ตอนที่ 560 เริ่มร่ายค่ายกลคาถา (3)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 560 เริ่มร่ายค่ายกลคาถา (3) โดย Ink Stone_Fantasy

ยื่นปลายนิ้วมือทั้งสองข้างออกไป นิ้วหัวแม่มือยื่นออกไปด้านใต้นิ้วชี้ เยี่ยเทียนส่งพลังต้นกำเนิดทั้งหมดไปบนมุทราสิงโตนอก

มีดสั้นอู๋เหินที่กลางฝ่ามือได้รับแรงกระตุ้นจากพลังต้นกำเนิด เกิดแสงสีทองกระจายออกมา ทำให้มือทั้งสองข้างของเยี่ยเทียนนั้นโปร่งใส สามารถมองเห็นกระดูก เส้นลมปราณและเนื้อได้

“โต่ว !”

ในขณะที่ทำมุทราสิงโตนอก เยี่ยเทียนร้องตะโกนออกมาเสียงหนึ่ง ท่าทางอันทรงพลังเปลี่ยนแปลงไปทั่วร่างทันที

เยี่ยเทียนเมื่อครู่นิ่งไม่ไหวติงราวกับภูเขาสูงใหญ่ หลังจากตะโกนคาถาอักษรโต่ว เสื้อขาวปลิวขึ้นทั่วร่างของเยี่ยเทียน เส้นผมตั้งชัน พลังจิตสังหารท่วมท้นร่างของเขา

จากการปลุกเสกเบิกเนตรที่มีดสั้นอู๋เหิน เยี่ยเทียนที่ยืนอยู่ใต้เสาฮวงจุ้ยราวกับพระพุทธรูปปางมารวิชัย พลังแห่งแสงสีทองนั่นเหมือนกับจะสามารถฉีกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ให้เป็นชิ้นๆ

ในขณะเดียวกัน ดาวไถเก้าดวงที่ต้องหลบซ่อนสุดขอบฟ้าก็ระเบิดแสงโชติช่วงแสบตาแสงหนึ่งในทันใด เหมือนพลังของดาวทั้งเก้าถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งลากตรงไปทางเยี่ยเทียนซึ่งอยู่ใต้เสาฮวงจุ้ย

จุดแสงดวงดาวราวกับดินแดนเทพนิยายห้อมล้อมเยี่ยเทียนเอาไว้ ล้นเอ่อเข้าไปในร่างกายของเขาไม่หยุด ทำให้พลังจิตสังหารบนตัวเยี่ยเทียนยิ่งรุนแรงขึ้น

ราวกับว่าต้นไม้ในแปลงดอกไม้ที่ห่างจากร่างกายของเขาไปสิบกว่าเมตร ทนรับพลังจิตสังหารนี้ไม่ไหวกลายเป็นแห้งเหี่ยวไม่มีชีวิต

“พรุ!”

ต่อให้การฝึกตนของเยี่ยเทียนจะเข้าขั้นสูงสุด แต่ก็ยากที่จะต้านทานการเบิกเนตรของพลังฟ้าดินดวงดาวแบบนี้ เลือดสดพุ่งออกมาจากปาก ย้อมเสื้อตรงแผ่นหน้าอกของเขาให้เป็นสีแดง

แต่เลือดสดที่พุ่งออกมาไม่ทำให้พลังจิตสังหารที่อยู่บนตัวเยี่ยเทียนน้อยลงไปแต่กลับเพิ่มขึ้น พลังจิตสังหารซึ่งใกล้ชิดเนื้อแท้ผสานกันเป็นกระบี่แหลมคมเล่มหนึ่งอยู่เหนือศีรษะเยี่ยเทียน

“ธาตุทั้งห้าบนฟ้าขัดขวางกันและกัน ดวงดาวเคลื่อนย้าย ธาตุทั้งห้าบนดินขัดขวางกันและกัน มังกรและงูโผบิน!”

เยี่ยเทียนท่อง “คัมภีร์หวงตี้ยินฝู” เสียงเบา ดวงตาจ้องเขม็ง ราวกับว่ามีแสงไฟสองเส้นสาดไปทางทะเล ปากร้องตะโกนเสียงดังว่า “ธาตุทั้งห้าในกายขัดขวางกันและกัน ฟ้าถล่มดินทลาย!”

จากเสียงตะโกนนี้ของเยี่ยเทียน คาดไม่ถึงว่ากระบี่แหลมคมเล่มนั้นที่ก่อตัวจากความกระหายสงครามซึ่งอยู่บนศีรษะของเขาจะฟันทำลายความว่างเปล่า บินขึ้นไปยังขอบฟ้าเหนือทะเลใหญ่

ในจังหวะที่เยี่ยเทียนตะโกนนั้น ดาวไถกลับสู่ความมืดมิดอย่างเป็นทางการ ไท่ไป๋จินซิงตกลงมา ฟากฟ้าเรืองรองแสงอาทิตย์สาดส่อง เข็มนาฬิกาบนหอนาฬิกากลางฮ่องกงบอกเวลาตีห้าตรง ยามเช้ามาถึงแล้ว

“ศิษย์…ศิษย์น้องเขา…เขาต้องการจะทำอะไรน่ะ”

จั่วเจียจวิ้นรู้สึกถึงพลังจิตสังหารแผ่ออกมาจากร่างของเยี่ยเทียนกระทั่งพูดจาตะกุกตะกัก เยี่ยเทียนอยากใช้พลังของตัวเองมาทัดทานอำนาจสวรรค์เชียวหรือ?

“ความสามารถด้านวรรณกรรมยอดเยี่ยม กล้าหาญชาญชัย กำลังแกร่งกล้า!!!”

ใบหน้าโก่วซินเจียปรากฏความตื่นตกใจ เขาเดาเจตนาของเยี่ยเทียนออก กำมือขวาแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน พูดตัวหนังสือสามคำติดต่อกัน เห็นได้ชัดว่าในใจยังคงตกตะลึง

การกระทำครั้งนี้ของเยี่ยเทียนกลับต้องการใช้พลังที่เกิดจากแสงแรกของดวงอาทิตย์มากระตุ้นค่ายกลซานฉายที่อยู่ใต้เท้าของเขา เพียงแต่วิธีแบบนี้รุนแรงเกินไป ก่อนหน้านี้โก่วซินเจียไม่กล้าแม้แต่จะคิด!

ไม่ต้องพูดถึงความตกใจของโก่วซินเจียกับจั่วเจียจวิ้น เพราะด้านล่างภูเขาเกิดเรื่องไม่คาดฝันอีกแล้ว

เมื่อแสงแดดกำลังจะโผล่จากขอบฟ้า คาดไม่ถึงว่ามีดสั้นอู๋เหินของเยี่ยเทียนที่มีพลังดาวไถทั้วเก้าแฝงอยู่ ทำให้แสงแรกของวันใหม่ดับมืดลงไป

พละกำลังของเยี่ยเทียนแข็งแกร่งเช่นนี้ แต่แสงดาวที่เขาหยิบยืมไม่มีทางจะกดดวงอาทิตย์ที่ถูกขนานนามว่าเป็นมารดาของสรรพสิ่งได้

ในเวลาศูนย์จุดศูนย์ไม่กี่วินาที ขอบฟ้าก็สว่างขึ้นทันใด เส้นแสงนับหมื่นเส้นปรากฏขึ้นที่สุดขอบทะเลใหญ่ ทำลายพันธนาการแห่งความมืดมิด พลังจิตสังหารที่เยี่ยเทียนปล่อยออกมาถูกกำจัดจนไร้รูปร่าง

นับแต่โบราณพลังหยินหยางก็อยู่ตรงข้ามกัน พลังดวงดาวกับดวงอาทิตย์ก็เป็นสิ่งที่เข้ากันไม่ได้เช่นกัน

ราวกับว่าการกระทำนี้ของเยี่ยเทียนยั่วโมโหดวงอาทิตย์ที่ปรากฏขึ้นครั้งแรก พลังจิตมงคลที่เยี่ยเทียนสูดหายใจเข้าไปนั้นต่างจากเวลาปกติ เหมือนกับว่ามันมีสติปัญญา พุ่งตรงมาทางเยี่ยเทียน

เมื่อสัมผัสถึงพลังที่เหมือนกับจะสามารถทำลายล้างฟ้าดิน ใบหน้าของเยี่ยเทียนจึงแน่วแน่ สองมือเปลี่ยนท่ามุทรา นิ้วชี้สองข้างขัดกันและงอส่วนปลายนิ้ว ใช้สองนิ้วหัวแม่มือกดปลายด้านหน้านิ้วชี้ทั้งสอง ทำท่าดีดนิ้วกลายเป็นมุทรากุณโฑสมบัติ

“เฉียน!” ในชั่วพริบตาที่พลังนั่นเข้าปกคลุมพื้นที่ร้อยกว่าเมตรนี้ เยี่ยเทียนตะโกนคาถาออกมา เหมือนกับว่าเขาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ พลังจิตมงคลมหาศาลนั่นราวกับเสียศัตรูไปกะทันหัน

“ท้องฟ้าและมนุษย์ผสาน ความเปลี่ยนแปลงหวนกลับ ค่ายกลซานฉาย จงเปิดออก!!!”

ในตอนที่พลังจิตมงคลพุ่งเข้ามาไม่ถอยกลับ เสียงของเยี่ยเทียนก็ดังขึ้นฉับพลัน

จากเสียงตะโกนของเยี่ยเทียน ค่ายกลซานฉาย สี่ปรากฏการณ์กับของขลังของค่ายกลจิ่วกงปากว้าถูกเขากระตุ้น พลังฟ้าดินที่ไร้รูปร่างไหลวนอยู่ระหว่างค่ายกลทั้งสาม ทำให้ยันต์ของค่ายกลคาถานับพันเริ่มทำงาน

เดิมทีเสาฮวงจุ้ยที่มีเพียงแสงขมุกขมัวก็เหมือนกับเกิดลำแสงนับหมื่นเส้นขึ้นกะทันหัน ค่ายกลทั้งสามเปิดพร้อมกัน พลังกลืนกินขนาดใหญ่ราวกับหลุมดำ ได้ดูดพลังจิตมงคลซึ่งกำลังตามหาเป้าหมายนั่นเข้าไป

แต่ในขณะที่พลังจิตมงคลถูกกลืนกินเข้าไปนั้น มันก็พบเยี่ยเทียนที่เพิ่งยั่วยุตัวเอง พลังจิตรุนแรงมหาศาลกระแสหนึ่งได้พุ่งเขาไปในร่างของเยี่ยเทียนในชั่วพริบตา

“เอื้อก !” เยี่ยเทียนที่เดิมทีใช้มุทราพรางตัว กลับไม่สามารถหลบหนีต่อไปได้อีก

ตอนที่พลังจิตวิญญาณนั้นจู่โจม ร่างกายของเยี่ยเทียนก็เหมือนกับหุ่นฟาง ถูกโจมตีจนลอยขึ้นฟ้า กระโจนไปไกลยี่สิบกว่าเมตร

ถ้าไม่ใช่ว่าตกลงไปในแปลงดอกไม้พอดี ต่อให้เยี่ยเทียนจะหนังหนาแข็งแค่ไหน เกรงว่าร่างกายอาจถูกกระแทกจนกระดูกแตกร้าว

ร่างของเยี่ยเทียนที่ลอยอยู่กลางอากาศได้แค่มองไปบ้านบนภูเขาจากนั้นก็สลบไป ค่ายกลซานฉายเปิดแล้ว เรื่องที่เหลือคงต้องให้ศิษย์พี่โก่วซินเจียกับศิษย์พี่จั่วเจียจวิ้นแล้วล่ะ

มีพลังยิ่งใหญ่อันเป็นพลังจิตมงคลเช่นนี้ขับเคลื่อน ในที่สุดค่ายกลซานฉายก็ทำงานโดยสมบูรณ์ ค่ายทั้งสามเปิดพร้อมกัน การทำงานเป็นไปอย่างมีระบบขึ้น

หลังจากผ่านการแปรเปลี่ยนค่ายกลจิ่วกงปากว้า ค่ายกลสี่สัตว์เทพและค่ายกลซานฉาย พลังมงคลอันบริสุทธิ์เต็มที่ก็ได้เติมเต็มด้านในเสาฮวงจุ้ยทั้งเสา อีกทั้งยังคงสร้างขึ้นมาไม่หยุด

เมื่อเทียบกับพลังจิตวิญญาณเหล่านั้นที่เรือนสี่ประสานในเมืองหลวงกับพลังจิตวิญญาณ ณ ที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนหรือคุณภาพนั้นห่างไกลกันมาก อบอวลไปด้วยพลังจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทั้งเสาฮวงจุ้ยราวกับอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกรายล้อม

หลังจากโก่วซินเจียที่อยู่บนลานจุดชมวิวของภูเขาที่ห่างไกล ก็รู้สึกถึงพลังมงคลบริสุทธิ์ที่ไกลสิบกว่าลี้ พร้อมกับพูดตะโกนเสียงดังว่า “ศิษย์น้องจั่ว ค่ายกลซานฉายเปิดแล้ว ยังไม่รีบร่ายค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวงอีก จะต้องรอถึงเมื่อไรกัน?”

เปิดค่ายกลซานฉายได้สำเร็จ เวลาของการทดสอบพวกเขาก็มาถึงแล้ว

ถ้าไม่สามารถเปิดค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวง แล้วดูดเอาพลังจิตมงคลของค่ายซานฉายเข้ามา เมื่อพลังจิตวิญญาณที่ค่ายกลรับไว้ถึงขีดสุด สำหรับตรงกลางภูเขาแล้ว นั่นจะเป็นหายนะอย่างหนึ่ง

“ครับ ศิษย์พี่!”

จั่วเจียจวิ้นก็คิดไม่ถึงว่าเยี่ยเทียนจะเปิดค่ายกลซานฉายได้เร็วขนาดนี้ พยายามข่มความตื่นเต้นในใจ จากนั้นเขาก็กระตุ้นพลังวิญญาณรอบตัว กระตุ้นของขลังเหรียญต้าฉีทงเป่าในมือขึ้นมา

ในขณะเดียวกัน เข็มทิศที่อยู่ในมือของโก่วซินเจียก็ไม่กล้ารอช้า จับไว้ในมือข้าหงนึ่ง เข็มทิศที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของสำนักเสื้อป่านได้อยู่ในมือตอนนี้แล้ว

ทั้งสองใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีส่งพลังจิตวิญญาณในตัวทั้งหมดไปในของขลัง ผ่านการปลุกเสกของขลัง สะท้อนไปหาที่เยี่ยเทียนที่กำลังสร้างค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวง

“กลวิชาดาวเก้าดวง เปิด!”

หลังจากพลังงานล้อมรอบค่ายกลแล้ว โก่วซินเจียจึงแผดเสียงออกมา ทันใดนั้นมีแสงเปล่งประกายออกจากดวงตาค่ายกล และค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวงก็ถูกเปิดจนสำเร็จ

หลังจากเปิดค่ายกลแล้ว ตัวกลืนกินขนาดมหึมาจากคฤหาสน์หลังนั้นของเยี่ยเทียนก็กระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ เดิมทีพลังจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมในภูเขาพลันถูกดูดเข้ามาในชั่วพริบตา ทำให้ทั่วทั้งยอดเขาวิคตอเรียเปลี่ยนเป็นความหนาวเย็นขึ้นมาอย่างฉับพลัน

แต่นี่เป็นเพียงแค่นิมิตที่เกิดขึ้นเมื่อเริ่มค่ายกลเท่านั้น พลังวิญญาณที่ล้นเอ่อตรงเสาฮวงจุ้ยที่อยู่ห่างไกล ค่อยๆ ท่วมเข้าไปตรงไหล่เขา ฟื้นฟูสภาพเหมือนดังเดิม

แต่โก่วซินเจียกับจั่วเจียจวิ้นที่อยู่บนจุดชมวิวในเวลานี้กลับมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เพราะการเริ่มค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวงเป็นเพียงขั้นแรก ขั้นตอนที่อันตรายที่สุดนั้นอยู่ถัดไป

จากการเริ่มต้นค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวง ไข่มุกมังกรในปากมังกรบนจุดชมวิวก็กระจายลำแสงสีทองแสบตาออกมาอย่างกะทันหัน ยิงตรงไปยังเสาฮวงจุ้ยที่ห่างออกไปสิบกว่าลี้

หลังจากที่แสงสีทองสัมผัสกับเสาฮวงจุ้ยก็ละลายหายเข้าไปด้านในอย่างไร้เสียง ราวกับว่าระหว่างทั้งสองอย่างนี้ได้สร้างสะพานเอาไว้

พลังวิญญาณที่เสาฮวงจุ้ยสร้างขึ้นถูกส่งผ่านไปในปากมังกรอย่างไม่ขาดสาย โดยผ่านสะพานสายนี้ อีกทั้งผ่านค่ายกลที่เชื่อมระหว่างปากมังกรและบ้าน รวมกันเข้าไปในค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวง

แม้ว่าค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวงที่เยี่ยเทียนจัดสร้างไว้จะเป็นค่ายกลรวมพลังชนิดหนึ่งในค่ายกลที่มีความแข็งแกร่งที่เขาสืบต่อมาก้ตาม แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังวิญญาณที่มีพละกำลังราวทะเลเช่นนี้ก็ยังอ่อนแออยู่บ้าง

มันเหมือนกับคนผอมคนหนึ่งทานอาหารที่ไม่พอดีกับร่างกายเข้าไปกะทันหัน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการย่อยไม่ดี ต่อให้เป็นกระเพาะก็ยัดเข้าไปไม่ได้ หลังจากพลังวิญญาณนั้นเข้าไปแล้ว จึงทำให้ค่ายกลรวมวิญญาณทั้งหมดที่ไม่มีความมั่นคง

“ศิษย์น้องจั่ว หยุดพลังจิตวิญญาณซะ!”

โก่วซินเจียกับจั่วเจียจวิ้นมองตากัน ทั้งสองก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวพร้อมกัน คนหนึ่งชูแขนข้างเดียวขึ้น อีกคนหนึ่งสองมือยันท้องฟ้า ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นพลังวิญญาณรอบกายผ่าลงไปที่ปากมังกรอันว่างเปล่า

พลังที่มาจากการฝึกวรยุทธ ท้ายที่สุดก็ไม่อาจเทียบกับพลังที่ฟ้าดินสร้างขึ้น

แม้ว่าการฝึกวรยุทธของโก่วซินเจียกับจั่วเจียจวิ้นรวมกันได้หนึ่งร้อยกว่าปี พลังชี่แท้ของพวกเขารวมกันสามารถหยุดพลังวิญญาณนั้นได้ในพริบตา แต่เวลาแค่ครู่เดียวก็ฟื้นฟูกลับมาเหมือนในตอนแรก

หลังจากที่ทั้งสองอย่างโจมตีกัน ร่างกายของโก่วซินเจียกับจั่วเจียจวิ้นเหมือนได้รับการปะทะอย่างหนัก ถอยหลังไปเจ็ดแปดก้าวติดต่อกัน อีกนิดเดียวก็ตกลงไปในแม่น้ำฮวงจุ้ยที่ล้อมรอบบ้านทั้งหลังไว้

เมื่อยืนได้มั่นคงแล้ว เลือดสดจึงทะลักออกมาจากรูจมูกทั้งสองคน แววตาเต็มไปด้วยความตกใจ พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าพลังวิญญาณฟ้าดินที่ใช้บำรุงกายอยู่ทุกวันจะมีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้

แต่การกระทำนี้ของทั้งสองไม่ใช่สิ่งที่ไร้ประโยชน์

แม้ว่าพวกเขาจะขวางการไหลเวียนของพลังวิญญาณได้เพียงครู่เดียว แต่ค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณดาวเก้าดวงกลับเปลี่ยนเป็นมั่นคงขึ้นมา และพลังวิญญาณที่ส่งมาจากเสาฮวงจุ้ยก็ไม่โหมกระหน่ำแล้ว

…………………………………………