมาคือไนท์แมร์ลอร์ดจริงๆ ไม่ใช่ตัวปลอมที่พวกมนุษย์สร้างขึ้นมาแน่นะ?”
“ไม่ มันบอกข้าว่าถ้าเพื่อเผ่าพันธุ์แล้วล่ะก็ จะเสียสละมันก็ไม่เป็นไร” เซโรเชสตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “นี่คือความคิดของข้าเอง”
“….” สกายลอร์ดไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรออกไปดี
สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างมากแล้ว
ทันใดนั้นเอง เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งพลันวิ่งผ่านศีรษะของทั้งสองคนไป มันเหมือนดังขึ้นมาจากใต้เท้า หรือพูดอีกอย่างก็คือมาจากในที่ที่อยู่ลึกลงไป!
ท่ามกลางเสียงที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย จู่ๆ พระผู้สร้างพลันสั่นสะเทือนขึ้นมา!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เฮคซอดมองไปทางบ่อละอองชีวิตที่อยู่ด้านล่างหลุมอย่างตกใจ มันเห็นผิวทะเลสาบที่เป็นเหมือนผลึกก่อนหน้านี้เดือดพล่านขึ้นมา เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังพยายามจะพุ่งขึ้นมา ส่วนหอคอยแห่งการให้กำเนิดที่อยู่ตรงกลางทะเลสาบเองก็ส่องแสงจางๆ ออกมา!
ในช่วงเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมานี้ มันไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน
จากนั้นสกายลอร์ดก็ได้เห็นภาพที่น่าเหลือเชื่อ แกนพลังเวทมนตร์ที่เดิมควรจะถูกระเบิดฉีกออกเป็นชิ้นๆ กลับส่องแสงสีน้ำเงินที่สว่างเจิดจ้าขึ้นมา จากนั้นมันค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากในทะเลสาบแล้วพุ่งตรงเข้าไปหาหอคอยแห่งการให้กำเนิด
มันคุ้นหน้าคุ้นตากับเจ้าสิ่งนี้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะถูกสร้างขึ้นมาอย่างชาญฉลาด แล้วก็เป็นเครื่องมือเพียงหนึ่งเดียวของอารยธรรมใต้ดินที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของพลังเวทย์มนต์ได้ แต่โครงภายนอกที่เป็นกระดูกของมันนั้นสามารถหักออกได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว เรียกได้ว่าไม่ได้มีความแข็งแรงทนทานอะไรเลย ในการระเบิดก่อนหน้านี้ แม้แต่หลังคาหอศูนย์กลางก็ยังถูกระเบิดจนแหลกกระจุย แล้วทำไมแกนพลังเวทมนตร์นี้ถึงแค่กระเด็นตกลงไปในทะเลสาบ
เซโรเชสเองก็หน้าเปลี่ยนสีเช่นเดียวกัน มันชักดาบออกมา ก่อนจะวิ่งออกไปหลายก้าว จากนั้นจึงขว้างดาบออกไปสุดแรง
ดาบกลายเป็นลำแสงพุ่งออกไป ก่อนจะปักเข้าใส่แกนเวทมนตร์อันหนึ่งอย่างแม่นยำ
แต่แกนเวทมนตร์กลับไม่เป็นอะไรเลย ดาบยาวเหมือนแทงเข้าใส่วัตถุที่มีความแข็งอย่างมาก มันกระเด้งออกมา ก่อนจะหมุนควงตกลงไปในทะเลสาบหมอกแดง
“เป็นไปได้ยังไง….” เซโรเชสพูดงึมงำ
ในตอนที่แกนเวทมนตร์เข้าใกล้หอคอยแห่งการให้กำเนิดถึงระยะหนึ่ง ลำแสงเส้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นมาระหว่างแกนเวทมนตร์และหอคอยแห่งการให้กำเนิด ดูคล้ายว่าจะเชื่อมทั้งสองให้กลายเป็นหนึ่งเดียว ส่วนแกนเวทมนตร์อันอื่นๆ ก็มีลำแสงแบบนี้ปรากฏขึ้นมาเช่นเดียวกัน จนกระทั่งลำแสงสี่สายปรากฏขึ้นมาครบแล้ว แกนเวทมนตร์ทั้งสี่จึงค่อยๆ หมุนวนรอบหอคอยแห่งการให้กำเนิด แสงสว่างของตัวหอคอยเองก็สว่างเจิดจ้าขึ้นมา
“ครืนนน”
การสั่นสะเทือนขยายตัวออกไปหลายเท่า ฝุ่นและเศษหินร่วงตกลงมาจากด้านบน สิ่งก่อสร้างที่สร้างอยู่ข้างหลุมจำนวนไม่น้อยร่วงตกลงไปในทะเลสาบ ส่วนหอศูนย์กลางเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่ ส่วนที่เชื่อมต่อกับผนังของหลุมเริ่มมีเสียงครึกๆ ดังขึ้นมา รอยแตกเริ่มลามขึ้นมาบนตัวหอคอย
ท่ามกลางการสั่นไหวอย่างรุนแรง เฮคซอดรับรู้ได้ถึงความรู้สึกหนักอึ้งอันชัดเจน เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังกดมันลงไปที่พื้นอย่างไรอย่างนั้น
พระผู้สร้างกำลังลอยขึ้นไป!
“บัดซบ แผนการนี้มันควรจะรอให้จักรพรรดิมาถึงที่ราบลุ่มบริบูรณ์ก่อนค่อยเริ่มไม่ใช่หรือ?” เฮคซอดกัดฟันพูด “ทำไมมันถึงเริ่มใช้แผนการนี้เร็วขนาดนี้ล่ะ?”
เซโรเชสเองก็เหมือนสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เหตุการณ์นี้เหมือนเป็นการเตรียมการเอาไว้นานแล้ว
“หรือว่า…” เฮคซอดจ้องมองไซเลนท์อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมันจึงเปิดประตูมิติขึ้นมาแล้วลากไซเลนท์กลับไปยังบ่อละอองชีวิตที่อยู่ด้านล่าง “ถอดเกราะของเจ้าออก!”
“…” เซโรเชสมองมันอย่างสงสัย แต่สุดท้ายก็ทำตามที่มันว่า
สกายลอร์ดหยิบเอาหินเวทมนตร์หลากสีขึ้นมาส่องดู ก่อนจะเห็นในเสาลำแสงของอีกฝ่ายมีเส้นลำแสงที่เล็กจนไม่อาจสังเกตเห็นได้ปะปนอยู่เส้นหนึ่ง มันเล็กขนาดนี้ ถ้าไม่สังเกตดูดีๆ คงยากที่จะแยกแยะออกมาได้
“อย่าขยับ!” เฮคซอดยื่นนิ้วสองนิ้วแทงเข้าไปในไหล่ของไซเลนท์ อีกฝ่ายขมวดคิ้วขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร ไม่นานสกายลอร์ดก็หยิบเอาวัตถุที่เป็นเหมือนก้อนเนื้อออกมาจากในร่างกายของอีกฝ่าย หลังออกมาจากร่างโฮสต์แล้ว สิ่งมีชีวิตที่เป็นเหมือนก้อนเนื้อก้อนนั้นก็หยุดขยับทันที
“นาซเพล” ไซเลนท์กําหมัดแน่น! เดอะแมสก์เป็นคนฝังเจ้าปรสิตนี้เข้ามาในปากแผลตอนที่มันกำลังสลบจากอาการบาดเจ็บอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันกลับไม่รู้สึกถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว!
“มันรู้เรื่องที่พวกเราคุยกันแต่แรกแล้ว เผลอๆ แม้แต่…เรื่องที่เจ้าไปเจอกับวัลคีรีย์ในโลกแห่งจิตสำนึก มันก็รู้เรื่องด้วยเหมือนกัน” เฮคซอดโยนก้อนเนื้อลงไปที่พื้น ก่อนจะใช้เท้าเหยียบจนแหลก “แบบนี้เรื่องที่มันเตรียมพร้อมเอาไว้ล่วงหน้าก็สามารถอธิบายได้แล้ว”
เซโรเชสก้าวเท้าเดินไปที่ประตูโดยไม่สนใจบาดแผลที่หัวไหล่
“เดี๋ยวๆ เจ้าจะไปไหน?”
“ข้าจะไปทำลายแกนพลังเวทมนต์!”
“ตอนนี้มันสายไปแล้ว!” เฮคซอดตะโกน “เจ้าก็เห็นแล้วนี่ แกนพลังพวกนั้นมันกำลังส่งเสียงตอบรับหอคอยแห่งการให้กำเนิด เจ้าคนเดียวจะไปทำอะไรได้?”
ตอนนี้แกนพลังเวทมนตร์ที่ถูกปรับมาได้รวมเป็นหนึ่งกลับหอคอยแห่งการให้กำเนิด อย่าว่าแต่โยนดาบเข้าไปเลย ต่อให้พวกมัน 2 ตัวใช้พลังทั้งหมดที่มีก็ยากที่จะสร้างความเสียหายให้กับแกนพลังเวทมนตร์ได้
ถึงแม้จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น นั่นมันก็จะทำให้พระผู้สร้างสูญเสียการควบคุมและตกลงไปข้างล่างอยู่ดี!
มันมองเห็นผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดแล้ว
“ไปแจ้งมนุษย์ที่วัลคีรีย์อาศัยอยู่ด้วยซะ ให้มันรีบออกไปจากแผ่นดินเพื่อหลีกหนีหายนะครั้งนี้ นี่คือสิ่งเดียวที่พวกเราพอจะทำได้ในตอนนี้”