ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 649 ลงมือคราวเดียว ได้ผลลัพธ์มหาศาล

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอมาทะเลหวงเจียได้สักพักแล้ว ก่อนหน้านี้อยู่ที่หอสักการะย่อยสำนักความมืด จึงรู้จักขุมกำลังใหญ่ในแต่ละที่ไม่น้อย

หอกระบี่ทะเลเหนือแม้จะแตกต่างกับเกาะมนุษย์สำริด ที่มีมนุษย์สำริดคอยปกป้อง แต่ว่าในฐานะสำนักที่ก่อตั้งมาหลายปี ก็มีความได้เปรียบด้านสภาพแวดล้อมเป็นของตัวเอง

เนื่องจากยึดครองทางเหนือของทะเลหวงเจียมาหลายปี การสั่งสมปราณกระบี่ของยอดฝีมือจากหอกระบี่ทะเลเหนือจึงยิ่งใหญ่ดุจทะเลลึก

ท้องทะเลปราณกระบี่รวมกับท้องทะเลที่แท้จริงของดินแดนแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

ยิ่งเข้าใกล้เกาะโม๋หลูที่หอกระบี่ทะเลเหนือตั้งอยู่เท่าไร ปราณกระบี่ก็ยิ่งจับตัวกันมากเท่านั้น

แผ่นดินที่อยู่รอบๆ เกาะโม๋หลู ค่อยๆ กลายเป็นโลกที่แยกตัวอยู่อย่างโดดเดี่ยว ถูกปราณวิญญาณกั้นจากโลกด้านนอก กลายเป็นโลกปราณกระบี่

โลกปราณกระบี่มีค่ายกลคุ้มสำนักของหอกระบี่ทะเลเหนือเป็นศูนย์กลาง ติดต่อซึ่งกันและกัน เชื่อมกันกลายเป็นผืนเดียว

คิดจะทำลายข่ายกระบี่ ทะเลวงเข้าไปโจมตีเกาะโม๋หลู นับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมียอดฝีมือมากมายดุจหมู่เมฆ ทั้งยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอย่างหอกราชาลี้ลับและกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนอยู่ด้วย

ทว่าครั้งนี้ฝ่ายต่อต้านต้าเสวียนมีการเตรียมตัว ไม่ได้มีแค่ยอดฝีมือของหอกระบี่ทะเลเหนือเท่านั้น ยอดฝีมือของสำนักอื่นก็รวมตัวกันบนเกาะโม๋หลูเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจึงจำเป็นต้องระวังตัวเช่นกัน

สิ่งที่จักรพรรดิเสวียนมู่อ๋องต้องการก็คือการสยบทะเลหวงเจียอีกครั้ง ตั้งตำแหน่งการปกครองเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่ชัยชนะที่ต้องเสียสละตัวเองไปแปดร้อยเพื่อศัตรูจำนวนหนึ่งพัน

ตัวเลือกของพระองค์ ก็คืออาวุธทำลายล้างอย่างค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติ

ในตอนที่ได้ยินว่าราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องครอบครองค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติเมื่อครั้งยังอยู่ที่หอสักการะย่อยสำนักความมืด เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ถึงอย่างไรค่ายกลนี้ก็มีอานุภาพแข็งแกร่งมาก

ถ้าหากเป็นค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติที่เยี่ยนจ้าวเกอรู้จัก เมื่อพลังระเบิดออกมาอย่างเต็มที่ จะทำให้ทางเหนือของทะเลหวงเจียทั้งหมดกลายเป็นทะเลเพลิง

ขนาดของมันรุนแรงยิ่งกว่าคลื่นเปลวเพลิงที่พัดโหมขึ้นในตอนที่โลกปีศาจอัคคีรุกรานโลกแปดพิภพเสียอีก

กระนั้น วัตถุดิบในการตั้งค่ายกลที่ค่ายกลนี้จำเป็นต้องใช้ ก็มีจำนวนมหาศาลยากจะประเมินค่าเช่นกัน

ในสถานที่ต่างๆ อย่างโลกแปดพิภพ และโลกผืนสมุทร อย่าคิดจะหามาให้ครบได้

มีเพียงแต่โลกซ้อนโลกเท่านั้นถึงจะมีความเป็นไปได้

ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังไม่อาจเก็บรวบรวมจากทะเลหวงเจียที่เดียวได้

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องต้องการวางค่ายกลนี้ ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว

หอสักการะหลักสำนักความมืดถูกทำลายไปแล้ว หอกระบี่ทะเลเหนือหากถูกโจมตี โดยเฉพาะเกิดผู้คุมหอกู้หงเสียชีวิต กองทัพต่อต้านต้าเสวียนก็ไม่อาจกระทำการสำเร็จอีก

เกาะมนุษย์สำริดป้องกันได้สบาย แต่ไม่อาจเป็นฝ่ายรุก ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องถึงขั้นไม่ต้องสนใจ สุดท้ายเหลือสำนักแสงสว่างไว้ ค่อยๆ วางแผนจัดการพวกเขา

มาถึงขั้นนี้แล้ว สำนักแสงสว่างจะเหลือหัวเดียวกระเทียมลีบ จะยืนอย่างหยัดอย่างองอาจได้หรือไม่ ยังเป็นปัญหา

เยี่ยนจ้าวเกอนิ้วแตะริมฝีปากพลางครุ่นคิด “ท่านหมายความว่า ค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติได้วางเรียบร้อยแล้วหรือ?”

จางเสวี่ยนเอ่ย “ยังไม่สำเร็จโดยสมบูรณ์ ความต้องการของเบื้องบนคือปิดข่าวไว้ชั่วคราว ดึงดูดให้จอมยุทธ์หอกระบี่ทะเลเหนือที่ออกไปด้านนอกกลับมา จากนั้นก็หว่านแหจับทีเดียว”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “จอมยุทธ์หอกระบี่ทะเลเหนือมีคนที่สำคัญสุดขีดออกเดินทางไปด้านนอก จึงจำเป็นต้องตามจับหรือ?”

เสวียนมู่อ๋องยกทัพด้วยตัวเอง จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสองคนซึ่งเป็นลูกศิษย์ของผู้วิเศษเซิงลงมือพร้อมกัน

คนที่มีสถานะสำคัญในสายตาของพวกเขา คือบุคคลอย่างผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือกู้หง เจ้าสำนักความมืดโจวฮ่าวเซิง เจ้าสำนักแสงสว่างหลัวจื้อเทา และผู้ปกครองเกาะมนุษย์สำริดกงซุนหมิง

รองลงมา ก็คือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงเช่นอู๋จื่อซิวและเนี่ยเซิง

คนที่เหลือ ยังไม่พูดถึงว่าเป็นปลาซิวปลาสร้อย แต่ไม่นับว่าเป็นเป้าหมายแน่

เยว่เป่าฉีส่ายหน้า “ตามที่ข้ารู้ ยอดฝีมือระดับสูงของสำนักเรากลับสำนักนานแล้ว ไม่มีใครอยู่ด้านนอกอีก”

จางเสวี่ยนมองนางแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร

เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงด้านหน้าจางเสวี่ยน ยิ้มถามว่า “อ้อ? ดูเหมือนจะมีบางเรื่องที่ท่านไม่ได้บอกพวกเรา”

“ข้าขอเตือนสักครั้ง ใช่ว่าพวกเราจะเชื่อทุกอย่างที่ท่านพูดโดยไม่ตรวจสอบ”

“ถ้าหากรู้จากปากคนอื่นว่าข้อมูลที่ท่านบอกเป็นเท็จและไม่ครบถ้วน ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ข้าว่าท่านน่าจะรู้”

เขาชี้เยว่เป่าฉี “เกี่ยวกับนางหรือ?”

จางเสวี่ยนถอนใจคำหนึ่ง “เบื้องบนมีคำสั่ง ให้จับตาดูเยว่เป่าฉี ‘เซียนทะเลเหนือ’ เป็นพิเศษ ถ้าหากจับได้จะมีรางวัลอย่างงาม”

ครั้นเยี่ยนจ้าวเกอได้ยิน เขาก็หันไปมองเยว่เป่าฉี พลางกะพริบตาปริบๆ

ตัวเยว่เป่าฉีมีใบหน้างงงัน

เยี่ยนจ้าวเกอถามอย่างเชื่องช้า “เหตุผลเล่า?”

จางเสวี่ยนส่ายหน้า “เหตุผลข้าไม่รู้จริงๆ เว่ยหลินโหวไม่ได้อธิบาย แต่ก็บอกว่า บุคคลในเก้ากระบี่ผู้วิเศษเป็นผู้ตัดสินใจ”

เขามองไปยังเยว่เป่าฉี สายตาปรากฏแววประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน

ผู้ที่ได้ข้อมูลจากส่วนในราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ระดับต่ำสุดก็คือยอดฝีมือขั้นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนต่างประหลาดใจในคำสั่งนี้เช่นกัน

เยว่เป่าฉีถือเป็นคนมีชื่อเสียงในทะเลหวงเจีย ต่อให้ทุกคนจะไม่เคยพบมาก่อน แต่ก็เคยเห็นรูปเหมือนเงาแสง รู้ว่านางเป็นโฉมสะคราญที่หายาก

ไม่เพียงแต่เป็นโฉมสะคราญเท่านั้น นางยังมีพรสวรรค์ล้ำเลิศ มีพลังไม่ธรรมดา เลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีอนาคตยาวไกล

นี่ทำให้คนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องที่รับคำสั่งอดคิดไม่ได้ว่า ในผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิงมีคนถูกใจเยว่เป่าฉี หมายจะตามหาหงส์

ถึงอย่างไรในตอนที่เยว่เป่าฉีอายุยังน้อย คนที่เข้าหานาง จนถึงตอนนี้เมื่อนับรวมกัน เกือบจะถมมหาสมุทรผืนหนึ่งได้เลยทีเดียว

ตัวเสวียนมู่อ๋องเคยขอหมั้นหมายเยว่เป่าฉีแทนโอรสของตัวเอง แต่หอกระบี่ทะเลเหนือปฏิเสธแล้ว

เยว่เป่าฉีเห็นสายตาของจางเสวี่ยน รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ส่งเสียงขัด

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่มีความคิดเพียงเท่านี้

จริงๆ แล้วการคาดเดาของพวกจางเสวี่ยนก็มีความเป็นไปได้ ถึงขั้นมีความเป็นไปได้มากเช่นกัน

กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอที่รู้ว่าระหว่างซือคงจิงกับเยว่เป่าฉีต้องมีการเชื่อมต่อ ก็อดคิดไกลไม่ได้

พวกเขากำลังตามหา ‘ซือคงจิง’ หรือ ‘เยว่เป่าฉี’ ที่มีอยู่หลายๆ คนหรือ?

พวกเขารู้เรื่องนี้มากเพียงใดกัน?

ในมือของพวกเขามีเบาะแสของ ‘ซือคงจิง’ คนอื่น ถึงขั้นที่จองจำ ‘ซือคงจิง’ บางคนอยู่หรือไม่?

ความสนใจของเยี่ยนจ้าวเกอพลันเพิ่มขึ้น

ความวุ่นวายของทะเลหวงเจียเบื้องหน้านี้ ตนที่อยู่ข้างในควรทำอะไร เดิมทีเขามีความคิดมากมาย

ในวินาทีนี้ กลับค่อยๆ ตัดสินใจได้แล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอมองจางเสวี่ยนด้วยรอยยิ้มกว้าง “เก้ากระบี่ผู้วิเศษหรือ? ท่านรู้ที่อยู่ของพวกเขาหรือไม่?”

จางเสวี่ยนกำลังจะเอ่ยปาก เยี่ยนจ้าวเกอก็ถามเสริมอีกว่า “บอกว่าคนที่พลังฝึกปรืออ่อนแอที่สุดอยู่ที่ไหนก็พอแล้ว”

“คนที่อ่อนแอที่สุด…” จางเสวี่ยนตอบ “ชื่อคังจิ่นหยวน ก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวที่เกาะเฉวียนหลิง ตอนนี้ยังอยู่ที่นั่นหรือไม่ข้าเองก็ไม่รู้”

เกาะเฉวียนหลิงอยู่ในบริเวณทางเหนือของทะเลหวงเจียเช่นกัน แต่ว่าค่อนข้างชิดไปทางใต้เล็กน้อย

“คังจิ่นหยวน? เหอะๆ บังเอิญนัก พอจะนับได้ว่าเป็นคนคุ้นเคย” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเล็กน้อย คังจิ่นหยวนก็คือคนที่สู้กับหนงอวี่ซวน หมายจะแย่งชิงพลังแห่งอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนในตอนนั้น

คนถึงแม้จะใจร้อนวู่วาม พลังกลับไม่ธรรมดาจริงๆ เสียดายที่หนงอวี่ซวนร้ายกาจกว่า คังจิ่นหยวนไม่อาจหาความได้เปรียบจากเขาได้แม้แต่น้อย

ต่อมาหลังจากหนงอวี่ซวนถูกเยี่ยนจ้าวเกอทำร้าย คนผู้นี้ก็ฉวยโอกาสไล่ล่าหนงอวี่ซวน ไม่รู้ว่ากำจัดอีกฝ่ายไปแล้วหรือไม่

เยี่ยนจ้าวเกอขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าหากวางค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติ เพื่อทำลายข่ายกระบี่บนเกาะโม๋หลู เกาะเฉวียนหลิงสมควรเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งของค่ายกล…”

จางเสวี่ยนมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างงงงัน ‘เขารู้จักค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติขนาดนี้เชียว?’

มุมปากของเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏรอยยิ้ม ก่อนจะดีดนิ้วครั้งหนึ่ง “ประเสริฐนัก ไปที่เกาะเฉวียนหลิง ลงมือครั้งเดียว ได้ผลลัพธ์มหาศาล”