คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1366
“คุณ…” อีเวตต์เป็นกังวลจนแทบจะร้องไห้ออกมา
ซีซาร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เจ้าหญิง บางทีเรื่องนี้เราอาจจะประนีประนอมกันได้ ทำไมคุณไม่ตามผมกลับไปที่วัง จากนั้นผมจะยอมปล่อยแดร์ริลไปล่ะ?”
จากนั้นซีซาร์ก็พูดต่อว่า “ผมรู้ว่าคุณต้องการเห็นแดร์ริลปลอดภัย ตราบใดที่คุณยอมตามผมกลับวัง ผมสัญญาว่าผมจะเปิดประตูเมืองและให้ทหารของเราส่งเขาออกไป ผมสัญญาว่าผมจะไม่รายงานเรื่องนี้ต่อจักรพรรดิ คุณคิดว่ายังไงเจ้าหญิง?”
ซีซาร์ไม่มีทางเลือกอื่น อีเวตต์เป็นลูกสาวคนโปรดของจักรพรรดิ ดังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะต้องพาเธอกลับไปยังพระราชวังให้ได้ ครั้งนี้เขาจะยอมปล่อยแดร์ริลไปก่อน
“เอ่อ…” เมื่อได้ยินข้อเสนอของซีซาร์ อีเวตต์ก็ครุ่นคิดพร้อมกัดริมฝีปากแน่น
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกเขาจะได้กลับมาพบกัน ดังนั้นอีเวตต์จึงไม่เต็มใจแยกทางกับแดร์ริล
‘บัดซบ!’ แดร์ริลเองก็โกรธมากเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแขนทั้งสองข้างของเขาหัก เขาจะใช้พลังภายในจัดการกับทุกคนตรงหน้าโดยไม่มีข้อต่อรองให้เสียเวลา
“เจ้าหญิง?”
ซีซาร์รู้สึกเป็นกังวลเมื่อได้เห็นอีเวตต์ยังคงนิ่งเงียบ “ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ได้รับมอบหมายให้ออกตามหาคุณ เพราะฉะนั้น ก่อนที่คนอื่น ๆ จะตามหาคุณเจอ คุณควรจะรีบตัดสินใจก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
อีเวตต์สูดหายใจเข้าเต็มปอด เธอหันมองซีซาร์และพูดขึ้นอย่างไม่เต็มใจว่า “ก็ได้! ฉันจะกลับวังกับคุณ! แต่คุณต้องสัญญาว่าคุณจะปล่อยแดร์ริลไป!”
จากนั้น อีเวตต์ก็หันกลับมามองแดร์ริลและพูดต่อว่า “แต่ฉันจะต้องรักษาอาการบาดเจ็บให้แดร์ริลก่อน แล้วฉันถึงจะตามคุณกลับวัง”
อีเวตต์ไม่เต็มใจแยกทางกับแดร์ริล แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว อีเวตต์ไม่สามารถพาเขาหลบหนีและบุกผ่านประตูเมืองออกไปได้ด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าอีเวตต์ตกลงทำตามข้อเสนอ ซีซาร์ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาพยักหน้าตอบรับอย่างหนักแน่น “แน่นอนเจ้าหญิง ผมจะรออยู่ข้างนอกระหว่างที่คุณรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา!”
จากนั้นซีซาร์ก็ยกมือขึ้นและเดินนำทหารของเขาออกจากห้องไป
“อีเวตต์ ผมขอโทษ!” เมื่อประตูปิดลง แดร์ริลก็พูดกับอีเวตต์อย่างขมขื่นว่า “มันเป็นความผิดของผมเอง ถ้าหากว่าผมไม่ได้รับบาดเจ็บ ผมก็คงไม่ต้องสร้างปัญหาให้คุณเช่นนี้”
ขณะที่กล่าวเช่นนั้น แดร์ริลก็อยากจะยกมือขึ้นทุบหัวตัวเอง เขาไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องผู้หญิงที่เขารักได้ด้วยซ้ำ แล้วเขายังจะกล้าเรียกตัวเองว่าลูกผู้ชายได้อย่างไร?
อีเวตต์กัดริมฝีปากแน่นขณะฝืนยิ้มและพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “แดร์ริล มันไม่ใช่ความผิดของคุณ อย่าโทษตัวเองเลย”
จากนั้น อีเวตต์ก็เปิดขวดโอสถฟื้นฟูกระดูกมหัศจรรย์ออกขณะกล่าวเบา ๆ ว่า “ฉันจะกลับวังหลังจากที่ฉันทายาให้คุณเสร็จแล้ว”
แดร์ริลพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองขณะแอบมองดูเธออยู่เงียบ ๆ เขาถอดเสื้อของตัวเองออก จากนั้น อีเวตต์ก็เริ่มใส่ยาลงบนแขนที่หักของเขาอย่างอ่อนโยน
เมื่อได้เห็นรอยแผลเป็นมากมายบนร่างกายของแดร์ริล ร่างกายของอีเวตต์ก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง
‘รอยแผลเป็นเยอะขนาดนี้ นี่เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง?’
อีเวตต์รู้สึกเจ็บปวดอยู่ภายในใจ ทว่าอีเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง ดังนั้น เธอจึงไม่ได้แสดงความโศกเศร้าออกมาเมื่อได้เห็นเช่นนั้น
อีเวตต์จ้องมองแดร์ริลด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เนื่องจากว่าเธอไม่ต้องการทำให้แดร์ริลรู้สึกแย่
อย่างไรก็ตาม แดร์ริลจะไม่รู้ได้อย่างไร เพราะเขาสามารถมองเห็นรอยยิ้มที่ดูฝืนทนบนใบหน้าของเธอออก เขาเองก็รู้สึกหดหู่ใจ เมื่อได้เห็นเช่นนั้น
บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความเศร้าสร้อย
เมื่อสังเกตุเห็นสายตาที่แดร์ริลจ้องมอง อีเวตต์ก็กัดริมฝีปากแน่นและถามขึ้นว่า “คุณมองฉันทำไม?”
แดร์ริลฝืนทนกล้ำกลืนความเจ็บปวดที่อยู่ภายในใจก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ผมกำลังชื่นชมความงดงามของคุณอยู่ ทำไมคุณถึงไม่เป็นของผมเร็วกว่านี้นะ? ถ้าเป็นเช่นนั้น เราคงจะมีลูกด้วยกันแล้ว ผมกำลังคิดว่าลูกสาวของเราจะต้องสวยเหมือนคุณแน่ ๆ!”
“คุณ..”
แก้มของอีเวตต์แดงระเรื่อเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเธอก็พูดด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงว่า “คุณพูดจาเกินเลยอีกแล้วนะ”