ภาคที่ 5 บทที่ 135 การตื่นขึ้น

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 135 การตื่นขึ้น

โชคชะตาถูกเลือกโดยมือของเราเอง

แม้ว่าโชคชะตานั้นจะเสี่ยงตายก็ตาม

หากไม่ใช่เพราะเค่อเหลยซีต๋ากลับคำพูดแล้ว ซูเฉินก็คงจะไม่ทำเช่นนี้

การตื่นขึ้นของเทพอสูรที่หลับใหลอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาอยู่นั้นเป็นการกระทำที่เสี่ยงชีวิตยิ่งนัก !

ถึงอย่างนั้นซูเฉินก็ไม่มีทางเลือก

หากเค่อเหลยซีต๋ารออยู่เฉย ๆ ในคราวนี้ ซูเฉินคงสามารถส่งร่างเลียนแบบนี้ออกไปได้ห่างไกลทีเดียว แล้วจึงใช้ภูตลั่นแสงเคลื่อนย้ายกายไปยังร่างนั้น

แต่ในเมื่อเค่อเหลยซีต๋าไม่นิ่งเฉย ซูเฉินจึงจำเป็นต้องทำเช่นนั้น

มันถึงเวลาแล้วที่จะเดิมพันทุกสิ่ง !

เขาจะปลุกเทพอสูรจำศีลขึ้นมา ทุกสิ่งอย่างจะขึ้นอยู่กับความประสงค์ของสวรรค์ !!

เค่อเหลยซีต๋านั้นทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่เขาทรงพลังพอที่จะกำราบเทพอสูรหรือ ?

ความคิดของซูเฉินดำเนินไปและการกระทำของเขาก็หยาบห้วนและเรียบง่าย กระทั่งเขาก็มองว่าการกระทำของเขานั้นเป็นการฆ่าตัวตายดี ๆ นี่เอง

แต่แม้ว่าเขากำลังจะสิ้นลม เขาก็จำเป็นต้องทำมัน

ไม่มีใครสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดกาล มีหลายครั้งที่ผู้คนจำเป็นต้องนำชีวิตมาเสี่ยง

ซูเฉินไม่ลังเลที่จะพาตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เลยแม้แต่น้อย มังกรสายฟ้าเวหาเพลิงตัวแรกที่เขาสร้างขึ้นถูกใช้เพื่อฆ่าตัวตาย

การกระทำที่เสี่ยงตายอย่างถึงที่สุด !

ตู้มม ตู้ม ตู้ม ตู้ม !

มังกรสายฟ้าเวหาเพลิงบินผ่านอุโมงค์ที่ซูเฉินขุดขึ้นมาสำหรับมันล่วงหน้า

ใช่ ซูเฉินขุดอุโมงค์นี้ไว้ตั้งแต่ 3 เดือนก่อน นี่จึงทำให้เขาสามารถยืนยันได้ถึงการมีตัวตนของเทพอสูรที่หลับใหลอีกด้วย

เหตุผลที่เขาไม่ได้พยายามหลบหนีผ่านอุโมงค์ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเค่อเหลยซีต๋าจะยังสามารถควบคุมตัวเขาไว้ได้ และซูเฉินก็ได้ชะลอความหวังที่เค่อเหลยซีต๋าจะยอมให้โอกาสเขาในการออกไปอีกด้วย

แต่เค่อเหลยซีต๋าก็ไม่มอบโอกาสนั้นให้ ซูเฉินจึงทำได้เพียงยอมรับและแสดงละครต่อไป

เทพอสูรกำลังหลับใหลอยู่ราว 915 จั้งใต้ภูเขาพันพิษ ความโกลาหลเพียงเล็กน้อยที่อาจเกิดขึ้นบนผิวดินไม่สามารถรบกวนมันได้แม้แต่น้อย

แต่มังกรสายฟ้าเวหาเพลิงของซูเฉินครอบครองพลังที่ซูเฉินใช้เวลานับปีในการสร้างขึ้น มันแข็งแกร่งพอ ๆ กับวิชาอาร์คาน่าระดับ 10 เลยก็ว่าได้ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่มังกรตัวนี้จะไม่ไปปลุกเทพอสูรเข้า

“เป็นไปไม่ได้ !” เมื่อเค่อเหลนซีต้ารู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เขาก็เริ่มแผดเสียงด้วยความตกตะลึงและประหลาดใจ

เสียงคำรามนั้นเป็นการโจมตีในตัวเอง ตัวอักษรทั้ง 3 ปะทะเข้ากับมังกรสายฟ้าเวหาเพลิง เค่อเหลยซีต๋าต้องการขัดขวางมังกรสายฟ้าเวหาเพลิงก่อนที่มันจะสามารถไปถึงยังเทพอสูร

มังกรสายฟ้าเวหาเพลิงนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่คำพูดของเค่อเหลยซีต๋านั้นเร็วยิ่งกว่า พวกมันเดินทางผ่านอากาศไปด้วยความเร็วเสียงและไล่ตามหลังของมังกรสายฟ้าเวหาเพลิงไป

แต่ตัวอักษร 3 ตัวนี้ก็ไม่สามารถตามได้ทัน

เพราะซูเฉินเองก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน !

เขาพูดขึ้น “เป็นไปได้ !”

ตัวอักษร 2 ตัวถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ที่เสียงถูกห้ามไม่ให้เดินทางเข้าไป

ในพื้นที่ว่างเปล่านี้ ทุกสิ่งต่างเงียบงัน ไม่มีอากาศหมุนเวียนอีกต่อไป กระแสเสียงจึงไม่สามารถเคลื่อนผ่านได้ ดังนั้นแล้วพลังภายในตัวอักษรเหล่านี้จึงถูกลบล้างไป

นี่ก็เป็นกฎแห่งพลังเช่นกัน

กฎแห่งพลังสูญ !

ซูเฉินได้ทำการวิจัยวิชาพลังสูญในช่วงปีที่ผ่านมา

เพราะความหยั่งรู้ที่มาจากความเข้าใจของเขาเองนี้ ชายหนุ่มจึงเข้าใกล้ความสามารถในการควบคุมมันเป็นอย่างมากแม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำได้ดีนักก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นกฎแห่งพลังนี้เองที่ดูจะสามารถช่วยเขาหลบหนีไปได้มากที่สุด

โชคไม่ดีนักที่เขายังไม่ไปถึงจุดสูงสุดของสิ่งที่รู้อยู่แล้ว จึงยังเป็นเรื่องยากที่เขาจะสำรวจสิ่งที่ไม่รู้ได้

แม้ว่าซูเฉินจะคำนวณและแผ่ขยายความฐานความรู้ของเขาออกไปอย่างต่อเนื่อง ความเข้าใจในพลังสูญของเขาก็ยังคงจำกัดอยู่มาก

เขาไม่สามารถใช้ความเชี่ยวชาญในวิชาพลังสูญเพื่อหลบหนีได้ แต่เขาสามารถผสมผสานมันเข้ากับความหยั่งรู้ในกฎแห่งพลังสายฟ้าเพื่อป้องกันเสียงจากการเดินทางผ่านพื้นที่ว่างเปล่าสักที่หนึ่งได้

มันได้ลบล้างวิชาที่เค่อเหลยซีต๋าพึ่งพาเป็นอย่างมากออกไปโดยสมบูรณ์ และกฎแห่งพลังสายฟ้าของเขาก็ไร้ประโยชน์ไปโดยทันที

อย่างน้อยที่สุดก็ไร้ประโยชน์ในบางพื้นที่

3 ตัวอักษรนั่นปรากฏขึ้นอีกครั้งในอากาศ แต่คราวนี้พวกมันไม่ได้มาจากเค่อเหลยซีต๋า ซูเฉินได้ใช้กำลังนำมันกลับมาอีกครั้ง

ตัวอักษรเหล่านี้ล้วนบิดเบี้ยวและหงิกงออยู่ในอากาศราวกับว่าพวกนั้นไม่เต็มใจ พวกมันส่งคลื่นแปลกประหลาดกลับไปยังจิตใจของซูเฉิน

เป็นไปไม่ได้ ! เป็นไปไม่ได้ ! เป็นไปไม่ได้ !

เสียงดังสนั่นจากตัวอักษรทั้ง 3 สะท้อนไปมาในหัวของเขา ทำให้กระทั่งซูเฉินยังรู้สึกได้ถึงคลื่นความวิงเวียนที่อาบไปทั่วทั้งร่างกายในทันใด

แค่เขาก็สามารถอดทนผ่านมันมาได้ในท้ายที่สุด

หลังจากที่ต่อต้านคลื่นเสียงที่ทะลุเขาไปในสมองของเขาแล้ว เขาก็สามารถหยุดตัวอักษรทั้ง 3 ลงได้ในที่สุด

มังกรสายฟ้าเวหาเพลิงได้ไปถึง 1 ใน 3 ของเส้นทางภายในอุโมงค์แล้ว

เค่อเหลยซีต๋าดูกระวนกระวายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“แตก !” เขาตะโกนเสียงดังลั่น

คราวนี้มันเป็นเพียงตัวอักษรเดียว แต่ 1 ตัวอักษรนั้นดังก้องไปด้วยพละกำลังมหาศาล ในขณะเดียวกันเกราะเสียงของซูเฉินก็เริ่มส่งเสียงแตกร้าวประหลาดออกมา กฎแห่งพลังโลหะนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้มันได้เข้าห่อหุ้มเกราะเสียงของซูเฉินไปโดยสมบูรณ์

การใช้งานทั้งกฎแห่งพลังสายฟ้าและโลหะอย่างต่อเนื่องเป็นภาระต่อเค่อเหลยซีต๋าไม่น้อยทีเดียว แต่เพื่อที่จะขัดขวางมังกรสายฟ้าเวหาเพลิงจากการไปถึงยังเป้าหมายของมัน เค่อเลยซีต๋าก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว

แม้เกราะเสียงนั้นจะพังทลายลงแล้ว ตัวอักษร ‘แตก’ ก็ยังคงจู่โจมอย่างดุร้ายต่อไป

ตัวอักษรนี้ช่างอัศจรรย์โดยแท้จริง มันผสมผสานไปด้วยพลังที่ไร้ขีดจำกัด หากมันต้องการให้พังลง เกราะพลังสูญก็จะพังลง และมังกรสายฟ้าเวหาเพลิงก็เช่นกัน !

รอยแผลเป็นขนาดมหึมาปรากฏขึ้นบนพื้นดินขณะที่ตัวอักษรนั่นนำความหายนะมาสู่สิ่งต่าง ๆ โดยรอบ

“เปิด !” ซูเฉินตะโกนกลับไป

กฎแห่งพลังสายฟ้าของเขานั้นอ่อนแอกว่าเค่อเหลยซีต๋าอยู่มาก เพราะเขาไม่สามารถควบคุมมันได้แม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาความหยั่งรู้ของตัวเอง

เขามีโทเทมวิญญาณสายลมและสายฟ้าซึ่งมีกฎแห่งพลังในตัวของตัวเอง แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้เป็นของเขา เขาก็ยังสามารถใช้มันได้

ซูเฉินไม่ลังเลที่จะนำเอาพลังนี้ออกมาเพื่อจัดการกับเค่อเหลยซีต๋า

ขณะที่เขาคลายปีกออกมา แสงสายฟ้าและสายลมก็ปรากฏขึ้นก่อนที่จะปะทะเข้ากับตัวอักษร ‘แตก’

กฎแห่งพลังประสานงากันและส่งประกายไฟออกไปทุกทิศทาง

กระแสกฎแห่งพลังล่องหนนี้ราวกับมีร่างกายภาพขึ้นมา พวกมันไม่เพียงมีความรู้แต่ยังมีกระทั่งพลังงานอยู่ด้วย !

ใครก็ตามที่มองดูอยู่อาจกระทั่งรู้สึกได้ถึงความเข้าใจชั่ววูบ

โชคไม่ดีที่ความคิดชั่วขณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักจึงมีคนจำนวนไม่มากที่มีคุณสมบัติในการมองเห็นมัน

นอกจากนั้น การโจมตีครั้งที่ 2 ของเค่อเหลยซีต๋าก็ได้หยุดชะงักลงแล้ว !

ในตอนนี้มังกรสายฟ้าเวหาเพลิงได้เดินทางไปถึง 2 ใน 3 แล้ว แต่ยิ่งมันเข้าไปลึกเท่าไรก็ยิ่งดำเนินไปได้ยากขึ้นเท่านั้น

เค่อเหลยซีต๋าทั้งโมโหและตกตะลึง ถึงตอนนี้เขาก็กำลังทุ่มสุดตัวแล้วเช่นกัน !!

เขาปลดปล่อยทำนบคำพูดออกมาปกคลุมทั่วทั้งฟากฟ้าด้วยพลังต้นกำเนิดที่พวยพุ่งไปสู่ศูนย์กลาง

เค่อเหลยซีต๋ากำลังใช้พลังทั้งหมดของการเป็นปรมาจารย์อาร์คาน่าระดับตำนานในวินาทีนี้ !

แม้ว่ากฎแห่งพลังจะน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ทว่ามันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป ที่จริงแล้วเค่อเหลยซีต๋านั้นเหมือนกับเด็กน้อยในการใช้กฎแห่งพลัง กลับกัน ความเชี่ยวชาญในการใช้พลังต้นกำเนิดของเขาเองก็ไม่มีใครเทียบเคียงได้ !

ด้วยวิชานี้ เขาได้ผนวกรวมกฎแห่งพลังเข้ากับพลังต้นกำเนิดของเขาและปลดปล่อยวิชาอาร์คาน่าระดับต้องห้ามออกมา

หอกอัสนีสังหารเทพ !

ชื่อของมันทำให้ดูราวกับว่าหอกนี้นั้นทรงพลังมากพอที่จะสังหารเทพเจ้าได้ !

แม้ว่ามันจะเป็นการกล่าวเกินจริงอย่างชัดเจน มันก็ยังแสดงถึงภาพลักษณ์ที่เกรงขามของหอกเล่มนี้

เมื่อหอกอัสนีสังหารเทพปรากฏขึ้น ท้องฟ้าก็เริ่มหม่นหมองลงขณะที่ภาพขนาดมหึมาของเทพเจ้าปรากฏกายขึ้นเหนือเขาพันพิษ ภาพนั้นเอื้อมมือขึ้นไปบนฟ้า ทำให้เสียงฟ้าคำรามและสายฟ้าโบยบินไปทั่วทั้งผืนนภาเพื่อก่อตัวขึ้นเป็นหอกขนาดยักษ์… แล้วจึงขว้างมันลงมายังพื้นเบื้องล่างอย่างกราดเกรี้ยว !!

หอกสายฟ้าฟาดไล่ตามมังกรสายฟ้าเวหาเพลิงอย่างดุร้าย

เมื่อเขาเห็นเช่นนั้น ดวงตาของซูเฉินก็เริ่มเปล่งประกาย “เป็นทักษะที่สุดยอดจริง ๆ!”

ซูเฉินไม่สามารถต่อต้านทักษะเช่นนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

แต่เขาก็ไม่คิดจะหยุดมันอยู่แล้ว

เขาไม่เพียงนิ่งเฉยและไม่ขัดขวางมัน เขากระทั่งเสริมแรงผลของมันอย่างสุดความสามารถ

“ถ้าเจ้าอยากจะทำลายทักษะของข้า ข้าช่วยเอง !”

ตู้มม !

เมื่อหอกสายฟ้าทรงพลังพุ่งออกมาข้างหน้า กฎแห่งพลังสายฟ้าของซูเฉินก็เริ่มผสมผสานเข้าด้วยเช่นกัน เขากำลังช่วยเหลือหอกอัสนีสังหารเทพเล่มนี้ด้วยการพยายามเพิ่มอิทธิฤทธิ์ของมัน

“แย่แล้ว !” เค่อเหลยซีต๋านึกขึ้นได้ว่าซูเฉินกำลังคิดจะทำสิ่งใดเมื่อเขาเห็นดังนั้น

โชคไม่ดีนักที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้

เขาคือผู้เดียวที่สามารถปลดปล่อยหอกนี้ได้และใช้พลังทั้งหมดของเขาเป็นเชื้อเพลิง ตอนนี้เมื่อซูเฉินเสริมแรงให้มันด้วย หอกนั้นจึงได้ไปถึงขีดจำกัดที่มันจะสามารถสร้างได้… แล้วเขาจะหยุดมันลงได้อย่างไร ?!

หอกสายฟ้าฟาดพุ่งลงสู่พื้นดิน มันตามไล่ทันมังกรสายฟ้าเวหาเพลิงอย่างรวดเร็วและแทงทะลุร่างของมัน

“โฮก !” มังกรสายฟ้าเวหาเพลิงแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส

มังกรตัวนี้สร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งของซูเฉิน มันไม่เพียงประกอบขึ้นด้วยทั้ง 3 ธาตุ ลม ไฟ และสายฟ้า แต่มันยังบรรจุพลังชีวิตของเขาอีกด้วย ดังนั้นแล้วซูเฉินจึงรู้สึกราวกับว่าตัวเขาเองได้ถูกฟาดฟันด้วยหอกเล่มนั้น ขณะที่มังกรนั้นคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ซูเฉินก็ทำได้เพียงส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดเช่นกันก่อนจะกระอักเลือดออกมาท่วมปาก

นั่นไม่ควรจะเกิดขึ้นแต่มันก็เกิดขึ้นอยู่วันยังค่ำ

ทว่าซูเฉินไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย ที่จริงแล้วเขากำลังร่าเริงด้วยซ้ำ “การเชื่อมต่อพลังหรือ ?”

บาดแผลนี้ทำให้เขาสามารถสังเกตการณ์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ลึกลงไปในความลับของพลัง

นี่เป็นลักษณะนิสัยของผู้ใฝ่หาความรู้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร พวกเขาก็จะอิ่มเอมใจตราบใดที่พวกเขาสามารถค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ได้

แน่นอนว่าไม่ว่าการค้นพบนั้นจะมีประโยชน์หรือไม่ในอนาคตนั้นยังต้องรอดูกันต่อไป

มังกรสายฟ้าเวหาเพลิงถูกทำลายลงและซูเฉินก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่แรงเหวี่ยงในหอกอัสนีสังหารเทพก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย กลับกัน มันยังคงเจาะทะลวงลงในพื้นดินต่อไป

ใช่แล้ว การโจมตีนี้นั้นทรงพลังเกินไป กระทั่งหลังจากที่ทำลายมังกรสายฟ้าเวหาเพลิงแสนทรงพลังลงแล้ว มันก็ยังคงมุ่งหน้าต่อไป

ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เค่อเหลยซีต๋าต้องการ !

“ไม่ !” เขาตะโกนอีกครั้ง

แต่ในวินาทีนี้เขาไม่ใช้งานกฎแห่งพลังสายฟ้า การกูร้องนี้ก็เป็นหนึ่งในความสิ้นหวังที่แท้จริง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง ซูเฉินได้เผยยิ้มจางออกมา

ใช่ เขาได้คาดการณ์ไว้เมื่อนานมาแล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น

เขาได้อาศัยอยู่ในพื้นที่หวงห้ามนี้มานานจนสามารถคาดการณ์สิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย สิ่งใดก็ตามที่เค่อเหลยซีต๋าอาจทำได้นั้นถูกชายหนุ่มคาดเดาไว้หมดแล้ว สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นหนึ่งในความเป็นไปได้ที่เขาได้คาดไว้เช่นกัน นี่คือเหตุผลที่ซูเฉินสามารถใช้มันเป็นข้อได้เปรียบได้อย่างรวดเร็ว

ถ้าเจ้าใช้การโจมตีที่ไม่สามารถถูกป้องกันได้แล้วยังไงล่ะ ? ถ้ามันทรงพลังถึงขนาดนั้น ข้าจะทำให้มันทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อปลุกเทพอสูรขึ้นมาด้วยความช่วยเหลือของเจ้า !!

ตู้ม !

หอกอัสนีสังหารเทพขุดเจาะไปตามพื้นดินและปะทะเข้ากับเป้าหมายของมันในที่สุด สร้างคลื่นสั่นสะเทือนของฟ้าร้องและฟ้าผ่าออกไปทั่วทุกทิศทาง พลังจากหอกนี้ไม่มีที่อื่นใดให้แพร่กระจายไป มันจึงพุ่งตรงกลับออกมาจากหลุมและปกคลุมทั่วทั้งผืนฟ้าไปด้วยสายฟ้าที่ส่องประกายเรืองรอง

ถึงอย่างนั้นเค่อเหลยซีต๋าและซูเฉินต่างก็ไม่สนใจภาพที่เกิดขึ้นนี้แม้แต่น้อย

พวกเขาไม่ได้ใส่ใจมันเลยสักนิดแต่กำลังใส่ใจกับสิ่งที่จะตามมาต่างหาก

แต่… ไม่เกิดอะไรขึ้น ?

การโจมตีจางหายไปเท่านั้นเองหรือ ?

ไม่มีผลตอบรับหรือ ?

เค่อเหลยซีต๋าและซูเฉินต่างก็ตกตะลึง

มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน ?

การโจมตีนั้นปะทะเข้ากับเป้าหมายอย่างแน่นอน แล้วทำไมถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยล่ะ ?

เค่อเหลยซีต๋าและซูเฉินมองหน้ากันและกันด้วยความตกใจ

แล้วเค่อเหลยซีต๋าก็เริ่มเผยยิ้มออกมา

“ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า !” เค่อเหลยซีต๋าเริ่มแผดเสียงหัวเราะดังสนั่น

งั้นเขาก็ล้มเหลวในตอนสุดท้ายใช่ไหม ? ซูเฉินถอนหายใจ

เขาทำการคำนวณครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่มีการคำนวณใดนำไปสู่ผลลัพธ์นี้

แต่ในวินาทีนั้นเองเขาพันพิษก็เริ่มสั่นไหว

ผืนดินสั่นสะท้านอย่างรุนแรงขึ้นครั้งหนึ่ง

เค่อเหลยซีต๋าและซูเฉินต่างตัวแข็งทื่อในเวลาเดียวกัน

ท่าทางของเค่อเหลยซีต๋าดิ่งลงขณะที่เขาพูดเป็นครั้งที่ 3 “ไม่ !”

“โฮกกก !!!!!!!!!!”

เสียงคำรามเกรี้ยวกราดแยกแผ่นดินดังกึกก้องขึ้นไปทุกทิศทาง