ตอนที่ 2,038 : หนึ่งกระบี่!
“เจ้ายังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง…”
วาจาเอ่ยทักคำแรกของต้วนหลิงเทียน ดั่งสหายที่จากไปนานปีได้พบหน้ากันอีกครั้ง
เหตุผลที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวทักเช่นนี้เพราะ ‘ก่านหรูเยี่ยน’ ยังคงมีท่าทางเหมือน ‘ชือเม่ย’ ในกาลก่อน นางแลดูหยิ่งยะโสและยากเข้าถึง
“เจ้าเป็นใคร? รู้จักข้าด้วย?”
ได้ยินคำทักของต้วนหลิงเทียน ก่านหรูเยี่ยนขมวดคิ้วเป็นปม นางมองต้วนหลิงเทียนตั้งแต่หัวจรดเท้าและก็บอกได้ทันทีว่านางไม่เคยเห็นหน้าบุรุษผู้นี้มาก่อน
“นานแล้วไม่ได้พบกัน…ชือเม่ย”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอีกครั้ง และคราวนี้ก็เอ่ยถึงนาม ‘ชือเม่ย’ ที่ก่านหรูเยี่ยนเคยใช้ตอนที่อยู่ภูมิภาคเบื้องล่าง เป็นนามแฝงในฐานะนักฆ่าของนางครั้งอยู่ในตลาดมืดหยินชาน
ชือเม่ย!
ทันทีที่ได้ยินคำนี้ของต้วนหลิงเทียน ลูกตาก่านหรูเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะเบิกโพลงด้วยความตกใจ ใบหน้าฉายชัดถึงความงุนงง
ขณะเดียวกันก่านหรูเยี่ยนก็เริ่มนึกย้อนทวนความทรงจำครั้งที่นางอยู่ในภูมิภาคเบื้องล่างยกใหญ่
ลองนึกย้อนดูว่ามีผู้ใดที่รู้จักตัวตนของนางบ้าง…
ทว่าหลังจากทบทวนอยู่นาน ผู้ที่ล่วงรู้ว่า ชือเม่ย คือก่านหรูเยี่ยน ก็ดูเหมือนจะมีเพียงผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายนางรวมถึงน้องสาวฝาแฝดและคนที่อยู่รอบกายนางครั้งอยู่ที่ภูมิภาคเบื้องล่างเท่านั้น
แต่แน่นอนว่าผู้คนในภูมิภาคเบื้องล่างทุกคน ล้วนไม่มีใครทราบว่า ชือเม่ย ก็คือก่านหรูเยี่ยน
สำหรับผู้คนในภูมิภาคเบื้องบน ยิ่งไม่มีผู้ใดในลัทธิบูชาไฟล่วงรู้เรื่องนี้เลย!
กระทั่งอาจารย์ของนางผู้พิทักษ์ชิงหั่ว ก็ไม่เคยรับทราบว่าตอนที่อยู่ภูมิภาคเบื้องล่างนางใช้นามแฝงว่า ชือเม่ย
“เจ้าที่แท้เป็นใครกันแน่!?”
ก่านหรูเยี่ยนเมื่อนึกไม่ออกว่าเป็นใครที่ล่วงรู้ฐานะของนางกันแน่ สองตาจึงหดหยีเผยประกายเยียบเย็น มองถามต้วนหลิงเทียนเบื้องหน้าด้วยทีท่าระวัง ราวกับแลเห็นศัตรู
“ข้าเป็นใคร?”
ได้ยินคำถามของก่านหรูเยี่ยนสีหน้าเฉยเมยของต้วนหลิงเทียนพลันคลี่ยิ้มเย้ยเยาะออกมาทันที “ข้าเป็นคนที่ต้องสูญเสียภรรยาและลูกสาวไปเพราะเจ้าอย่างไรเล่า…ก่านหรูเยี่ยน! อะไรกัน นี่พึ่งจะผ่านมาไม่กี่ปีเท่านั้น แต่เจ้ากลับจำข้าไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?”
“นี่เจ้าใช่จำคนผิดหรือไม่?”
ก่านหรูเยี่ยนผงะไปทันทีเมื่อได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน คิ้วย่นยู่ถามออกเสียงห้วน
“จำคนผิดหรือไม่? เจ้าก่านหรูเยี่ยนยังกล้าถามคำนี้หรือ?”
สีหน้าต้วนหลิงเทียนยิ่งมายิ่งเผยความเย้ยหยัน
และในขณะที่สีหน้าต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ใบหน้าของเขาที่ก่านหรูเยี่ยนมิอาจพบร่องรอยการแปลงโฉมได้แม้แต่น้อยก็เริ่มแปรเปลี่ยนไป
หลังจากนั้นใบหน้าที่หล่อเหลา ก็ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาน่าดูกว่าเดิม
ใบหน้านี้คิ้วคมดั่งดาบ จมูกโด่งสัน ริมฝีปากเข้ารูปสมบูรณ์
เรียกว่าใบหน้านี้เกลี้ยงเกลาดั่งหยกเสลา ยังหล่อเหลาให้ความรู้สึกน่าชมมอง!
เรียกว่าหล่อและมีเสน่ห์นัก!
“ที่แท้…เป็นเจ้า!”
หากหน้าตาของชายหนุ่มก่อนหน้าไม่เคยอยู่ในหัวก่านหรูเยี่ยน หน้าตาของชายหนุ่มเบื้องหน้าตอนนี้ก็คือใบหน้าที่ก่านหรูเยี่ยนไม่มีวันลืมเลือน!
นั่นเพราะบุรุษผู้นี้คือบุรุษที่นางเกลียดมากที่สุด!
หากไม่ใช่เพราะชายคนนี้ น้องสาวของนางไหนเลยจะละเมิดกฏลัทธิบูชาไฟ และต้องตกอยู่ในสถานการณ์ 9 ตาย 1 รอดแบบนี้!
วันแรกที่น้องสาวของนางถูกคนของหอคุมกฏลัทธิบูชาไฟจับไปขังเอาไว้ ก่านหรูเยี่ยนก็คับแค้นใจนัก ยังเสียใจไม่น้อยที่ไม่อาจฆ่าบุรุษตัวต้นเหตุให้ตกตายคามือ!
มาตอนนี้เมื่อได้เห็นชายผู้นี้อีกครั้ง สีหน้าของนางจึงแทบไม่ต่างอะไรจากพบพานภูตผีกลางวันแสกๆ
ไฉนมันถึงมาอยู่นี่ได้?
แล้วมันเข้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร?
ที่นี่ยังใช่ ‘เรือนจำ’ ที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาของหอคุมกฏลัทธิบูชาไฟของนางอยู่หรือไม่?
จังหวะนี้ในใจของก่านหรูเยี่ยนเต็มไปด้วยคำถาม
“ทำไม? ตอนนี้จำข้าได้แล้ว?”
เมื่อเห็นความประหลาดใจที่ฉายชัดบนใบหน้าก่านหรูเยี่ยนหลังเขาเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา
“เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
ด้านก่านหรูเยี่ยนพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด ค่อยมองถามต้วนหลิงเทียนออกไปด้วยความสงสัยเสียงหนัก
“ข้ามีวิธีของข้า”
เสียงหัวเราะของต้วนหลิงเทียนค่อยๆสงบลง จากนั้นค่อยกล่าวออกเสียงเบา
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าแทบรอฆ่าเจ้าไม่ไหวแล้ว…เจ้าดั้นด้นมาที่นี่ไม่คิดหรือว่าเป็นการรนหาที่ตาย?”
ก่านหรูเยี่ยนกล่าวถามเสียงเข้ม
“โฮ่ เจ้าคิดฆ่าข้างั้นเหรอ?”
ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ต้วนหลิงเทียนก็ชักสีหน้าสนุกสนานคล้ายวาจาของนางเป็นเรื่องขำขันแห่งยุค ก่อนที่สายตาจะแปรเปลี่ยนเย็นชากล่าวถามออกมาเสียงเรียบ
“ก่านหรูเยี่ยน เป็นข้าที่สมควรกล่าวคำนี้กับเจ้า! อย่าได้บอกข้าว่าถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังคิดว่าการนำเค่อเอ๋อกับลูกของนางมาที่นี่ยังเป็นเรื่องที่ถูกต้อง?”
“หากเจ้าไม่พาเค่อเอ๋อกับลูกสาวของข้ามาที่นี่ พวกนางจะตกระกำลำบากถูกจับขังไม่รู้จะตายวันไหนได้อย่างไร!?”
“เจ้าสมควรรู้สึกว่าตัวเองโชคดีแล้วที่เจ้าไม่ได้เป็นคนส่งเค่อเอ๋อให้หอคุมกฏ…ไม่งั้นเจ้าได้ตายแน่!”
วาจาประโยคต่อมาของต้วนหลิงเทียน น้ำเสียงยิ่งมาก็ยิ่งเย็นลง พาลให้ผู้คนรู้สึกเสมือนตกหล่มน้ำแข็ง
“ข้าน่ะหรือตาย?”
ก่านหรูเยี่ยนอึ้งกับคำพูดของต้วนหลิงเทียนไม่น้อย ยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “อาศัยเจ้า?”
นาง ก่านหรูเยี่ยน จะอย่างไรก็คือ อันดับที่ 7 ในทำเนียบยอดฝีมือของศิษย์ที่แท้จริงแห่งลัทธิบูชาไฟ!
ยังเป็นรุ่นเยาว์ที่สามารถติดอันดับทำเนียบสุดยอดฝีมือของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอย่างรายนามยอดเซียนได้!
ต้องทราบด้วยว่าในรายนามยอดเซียนนั้น มีการจัดอันดับทั้งสิ้น 1,000 อันดับเท่านั้น มันคือรายนามของผู้ที่เป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ของดินแดนเทพยุทธืเซียนเต๋า
ทว่าวันนี้ชายหนุ่มที่ไม่ต่างอะไรจากมดปลวกในวันวาน กลับกล่าววาจาผยองคำโตบอกว่าจะฆ่านาง?
อาศัยเวลาเพียงไม่กี่ปี มดตัวหนึ่งจะพลิกฟ้าได้หรือ?
“อ่า! อาศัยข้านี่ล่ะ!”
เจอสีหน้าดูแคลนหยามหมิ่นของก่านหรูเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนยิ้มเยาะตอบคำ
และแทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ พลังเซียนสุริยันที่โคจรสั่งสมในร่างพลันปะทุใช้ออกด้วยเวทย์พลังปฐมเวทย์กลืนกิน ดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินในห้องศิลาจนเหือดหายในชั่วพริบตา! พลังเซียนสุริยันทั่วร่างเพิ่มพูนถึงขีดสุด!!
ฟั่บบ!!
และแทบจะพร้อมกันนั้น เสียงกระบี่หนึ่งพลันดังขึ้น!
แคร๊ก!
ไม่ทันทีที่ก่านหรูเยี่ยนจะทันได้ตอบสนองอะไร ปิ่นหยกที่ปักผมนางอยู่ก็ถูกฟันหัก
ซัว
หลังจากปื่นปักผมถูกฟันทิ้ง มวยผมที่มัดไว้ก็คลี่ออก เรือนผมสีดำทิ้งตัวทอดยาวลงมาดั่งม่านน้ำตกทันที
“ตอนนี้เจ้าคิดว่าไงเล่า?”
ต้วนหลิงเทียนเก็บกระบี่นิลสวรรค์กลับไปก่อนที่ก่านหรูเยี่ยนจะทันได้สังเกตเห็น กล่าวถามออกมาด้วยรอยยิ้มเฉยเมย
ตอนนี้พลังเซียนสุริยันในร่างของต้วนหลิงเทียนถึงกับพร่องไป 7-8 ส่วน จากการตวัดกระบี่นิลสวรรค์เมื่อครู่!
หากก่านหรูเยี่ยนลงมือกับเขาขึ้นมา เกรงว่าคงไร้ซึ่งหนทางตอบโต้!
แต่ต้วนหลิงเทียนมั่นใจนัก ว่าการจ่ายพลังเซียนสุริยันออกไปเพื่อจู่โจมขู่ขวัญเพาะสร้างสภาวะอันไร้ต้านทานเช่นนี้ออกไป ก่านหรูเยี่ยนที่ไม่ใช่ชนชั้นโง่เขลาต้องเข้าใจได้ทันที…
เข้าใจได้ว่า…
ด้วยกระบี่เมื่อครู่ หากเขาคิดเอาชีวิตนางจริง คนตายอย่างไรก็มิอาจทราบได้แล้ว!
เขาเชื่อว่าก่านหรูเยี่ยนต้องตระหนักถึงเรื่องนี้
และก่านหรูเยี่ยนก็ตระหนักได้จริงๆ
“ปะ…เป็นไปได้ยังไงกัน?”
ตั้งแต่วินาทีที่ปิ่นหยกของนางถูกต้วนหลิงเทียนทำลาย ความหวาดกลัวก็เริ่มผุดขึ้นท่วมใจของก่านหรูเยี่ยนทันที เมื่อครู่นี้นางเข้าใกล้ความตายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตลอดชีวิต!
หากเป้าหมายของกระบี่นั่นไม่ใช่ปิ่นหยกของนาง แต่เป็นจุดตายของนางเล่า…
นางได้ตายแน่!
‘พลังฝีมือของมัน…ไฉนถึงได้สูงส่งขึ้นได้ถึงขั้นนี้!?’
ก่านหรูเยี่ยนถึงกับอ้าปากค้างไร้คำจะกล่าว แม้สูดลมหายใจเข้ารอบหนึ่งเพื่อสงบใจ แต่ยังอดไม่ได้ที่จะผวาอยู่ในใจ
ตอนนี้นางรู้สึกว่าชายหนุ่มเบื้องหน้า หาใช่ต้วนหลิงเทียนที่นางเคยเจอในอดีตไม่! ราวกับเป็นคนละคนกันเลยทีเดียว!!
ต้วนหลิงเทียนคนนั้น ในสายตานางเป็นเพียงมดตัวกระจ้อยแสนอ่อนแอ
กระทั่งนางอาศัยเพียงนิ้วเดียวก็บดบี้ขยี้ให้ตายได้อย่างไม่หนักแรง
ทว่าต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า กลับมีพลังฝีมือสูงส่งกว่านาง!
เพราะแต่ต้นจนจบ นางมิอาจแลเห็นกระบี่ที่อีกฝ่ายฟันออกแม้แต่เงา!
กระทั่งยามเผชิญหน้ากับศิษย์ที่แท้จริง ที่รั้งอยู่ในอันดับ 1 ของทำเนียบยอดฝีมือ ก่านหรูเยี่ยนก็ไม่เคยรู้สึกสิ้นหวัง หรือไร้หนทางถึงขั้นหายใจไม่ออกขนาดนี้
เพราะชั่ววินาทีที่รับทราบว่าปิ่นปักผมถูกทำลาย นางรู้สึกเสมือนชีวิตของนางไม่ได้ขึ้นอยู่กับนางอีกต่อไป
น่ากลัว!
น่าสะพรึงกลัวเกินไป!
“เจ้าที่แท้เป็นใครกันแน่?!”
ด้วยเหตุนี้ก่านหรูเยี่ยนจึงได้แต่ถามถึงตัวตนของต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง
เพราะนางไม่อาจเชื่อมโยงบุรุษที่สามารถสังหารนางได้ง่ายดายในกระบี่เดียวโดยที่นางไม่ทันรู้ตัว กับบุรุษที่ล่อลวงน้องสาวของนาง จนนำภัยพิบัติมาสู่น้องสาวของนางได้เลย
“อะไร? หรือเจ้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะก้าวข้ามเจ้าได้ในเวลาไม่กี่ปี?”
ต้วนหลิงเทียนแสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา
ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เขาจะคาดเดาความคิดในหัวของก่านหรูเยี่ยนตอนนี้ได้ออก
อันที่จริงอย่าว่าแต่ก่านหรูเยี่ยน กระทั่งตัวเขาเองยังรู้สึกเสมือนฝันไปอยู่บ้าง…
วันนั้นก่านหรูเยี่ยนในคราบ ชือเม่ย ได้พาตัวเค่อเอ๋อไปอย่างที่เขาทำได้แค่มอง
วันนั้นพลังความแข็งแกร่งของก่านหรูเยี่ยนกดดันบีบคั้นเขาจนหายใจไม่ออก เขาไม่เคยรู้สึกสิ้นไร้กำลังอะไรขนาดนั้นมาก่อนเลย
เขาไม่มีวันลืมเรื่องราวในวันนั้น
ครั้งที่เขายังอ่อนแอและเผชิญหน้ากับก่านหรูเยี่ยนที่อาศัยเพียงกระดิกนิ้วก็ฆ่าเขาได้!
ทว่าหลังจากผ่านไปไม่กี่ ตอนนี้ด้วยกระบี่นิลสวรรค์ คิดฆ่าก่านหรูเยี่ยนก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรแม้แต่น้อย
ความรู้สึกนี้ทำให้ใจเขารู้สึกใจหาย คล้ายไม่เป็นความจริงอยู่บ้าง
เพราะความแตกต่างมันมากมายเกินไป!
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเข้าใจอารมณ์ของก่านหรูเยี่ยนตอนนี้ได้เป็นอย่างดี
ตัวตนที่ไม่ต่างจากมดตัวกระจ้อยเมื่อไม่กี่ปีก่อน บัดนี้เข้มแข็งพอจะพรากลมหายใจนางไปได้อย่างที่นางไม่ทันรู้ตัว
ตราบใดที่นางยังเป็นผู้คน นางย่อมไม่มีวันเชื่อเรื่องแบบนี้ได้ลงคอ
“เจ้ามิอาจเป็นมัน…อย่าว่าแต่พึ่งจะผ่านไปไม่กี่ปี ให้เป็นสิบปีหรือกระทั่งร้อยปีพันปี มันก็ไม่มีวันมีพลังอย่างเจ้าได้!”
“เจ้าว่ามาเถอะ…เจ้าเป็นใครกันแน่? ที่แท้มีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้านั่นไฉนถึงต้องปลอมเป็นมัน และทำให้ข้าขายหน้าเช่นนี้ด้วย?”
สีหน้าก่านหรูเยี่ยนตอนนี้อัปลักษณ์ปั้นยากนัก นางไม่เชื่อว่าต้วนหลิงเทียนตรงหน้า จะเป็นคนๆเดียวกันกับต้วนหลิงเทียนเมื่อไม่กี่ปีก่อน
“เจ้าจะเชื่อหรือไม่มันเรื่องของเจ้าไม่เกี่ยวอะไรกับข้า…และเหตุผลที่ข้ามาในวันนี้ก็ไม่ได้อยากเจอเจ้าสักนิด ข้าแค่มาลองดูเผื่อว่าจะได้พบหน้าเค่อเอ๋อกกับลูกสาวของข้า!”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบออกมาทันที ขณะเดียวกันวาจาก็กล่าวออกอย่างตรงไปตรงมาเผยเจตนาการมาเรือนจำครั้งนี้
เขาแค่อยากพบเจอเค่อเอ๋อกับลูกสาวเท่านั้น
วาจานี้ของต้วนหลิงเทียน ทำให้ก่านหรูเยี่ยนขมวดคิ้วเป็นปม กล่าวถามออกมาอีกครั้งด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้า…เจ้าคือต้วนหลิงเทียนเมื่อตอนนั้นจริงๆ?”