ตอนที่ 1199

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“พี่รองได้รับการสืบทอดจากตัวตนระดับวารีนิรันดร์?” มู่หลงชิงตื่นเต้น “ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ ด้วยพรสวรรค์ของพี่รองเขาจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน”

เฟิงโปหยุนพยักหน้า เขายอมรับเช่นกันว่าพรสวรรค์ของจักรพรรดิพิรุณอาจจะไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิงฮัน

“เจ้าหนูนั่นวาสนาดีเสียจริง” เฮ่อเหลียนเทียนหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงความอิจฉาเล็กน้อย

หลิงฮันคิดเช่นนี้ก็เพื่อทำให้ตัวเองรู้สบายใจและมีความหวังว่าจะไม่เสียพี่รองไปตลอดกาล

คนอื่นๆเริ่มออกไปจากเขตแดนลี้ลับ มีเพียงพวกหลิงฮันที่ยังคงไม่เคลื่อนไหว

จะให้พูดก็คือพวกเขาไม่แน่ใจว่าจักพรรดิพิรุณจะได้รับสืบทอดจริงๆหรือไม่จึงต้องการรอคอยบต่อไปก่อน

สุดท้ายก็เหลือเพียงกลุ่มของพวกเขาที่ยังไม่ได้ออกไป

“รีบๆออกมาได้แล้ว!” ปรมาจารย์สามวิถีกล่าว คนกลุ่มนี้มัวแต่ละลึกถึงพวกพ้องอยู่นานสองนาน พวกเขาไม่รู้รึไงว่าเขาต้องลำบากขนาดไหนในที่คงสภาพทางออกเขตแดนเอาไว้?

หลิงฮันพยักหน้าและออกจากเขตแดนลี้ลับพร้อมกันทุกคน

‘ครืนนน’ ทางเข้าเขตแดนถูกปิดลงทันที

ปรมาจารย์สามวิถีกล่าว “ทีนี้ก็แยกย้ายกันได้แล้ว”

เมื่อปรมาจารย์กล่าวเช่นนั้นทุกคนก็รีบออกจากหุบเขาอย่างรวดเร็ว ปรมาจารย์สามวิถีเองก็ลอยจากไปบนท้องฟ้าอย่างไม่สนใจใคร

“เหอเต๋า เฉินจู๋เอ๋อ หลิงฮัน…” จอมยุทธระดับดาราตะโกนเรียกชื่อของราชารุ่นเยาว์ทั้งเจ็ดคน “รีบกลับนิกายแล้วรายงานเหตุการณ์ของห้องสมบัติ”

หลิงฮันและคนอื่นๆน้อมรับคำสั่ง แต่มีเพียงอู๋เจ๋อที่จะได้อยู่ในเขตแดนลี้ลับตลอดการไม่อาจกลับออกมาได้

พวกเขาเข้าใจถึงความประสงค์ของนิกายที่ต้องการรู้ถึงมรดกสืบทอดที่พวกเขาได้รับ ทั้งเจ็ดคนสามารถเปิดห้องสมบัติของเขตแดนลี้ลับได้ซึ่งความลับในนั้นเป็นสิ่งที่นิกายอยากรู้มาเป็นเวลานาน เพราะงั้นเมื่อทั้งเจ็ดออกมาจากเขตแดนลี้ลับแล้ว เป็นธรรมดาที่ทางนิกายจะเรียกพวกเขามาสอบถามว่าได้อะไรติดมือมาบ้าง

ถ้าพวกเขาได้รับทักษะที่ล้ำค่ามาก ทางนิกายจะทำการคัดลอกเอาไว้

ทุกคนเดินทางกลับที่ของตนเอง ศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็งเองก็กลับนิกาย

พวกหลิงฮันเลือกที่จะยังไม่กลับเพื่อรอคอยจักรพรรดิพิรุณ

สิบวันผ่านไปจักรพรรดิพิรุณก็ยังไม่ปรากฏตัว

“ไปกันเถอะ ถ้าน้องรองได้รับสืบทอดจริงๆ เขาคงต้องฝึกฝนให้เสร็จสิ้นก่อนถึงจะกลับออกมาหาพวกเขา” เฟิงโปหยุนกล่าว

หลิงฮันครุ่นคิดและพยักหน้า ต่อให้อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่ได้อะไร ยิ่งกว่านั้นเขาก็ได้รับคำสั่งให้รีบกลับนิกายให้เร็วที่สุด ในกรณีของปรมาจารย์สามวิถีหากเขาปล่อยให้ตัวตนเช่นนั้นรอคอยเป็นเวลานาน แม้แต่จักรพรรดินีแห่งดาราก็คงช่วยเหลือเขาไม่ได้

พวกเขากลับนิกายสวรรค์เยือกแข็งด้วยอุปกรณ์บินแหวกเมฆา ด้วยความเร็วของอุปกรณ์บินแม้พวกเขาจะเสียเวลาไปสิบวันแต่ก็กลับมาช้ากว่าคนอื่นๆเพียงสองวันเท่านั้น

หลิงฮันมุ่งหน้าไปยังภูเขาหลักเป็นอันดับแรก เมื่อรายงานชื่อของเขากับผู้อาวุโสระดับสุริยันจันทรา เขาก็ไม่เห็นพวกเหอเต๋าและคนอื่นๆเลย เขาคิดว่าคนอื่นๆคงจะมารายงานตัวนานแล้ว หรือไม่ก็ยังไม่กลับมายังนิกาย

“เจ้าได้รับทักษะอะไรมาจากห้องสมบัติ?” ผู้อาวุโสระดับสุริยันจัทราถามแบบไม่อ้อมค้อม

เป็นไปได้ว่าพวกเฉินจู๋เอ๋อได้กลับมาและเล่าความจริงไปทั้งหมดแล้ว นี่พวกเขาทุกคนรายงานถึงทักษะที่พวกเขาได้รับไปด้วย?

หลิงฮันลังเล นี่เขาต้องมอบทักษะก้าวย่างไล่ตามดาราจริงๆ?

ในไม่กี่วันที่เดินทางกลับนิกาย เขาพยายามศึกษาทักษะที่ว่าแล้ว แต่หลังจากพยายามทำความเข้าใจใต้ต้นสังสารวัฏเป็นเวลาสิบวัน หลิงฮันก็ยังไม่สามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้ หากจะเชี่ยวชาญคงอีกยาวไกล

ทักษะนี้ลำค่ามาก เขาต้องมอบมันไปเปล่าๆจริงๆรึ?

“เหอๆ ไม่ต้องกังวล นิกายไม่ขอทักษะของเจ้าเฉยๆ พวกเราจะมอบสิ่งชดเชยให้กับเจ้า” ผู้อาวุโสระดับสุริยันจันทรากล่าว

หลิงฮันครุ่นคิด

ไม่ว่าจะเป็นทักษะกายาเก้ามังกรทรราชหรือศรฆ่ามังกรทะลวงดาราต่างก็เป็นทักษะที่ล้ำค่าไม่แพ้ทักษะก้าวย่างไล่ตามดารา บางทีอาจจะล้ำค่ากว่าด้วยซ้ำ

ดังนั้นหลังครุ่นคิดเสร็จเขาจึงกล่าวออกไป “ข้าได้ทักษะที่เรียกว่าก้าวย่างไล่ตามดารา”

“อืม… คัดลอกทักษะออกมาแล้วเจ้าสามารถรับรางวัลที่มีมูลค่าๆเท่ากันได้” อีกฝ่ายกล่าว

หลิงฮันพยักหน้าและเริ่มคัดลอกทักษะ

.

แต่หลังจากที่คัดลอกไปซักพักเขาก็รู้สึกตะลึง มีบางส่วนที่ผู้ได้รับทักษะโดยตรงเท่านั้นถึงจะสามารถทำความเข้าใจได้และไม่สามารถเขียนออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร หากข้ามส่วนนี้ไปอำนาจของทักษะจะลดลงอย่างมาก

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง เอาเถอะ อย่างไรเขาก็ไม่ได้ต้องการรางวัลใดๆจากนิกายอยู่แล้ว

เขาลงมือเขียนต่อจนคัดลอกทักษะเสร็จสิ้น

“เสร็จเรียบร้อยแล้ว?” ผู้อาวุโสระดับสุริยันจันทรานำแผ่นคัดลอกมา เขาไม่มองดูและทำการผนึกเอาไว้ ถ้าใครแอบมาอ่านทักษะนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกพบตัวได้อย่างง่ายดาย

“เจ้าไปได้แล้ว หลังจากตรวจสอบทักษะนี้เสร็จ นิกายจะมอบรางวัลให้เจ้า”

หลิงฮันพยักหน้า หลังจากแสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายเขาก็ขอตัว

ตอนนี้เขายุ่งมาก

เขามีทั้งเม็ดยาที่ต้องหลอมฝึกฝนและต้องขัดเกลาระดับพลังให้ถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุดซึ่งอยู่ไม่ไกลเอื้อมแล้ว อีกทั้งหากจะทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราก็ต้องทำความเข้าใจอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาอีกนาน

เขารู้สึกว่าเวลาไม่เพียงพอเลยจริงๆ

หลังจากขอตัวกลับ หลิงฮันก็พยายามทำความเข้าใจศึกษาเม็ดยาอย่างหนักและแบ่งเวลาฝึกฝนทักษะก้าวย่างไล่ตามดารา เวลาผ่านไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว

ในขณะเดียวกันบางสิ่งที่น่าปวดหัวก็กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ

ก่าวฮวงร้องเรียนไปยังนิกายว่าหลิงฮันสังหารศิษย์นิกายเดียวกันเพื่อแย่งชิงหยดเซียนหยวนซึ่งเป็นของกองกำลังก่าว

ที่จริงเรื่องการร้องเรียนจะรู้กันเพียงตัวตนระดับสูงของนิกาย สมควรมรคนไม่กี่คนที่รู้เรื่อง แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆข่าวกลับแพร่กระจายไปทั่วนิกายสวรรค์เยือกแข็งอย่างรวดเร็ว ศิษย์ทุกคนต่างรับรู้ในเรื่องนี้

สังหารศิษย์ร่วมนิกาย… เรื่องนี้เป็นความผิดที่ร้ายแรงและถือเป็นการคุกคามศิษย์ทุกคน

เพียงแต่ว่าที่ภูเขาทรงเหยี่ยวมีศิษย์มากมายอยู่ที่นั่นและรู้เห็นความจริง หลิงฮันเป็นคนแย่งชิงหยดเซียนหยวนมาได้ด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องที่ว่าคนของกองกำลังก่าวตายถูกสังหารโดยหลิงฮันนั้นไม่มีใครรู้เลย เนื่องจากไม่มีใครเห็นการปะทะกันที่เกิดขึ้นหลังจากการแย่งชิงหยดเซียนหยวนสิ้นสุด

ตอนนี้ข่าวลือที่หลิงฮันสังหารศิษย์ร่วมนิกายถูกแพร่กระจายไปทั่ว ยิ่งข่าวลือถูกพูดต่อกันนานเท่าไหร่ เรื่องโกหกก็จะกลายเป็นความจริงทันที

สังหารศิษย์พี่ศิษย์น้องนิกายเดียวกันเพื่อแย่งชิงสมบัติ… การกระทำเช่นนี้ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก ตอนนี้ผู้คนมากมายต่างแสดงท่าทีเหยียดหยามต่อหลิงฮัน

คนเช่นนี้ยังถูกยอมรับให้อยู่ในนิกายต่อไปด้วยงั้นรึ?

เสยงส่วนใหญ่ต่างเบี่ยงเบนไปในทางที่ว่าหลิงฮันสมควรถูกลงโทษสถานหนัก ไม่เช่นนั้นความโกรธของพวกเขาคงไม่สงบลง