บทที่ 2853 ถูกควบคุม 3
กู้ซีจิ่วประหลาดใจ ไม่น่าเชื่อว่าสัตว์ร้ายสี่ตัวนี้จะโจมตีประสานกันเป็นด้วย! ตอนที่เข้าโจมตีจากสี่ทิศทาง ล้วนเป็นองศาที่กลับกลอกยิ่ง บนกลางล่างสามแนวทางล้วนถูก ‘ดูแล’ แล้ว
ไม่ว่าตี้ฝูอีจะหลบไปทางไหน ล้วนไม่รอดจากเขี้ยวเล็บอันแหลมคมของพวกมัน!
ตี้ฝูอีไม่ได้หลบหลีกเลย เขาโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง กระบี่ยาวเล่มหนึ่งก่อตัวขึ้นในฝ่ามือของเขา เงากระบี่นับไม่ถ้วนลอยเหินเข้าหาสัตว์ร้ายทั้งสี่ตัว
ระยะเวลาหนึ่งถ้วยชา!
ตี้ฝูอีใช้เวลาเพียงชั่วระยะหนึ่งถ้วยชาก็จัดการสัตว์ร้ายสี่ตัวนี้ได้แล้ว!
กู้ซีจิ่วมองอยู่ในกระท่อม หายใจติดขัดเล็กน้อย
ตี้ฝูอีออกกระบวนท่าแคล่วคล่องว่องไว ไม่อืดอาดยืดยาดเลยสักนิด ทุกกระบวนท่าล้วนโจมตีเข้าตรงจุดของศัตรู ทุกกระบวนท่าล้วนดุดัน แทบจะจัดการสัตว์ร้ายหนึ่งตัวได้ต่อหนึ่งกระบวนท่า ถึงขั้นที่สังหารพวกมันในตำแหน่งเดียวกันทั้งสิ้น ล้วนเป็นการแทงเข้าที่หว่างคิ้วของพวกมัน ทะลุสมองในกระบี่เดียว!
ที่แท้พลังยุทธ์ของเขาก็เลิศล้ำถึงเพียงนี้แล้ว! น่าจะระดับซ่างเสินแล้ว
เช่นนี้ทันทีที่เขาหลุดพ้นจากการควบคุม จะแทงกระบี่ใส่เธอหรือไม่?
กู้ซีจิ่วมองแล้วหนาวต้นคอขึ้นมาเล็กน้อย ยามที่ตี้ฝูอีเปิดประตูเดินเข้ามา เธอหดตัวเข้าผืนพรมอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้
สายตาตี้ฝูอีสำรวจรอบตัวเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร แล้วก็โยนกวางหิมะตัวหนึ่งลงตรงปากประตู
กวางหิมะตัวนั้นขนาดไม่เล็กเลย ท่าทางจะดุร้ายมากเช่นกัน เขาดุจมีดแหลม เขี้ยวดุจกรรไกรคม
แต่เนื้อกวางชนิดนี้อร่อยมาก แต่ก็ล่าได้ยากเช่นกัน เนื่องจากพวกมันไม่เพียงแต่ดุร้ายเท่านั้น ยังซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหิมะด้วย…
กู้ซีจิ่วเคยล่าได้หนเดียว จดจำรสชาติของมันได้เสมอมา เนื่องจากล่าได้ยาก ดังนั้นเมื่อครู่เธอจึงไม่ได้สั่งให้เขาล่าสิ่งนี้ กลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะล่ามาด้วยตัวเอง
กู้ซีจิ่วปรีดายิ่ง แต่ในความปรีดา ก็มีความสงสัยเล็กน้อยแวบเข้ามาในใจด้วย
อาคมควบคุมของเธอร้ายกาจมาก สั่งให้คนถูกควบคุมทำอะไรก็ต้องทำไปตามนั้น ขัดขืนบิดพลิ้วไม่ได้เลย และกระทำการโดยพลการไม่ได้ แล้วครั้งนี้เป็นอะไรไป?
หรือว่าจะเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อยขึ้นกับอาคมของเธอ?
ความคิดของเธอเพิ่งแล่นมาถึงจุดนี้ กระต่ายหิมะตัวหนึ่งก็ถูกโยนลงมาที่แทบเท้าของเธอ น้ำเสียงของเขาเรียบเฉยไร้ระลอกคลื่น “กระต่ายหิมะของท่าน”
กู้ซีจิ่วเงียบงัน
ดูเหมือนอาคมจะไม่ได้ผิดพลาด! กวางหิมะตัวนั้นเพียงโชคร้าย อยู่ดีไม่ว่าดีก็วิ่งเข้าสู่น้ำมือของเขาด้วยตัวเอง…
….
ผ่านไปหนึ่งเค่อ กู้ซีจิ่วมองกระต่ายหิมะในมืออย่างละล้าละลังยิ่ง จากนั้นก็มองกวางหิมะที่ถูกเขาจัดการจนสะอาดแล้ว
ข้าวของที่เขาพกมาครบครันยิ่ง เพิงย่าง หม้อชามรามไห ถึงขั้นที่เครื่องปรุงก็มีพร้อม
เขานำกวางหิมะตัวนั้นไปถลกหนังทำความสะอาดแล้ว จากนั้นก็เอาเสียบไม้ย่าง
ตอนที่กู้ซีจิ่วพบเขาหนก่อน เขายังทำเป็นแค่ต้มไข่อยู่เลย ไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้จะปิ้งย่างเป็นแล้ว
จากที่ได้กลิ่นท่าทางจะไม่เลวเลย
กู้ซีจิ่วก็มองกระต่ายที่ตนย่างออกมาเช่นกัน กระต่ายตัวนี้ถูกเธอย่างจนค่อนข้างกรังแล้ว…
รสชาติต่างกับกวางหิมะตัวนั้นลิบลับเลย!
เธอมองเนื้อกวางที่ย่างจนเป็นสีเหลืองทอง จากนั้นก็มองเขาฉีกขากวางข้างหนึ่งออกมานั่งกินอยู่ตรงนั้นอย่างสบายอุรา ไม่มีทีท่าว่าจะให้มอบให้เธอเลย
ถูกควบคุมไว้ก็ไม่ดีแบบนี้นี่แหละ! ไม่รู้จักพลิกแพลงเลย!
กู้ซีจิ่วสูดหายใจนิดๆ ทำหน้าหนาแล้วยื่นมือไปหาเขา “ให้ขากวางข้าสักข้างได้ไหม?”
ตี้ฝูอีมองเธออย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง ไม่สนใจเธอ
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย
ดูเหมือนการเจรจากันตามปกติจะไม่ได้ผล เขาไม่ให้เธอ
แต่ว่าถ้าหากแม้แต่ขากวางข้างหนึ่งก็ยังต้องอาศัยการควบคุมเขาถึงจะได้มา กู้ซีจิ่วก็รู้สึกว่าแบบนี้น่าละอายยิ่ง
ช่างเถอะ กระต่ายก็กระต่าย มีให้กินก็พอแล้ว
กู้ซีจิ่วกินกระต่ายกรังๆ ตัวนั้นไปได้ครึ่งหนึ่ง ตี้ฝูอีก็แทะขากวางไปสองขาแล้ว ส่วนที่เหลือถูกเขาเก็บขึ้นมาแล้วเดินออกไป
พอกลับมาอีกครั้ง สองมือก็ว่างเปล่าแล้ว
————————————————————————————-
บทที่ 2854 ถูกควบคุม 4
“เนื้อกวางที่เหลือล่ะ?”
“โยนทิ้งแล้ว”
กู้ซีจิ่วผงะไปเลย บาปกรรมแล้ว!
เนื้อกวางที่อร่อยขนาดนั้นไม่น่าเชื่อว่าบอกจะทิ้งก็ทิ้งไปเลย!
เหลือไว้ให้เธอสักขาก็ยังดี…
ดูเหมือนว่าในใจของเขาจะไม่พอใจเธอมากจริงๆ เมื่อปล่อยให้เขากระทำการด้วยตัวเอง แม้แต่ขนกวางสักเส้นก็ไม่เหลือไว้ให้เธอเลยจริงๆ
ในท้องมีอาหารแล้ว เธอจึงระงับอารมณ์เอาไว้ได้บ้าง
เดิมทีไอวิญญาณภายในกระท่อมน้ำแข็งไม่อุดมสมบูรณ์เท่าด้านนอก แต่ก็พอจะดูดซับมาได้ส่วนหนึ่ง
กู้ซีจิ่วจึงนั่งสมาธิอยู่ตรงนั้นเสียเลย ฟื้นฟูได้สักหน่อยก็ยังดี พอฟื้นฟูกลับมาได้สักหนึ่งส่วนเธอก็มีแรงพอจะเคลื่อนไหวแล้ว จะได้ถอนอาคมควบคุมบนร่างเขา ปล่อยเขาให้เป็นอิสระ…
ตอนนี้เธอดูดซับพลังวิญญาณได้ยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นนั่งอยู่ตรงนั้นค่อนวัน ก็ฟื้นฟูกลับมาได้เพียงน้อยนิด
เธอค่อนข้างร้อนรนบ้างแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าเธอต้องบำเพ็ญนานขนาดไหนถึงจะฟื้นฟูกลับมาเคลื่อนไหวได้ตามปกติ เธอไม่อยากควบคุมเขาไว้นานเกินไป
ยิ่งควบคุมไว้นานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแค้นเคืองขึ้นมากเท่านั้น ไม่แน่ว่าต่อไปอาจกลายเป็นศัตรูคู่แค้นที่สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายก็ได้ และนี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย…
สายตาเธอร่อนลงบนร่างตี้ฝูอี
เขาไม่ได้นั่งสมาธิ แต่ยืนพิงผนังอยู่ สายตามองออกไปนอกกระท่อม ไม่ทราบเช่นกันว่าคิดอะไรอยู่
คงมิใช่ว่าเขากำลังวางแผนว่าหลังจากหลุดไปได้จะต้มเธอก่อนแล้วค่อยผัดกระมัง?!
เฮ้อ เธอควรจะชดเชยให้เขายังไง เขาถึงจะไม่ตามไล่ฆ่าเธอกันนะ?
เธอค่อนข้างกลัดกลุ้มนัก มองเขาอย่างใจลอยอยู่บ้าง
ตี้ฝูอีคล้ายจะสัมผัสอะไรได้ ในที่สุดก็หันกลับมาแล้ว สายตาร่อนลงบนร่างของเธอ
สายตาของเขาค่อนข้างกระด้างเยียบเย็น อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิด พอเขามองเธอเช่นนี้ เธอจึงรู้สึกว่าเส้นขนบนร่างลุกชันขึ้นมา…
“คุณชายตี้ เปิ่นจุนก็ถูกบีบคั้นเช่นกัน ถึงทำให้เจ้าต้องรับความอยุติธรรมเช่นนี้รอจนเปิ่นจุนมีกำลังพอเคลื่อนไหวได้ ก็จะคลายอาคม ให้เจ้าเป็นอิสระ อันที่จริงการพบเจ้าที่นี่ นับว่าเป็นโชคดีของข้า ข้าซาบซึ้งต่อเจ้ายิ่ง วันหน้าหากว่ามีโอกาส เปิ่นจุนจะตอบแทนเจ้าแน่นอน”
กู้ซีจิ่วเอ่ยอย่างจริงใจ
“เหอะ…” ตี้ฝูอีแค่นหัวเราะเบาๆ
หัวใจกู้ซีจิ่วเต้นกระหน่ำขึ้นมา มองดูเขา
ตี้ฝูอีกลับไม่มองเธอแล้ว แต่นั่งลงไป แล้วเข้าสู่สมาธิ
ในใจกู้ซีจิ่วมีข้อสงสัยมากมายต่อตัวเขา ถ้าถามเขาในสภาพที่ถูกควบคุมอยู่ เขาต้องตอบออกมาอย่างหมดเปลือกแน่นอน
แต่กู้ซีจิ่วไม่คิดจะทำแบบนั้น
เธอควบคุมเขาให้จัดการเรื่องราวเพื่อเธอ ก็เพราะไม่มีทางเลือก เพื่อความอยู่รอด
หากว่าอาศัยสิ่งนี้ไปสืบค้นเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นอีก ก็ไร้ข้อจำกัดล่วงเกินไปแล้ว!
ตกดึก กู้ซีจิ่วสำรวจร่างกายเล็กน้อย พลังวิญญาณฟื้นฟูกลับมาอย่างมีขีดจำกัดยิ่ง
ถึงขั้นที่ยังฟื้นฟูกลับมาไม่เท่าตอนที่เธอเพิ่งฟื้นขึ้นมาหลังจากสลบไปเลยด้วยซ้ำ เธอจำได้ว่าตอนที่เธอเพิ่งฟื้นขึ้นมาได้ซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขา หรือว่าที่ตอนนั้นเธอฟื้นฟูได้เร็ว จะเกี่ยวข้องกับการกอดของเขา?
เธอมองดูเขา ตัดสินใจขยับเข้าไปหาเขา “กอดข้านอนได้ไหม?”
ตี้ฝูอีไม่เอ่ยวาจา เพียงอ้าแขนให้เธอ…
เชื่อฟังจริงๆ!
คงมีเพียงช่วงที่คนผู้นี้ถูกควบคุมอยู่ถึงจะว่าง่ายเช่นนี้
กู้ซีจิ่วใช้ความหน้าหนาของตัวเอง ในที่สุดก็ซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
อ้อมแขนของเขาอบอุ่น กลิ่นอายรอบกายใสพิสุทธิ์
ตอนที่เธอซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่น่าเชื่อว่าจะสัมผัสได้ว่าความสามารถในการดูดซับพลังวิญญาณของตนเพิ่มขึ้นมาจริงๆ!
ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ผลจริงๆ!
กู้ซีจิ่วถอนหายใจเล็กน้อย หาท่านั่งที่สบายที่สุดอยู่ในวงแขนของเขา คิดจะลองนั่งสมาธิดู
พอนั่งสมาธิเธอก็ค้นพบว่าเธอดูดซับพลังวิญญาณไม่ได้แล้ว…
หรือว่าต้องพักผ่อนอย่างแท้จริงเท่านั้นถึงจะได้ผล?
เธอจึงนอนซบอยู่ในอ้อมแขนเขาเสียเลย พริ้มตาลงนิดๆ
เธออ่อนแอเกินไป เดิมทีเพียงคิดจะงีบสักหน่อย ไม่นึกเลยว่าจะหลับไปเช่นนี้ หลับฝันหวานยิ่งกว่าทารกเสียอีก หลับไปจนกระทั่งฟ้าสาง