บทที่ 552 จะตายแล้ว

หลินชิงเหอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองยังจะสามารถตั้งท้องได้อีกครั้ง

ดูเหมือนหมอดูที่ดูดวงให้เมื่อปีก่อนจะมีแปรงสองด้าม*จริง ๆ เสียแล้ว ในขณะที่หลินชิงเหอไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยด้วยซ้ำ

(*สำนวนจีนแบบชาวบ้าน หมายถึง คนมีกึ๋นหรือมีความสามารถ)

เธอทำหมันแบบผูกไปแล้ว อัตราที่จะตั้งท้องมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย น้อยถึงขนาดที่ไม่ต้องคาดหวังแล้วแบบนั้นเลย

แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอได้ตั้งครรภ์แล้ว

เช้าวันถัดมาเธอจึงลากโจวชิงไป๋ไปตรวจด้วยกัน ระยะเวลาที่ตั้งครรภ์นั้นสั้นมาก เกรงว่าน่าจะเป็นหลังจากปีใหม่แค่ 2 หรือ 3 วัน

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอท้องแล้วจริง ๆ

ตอนที่หลินชิงเหอดูผลการตรวจ เธอก็ได้ทำใจไว้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพอผลตรวจออกมาจริง ๆ ก็อดที่จะนิ่งอึ้งไม่ได้เลย

แต่โจวชิงไป๋ที่ยืนอยู่ข้างกายนั้น ตั้งแต่ลุกขึ้นมาแปรงฟันแล้วเธอบอกว่าจะมาตรวจจนถึงตอนนี้ก็ยังคงยิ้มไม่หุบ

ตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เขาเดินไปตรงมุมห้องแล้วยิ้มหัวเราะกับตัวเองอยู่อย่างนั้น

หลินชิงเหอมองเขาหัวเราะด้วยสีหน้าว่างเปล่า พอหัวเราะเสร็จเขาก็เดินมาประคองเธอไว้

ตอนนี้หลินชิงเหอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นซูสีไทเฮาไม่มีผิด ตรงที่ถูกหนุ่มน้อยประคองออกมา แล้วพาขึ้นรถกลับบ้าน

หลังจากถูกโจวชิงไป๋ประคองกลับมาถึงบ้าน หลินชิงเหอก็เพิ่งจะได้สติกลับมา หลังจากนั้นก็มองโจวชิงไป๋ “ทำยังไงกันดีคะ?”

“คลอด!” โจวชิงไป๋พูดเพียงหนึ่งคำ

เขาฝันตั้งแต่ปีใหม่วันแรกถึงปีใหม่วันที่สาม ในฝันเขามีลูกสาวตัวอ้วน ๆ ขาว ๆ เหมือนนางฟ้าตัวน้อย ๆ

ตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่าลูกของเขากำลังจะมาแล้ว ดูสิ ตอนนี้หล่อนมาจริง ๆ แล้ว

“ถ้าต้องคลอดจริง ๆ ละก็ งานของฉันจะทำยังไงคะ?” หลินชิงเหอพูด

งานของเธอคิดว่าน่าจะทำต่อไปไม่ได้แล้ว แน่นอนว่าภายในครึ่งปีแรกนี้นั้นยังพอไหว แต่ครึ่งปีหลังที่หล่อนต้องคลอดลูก นั่นเกรงว่าจะไม่ได้แล้ว

เพราะหากคลอดแล้ว เธอก็คงจะรักษาหน้าที่การงานเอาไว้ไม่ไหวแน่ ตามกฎแล้วทางมหาวิทยาลัยไม่น่าจะเก็บเธอไว้

ถ้าเป็นหลังจากนี้ล่ะก็คงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ แต่จากสถานการณ์ตรงหน้าเธอควรจะต้องหลบซ่อนตัวเสียแล้ว ตอนนี้กฎหมายวางแผนครอบครัวรุนแรงมาก

“คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ รออากาศอบอุ่นขึ้นก่อน แล้วพวกเราค่อยไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้กัน” โจวชิงไป๋พูด

“ไปคลอดที่เซี่ยงไฮ้เหรอคะ?” หลินชิงเหอมองเขาอย่างแปลกใจ

“ไม่ดีเหรอ? พวกเราซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ปักกิ่งแล้ว ส่วนที่เซี่ยงไฮ้ยังไม่มี ตอนนี้ไม่ใช่ว่าได้เวลาพอดีแล้วหรือครับ” โจวชิงไป๋พูด

สำหรับทางนี้ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงแล้ว มีลูกชายสองคนอยู่ ร้านเกี๊ยวไม่เปิดก็ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าลูกสาวที่เขารอมีหลายสิบปี

“เราไม่คุ้นที่คุ้นทางเลยนะคะ” หลินชิงเหอกลอกตา หนีไปคลอดถึงเซี่ยงไฮ้เลยหรือ? นี้ออกจะเกินไปหน่อยแล้วมั้ง

“ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่” โจวชิงไป๋พูด

หลินชิงเหอเหลือบมองเขา และสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นที่แผ่ออกมาจากดวงตาเขา คนที่มีชีวิตปกติสุขอยู่ดี ๆ ก็เหมือนโดนพายุฝนพัดกระหน่ำ

“อยู่แบบปกติก็พอ หรือจะคลอดอยู่ที่นี่ แล้วพวกเราก็จ่ายค่าปรับไป ก็ไม่ต้องกังวลว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว” หลินชิงเหอพูด

“ไม่ได้ เราจะโดนจับ” โจวชิงไป๋ส่ายหัว

หลินชิงเหอถอนหายใจ “คุณดูคุณสิ พวกเราจะมีชีวิตดี ๆ คุณก็ไม่เอา ยังจะทำให้ตัวเองลำบากทำไมก็ไม่รู้”

ที่จริงแล้ว หากเงื่อนไขอนุญาตให้มีลูกมากได้ และตราบใดที่เด็กได้รับการศึกษาที่ดี หากมองต่อไปในอีก 10-20 ปี ทั้งครอบครัวจะเต็มไปด้วยชายร่างสูงใหญ่ ผู้หญิงรูปร่างผอมเพรียวหน้าตาดี พอนั่งกินเลี้ยงปีใหม่ไม่ใช่ว่านั่นจะดีมาก ๆ เลยหรือ?

หลินชิงเหอเข้าใจกฎเกณฑ์ดี แต่เมื่อหล่อนลูบท้องของตัวเองที่ยังไม่มีความรู้สึกอะไร เธอก็รู้สึกว่าที่จริงมันไม่ต้องมีก็ได้

เธอแทบจะเป็นคุณย่าคนหนึ่งอยู่แล้ว ใครจะรู้ว่ายังสามารถมีลูกสาวอยู่ได้อีก

“ภรรยา คุณอย่าน้อยใจเลย แค่คนเดียวเอง นี่คือสิ่งที่ถูกลิขิตมาแล้วว่าให้คุณมีลูกสาว ต่อให้ไม่อยากมีคุณก็หยุดไม่ได้หรอก” โจวชิงไป๋พูด

หลินชิงเหอไม่เชื่อสิ่งที่หมอดูคนนั้นทัก แต่โจวชิงไป๋กลับเชื่อสนิทใจไม่รู้สึกสงสัยเลยสักนิดเดียว แม้แต่ภรรยาของเขายังมาจากอนาคตได้ มีเรื่องแปลกประหลาดแบบนี้เกิดขึ้นมาได้ แล้วยังมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก?

หลินชิงเหอมองค้อนเขาทีหนึ่ง โจวชิงไป๋หัวเราะและแกะส้มให้เธอทาน หลินชิงเหอกินไปก็พูดไป “ฉันยังไม่ทันได้เตรียมใจเลย”

เธอคิดว่าเป็นไปไม่ได้มาโดยตลอด แล้วจู่ ๆ ก็มีขึ้นมาแบบนี้ มันกะทันหันเกินไปจริง ๆ

“ไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ตอนนี้ครอบครัวของเรามีพร้อมทุกอย่าง คุณสนใจแค่เรื่องคลอดลูกก็พอ ที่เหลือให้ผมจัดการเอง” โจวชิงไป๋พูด

เขาทำงานเต็มเวลาเตรียมตัวเป็นทั้งแม่ทั้งพ่อมาตั้งกี่ปีแล้ว? ภรรยาของเขายังไม่เตรียมตัวเตรียมใจก็ไม่เป็นไร มีแค่เขาก็พอแล้ว!

หลินชิงเหอกินส้มแล้วก็กินแอปเปิลอีกหนึ่งลูก หลังจากนั้นเธอก็บอกว่าจะขึ้นเตียงนอนแล้ว

“ภรรยา คุณอยากจะลาออกจากงานปีนี้เลยไหม” โจวชิงไป๋พูดเสียงแผ่วเบา

“รอไปก่อนเถอะค่ะ!” หลินชิงเหอพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดี

ลาออกหรือ? นั่นเป็นไปไม่ได้เสียหรอก เธอยังอยากทำงานอยู่นะ!

หลินชิงเหอเริ่มล้มตัวลงนอน น่าจะเป็นเพราะตั้งครรภ์ เธอจึงหลับไปอย่างรวดเร็ว

โจวชิงไป๋มองเธอสักพัก เขาก็ผละตัวออกไปหาพ่อกับแม่ของเขาเพื่อบอกข่าวดี

ท่านพ่อท่านแม่โจวแล้วก็โจวเสี่ยวเหมยอยู่ที่นี่กันหมด ซูต้าหลินอยู่ที่ร้านซาลาเปาที่นั่นไม่ได้อยู่ที่บ้าน ดังนั้นจึงไม่ได้ฟังข่าวอันน่าตกใจนี้ตั้งแต่แรก

“ท้องจริง ๆ หรือนี่? ฉันนึกว่าพี่สี่พูดเล่นเสียอีก!” โจวเสี่ยวเหมยพูดอย่างงงงัน

“นี่ถ้าเป็นลูกสาวนะ อาสี่คงจะปลื้มใจแย่” ท่านแม่โจวก็รู้สึกดีใจมากเช่นกันพูดพร้อมยิ้ม

ท่านพ่อโจวกลับขมวดคิ้วมุ่น “เจ้าใหญ่ก็โตขนาดนั้นแล้ว บ้านของอาสี่ก็ยังทำงานอยู่เหมือนกัน…”

เป็นเรื่องยากที่ท่านพ่อโจวจะมีความคิดเหมือนกับหลินชิงเหอ เขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีลูกอีกคนแล้วเลย

“คุณพูดอะไรคะเนี่ย พูดอะไรอยู่!” ท่านแม่โจวพูด “ไม่พอใจที่ครอบครัวจะมีคนเยอะขึ้นหรือไงคะ? ยิ่งไม่ใช่เหตุผลว่าพวกเขาเลี้ยงไม่ไหวด้วย ตอนนี้ครอบครัวของอาสี่มีพร้อมขนาดนี้แล้ว หลังจากนี้พวกเขาต้องเลี้ยงลูกให้เรียนมหาวิทยาลัยได้สบาย ๆ ได้เช่นกัน คุณยังสงสัยว่าครอบครัวเราจะขาดเด็กมีการศึกษาอีกหรือคะ?”

“นี่ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าใหญ่อายุเยอะขนาดนี้แล้วหรือไง?” ท่านพ่อโจวพูด

“ก็เจ้าใหญ่กับน้อง ๆ โตขนาดนี้แล้วไงคะพวกเราถึงสามารถวางใจได้ เลี้ยงแค่คนเดียวเอง พวกเด็กโต ๆ ก็ช่วยกันเลี้ยงได้” ท่านแม่โจวพูด

“ในเมื่อตอนนี้มีไปแล้ว อย่างไรก็ต้องเก็บเอาไว้ แต่งานของพี่สะใภ้สี่ล่ะจะทำยังไงคะ?” โจวเสี่ยวเหมยมองไปที่พี่ชายสี่ของเธอ

“ครึ่งปีแรกยังให้สอนต่อไปได้ ส่วนครึ่งปีหลังก็ไม่ต้องสอนแล้วครับ” โจวชิงไป๋พูด

“นั่นมันจะเหนื่อยขนาดไหนคะเนี่ย?” โจวเสี่ยวเหมยพูด

“พี่สะใภ้สี่ของเธอเป็นคนพูดเอง” โจวชิงไป๋พูด ที่จริงเขาอยากจะพูดว่าให้เธอหยุดอยู่บ้านดีกว่า แต่เขาไม่กล้าพูด ไม่อย่างนั้นเขาจะเร่งรัดภรรยาเกินไป

หลินชิงเหอวางแผนไว้อย่างนี้จริง ๆ เธออยากจะไปทำงาน แต่ก็จนปัญญาเพราะข้อบังคับไม่อนุญาต

เมื่อวานที่กินซุปไก่ใส่เกี๊ยวเนื้อแกะเธอก็เริ่มรู้สึกคลื่นไส้แล้ว และตั้งแต่ตอนนั้นความอยากอาหารก็เริ่มลดลง และเริ่มอาเจียนบ่อยครั้งขึ้น

อาการของหลินชิงเหอยิ่งรุนแรงขึ้นก่อนจะเปิดภาคการศึกษา เธอตื่นมาตอนเช้าแล้วอาเจียนออกมาจนหมด โจวชิงไป๋ต้องคอยลูบหลังให้อยู่ตลอด

ส่วนโจวเฉวี่ยน โจวกุยหลาย และกังจือต่างก็พากันสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน

“ม้าครับ ดีขึ้นหรือยัง” โจวกุยหลายส่งน้ำอุ่นมาให้เธอและเอ่ยถาม

“จะตายแล้ว” หลินชิงเหอรับน้ำมาล้างปาก และดื่มน้ำที่เหลือลงไปถึงจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ทุกคนคะ ปรบมือแสดงความยินดีหน่อยค่ะ อาจารย์หนานฟางฯไม่แกงพวกเราแล้ว ลูกสาวพ่อกับแม่มาแล้วจริง ๆ ค่ะ แง /ซับน้ำตาด้วยความตื้นตัน/

สามพี่น้องเตรียมกินอาหารสุนัขได้เลยค่ะ น้องสาวมาแล้ว โดนแย่งความรักแน่ๆ

จะว่าไปก็สงสารแม่นะคะ มามีน้องตอนอายุเยอะขนาดนี้แล้ว มันไม่สนุกเลยค่ะ

ไหหม่า (海馬)