บทที่ 2845 ขับไล่
ฟั่นเชียนซื่อใจเต้นแวบหนึ่ง “อาจารย์ ศิษย์กราบท่านแล้วไง ศิษย์ไม่เคยไม่อยากกราบท่านเป็นอาจารย์เลย ความจริงแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่ศิษย์ได้รู้จักท่านก็…ก็อยากจะอยู่เคียงข้างท่านแล้ว…”
คล้ายว่าเขาจะนึกถึงอดีตเมื่อนานนมมาแล้ว ถอนหายใจเบาๆ แล้วเอ่ยต่อว่า “ยามนั้นศิษย์ยังเล็ก อันที่จริงแล้วมีความเชื่ออันน่าประหลาดอย่างหนึ่งต่ออาจารย์แล้ว เพียงแต่…เพียงแต่เคยชินกับการจองหอง ชินกับการถูกผู้อื่นอ้อนวอนขอเป็นอาจารย์ข้า แต่ตอนนั้นอาจารย์กลับต่างออกไป…ความจริงแล้วตอนที่ศิษย์ยังไม่ทราบฐานะของอาจารย์ ก็อยากให้อาจารย์เป็นฝ่ายเสนอตัวรับข้าเป็นศิษย์ เหมือนที่คนอื่นขอร้องข้า…”
เขาเอ่ยความในใจเมื่อปีนั้นออกมา อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ
“ข้า…ไม่ดีตรงไหนกันแน่? เจ้า…เจ้ารู้ไหมว่าใต้หล้านี้มีคนมากน้อยเพียงใดที่อยากจะกราบช้าเป็นอาจารย์? ข้าล้วนไม่เคยตอบรับ…”
“ศิษย์ทราบดี อาจารย์” น้ำเสียงฟั่นเชียนซื่ออบอุ่น
เขาไม่คิดเลยว่าการที่เขาไม่ยินยอมกราบอาจารย์ในตอนนั้นจะกลายเป็นเงามืดที่ใหญ่หลวงต่ออาจารย์เช่นนี้ ในใจทั้งยินดีทั้งขบขัน
เขารู้ดีว่าสิ่งที่กู้ซีจิ่วพูดมาเป็นความจริง หลายปีมานี้ผู้นำของหกภพภูมิต่างส่งผู้เยาว์ที่เฉียบแหลมส่วนหนึ่งมา อยากให้พระองค์เจ้ารับเป็นศิษย์อีก แต่เงื่อนไขการรับศิษย์ของนางเข้มงวด ผู้เยาว์เหล่านั้นล้วนไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขของนาง บางส่วนก็ถูกส่งตัวกลับภูมิลำเนา บางส่วนก็พยายามสุดชีวิตเพื่อรั้งอยู่ต่อ แม้ว่าจะต้องเป็นบ่าวไพร่สาวใช้ก็ตาม…
เนื่องจากหุบเขาเสียงสวรรค์ก็ขาดแคลนแรงงานจริงๆ ดังนั้นจึงทยอยคัดตัวเด็กเอาไว้สิบกว่าคน บางครั้งพระองค์เจ้าชี้แนะให้สองสามกระบวนท่า ก็ทำให้พวกเขาได้ประโยชน์มหาศาลแล้ว
ฟั่นเชียนซื่อหลุบตามองกู้ซีจิ่ว ในใจทั้งอบอุ่นทั้งภาคภูมิ
หลายปีมานี้อาจารย์รับเขาไว้เพียงคนเดียว เขาคือศิษย์เพียงคนเดียวของนาง และเขาก็หวังว่าจะได้เป็นหนึ่งเดียวของนางตลอดไป…
“ตี้ฝูอี...” กู้ซีจิ่วละเมอนามหนึ่งออกมา
ฟั่นเชียนซื่อพลันแข็งทื่อ กำมือเล็กน้อยในทันใด!
“ตี้ฝูอี เทียนโม่เวิ่น...เจี่ยอี...นามไหนคือชื่อจริงของเจ้ากัน?”
ฟั่นเชียนซื่อนิ่งค้าง
“เป็นศิษย์ของเปิ่นจุน…ทำให้เจ้ารู้สึกขายหน้าขนาดนั้นเลยจริงๆ หรือ? เจ้าดูสิ ยี่สิบปีมานี้ข้าไม่เคย…ไม่เคยเอ่ยเลยว่าเจ้าคือศิษย์ของข้า…ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เหตุใดต้องบังคับให้ข้าเพิกถอน…เพิกถอนสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ด้วยเล่า?” คล้ายว่ากู้ซีจิ่วจะฝันร้ายอยู่
ฟั่นเชียนซื่อปานถูกอสุนิบาตฟาดใส่ศีรษะ!
“อาจารย์ ท่านพูดอะไร? ตี้ฝูอี...ก็เป็นศิษย์ของท่านแล้วหรือ?” เสียงเขาสั่นนิดๆ กลั้นหายใจรอคอยคำตอบจากนาง
เขาใช้วิชามายาที่ทำให้คนที่อยู่ในห้วงความฝันพูดความจริงออกมากับกู้ซีจิ่วอย่างควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่
หากว่าเป็นยามปกติ เขาไม่กล้าใช้เด็ดขาด ถึงอย่างไรวรยุทธ์ของกู้ซีจิ่วก็สูงล้ำกว่าเขามากเกินไป เขาไม่มีทางสะกดนางได้ หากว่าถูกนางจับได้ เกรงว่าเขาคงถูกทุบตีจนน่วมแน่!
แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้ว!
“เขาไม่ยอมรับข้า…” กู้ซีจิ่วพึมพำ
ฟั่นเชียนซื่อกำมือแน่น ใบหน้าหล่อเหลาเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด สลับแปรปรวน “เหตุใดเขาถึงไม่ยอมรับท่าน? ในเมื่อเขาไม่ยอมรับ แล้วเหตุใดยังกราบท่านอีก?”
“เรื่องล้อเล่นอย่างหนึ่ง การเดิมพันตาหนึ่ง จับพลัดจับผลู…”
ฟั่นเชียนซื่อสูดหายใจลึกๆ “อาจารย์ ท่านจะรับศิษย์เช่นใดก็ได้มิใช่หรือ? เหตุใดต้องไปบังคับฝืนใจคนผู้นั้นด้วย? ในเมื่อเขาไม่ยอมรับ ท่านก็เตะส่งเขาออกจากสังกัดไปเถอะ!”
“ไม่…ไม่ได้ เขาได้รับการยอมรับจากสวรรค์แล้ว ไม่อาจขับไล่ได้ มิเช่นนั้น…มิเช่นนั้นทั้งข้าและเขาจะต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์กันทั้งคู่…”
ฟั่นเชียนซื่องงงัน
เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?! เขาไม่เข้าใจเลย!
“อาจารย์จะรับศิษย์ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากสวรรค์ด้วยหรือ? อาจารย์ แล้วข้าได้รับการยอมรับจากสวรรค์ด้วยหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้านิดๆ “ไม่มี…”
ฟั่นเชียนซื่อปานโดนชกเข้าหมัดหนึ่ง “อาจารย์ ข้าคือศิษย์อย่างเป็นทางการของท่านนะ ทำไมถึงไม่ได้รับการยอมรับจากสวรรค์ล่ะ?” เขาไม่เข้าใจและคิดไม่ตกด้วย!
————————————————————————————-
บทที่ 2846 ขับไล่ 2
“ไม่ใช่…ไม่ใช่ศิษย์ทุกคนที่จะได้รับความเห็นชอบจากสวรรค์…อันที่จริงอาจารย์ก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ทำไมถึงมีแค่เขาคนเดียวที่ได้รับเสียงอัสนีสวรรค์เป็นการยอมรับเล่า?”
ฟั่นเชียนซื่อพูดอะไรไม่ออกแล้ว ยืนทึ่มทื่ออยู่ตรงนั้นปานไก่ไม้
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน สายลมหอบหนึ่งโชยมา พัดบานหน้าต่างที่งับไว้ให้เปิดออก สายลมพัดผ้าม่านให้ปลิวไสว และปลุกฟั่นเชียนซื่อให้ได้สติกลับมา
เขาขยับเล็กน้อย หลุบตามองลงไปบนเตียง
กู้ซีจิ่วหลับสนิทแล้ว เผยให้เห็นดวงหน้าน้อยเนียนนุ่ม พวงแก้มระเรื่อปานดอกท้อ แพขนตาดุจพัดไหวกระพือนิดๆ
จิตใจของเขาพลันสั่นไหว เอ่ยพึมพำประโยคหนึ่ง “อาจารย์…”
ในเวลานี้เอง หัวใจเขาดั่งเพลิงโหม แววตาลึกล้ำปานมหาสมุทร ค่อยๆ โน้มร่างลงไปหากู้ซีจิ่ว
ใกล้เข้าไป ใกล้เข้าไปอีก
เมื่อเห็นว่าริมฝีปากของเขากำลังจะสัมผัสกับริมฝากอิ่มที่หมายปองมาเนิ่นนาน นางกลับลืมตาขึ้นมาในทันใด!
ดวงตาสองคู่ประสานกัน แววตานางเต็มไปด้วยความเยียบเย็น
ฟั่นเชียนซื่อหน้าซีดเผือดทันที…
….
กู้ซีจิ่วระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมาแล้ว!
-ซัดฟั่นเชียนซื่อจนแทบจะลอยไปติดผนังแล้ว
“ฟั่นเชียนซื่อ เจ้าช่างใจกล้านัก ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าใช้วิชามายากับอาจารย์!” ถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วก็เป็นเทพผู้สร้างโลก แม้ว่ายามนั้นจะเมามายโดนสะกด แต่ทันทีที่สร่างเมา เธอก็กระจ่างแจ้งยิ่งนัก
เธอไม่นึกเลยว่าฟั่นเชียนซื่อจะใจกล้าเหิมเกริมมาจนถึงขั้นนี้ได้ ใช้วิชามายากับเธอ!
มารดามันเถอะ แถมวิชามายานี้ยังเป็นตัวเธอที่สอนให้เขาเองด้วย!
“ตัวสารเลว อายุยังน้อยกลับไม่รักดี!” ไม่น่าเชื่อว่าจะฉวยโอกาสตอนเธอเมาคิดจะแอบจูบเธอ…
เธอหลงนึกว่าเขาไม่มีความคิดอะไรกับเธอแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเขาแค่เก็บซ่อนเอาไว้อย่างล้ำลึกเท่านั้น จนถึงยามนี้ถึงได้เผยออกมา…
ความโกรธเกรี้ยวของกู้ซีจิ่วซัดโหมขึ้นมา
พลันโบกแขนเสื้อ ซัดเขาให้กระเด็นออกไปอีกครั้ง กระแทกเข้ากับผนัง!
เกิดเสียงโครม ผนังโหว่เป็นรูใหญ่ ฟั่นเชียนซื่อกลิ้งออกไปข้างนอกด้วยสภาพมอมแมมเลอะฝุ่น
เขาไม่กล้าใช้เวทวิชาต้านรับ ระบวนท่านี้จึงเป็นการเล่นงานเขาอย่างแท้จริง ย่อมได้รับบาดเจ็บไม่เบาเลย หลังจากกลิ้งออกไปนอกห้องก็กระอักเลือดออกมา เขาก็ทราบความผิดแล้วเช่นกัน ฟุบอยู่บนพื้นไม่กล้าลุกขึ้น เอ่ยเพียงประโยคหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “อาจารย์ ศิษย์ทราบความผิดแล้ว! อาจารย์โปรดลงโทษสถานหนักเถิด!”
บ่าวไพร่สาวรับใช้คนอื่นๆ ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเลยวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ผู้ใดก็ไม่กระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ค่อนข้างมึนงงไปชั่วขณะ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นพระองค์เจ้าระเบิดความโกรธเกรี้ยวมหาศาลปานนี้ออกมา!
ตกใจจนพากันคุกเข่าลงบนพื้น อ้อนวอนให้เธอระงับโทสะ
กู้ซีจิ่วไม่อาจระงับโทสะได้แล้ว!
ที่มากไปกว่านั้นคือเธอผิดหวัง…
หลายปีมานี้เธอตั้งความหวังไว้กับฟั่นเชียนซื่อสูงยิ่ง นึกว่าเขานอกจากเขาจะมีใจทะเยอทะยานไปบ้าง ก็ไม่มีข้อบกพร่องอื่นใดแล้ว ซ้ำยังเฉลียวฉลาด ปราดเปรื่องมากพอ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสืบทอดตำแหน่งเทพผู้สร้างโลก
อย่างไรเสียเทพผู้สร้างโลกจะมีจิตใจทะเยอทะยานไปสักหน่อยก็ใช่ว่าจะเลวร้ายไปหมด ขอเพียงมีจิตใจดีสักหน่อย ไม่หลงเดินทางผิดก็ไม่เลวยิ่งแล้ว
เธอเหลือเวลาไม่มากแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะหาผู้สืบทอดเช่นนี้ได้สักคน ย่อมทุ่มเทกายใจสั่งสอนอบรม กลับคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะฉวยโอกาสตอนเธอเมามายใช้วิชามายาสะกดเธอ…
เห็นทีว่า ถ้าเธอไม่ลงโทษสถานหนัก เขาคงไม่รู้จักกาละเทศะเลย!
“ฟั่นเชียนซื่อ นับจากวันนี้ไป เจ้ามิใช่ศิษย์ของเปิ่นจุนอีกต่อไป เจ้าไปเสียเถอะ!” กู้ซีจิ่วยื่นคำขาดแล้ว
ฟั่นเชียนซื่อสะท้านไปทั้งร่าง หน้าเหลืองปานธุลี
“อาจารย์ ท่านลงโทษข้าเถอะ จะสังหารข้าเลยก็ได้ ต่อให้เป็นการแทงข้าก็ตาม ขอเพียงท่านอย่าได้ขับข้าออกจากสังกัดเลย ศิษย์ทราบความผิดแล้ว…” ฟั่นเชียนซื่อคุกเข่าอยู่บนพื้น โขกศีรษะอย่างตื่นตระหนก อยากจะเข้าไปกอดสองขาของกู้ซีจิ่วเอาไว้ แต่ก็ไม่กล้า
กู้ซีจิ่วไม่เอ่ยวาจา เพียงสะบัดแขนเสื้อตวัดแล้วโยนออกไป
ฟั่นเชียนซื่อตาลายไปชั่วขณะ รอจนเขาได้สติอีกครั้ง ตัวคนก็ถูกโยนออกมาอยู่บนทุ่งหญ้านอกหุบเขาเสียงสวรรค์แล้ว
————————————————————————————-