คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1367

เมื่ออีเวตต์คิดว่าหลังจากที่เธอทายาให้แดร์ริลเสร็จ เธอก็จะต้องแยกทางกับเขา ดังนั้น อีเวตต์จึงไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป

อีเวตต์สะอื้นไห้ เธอไม่พยายามทำตัวเข้มแข็งเหมือนก่อนหน้านี้ ขณะปลดปล่อยความโศกเศร้าทั้งหมดออกมา

อีเวตต์กำลังจะต้องกลับไปที่วังและจากนั้นเธอก็จะต้องเผชิญหน้ากับการประลองฝีมือเพื่อคัดเลือกสามีที่พ่อของเธอได้จัดเตรียมเอาไว้

อีเวตต์ไม่รู้ว่าเธอจะมีโอกาสได้สุขสมหวังกับแดร์ริลหรือเปล่า

“ไม่ต้องร้องไห้นะอีเวตต์” เมื่อได้เห็นน้ำตาของอีเวตต์ หัวใจของแดร์ริลก็แทบจะแตกสลาย เขาต้องการยกมือขึ้นสัมผัสบนใบหน้าที่บอบบางของเธอ แต่ถึงอย่างนั้น แขนทั้งสองข้างของเขาก็ยังคงไร้เรี่ยวแรง เขาทำได้เพียงจ้องมองเธอด้วยความรักและพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ เธอเป็นเจ้าหญิงที่สง่างาม ดังนั้นเธอจะต้องไม่ร้องไห้ ตกลงไหม?”

อีเวตต์กลอกตามองเขาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงและพูดขึ้นว่า “คนใจร้าย ฉันกำลังร้องไห้เพราะคุณ! ถ้าหากว่าคุณไม่ถูกเจ้าสำนักสหพันธ์สวรรค์จับตัวและพาคุณมายังทวีปโลกใหม่ คุณก็คงไม่คิดที่จะตามหาฉันหรอกใช่ไหม? ฉันคิดว่าคุณคงไม่มีฉันอยู่ในหัวใจของคุณด้วยซ้ำ!”

ใบหน้าของอีเวตต์ดูเศร้าหมองเมื่อเธอกล่าวเช่นนั้น

“เอ่อ…” แดร์ริลทำตัวไม่ถูก เขายิ้มบาง ๆ และพูดขึ้นว่า “คุณอยู่ในใจของผมเสมอ…”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อีเวตต์ก็ฝืนยิ้มและพูดขึ้นว่า “ฉันล้อเล่นน่ะ!”

ในเวลานั้น อีเวตต์ได้ใส่โอสถฟื้นฟูกระดูกมหัศจรรย์ลงบนแขนทั้งสองข้างให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

แขนทั้งสองข้างของแดร์ริลรู้สึกด้านชาเล็กน้อย ถึงแม้ว่าแดร์ริลจะรู้สึกดีขึ้น แต่แขนของเขาก็ยังขยับไม่ได้มากนัก

“ฉันใส่ยาให้คุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว!”

ใบหน้าของอีเวตต์เปลี่ยนเป็นความโล่งใจจากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “คุณจะต้องใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อยครึ่งเดือนเพื่อให้แขนของคุณหายดี คุณจะต้องสัญญากับฉันว่า คุณจะไม่ไปทะเลาะกับใครในช่วงครึ่งเดือนนี้ เข้าใจไหม?”

แววตาของอีเวตต์เต็มไปด้วยความกังวล เธอดูราวกับภรรยาที่คอยเตือนสติสามี

“ตกลง ที่รัก!” แดร์ริลพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ผมสัญญาว่าผมจะไม่ไปทะเลาะกับใคร ถ้าแขนของผมยังไม่หายดี!”

อีเว็ตต์หน้าแดงระเรื่อ “คุณกล้าพูดจาแบบนั้นอีกแล้วนะ!”

ถึงแม้ว่าอีเวตต์จะพูดเช่นนั้น แต่ภายในใจของเธอกลับรู้สึกมีความสุขมาก

ไม่นาน บรรยากาศภายในห้องก็เงียบสงบลง

แกร่ก!

ในเวลานั้น ประตูห้องพักถูกเปิดออก จากนั้น ซีซาร์ก็โผล่หน้าเข้ามาอย่างระมัดระวังและพูดขึ้นว่า “เจ้าหญิง เราควรจะกลับวังได้แล้ว!”

จากนั้น เขาก็เหลือบมองแดร์ริลด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา

‘แดร์ริลช่างโชคดีจริง ๆ ที่เจ้าหญิงเป็นห่วงเป็นใยเขาเช่นนี้’ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหญิงอีเวตต์ เขาก็คงจับตัวแดร์ริลได้แล้ว

“เข้าใจแล้ว!”

รอยยิ้มของบนใบหน้าของอีเวตต์จางลงขณะที่เธอกล่าวเช่นนั้น

จากนั้นอีเวตต์ก็หันมองแดร์ริลด้วยดวงตาที่ฉายแววความไม่เต็มใจ “แดร์ริล ฉันต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วยนะ!”

ถึงแม้ว่าอีเวตต์จะไม่เต็มใจจากแดร์ริลไปเร็วเช่นนี้ แต่เธอรู้ดีว่า ถ้าหากเธอยังคงยื้อเวลาต่อไป ทหารของกองทัพหลวงคนอื่น ๆ จะต้องมาพบเธอที่นี่อย่างแน่นอน และนั่นก็จะเป็นอันตรายต่อแดร์ริล

แดร์ริลสูดหายใจเข้าเต็มปอดและฝืนยิ้มให้เธอ ทว่าภายในหัวใจของเขากลับรู้สึกเจ็บปวด

อีเวตต์จ้องมองแดร์ริลอย่างโหยหา เธอก้าวไปข้างหน้าได้เพียงสองเก้าแต่แล้วเธอก็ต้องหันกลับมาและจูบลงบนแก้มของเขา

น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มของเธอทันทีที่พูดเช่นนั้น! เธอรีบหันหลังกลับและเดินจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก

หลังจากที่อีเวตต์ออกจากโรงเตี๊ยมไปกับซีซาร์แล้ว เธอก็ยังคงหันมองย้อนกลับมาทุก ๆ ฝีก้าว

แดร์ริลรู้สึกโศกเศร้าจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก

เมื่อเขาได้เห็นร่างของอีเวตต์ค่อย ๆ เลือนหายไปเขาก็กลับมามีสติอีกครั้ง

ซีซาร์รักษาคำพูด!

หลังจากที่อีเวตต์ตามเขากลับไปยังพระราชวังแล้ว ซีซาร์ก็ได้สั่งให้ทหารของเขาส่งแดร์ริลออกไปจากเมืองหลวงของทวีปโลกใหม่

เมื่อแดร์ริลออกมาจากเมืองหลวงแล้วเขาก็หันกลับมามองอย่างขมขื่น ภาพของอีเวตต์ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาราวกับหนังที่ฉายซ้ำ