ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 647 เหมือนอนาคตที่ได้เห็นก่อนหน้า

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

คนที่ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ แค่องคาพยพและรูปร่างภายนอก ก็เหมือนกับซือคงจิงทุกกระเบียดนิ้วแล้ว

ภายนอกดูไปอายุราวยี่สิบปี แต่ว่าอายุจริงไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้

การไหลของเวลาบนโลกซ้อนโลกเร็วกว่าโลกแปดพิภพ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่น่าประหลาดใจ

‘ซือคงจิง’ ทุกคน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะถือกำเนิดในเวลาเดียวกัน แต่หลังจากเกิดขึ้นมาแล้ว เนื่องการไหลของเวลาในโลกที่อยู่แตกต่างกัน จึงเป็นไปได้ว่าอายุมีความแตกต่างกันมหาศาล

เจตจำนงยิ่งใหญ่ เป็นศิษย์สายตรงของหอกระบี่ทะเลเหนือ

สตรีที่เหมือนซือคงจิงราวกับแกะผู้นี้ จับตัวมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณแห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องผู้นั้นไว้

สะท้อนให้เห็นว่านางมีความคิดคล้ายกับเยี่ยนจ้าวเกอ คิดจะจับคนมาสืบหาข่าว

ทว่าตอนที่สายตาของเยี่ยนจ้าวเกออยู่บนตัวนาง สตรีนางนี้ก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน สายตาเริ่มสอดส่องไปรอบๆ

‘เลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์แล้วสินะ’ เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเล็กน้อย ดูจากการลงมือของสตรีนางนี้เมื่อครู่ เขาก็ดูระดับพลังฝึกปรือของนางออกแล้ว

เพียงแต่เมื่อมองเห็นเค้าหน้าที่เหมือนกับซือคงจิงนี้ จะมากจะน้อยก็มีความรู้สึกขัดเคืองอยู่บ้าง

สองฝ่ายอยู่ใกล้กันขนาดนี้ นางสัมผัสได้ถึงสายตาของเขาถือเป็นเรื่องธรรมดา

โดยเฉพาะเยี่ยนจ้าวเกอยังมองออกว่า อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น พลังฝึกปรือยังเหนือกว่าคนทั่วไป มีพลังระดับสุดยอดท่ามกลางจอมยุทธ์ในระดับเดียวกัน เหมือนกับซือคงจิง

การถ่ายทอดของหอกระบี่ทะเลเหนือเดิมทีก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ถ้าหากว่าพรสวรรค์ของสตรีนางนี้เหมือนกับซือคงจิง การมีพลังระดับนี้ก็อยู่ในความคาดหมาย

กระนั้นสตรีนางนี้แม้จะสัมผัสได้ว่ามีคนมองตนอยู่ แต่กลับหาสถานที่ที่เยี่ยนจ้าวเกออยู่ไม่พบ

นี่ทำให้นางระมัดระวังตัวมากขึ้น

เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าสบายอารมณ์ กวาดสายตามองมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณที่ถูกจับไว้ผู้นั้น ‘สถานะแค่นี้ยังไม่พอ’

สายตาของเขามองไปยังอีกด้านหนึ่ง ‘ยังไม่จบเรื่อง’

ไกลออกไป พลันมีกลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้น เข้าใกล้ทิศทางนี้ด้วยความเร็วสูง

ชายหนุ่มแค่นเสียง ‘ระดับนี้ ถึงจะมอบข้อมูลข่าวสารที่น่าพอใจให้ได้’

สตรีที่เหมือนกับซือคงจิงราวกับแกะนางนั้น บัดนี้สัมผัสได้ถึงการสั่นไหวของกลิ่นอายพลังในตัวยอดฝีมือ ซึ่งปรากฏตัวขึ้นไกลออกไปอย่างกะทันหันแล้วเช่นกัน

นางรู้สึกสงสัย เพราะไม่รู้ว่าความรู้สึกแปลกประหลาดเมื่อครู่มาจากคนที่ปรากฏตัวในตอนนี้หรือไม่

ทว่านางก็ไม่ได้ลังเล ประกายกระบี่ม้วนคลุมศิษย์ในสำนักและจอมยุทธ์พรรคหลีซานที่ประสบคราวเคราะห์เหล่านั้น ผละไปจากสถานที่แห่งนี้ค่อยว่ากล่าว

ถึงแม้นางจะไม่กลัวผู้มาเยือน แต่ก็ไม่อยากจะเสียเวลากับอีกฝ่าย

ตอนนี้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมียอดฝีมือจำนวนมากรวมตัวกันที่ทางเหนือของทะเลหวงเจีย ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของหอกระบี่ทะเลเหนืออีกต่อไป ตรงกันข้าม นางกับศิษย์ในสำนักต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

เมื่อเผยร่องรอยในสถานที่หนึ่งแล้ว หากรั้งอยู่นานเกิน อาจจะเผชิญกับการล้อมปราบจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ได้

เมื่อเห็นนางจากไป เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่รีบร้อนแม้แต่น้อย

ทิศทางที่นางบินไป มีกลิ่นอายที่เหี้ยมหาญสายหนึ่งปรากฏขึ้นอีก

ด้วยเหตุนี้เอง หนึ่งหน้าหนึ่งหลังจึงอุดนางไว้ตรงกลางพอดี

สตรีนางนั้นเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้นก็ไม่หวาดกลัว หมุนร่างปรับทิศทางใหม่

กลิ่นอายที่แข็งแกร่งสองสายเข้ามาใกล้ เริ่มไหลมารวมกัน เปลี่ยนทิศทางตามนางด้วย

เมื่อเข้ามาใกล้ ก็ปรากฏรูปร่างของกลิ่นอายสองสาย กลับเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สองคน ต่างอยู่ใต้บังคับบัญชาของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

หนึ่งในนี้มีความเร็วสูงยิ่ง ทันที่ร่างกายวูบไหว แค่พริบตาเดียวก็ทะลุท้องฟ้า ติดตามสตรีที่เหมือนซือคงจิงนางนั้นไปติดๆ

วรยุทธ์ที่เขาฝึกฝน มีความได้เปรียบและมีความเร็วมากกว่าวิชากระบี่ของหอกระบี่ทะเลเหนือ

เยี่ยนจ้าวเกอมองแวบหนึ่ง ‘อืม เหมือนวิชาลมกรดสวรรค์สังหาร แต่ไม่ค่อยเหมือนนัก สมควรอยู่ยืนพื้นจากโบราญสถานที่ขุดค้นหลังวิกฤตการณ์ มีความเข้าใจของตัวเองและมีการสร้างขึ้นใหม่…’

อีกคนหนึ่งมีความเร็วช้าไปบ้าง ถูกสลัดทิ้งไว้ด้านหลัง แต่ก็ยังคงไล่ตามอย่างไม่ลดละ

ขอแค่สหายไล่ตามทันก่อนแล้วรั้งฝีเท้าของอีกฝ่ายให้ช้าลงเล็กน้อย เขาจะตามทันอย่างรวดเร็ว

เยี่ยนจ้าวเกอตามไปอย่างไม่เร็วไม่ช้า และไม่รีบไม่ร้อน

ถึงแม้ร่องรอยของคนทั้งสามจะหายไปจากสายตาแล้ว แต่ไม่ทันไรก็รู้สึกได้ว่าไกลออกไปมีการซัดสาดของปราณวิญญาณที่รุนแรง อันเกิดจากการต่อสู้อย่างเดือดของทั้งสองฝ่าย

สตรีจากหอกระบี่ทะเลเหนือผู้นั้นสุดท้ายถูกไล่ทัน จากนั้นก็ถูกทั้งสองฝ่ายล้อมเอาไว้ ติดอยู่ในการต่อสู้พัวพัน

ตอนที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นในทัศนวิสัยของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายก็สู้กันเป็นพัลวันแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอมองแวบหนึ่ง จุ๊ปากส่งเสียงชมเชย ‘ถึงแม้พลังฝึกปรือจะแตกต่าง วรยุทธ์ นิสัย รูปแบบเองก็ไม่เหมือน แต่คล้ายเห็นอนาคตของศิษย์น้องซือคง’

ในความเร็วด้านการหนี วิชากระบี่ของหอกระบี่ทะเลเหนือ สู้ท่าร่างวรยุทธ์ที่อีกฝ่ายฝึกปรือไม่ได้ สุดท้ายยังถูกเกาะติด

แต่เมื่อลงมือจริงๆ กลับเป็นอีกเรื่องโดยสิ้นเชิง

ประกายกระบี่ตัดสลับ สภาวะกระบี่ของสตรีนางนั้นตรงไปตรงมา ยิ่งใหญ่ทรงพลัง

แค่หนึ่งกระบี่ ก็ก่อให้เกิดคลื่นสูงใหญ่ ปรากฏการณ์นับไม่ถ้วนม้วนพัดท้องฟ้าเบื้องบนและท้องทะเลเบื้องล่างพร้อมกัน

แม้จะสู้หนึ่งต่อสอง แต่นางกลับเป็นฝ่ายได้เปรียบ

จอมยุทธ์ที่ฝึกฝนลมกรดสวรรค์สังหารผู้นั้นแม้จะเร็วกว่า แต่ในตอนนี้กลับได้แต่หลบหลีก ไม่กล้าปะทะคมกระบี่ที่แข็งกร้าวทรงพลังนั้นซึ่งหน้า

เขาตั้งใจใช้วิธีการรบแบบกองโจรถ่วงเวลาออกไป ก่อนจะพบว่าประกายกระบี่ที่กว้างใหญ่นั้นค่อยๆ ก่อตัวกันเป็นพายุหมุนลูกหนึ่ง

พายุหมุนมีแรงดึงดูดมหาศาล ยิ่งมายิ่งรุนแรง ทำให้เขาถึงขั้นดิ้นไม่หลุด เคลื่อนไหวได้ไม่กี่ชุ่น

กอปรกับหลังจากแรงดึงดูดยิ่งมายิ่งรุนแรง ความเร็วของวิชาลมกรดสวรรค์สังหารที่เขาใช้ถึงขั้นช้าลง!

จิตใจของจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสองคนที่เดิมทีฮึกเหิม บัดนี้เริ่มหนักอึ้งขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่

อีกฝ่ายมีชื่อเสียงไม่น้อย พวกเขาต่างรู้จัก “เยว่เป่าฉี ทางเหนือของทะเลหวงเจียถูกต้าเสวียนปิดตายไว้แล้ว เจ้าไม่กลับมาก็ดีอยู่แล้ว แต่ในเมื่อมา ต่อให้วันนี้เจ้าหนีไปได้ ก็อย่าคิดออกไปจากทะเลเหนือเลย!”

เยว่เป่าฉี สตรีจากหอกกระบี่ทะเลเหนือที่หน้าเหมือนกับซือคงจิงราวกับแกะคนนั้นมีสีหน้าเคร่งขรึม ไม่กล่าววาจา เพียงแต่ใช้ประกายกระบี่อย่างเร่งร้อนขึ้น

ยอดฝีมือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องทั้งสองก็ไม่พูดไร้สาระอีก ใช้พลังทั้งหมดรับมือกับเยว่เป่าฉี

คนที่ลำบากในตอนนี้เป็นพวกเขา หากตายอยู่ที่นี่ ต่อให้วันหน้ามีคนในราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสับศพเยว่เป่าฉีเป็นหมื่นท่อน พวกเขาก็ไม่อาจฟื้นคืนชีพ

คนที่ฝึกฝนวิชาลมกรดสวรรค์สังหารผู้นั้นกัดฟัน ฝืนรับกระบี่ของเยว่เป่าฉี กระตุ้นท่าร่างอย่างเต็มที่ พุ่งออกมาจากพายุประกายกระบี่!

ครั้งนี้เขาถูกประกายกระบี่ครอบฟ้าคลุมดินจากกระบี่เทพสมุทรของเยว่เป่าฉีม้วนใส่ ทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผล

แต่เมื่อจ่ายค่าตอบแทนเล็กน้อย ในที่สุดก็พุ่งออกมาได้

เมื่อออกมาได้แล้ว เขาก็ไม่กล้ารั้งอยู่อีก รีบใช้พลังทั้งหมดหนีไปยังที่ไกล

แต่ว่ากลางอากาศมีเสียงหัวเราะดังขึ้น ท่ามกลางเสียงสะเทือนเลือนลั่น พลันมีแสงสีทองหลายสายเปล่งประกาย

วังขนาดยักษ์วังหนึ่งโผล่ออกมา เป็นวังฝูงมังกรของเยี่ยนจ้าวเกอนั่นเอง

ประตูอ้าออก เยี่ยนจ้าวเกอมองอีกฝ่ายพุ่งมาหาตัวเองด้วยรอยยิ้มกว้าง

คนผู้นั้นตกใจหน้าถอดสี คิดหยุดฝีเท้า ทว่าในประตูฝูงมังกรกลับมีแรงดึงดูดแข็งแกร่งส่งมา ทำให้เขาหยุดเคลื่อนไหวไม่ได้ พุ่งเข้าไปด้านใน

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้เยว่เป่าฉีกับจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอีกคนต่างตกตะลึง

ทว่าเยว่เป่าฉีสงบจิตใจได้อย่างรวดเร็ว ไม่ได้กระหายในชัยชนะ หลังจากใช้หนึ่งกระบี่กดดันคู่ต่อสู้คนที่สอง ก็ผละไปทันที

เมื่อไม่มีศัตรูที่ฝึกฝนลมกรดสวรรค์สังหาร นางก็หนีได้ง่ายกว่าเดิมมาก

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอีกคนเห็นดังนั้นก็ไม่กล้าพัวพันอีก รีบร้อนหลบห่างวังฝูงมังกร

เยว่เป่าฉีเพิ่งผ่อนคลายลง ก็ค้นพบด้วยความตกใจว่าวังฝูงมังกรสีทองอร่ามนั้น ไม่ได้สนใจจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอีกคน แต่ว่าลอยตามตนอยู่ด้านหลัง