ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 648 ไต่สวน

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

หลังจากประตูเปิดออกและดูดจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่ฝึกฝนลมกรดสวรรค์สังหารผู้นั้นเข้าไป วังฝูงมังกรก็มุ่งหน้าติดตามเยว่เป่าฉีแห่งหอกระบี่ทะเลเหนือต่อ

เยว่เป่าฉีมองวังฝูงมังกรสั่นไหวไม่หยุดอย่างงงงัน ด้านในคล้ายมีคนสู้กันอยู่

ทว่าการสั่นไหวไม่ส่งผลต่อการเดินหน้าของวังฝูงมังกร ยังคงลอยตามอยู่ด้านหลังเยว่เป่าฉี

นางไม่รู้ความเป็นมาของเยี่ยนจ้าวเกอ อีกฝ่ายจะลงมือกับจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง แต่นางก็ยังคงระมัดระวังตัว

นางคิดจะสลัดวังฝูงมังกรให้หลุด แต่ยามนี้ในวังฝูงมังกรมีเสียงหัวเราะของเยี่ยนจ้าวเกอตามมา “คิดสืบข่าว เชลยที่เป็นมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณคนหนึ่ง จะไปรู้มากกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร”

เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ เยว่เป่าฉีก็ลังเลเล็กน้อย

ก่อนจะได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดต่อว่า “ข้าแซ่เยี่ยน ชื่อเยี่ยนจ้าวเกอ บางทีท่านอาจไม่คุ้นชื่อข้า แต่ท่านคงจะเคยได้ยินชื่อหยางจ้าวหง แม่ทัพหลวนเซียงแห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง”

คำพูดนี้ทำให้คนเข้าใจผิดได้โดยง่าย เยว่เป่าฉีขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดต่อว่า “ถ้าหากเคยได้ยินชื่อหยางจ้าวหง เช่นนั้นรู้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเขาถูกคนฆ่าไปแล้ว”

เยว่เป่าฉีสายตาเคร่งเครียด มองวังฝูงมังกรเขม็ง “…เป็นเจ้าทำหรือ?”

เยี่ยนจ้าวเกอตอบเหมือนไม่มีเรื่องราวใด “มิผิด”

ในฐานะแม่ทัพรักษารัฐของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ชื่อของหยางจ้าวหง เยว่เป่าฉีย่อมรู้จัก ทั้งยังได้ยินข่าวการตายของอีกฝ่ายมาเมื่อไม่นานนี้ด้วย

ตอนนี้เมื่อได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอพูดถึง นางก็นึกขึ้นได้ว่าคล้ายได้ยินชื่อของเยี่ยนจ้าวเกอมาก่อนจริงๆ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับการตายของหยางจ้าวหง

เยว่เป่าฉีแม้จะไม่ได้เชื่อเยี่ยนจ้าวเกอทันที แต่ฝีเท้าในที่สุดก็ช้าลงแล้ว

ครั้งนี้วังฝูงมังกรไม่สั่นไหวต่ออีก

ประตูวังเปิดออก ปรากฏร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ สองมือไพล่ไว้ด้านหลัง ยืนอยู่ตรงประตูอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

สายตาของเยว่เป่าฉีมองข้ามเยี่ยนจ้าวเกอ สำรวจภายในวังฝูงมังกร

นางเห็นส่วนลึกของมิติที่ลึกล้ำปรวนแปร มีเงามังกรหลายสายบินวน ม้วนคนผู้หนึ่งเอาไว้

คนผู้นั้นก็คือจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่ฝึกปรือลมกรดสวรรค์สังหารนั่นเอง

ตอนนี้เขาถูกมังกรที่เกิดจากการรวมตัวของปราณมังกรหลายสายในวังฝูงมังกรจับไว้ สีหน้าระทมทุกข์ยิ่ง

คนผู้นี้มีพลังอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ขั้นหลอมรวมกายจิตระยะต้น ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเยี่ยนจ้าวเกอ

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอคิดจะจับอีกฝ่ายไว้เค้นข้อมูล ไม่ใช่ฆ่าให้จบไปเหมือนตอนรับมือกับหยางจ้าวหง

ฆ่าและจับเป็นมีระดับความยากแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ต่อให้เป็นเยี่ยนจ้าวเกอก็ต้องเสียเวลาไปบ้าง

ทว่าจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องผู้นี้ก่อนหน้าได้รับบาดเจ็บเพราะเยว่เป่าฉี เยี่ยนจ้าวเกอยังมีสองอาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างเกราะเหมันต์ทระนงกับหอกขนอีกาสังหารอยู่ในมือ สุดท้ายก็จับอีกฝ่ายได้สำเร็จ สะกดไว้ในส่วนลึกของวังฝูงมังกร

หลังจากลังเลเล็กน้อย ในที่สุดเยว่เป่าฉีก็ก้าวเข้าไปในวังฝูงมังกร

ปราณมังกรอันเต็มเปี่ยมส่วนใหญ่ตกตะกอนไปแล้ว แต่แม้เผยมาเพียงน้อยนิด ก็ยังทำให้เยว่เป่าฉีถอนใจชมเชยอยู่ดี

นางมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างใจเย็น ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่อธิบายเพิ่ม

เขามาถึงเบื้องหน้าจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ถามด้วยรอยยิ้มบาง “นามว่าอะไร?”

อีกฝ่ายมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยสีหน้าซับซ้อน เงียบงันไม่พูดจา

หากไม่ได้เจอด้วยตาตัวเอง เขาไม่มีทางจินตนาการออกเลยว่าตนจะแพ้จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์คนหนึ่งอย่างไร้ข้อกังขาเช่นนี้ ทั้งยังถูกอีกฝ่ายจับเป็นไว้อีก

ครั้นได้ยินว่าอีกฝ่ายสังหารหยางจ้าวหงไปแล้ว จอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคนนี้ก็ถอนใจ พูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง

เยว่เป่าฉีสำรวจเยี่ยนจ้าวเกอด้วยสีหน้าซับซ้อน ครั้นมองจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องผู้นั้น นางก็เอ่ยปากอธิบายว่า “เขาชื่อจางเสวี่ยน คนเรียกเขาว่า ‘กระเรียนเดียวดายเก้าชั้นฟ้า’ เป็นแขกของเว่ยหลินโหวแห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง”

จางเสวียนหันไปมองเยว่เป่าฉีแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างขื่นขมต่อ

ในฐานะยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงแห่งยุคจากหอกระบี่ทะเลเหนือ เยว่เป่าฉีที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยผู้นี้ เขาเองก็รู้จัก

เพียงแต่ก่อนหน้านี้จางเสวี่ยนแค่เคยได้ยินชื่อเท่านั้น ไม่เคยเจอเยว่เป่าฉีตัวเป็นๆ มาก่อน ดังนั้นวันนี้จึงอาศัยความเร็วท่าร่างของตัวเองตามติดไม่ปล่อย

ตอนแรกเขาคิดว่าแม้ตัวเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่เมื่อมีสหายอยู่ รวมพลังของสองคนก็น่าจะเอาชนะเยว่เป่าฉีได้ อย่างน้อยก็น่าจะหน่วงเหนี่ยวอีกฝ่ายได้

สุดท้ายหลังจากลงมือจริงๆ จึงค่อยรู้ว่า ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเยว่เป่าฉีตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะเยว่เป่าฉีไม่อยากถูกถ่วงเวลา ไม่คิดจะต่อสู้ พวกเขาสองคนอาจถึงขั้นตายด้วยกระบี่ของนางไปแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอมองจางเสวี่ยน พยักหน้าเล็กน้อย “ท่านจางกระมัง? ท่านช่างโชคดียิ่ง

“เหตุผลที่ไว้ชีวิตท่าน ท่านเองน่าจะรู้แล้ว ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องครั้งนี้วางกำลังที่ทะเลเหนือ ท่านได้โปรดอธิบายอย่างละเอียดเถอะ”

จางเสวี่ยนปิดตาเงียบ

“หยางจ้าวหงเป็นญาติห่างๆ ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ข้าฆ่าแล้วก็คือฆ่าแล้ว ดังนั้นจึงไม่ถือสาแม้แต่น้อยหากต้องฆ่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอีกคน” เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างไม่ถือสา

กระเรียนเดียวดายเก้าชั้นฟ้าได้ยิน พลันลืมตาขึ้น จ้องมองเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวว่า “ท่านสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง สวามิภักดิ์ต่อเว่ยหลินโหว ก็แค่กระทำตามคำสั่งเท่านั้น เขาเสนอการปกป้องแก่ท่าน เสนอทรัพย์สมบัติจำนวนหนึ่งแก่ท่าน ท่านเพียงแค่อาศัยสิ่งที่ได้ร่ำเรียนมาช่วยเหลือเขา”

“จะช่วยเหลือ ก็น่าจะพยายามทำแต่เรื่องที่ทำได้ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องถวายชีวิตกระมัง?”

ชายหนุ่มชี้เยว่เป่าฉีที่อยู่ด้านข้าง “ท่านสู้นางไม่ได้ สู้ข้าไม่ได้ มีพลังไม่พอจริงๆ ไม่ใช่ว่าท่านไม่พยายาม ทำถึงขั้นนี้ก็ควรพอได้แล้ว ต่อจากนี้ท่านคิดเอาเองแล้วกัน การตอบคำถามข้ายังไม่นับว่าทำผิดต่อเว่ยหลินโหว”

“แน่นอนว่า ถ้าหากเว่ยหลินโหวมีบุณคุณต่อท่าน หรือท่านมีความคิดเช่นว่านักรบยอมตายได้เพื่อสหายรู้ใจ เช่นนั้นก็คิดเสียว่าข้าไม่เคยพูดคำพูดก่อนหน้ามาก่อน”

“จอมยุทธ์เลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ระหว่างข้ากับท่านไม่มีความแค้นต่อกัน ดังนั้นข้าจะไม่ทรมานมอบความอัปยศแก่ท่าน”

“หากท่านไม่พูด ข้าจะจัดการท่านอย่างตรงไปตรงมา หลังจากฆ่าท่านแล้ว ข้าเพียงเปลืองแรงอีกเล็กน้อย จับคนอื่นมาถามแทน”

น้ำเสียงของเยี่ยนจ้าวเกอสงบนิ่ง แต่จางเสวี่ยนกลับฟังแล้วรู้สึกหนาวสะท้านไปจนถึงขั้วหัวใจ

เขาแน่ใจว่าถ้าหากตนยืนกรานไม่ยอมพูด คนหนุ่มตรงหน้านี้จะไม่เสียเวลากับเขาและฆ่าเขาทันที ก่อนจะไปจับตัวเชลยคนต่อไป

จางเสวี่ยนเงียบงันครู่หนึ่ง แล้วถอนใจเสียงยาว “เจ้าชนะแล้ว

“หลังจากต้าเสวียนทำลายหอสักการะหลักสำนักความมืดเสร็จ ครั้งนี้เตรียมลั่นกลองรบเสริมขวัญกำลังใจ หมายปราบทะเลเหนือ ยังคงเป็นท่านอ๋องออกศึกด้วยตนเอง ครั้งนี้ถังกั๋วกงและหลู่กั๋วกงในกั๋วกงทั้งสี่ออกรบพร้อมกัน มายังทะเลเหนือด้วยกัน”

“นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือระดับสูงอย่างเช่นพวกเว่ยหลินโหวอีกมากมาย หมายจะทำลายหอกระบี่ทะเลเหนือ”

เยว่เป่าฉีได้ยินดังนั้นก็มองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้เยี่ยนจ้าวเกอซักถามเอง

เยี่ยนจ้าวเกอถาม “ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงครั้งนี้มาถึงแล้วเช่นกัน?”

จางเสวี่ยนตอบ “ถูกต้อง เก้ากระบี่ผู้วิเศษที่ทำลายหอสักการะหลักสำนักความืด ครั้งนี้ยังคงติดตามท่านอ๋องมายังทะเลเหนือ”

ชายหนุ่มกอดอกไว้ด้านหน้าเอว “ครั้งก่อนจะมากจะน้อยก็บุกแต่ละพรรคที่อยู่ในฝ่ายต่อต้านต้าเสวียนอย่างไม่ทันตั้งตัว ครั้งนี้ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงกลับไม่ใช่กองกำลังที่อยู่เหนือความคาดหมายอีก ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคิดจะช่วงชิงชัยชนะ น่าจะไม่ง่ายขนาดนั้นกระมัง? มีการวางกำลังพิเศษอะไรไว้หรือไม่?”

อีกฝ่ายลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็พยักหน้าพูดว่า “ท่านอ๋องควบคุมด้วยตัวเอง คิดจะตั้งค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติที่ทะเลเหนือ”

เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “…ร้ายกาจนัก”