ตอนที่ 2039

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,039 : การตัดสินใจของต้วนหลิงเทียน!

 

“ข้าจะหลอกเจ้าไปให้ได้อะไรขึ้นมา?”

 

เผชิญกับคำถามเดิมซ้ำแล้วซำเล่า เสียงตอบเยียบเย็นของต้วนหลิงเทียนยังอดไม่ได้ที่จะแฝงความรำคาญ

 

และเสียงเยียบเย็นแฝงรำคาญนี้ เมื่อดังออกมาก็เสมือนทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดต่ำลงหลายองศาทันที

 

เผชิญหน้ากับคำตอบด้วยรำคาญของต้วนหลิงเทียน ถึงแม้ว่าก่านหรูเยี่ยจะไม่อยากเชื่อเพียงใด แต่ทว่าสายตาที่อีกฝ่ายมองมาตอนนี้เสมือนทำให้นางเห็นภาพซ้อน…

 

เป็นสายตาเดียวกันกับที่ชายหนุ่มผู้นั้นใช้มองนาง ตอนที่นางพาตัวน้องสาวฝาแฝดจากภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ามา!

 

เรียกว่าสายตาเยียบเย็นที่ชายหนุ่มใช้มองนางในวันนั้น ไม่ต่างอะไรจากสายตาเยียบเย็นเบื้องหน้าแม้แต่น้อย

 

ในหัวของนาง ภาพชาย 2 คนกลับซ้อนทับกันได้อย่างสมบูรณ์ ไร้ซึ่งความแตกต่างอันใด

 

“เจ้า…เจ้าไฉนถึงแข็งแกร่งขึ้นได้ขนาดนี้?”

 

ก่านหรูเยี่ยนรู้สึกหายใจไม่ออก ถึงแม้นางจะไม่อยากเชื่อเรื่องราวเพียงใด แต่นางก็จำต้องเชื่อ

 

เพราะต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของนางตอนนี้ พลังฝีมือได้ก้าวข้ามนางไปแล้ว

 

“ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไงไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า…ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าข้ามาที่นี่เพียงคิดอยากเจอหน้าเค่อเอ๋อกับลูกสาวข้าเท่านั้นไม่ใช่เจ้า ตอนนี้พวกนางอยู่ไหน?”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบออกด้วยน้ำเสียงค่อนแคะ ค่อยถามปิดท้าย

 

“ในเมื่อเจ้าไม่ได้อยากเจอหน้าข้า แล้วไฉนไม่ไปหาพวกนางโดยตรง?”

 

ก่านหรูเยี่ยนถาม

 

ในตอนนี้แม้กระทั่งตัวก่านหรูเยี่ยนเองก็ไม่ทันได้รู้สึกตัว ว่าน้ำเสียงทั้งทีท่าของนางแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนลงหลายส่วนเมื่อพูดกับต้วนหลิงเทียน ไม่เหลือความหยิ่งยะโสอันใดอีก

 

บางทีคงเป็นเพราะนางถูกพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนครอบงำ หรืออาจเป็นเพราะการกระทำของต้วนหลิงเทียนที่บุกมาถึงลัทธิบูชาไฟเพื่อน้องสาวของนางก็ไม่อาจทราบได้

 

อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน

 

นั่นคือก่านหรูเยี่ยน ซึ่งแต่เดิมเกลียดชังต้วนหลิงเทียนเข้าไส้ บัดนี้ความคิดในใจนางได้เปลี่ยนไปแล้ว กระทั่งรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าคู่ควรกับน้องสาวของนาง

 

ต้องทราบด้วยว่าในอดีตนางคิดว่าต้วนหลิงเทียนนั้นต้อยต่ำเกินไป เป็นดั่งคางคกที่ริอาจกินเนื้อหงส์ฟ้า หาได้คู่ควรกับน้องสาวฝาแฝดของนางแม้เพียงเศษเสี้ยวไม่!

 

ทว่ามาตอนนี้เมื่อได้เห็นพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน ความคิดนางก็เปลี่ยนไปอย่างที่นางเองก็ไม่ทันได้รู้ตัว

 

“เจ้าคิดว่าหากข้ากล่าวบอกออกไปว่าอยากพบเจอเค่อเอ๋อกับลูกสาว แล้วอาวุโสของหอคุมกฏก็จะให้ข้าพบเจอพวกนางได้ง่ายๆรึไง?”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวเย้ย

 

ก่านหรูเยี่ยนพอได้ฟังก็รู้สึกตัวทันที

 

ใช่…น้องสาวของนางแตกต่างจากนาง!

 

น้องสาวของนางเป็นถึงธิดาเทพและเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนนักสำหรับลัทธิบูชาไฟ…ไม่ต้องกล่าวถึงต้วนหลิงเทียน กระทั่งอาวุโสเพลิงทองของลัทธิบูชาไฟ ก็มิอาจเห็นได้เพียงเพราะแค่อยากเห็น

 

“พวกนางมิได้ถูกขังร่วมกับข้าแต่แรกแล้ว”

 

ก่านหรูเยี่ยนถอนหายใจออกเฮือกหนึ่งค่อยกล่าว “ตอนแรกที่ข้าพา ‘อวี่เยี่ยน’ กลับมาข้าก็ได้ซ่อนนางไว้ในคฤหาสน์ของข้า…จนในที่สุดนางก็คลอดลูกของเจ้ากับนางออกมา”

 

กล่าวถึงจุดนี้ก่านหรูเยี่ยนก็หยุดลง

 

“อวี่เยี่ยน?”

 

ต้วนหลิงเทียนโค้งคิ้วขึ้นมาทันที แต่เขาก็พอเดาได้ว่า ‘อวี่เยี่ยน’ ที่ว่าสมควรเป็นอีกชื่อหนึ่งของเค่อเอ๋อ

 

“นางตั้งชื่อลูกสาวของเจ้ากับนางว่า ต้วนซือหลิง”

 

ก่านหรูเยี่ยนมองต้วนหลิงเทียน ค่อยพูดต่อ

 

ต้วนซือหลิง!

 

คำนี้ของก่านหรูเยี่ยนทำให้ร่างต้วนหลิงเทียนสะท้านไปทันที ใจยังสั่นไหวไปคล้ายถูกกระแทก!

 

ต้วนเนี่ยนเทียนเป็นชื่อที่เสี่ยวเฟยเอ๋อตั้งให้ลูกชายของเขากับนาง

 

ต้วนซือหลิงเป็นชื่อที่เค่อเอ๋อตั้งให้ลูกสาวเขากับนาง

 

ถึงแม้ชื่อเรียกจะต่างกัน แต่ทั้งสองล้วนมีความหมายดุจเดียวกัน…ทั้งหมดคือคิดถึงเขาต้วนหลิงเทียน

 

“ในเมื่อเจ้ามาถึงที่นี่ได้เช่นนั้นหมายความว่าเจ้าคงได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นแล้ว…ข้าได้ปกปิดเรื่องของอวี่เยี่ยนไว้อย่างดี แต่เวินเยี่ยนกลับค้นพบเรื่องนี้จนได้ สุดท้ายนางก็เอาไปแจ้งต่อหอคุมกฏ…”

 

เมื่อกล่าวถึง เวินเยี่ยน สองตาของก่านหรูเยี่ยนก็เผยประกายเยียบเย็นออกมาทันที

 

หากไม่ใช่เพราะเวินเยี่ยน น้องสาวกกับหลานของนางไหนเลยจะถูกหอคุมกฏจับไป สุดท้ายก็นำไปขังเอาไว้แบบนี้!

 

“เพราะรายงานของเวินเยี่ยน อวี่เยี่ยนกับลูกสาวก็ถูกพรากไปจากข้าด้วยน้ำมือคนของหอคุมกฏ…ข้าไปหาท่านอาจารย์ที่เป็น 1 ใน 3 ผู้พิทักษ์ของลัทิบูชาไฟแล้ว ด้วยคิดให้ท่านอาจารย์ยื่นมือเข้าช่วย…แต่ท่านอาจารย์ของข้าเพียงกล่าวหาว่าข้าเลอะเลือน และบอกให้ข้ายอมจำนนต่อหอคุมกฏ”

 

กล่าวถึงจุดนี้ก่านหรูเยี่ยนพลันระบายลมหายใจออกมาอย่างทอดถอน “ข้ารู้ว่าอาจารย์ทำแบบนี้ล้วนแล้วแต่หวังดีต่อข้า…เมื่อจ้าวลัทธิบูชาไฟออกจากการปิดด่าน ท่านอาจขอให้จ้าวลัทธิบูชาไฟอภัยให้ข้าเพราะอย่างไรข้าก็ยอมจำนนแต่โดยดี”

 

“ทว่าสำหรับอวี่เยี่ยนนั้น ท่านอาจารย์มิอาจช่วยเหลืออะไรได้เลย และทั้งหมดขึ้นอยู่กับจ้าวลัทธิจะตัดสินเท่านั้น”

 

สีหน้าของก่านหรูเยี่ยนยิ่งมายิ่งฉายถึงความกังวล ท้ายประโยคน้ำเสียงของนางยังหนักอึ้งไม่น้อย

 

“ตัดสิน? ยังต้องตัดสินบัดซบอะไร?”

 

หลังได้ฟังคำของก่านหรูเยี่ยนต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะมีโมโห “ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่แต่เดิมเค่อเอ๋อก็ถูกทิ้งให้อยู่ที่ภูมิภาคเบื้องล่างด้วยซ้ำ…แต่ทำไมลัทธิบูชาไฟถึงยังคิดจะวุ่นวายกับชีวิตนางไม่เลิกอีก?”

 

“นางเพียงตกลงปลงใจอยู่กับข้าจนพวกเรามีลูกด้วยกันมันไปหนักหัวลัทธิบูชาไฟมากหรือไร? ทำไมลัทธิบูชาไฟต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตนาง! พวกมันถือสิทธิ์บัดซบอะไรมากำหนดความเป็นตายของนาง!!”

 

วาจาประโยคหลังของต้วนหลิงเทียน แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวนัก ราวกับโทสะในใจได้ระเบิดออกมา!

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจ…แต่เจ้าต่างกับข้าตรงไหน?”

 

ก่านหรูเยี่ยนเผยยิ้มขื่นขม “ก่อนหน้านี้เจ้าถามว่าข้ายังคิดถูกหรือไม่ที่พาอวี่เยี่ยนกกลับมาที่ลัทธิบูชาไฟ ให้ข้าบอกเจ้าตอนนี้เถอะ…ข้ายังคิดว่าข้ากระทำถูกแล้ว!”

 

“เพราะตราบใดที่อวี่เยี่ยนยังอยู่ที่ภูมิภาคเบื้องล่าง สักวันลัทธิบูชาไฟก็ต้องตามหานางจนเจออยู่ดี…”

 

“เพียงแค่ข้าไม่คิดเลยว่าสุดท้ายหลังจากที่ข้าพานางมาอยู่ที่นี่แล้ว นางกลับอยู่อย่างปลอดภัยได้ไม่กี่ปี สุดท้ายยังถูกพบตัว”

 

กล่าวถึงตอนนี้แววตาก่านหรูเยี่ยนก็ท่วมท้นไปด้วยจิตสังหาร

 

และเป้าหมายจิตสังหารของนางก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เวินเยี่ยน

 

หลังได้กล่าวระบายโทสะออกไป ต้วนหลิงเทียนก็สงบลงไม่น้อย

 

จากคำของก่านหรูเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนย่อมทราบได้ว่านางเป็นห่วงความปลอดภัยของเค่อเอ๋อจากใจจริงๆ บางทีวิธีการของนางอาจทำให้เขาไม่พอใจ แต่จุดประสงค์ของนางก็ล้วนทำเพื่อเค่อเอ๋อ

 

“ข้าไม่รู้จริงๆว่าในหัวเจ้าคิดอะไร…ทำไมถึงพาเค่อเอ๋อกลับมาลัทธิบูชาไฟแบบนี้ สุดท้ายนี่ยังต่างอะไรจากเดินมาติดบ่วง เจ้าพานางไปซ่อนไว้ข้างนอกไม่ได้หรือไร?”

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนยังอดกล่าวแดกดันความโง่เขลาของก่านหรูเยี่ยนออกมาไม่ได้

 

“ซ่อนไว้ด้านนอก? เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะไม่คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน?”

 

ก่านหรูเยี่ยนกล่าวออกเสียงหนัก “นั่นคือน้องสาวของข้าทั้งคน ยังเป็นน้องสาวที่พรัดพรากจากกข้าไปตั้งแต่เกิด…ถึงแม้ข้าจะไม่ได้พบนางมาทั้งชีวิตข้าก็เป็นห่วงนางที่สุด จะให้ข้าปล่อยนางกับลูกไปอยู่ข้างนอกเพียงลำพังได้อย่างไร!? และในหัวข้าตอนนั้นสถานที่ๆอันตรายที่สุด ย่อมเป็นสถานที่ๆปลอดภัยที่สุด!”

 

“เพียงแค่ร้อยพันหมื่นคาดข้ากลับไม่เคยคิด ว่าเวินเยี่ยนนั่นมันจะถึงขั้นซุ่มจับตาดูความเคลื่อนไหวข้าอยู่เป็นปีๆ กระทั่งค้นพบเรื่องที่ข้าซ่อนตัวอวี่เยี่ยนเอาไว้จนได้”

 

กล่าวถึงเวินเยี่ยนอีกครั้ง แววตาของก่านหรูเยี่ยนก็ท่วมท้นไปด้วยจิตสังหารนัก

 

เมื่อสัมผัสได้ว่าก่านหรูเยี่ยนเองก็เสียใจไม่น้อย ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะกล่าวตำหนิอะไรนางอีก เลือกที่จะถามออกมาว่า “แล้วตอนนี้เจ้ารู้หรือไม่ว่าเค่อเอ๋อกับลูกสาวข้าถูกขังอยู่ที่ใด?”

 

“ข้าไม่รู้”

 

ก่านหรูเยี่ยนส่ายหัวไปมา “หอคุมขังใหญ่โตนัก ทั้งในเรือนจำแห่งนี้ก็มีห้องขังมากมายหลายห้อง…อวี่เยี่ยนกับลูกสมควรถูกขังอยู่ในห้องศิลาห้องใดห้องหนึ่งในนี้นี่ล่ะ…แต่เจ้าวางใจได้ตราบใดที่จ้าวลัทธิบูชาไฟยังไม่ออกจากกากรปิดด่านฝึกตน ย่อมไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกนางแม่ลูกแม้แต่เส้นผม”

 

“อย่างไรก็ตามหากจ้าวลัทธิออกจากการปิดด่าน พวกนางคง…”

 

กล่าวถึงตรงนี้แววตาก่านหรูเยี่ยนก็เผยความสำนึกผิดและเสียใจนัก

 

“หากข้าเลือกได้ ไม่สู้วันนั้นข้ายอมให้นางอยู่กับเจ้าเสียประเสริฐกว่า…อยู่ในภูมิภาคเบื้องล่างกับเจ้าต่อแม้จะสุดท้ายก็สมควรถูกลัทธิบูชาไฟพบตัว แต่อย่างน้อยๆนางก็ยังได้เป็นแม่คนอย่างมีความสุข ได้พร้อมหน้าพร้อมตากับสามีและบุตรแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตามที…”

 

“ตอนนี้ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกนางแม่ลูกเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่ทราบจะมีวันได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับเจ้าหรือไม่…”

 

ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่ตอนนี้หยาดน้ำตา 2 สายได้หลั่งรินลงมารดแก้มก่านหรูเยี่ยน คล้ายนางทำใจไปแล้วว่าน้องสาวของนางไม่รอดแน่

 

“พวกเราต้องได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งแน่!”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยความแน่วแน่ “ข้าจะช่วยเค่อเอ๋อกับลูกให้ได้ก่อนที่จ้าวลัทธิบูชาไฟจะออกมาจากการปิดด่านฝึกตน! แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับพวกนางแม่ลูกล่ะก็…”

 

“วันหน้าข้าไม่เพียงจะสับร่างจ้าวลัทธิบูชาไฟให้แหลกเป็นหมื่นชิ้น แต่ข้าจะขุดรากถอนโคนลัทธิบูชาไฟอุบาทว์นี้ของมันให้สิ้นซาก! ข้าจะลบลัทธิระยำนี่ ให้มันหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าด้วยสองมือของข้า!!”

 

วาจาท้ายประโยค เสียงกล่าวของต้วนหลิงเทียนเย็นเยือกปานผุดแทรกขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็ง พาลให้ก่านหรูเยี่ยนรู้สึกหนาวจับใจ!

 

หากก่านหรูเยี่ยนได้ยินต้วนหลิงเทียนกล่าวคำพูดเหล่านี้ก่อนหน้า นางคงคิดแค่ว่าอีกฝ่ายกล่าววาจาอวดโอ่เกินตัว

 

ทว่าตอนนี้หลังได้เห็นความก้าวหน้าของพลังฝีมือที่เพิ่มพูนสูงขึ้นอย่างอัศจรรย์ของต้วนหลิงเทียน นางกลับไม่คิดสงสัยในวาจาของเขา

 

ต้วนหลิงเทียนมีศักยภาพสูงพอจะกระทำตามคำพูด!

 

“บางทีจ้าวลัทธิบูชาไฟอาจไม่ทำอะไรกับอวี่เยี่ยนหากเจ้าปรากฏตัวและเปิดเผยความสามารถของเจ้า…อย่างไรก็ตามความสามารถของเจ้าต้องทำให้ลัทธิบูชาไฟยำเกรงให้ได้เสียก่อน!”

 

ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ก่านหรูเยี่ยนพลันกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น “แน่นอนว่าเจ้าคงไม่อาจอยู่ที่ลัทธิบูชาไฟได้ กระทั่งมิอาจปล่อยให้คนของลัทธิบูชาไฟหาเจ้าพบ หาไม่แล้วพวกมันคงคิดฆ่าเจ้าก่อนที่เจ้าจะทันได้เติบโตเต็มศักยภาพ!”

 

“เพราะเมื่อเจ้าตายไป…ลัทธิบูชาไฟก็ไม่ต้องหวาดกลัวอะไรเจ้าอีกต่อไป”

 

ก่านหรูเยี่ยนกล่าวออกมารวดเดียวจบ

 

และคำกล่าวของก่านหรูเยี่ยนก็กระตุ้นเตือนให้ต้วนหลิงเทียนโดยอ้อมว่าให้เขาหาวิธีข่มขู่ลัทธิบูชาไฟ โดยการเปิดเผยความสามารถในการก้าวหน้าอันน่ากลัว เป็นการเพาะสร้างความหวาดกลัวลงในใจของลัทธิบูชาไฟจนพวกมันไม่กล้าแตะต้องเค่อเอ๋อกับลูก

 

‘ดูเหมือนหลังทำงานที่หอคุมกฏครบกำหนดเมื่อไหร่ข้าต้องหาทางออกจากลัทธิบูชาไฟทันที! เมื่อข้ากลับมาข้าจะให้พวกมันรับรู้ว่าข้ามีรากวิญญาณสีม่วงที่เลิศล้ำที่สุดในภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า’

 

ใจต้วนหลิงเทียนสั่นไหวไม่น้อย ขณะเดียวกันเขาก็ได้ตัดสินใจแล้ว

 

‘ตราบใดที่จ้าวลัทธิบูชาไฟยังไม่ออกจากการปิดด่านฝึกตน ข้ายังมีโอกาสบีบบังคับให้ลัทธิบูชาไฟไม่กล้าแตะต้องเค่อเอ๋อกับลูกสาวข้าอย่างผลีผลาม เพราะหากพวกมันไม่อาจฆ่าข้าได้…พวกมันย่อมไม่กล้าแตะต้องพวกนางแน่!’