ตอนที่ 829: ความโศกเศร้าของมังกรทองเทวะ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 829: ความโศกเศร้าของมังกรทองเทวะ

หลายวินาทีต่อมา เสียงคำรามดังก้องมาจากภายนอกของถ้ำ มันทำให้หินที่ปกคลุมอยู่หน้าถ้ำสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง

ภายในถ้ำ มนุษย์ 2 คนและสัตว์อสูรกลั้นหายใจเอาไว้ พวกเขาไม่กล้าที่จะหายใจออกมาเสียงดังเพราะกลัวว่ามันจะทำให้วิญญาณมังกรด้านนอกรู้ตัว พวกเขาเหมือนจักจั่นในฤดูหนาวที่เงียบเชียบ มีวิญญาณมังกรระดับ 7 สิบกว่าตัวถ้าไม่นับระดับ 8 ที่พวกเขาก็ไม่สามารถรับมือได้แน่ ๆ กลุ่มที่ทรงพลังขนาดนี้มีเพียงเซียนราชาขั้นสูงเท่านั้นที่จะมีความสามารถพอที่จะเผชิญหน้าด้วย

อีกทั้งกฎของธรรมชาติที่แตกต่างที่มีอยู่ในมหาสมุทรดวงดาวอีก มันแตกต่างจากความลึกลับของโลกภายนอก ทั้งเซียนผู้คุมกฎและเซียนราชาไม่สามารถใช้ความสามารถได้เมื่อเข้ามาในสถานที่นี้ ไม่มีเซียนราชาธรรมดาที่สามารถเผชิญหน้ากับวิญญาณมังกรในที่นี่ได้ ซึ่งไม่น้อยไปว่าเจี้ยนเฉินเลย

เสียงคำรามของวิญญาณมังกรสั่นสะเทือนพื้นดินและทำให้แม้แต่ท้องฟ้ายังสั่นไหวไปด้วย คลื่นเสียงที่ทรงพลังทำให้เกิดรอยแยกหนารอยแล้วรอยเล่าบนหินนับไม่ถ้วนบริเวณรอบ ๆ และแม้แต่ภูเขาหลายลูกก็ยังพังทลายลงมาด้วย

เสียงคำรามเกิดขึ้นด้านนอกของถ้ำที่พวกเขากำลังซ่อนตัวอยู่ เสียงที่น่ากลัวทะลุผ่านหินที่กีดขวางอยู่และเข้าไปในหูของเจี้ยนเฉิน ทำให้หัวของเขาเกิดเสียงวิ้งอย่างต่อเนื่อง เขาเหมือนหูหนวกไปชั่วคราว ไม่สามารถที่จะได้ยินอะไรเลย นอกเหนือไปกว่านั้น ภายในเสียงคำรามของมังกร เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายมังกรที่ยิ่งใหญ่ เหมือนกับนายเหนือหัวที่ปกครองอยู่และทุก ๆ คนต้องยอมรับตาม

เสียงคำรามของมังกรที่เสียดหูได้เริ่มที่จะเบาลงเรื่อย ๆ ในที่สุด วิญญาณมังกรระดับ 8 อยู่ในรูปแบบวิญญาณ ดังนั้นมันจึงไม่มีสติปัญญา ไม่พบที่ซึ่งเจี้ยนเฉินกำลังซ่อนตัวอยู่

เมื่อได้ยินเสียงคำรามของมังกรดังไกลออกไปแล้ว เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็ถอนหายใจออกมาด้วยคาวมโล่งอก เมื่อคิดถึงภาพที่น่ากลัวก่อนหน้านี้ พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความกลัวที่กำลังลอยเข้ามา ถ้าวิญญาณมังกรระดับ 8 ไล่ตามพวกเขาทัน พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าสถานการณ์แบบไหนที่พวกเขาจะต้องเผชิญ

บางทีพวกเขาทั้งสองอาจจะไม่สามารถออกไปจากมหาสมุทรดวงดาวได้เลย และกลายเป็นศพอยู่ที่นี่ตลอดกาล ก่อนที่จะกลายเป็นสิ่งที่เหมือนพวกศพมีชีวิตนั่น

เมื่อวิญญาณมังกรระดับ 8 จากไป วิญญาณมังกรระดับ 7 ก็ตามไปติด ๆ พวกมันบินผ่านถ้ำและตามวิญญาณมังกรระดับ 8 ไป

ตอนที่วิญญาณมังกรทั้งหมดจากไปแล้ว เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็กล้าที่จะยืดตัวและถอนหายใจออกมายาว

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ไปถึงที่ท้ายของถ้ำและเอาไข่มุกราตรีขนาดเท่ากำปั้นออกมาแปะไว้ที่เพดานของถ้ำ นางพูด “พวกเราได้ไปดึงดูดความสนใจของพวกวิญญาณมังกรเหล่านั้นเข้า อ้างอิงจากการเคลื่อนไหวของพวกมัน พวกมันคงลาดตระเวนอยู่แถวนี้สักช่วงเวลาหนึ่ง ดังนั้นมันคงจะดีที่สุดถ้าพวกเราไม่ออกไปข้างนอกในช่วงวันเหล่านี้ พวกเราอยู่ที่นี่และรอให้วิญญาณมังกรทั้งหมดจากไปก่อนที่จะออกไปเสี่ยงภัยด้านนอก”

“ท่าน วิญญาณมังกรคืออะไร ? ทำไมพวกมันถึงได้ปรากฏขึ้นมา ? ไม่ใช่ว่าตระกูลมังกรโบราณได้หายไปแล้วอย่างนั้นหรือ ? ทำไมถึงมีวิญญาณมังกรที่นี่ในตอนนี้ได้” เจี้ยนเฉินถามด้วยความสงสัย เขารู้ดีว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นมีความเข้าใจอย่างดีเกี่ยวกับมหาสมุทรดวงดาว เขาหวังว่าจะได้รับคำตอบจากนาง

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เดินไปที่มุมและนั่งลง หลังจากนิ่งไปสักพัก นางก็เริ่มที่จะตอบกลับ “ภายในตระกูลมังกรโบราณ มีสุสานอยู่ สุสานนี้เป็นเพียงสุสานเดียวของตระกูลทั้งหมด ตลอดเวลาในประวัติศาสตร์แล้ว สมาชิกของตระกูลมังกรทุกคนจะถูกฝังอยู่ที่นี่หลังจากที่พวกเขาตาย ไม่ว่าพวกเขาจะมีฐานะระดับไหนก็ตามในตระกูล วิญญาณมังกรที่เจ้าพบนั้นเกิดจากสุสาน”

“ข้าเคยได้อ่านบันทึกที่เกี่ยวกับสุสานในเมืองทหารรับจ้าง เห็นได้ชัดว่า มันไม่มีวิญญาณมังกรในตอนแรก อย่างไรก็ตาม เมื่อตระกูลมังกรหายไป เกาะก็ได้เปลี่ยนไปและได้กลายเป็นที่ซึ่งอันตรายที่สุดเขตหนึ่งในทวีปซึ่งก็คือมหาสมุทรดวงดาว วิญญาณมังกรเริ่มที่จะเกิดขึ้นในสุสานด้วยเหตุผลบางอย่าง วิญญาณมังกรเหล่านี้ทรงพลังมากแต่มันก็ยังขาดสติปัญญา พวกมันยังคงจำสิ่งที่มันได้เคยเรียนรู้มาตั้งแต่ครั้งที่ยังมีชีวิตและยังคงมีความแข็งแกร่งเช่นเดิม พวกมันมีอยู่ในรูปแบบพิเศษซึ่งไม่ต่างจากศพมีชีวิต พวกมันไม่สามารถฆ่าได้ แม้ว่าเจ้าจะทำลายวิญญาณของมัน พวกมันก็จะคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในสุสานและกลับไปแข็งแกร่งสูงสุดเหมือนเดิม”

“มีวิญญาณมังกรอยู่จำนวนเท่าใดกันในสุสาน ? ” เจี้ยนเฉินเคร่งเครียด ใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ทำไมตระกูลมังกรถึงได้หายไป ? เกิดอะไรขึ้นทำไมเกาะถึงได้แปลกไป ? ศพมีชีวิตที่ฆ่าไม่ได้ วิญญาณมังกรที่คืนชีพขึ้นมาด้วยเหตุผลที่ลึกลับ ทั้งหมดนี้ช่างพิศวงเหลือเกินสำหรับเจี้ยนเฉิน เขาไม่สามารถที่จะอธิบายได้และมันดูเหมือนจะเกินกว่าที่เขารู้มา

นอกเหนือจากตระกูลมังกร ยังมีตระกูลฟีนิกซ์เทวะและพยัคฆ์ปีกเทวะ พวกเขาดูเหมือนจะหายไปพร้อม ๆ กัน พวกเขาตายหรือพวกเขาไปยังโลกที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงอย่างนั้นหรือ ?

“ตระกูลเผ่ามังกรอาจจะหายไปเมื่อครั้งโบราณกาล แต่พวกเขาก็มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานบนทวีปเทียนหยวน จากการที่ผ่านมาหลายชั่วอายุ จำนวนวิญญาณมังกรในสุสานก็เยอะตามไปด้วย แค่ข้าหรือแม้แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้างไม่รู้จริง ๆ ว่ามีวิญญาณมังกรอยู่เท่าไร อย่างไรก็ตาม หลายหมื่นปีที่ผ่านมา จอมยุทธของตระกูลทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้างได้เข้ามาที่นี่ ด้วยการนำของเซียนจักรพรรดิหลายคน พวกเขาได้มาพร้อมกับเซียนราชาและเซียนผู้คุมกฎจำนวนมาก เพื่อที่จะร่ายวิชาลับด้วยกันเพื่อที่จะผนึกวิญญาณมังกรเอาไว้ในสุสานเอา ซึ่งทำให้มันถูกกำจัดออกไปจากมหาสมุทรดวงดาว อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้พวกเราพบวิญญาณมังกรด้านนอก ดั้งนั้นมันหมายความว่า ผนึกที่ปิดสุสานไว้ได้ถูกทำลาย นอกเหนือไปจากนี้ ข้าก็ไม่สามารถคิดได้ถึงคำอธิบายอื่น” เสียงของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์กังวลเล็กน้อยและนางก็พูดต่อ “ข้าหวังว่าวิญญาณมังกรจะไม่หลุดไปด้านนอก ไม่เช่นนั้น มันจะเป็นหายนะกับทั้งโลก แสนปีที่ผ่านมา ทวีปเทียนหยวนของเรายังมีเซียนจักรพรรดิหลายคนปกป้องอยู่ ดังนั้นพวกเราจึงมีพลังที่จะขับไล่พวกวิญญาณมังกรเหล่านี้ แต่ในตอนนี้ทวีปเทียนหยวนนั้นอ่อนแอลงเรื่อย ๆ หลังจากผ่านมาหลายรุ่น นอกเหนือจากมารราคะแล้ว ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับข้างไม่มีเซียนจักรพรรดิคนอื่นเลยที่จะปกป้องทวีปได้ พวกเราจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของวิญญาณมังกรเหล่านี้ได้อย่างไรด้วยความอ่อนแอเช่นนี้ ? พวกเราไม่มีแม้แต่พลังที่จะผนึกสุสานได้อีกครั้ง”

เจี้ยนเฉินค่อนข้างตกใจจากสิ่งที่ได้ยิน เขาถาม “จะมีเซียนจักรพรรดิในสุสานหรือไม่ ? “

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พยักหน้ารับอย่างเคร่งเครียด “มีอยู่และจำนวนก็ไม่น้อยด้วย มังกรระดับ 9 นั้นมีสะสมมาหลายรุ่น พวกมันอายุไม่เท่ากัน ไม่เช่นนั้น ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้างคงจะไม่ใส่ใจมันมากขนาดนี้ใช่ไหมล่ะ ? “

เจี้ยนเฉินรู้สึกหนักใจ เขาสามารถจินตนาการได้เลยว่าโลกจะเป็นอย่างไรถ้าวิญญาณมังกรหลุดออกไปจากสุสาน มันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายแน่นอน เพราะว่าวิญญาณมังกรนั้นไม่มีสติปัญญา สิ่งที่พวกมันรู้ทั้งหมดมีเพียงการฆ่า มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะอยู่ร่วมกันได้กับคนภายนอก

เจี้ยนเฉินมองไปที่เสือขาว เขารู้ดีว่าบางทีเสือขาวอาจจะเป็นความหวังชิ้นสุดท้าย เมื่อมันโตเต็มวัยแล้ว แม้แต่จะมีวิญญาณมังกรที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไป ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวด้วยความแข็งแกร่งของพยัคฆ์ปีกเทวะ

ในครั้งโบราณกาล พยัคฆ์ปีกเทวะสามารถสังหารได้แม้แต่เทพเจ้าสงครามของร้อยเผ่าพันธุ์ เอ่อหยิน ซึ่งเป็นการมีอยู่ที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไปอีกด้วย ความแข็งแกร่งของพยัคฆ์ปีกเทวะนั้นอยู่ในระดับที่น่ากลัว

โฮก !

ในตอนนี้ เสียงคำรามดังก้องมาจากที่ไกลออกไป มันเป็นมังกรวายุระดับ 8 ที่ไล่ตามพวกเขาทั้งสองมา มันได้ย้อนกลับมาและเสียงคำรามอย่างต่อเนื่องของมันดังสะท้อนไปในภูเขา หลังจากนั้น มันก็เริ่มเคลื่อนที่ไปมาในบริเวณนี้โดยไม่จากไปไหน แม้ว่าจะผ่านไปนานแล้ว

ไม่นานหลังจากนั้น มังกรระดับ 7 สิบกว่าตัวก็ได้กลับมา พวกมันทำตามมังกรระดับ 8 ด้วยการเคลื่อนที่ไปมาในรัศมีสิบกิโลเมตรเหนือขึ้นไปในอากาศ เหมือนกับว่าพวกมันกำลังตามหาเจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ที่ซ่อนตัวอยู่

“เหมือนกับที่ข้าคาดไว้เลย พวกมันเคลื่อนที่ไปมาอย่างไม่ได้คิดอะไร” เมื่อรู้สึกได้ถึงกิจกรรมด้านนอก หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็พึมพำออกมาเบา ๆ

เจี้ยนเฉินทำหน้าขมขื่น “มันจบแล้ว ถ้าพวกมันไม่ไปไหน นั่นไม่หมายความว่าพวกเราจะติดอยู่ที่นี่ตลอดไปอย่านั้นหรือ ? ข้าหวังให้พวกมันออกไปเร็ว ๆ “

..

ในส่วนลึกของเกาะมีประตูมิติยาว 300 เมตรลอยอยู่กลางอากาศ มันส่องแสงสีทองทรงพลังออกมา ภายในประตูมิติ มีอีกโลกหนึ่ง โลกนี้เป็นมิติอีกมิติที่ถูกเปิดออกโดยใครบางคนด้วยความสามารถที่ยิ่งใหญ่ มันกว้างมากด้านในและทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา

บนพื้นดิน มีหลุมศพตั้งเรียงกันอยู่ข้างกันเหมือนภูเขาลูกเล็ก ๆ หน้าหลุมศพแต่ละหลุมมีหินสลักความสูงแตกต่างกันอยู่ อันที่สูงที่สุดมีขนาดหลายร้อยเมตร ในขณะที่อันที่สั้นที่สุดมีขนาดแค่ 9 เมตรกว่า ๆ

เหนือหลุม วิญญาณมังกรที่มีขนาดต่าง ๆ กันได้บินออกมาอย่างไม่มีสติ วิญญาณมังกรทั้งหมดเงียบและไม่ส่งเสียงใดออกมาเลย

ในตอนนี้ มีร่าง 2 ร่างที่อยู่หน้าหินสลักสูง 300 เมตร หนึ่งในนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะอายุสี่สิบกว่ากว่า เขาใส่ชุดสีทองยาวและใบหน้าของเขานั้นเป็นรอย ในตอนนี้ความโศกเศร้าเสียใจไหลพรั่งพรูจากตาทั้งสองของเขาในขณะที่เขายืนอยู่หน้าหลุมศพด้วยความอารมณ์ที่ผสมปนเปกันไป

อีกคนเป็นชายชราในชุดดำ เขานั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ในขณะที่มีคลื่นพลังมหาศาลอยู่รอบ ๆ เขา เขากำลังฝึกฝนอยู่ในตอนนี้

ทั้งสองเป็นสัตว์อสูรระดับ 8 ที่ได้หนีออกมาจากกมิติของวัตถุเซียน มังกรทองเทวะ รุยจิน และจระเข้กลายพันธุ์ เฮยยู

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ทำไมเกาะมังกรถึงได้เป็นแบบนี้? เกิดอะไรขึ้นกันก่อนหน้านี้?” ความโศกเศร้าเสียใจเป็นที่สุดเกิดขึ้นกับใบหน้าของรุยจิน เขามองไปรอบ ๆ เรื่อย ๆ บางอย่างที่ดูเหมือนหลุมศพของมังกรนับไม่ถ้วนเต็มมิติไปหมด และบางครั้งเขาก็มองไปที่วิญญาณมังกรที่บินไปรอบ ๆ อย่างไม่ได้สติ

“มันเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งหมดมันเปลี่ยนไปแล้ว เกาะนี้ไม่เป็นเกาะแบบเดิมอีกแล้ว บันทึกของเกาะจากความทรงจำที่ได้รับการถ่ายทอดมาของข้าแตกต่างจากนี้อย่างสิ้นเชิง นอกเหนือไปจากนั้น ทำไมเพื่อนร่วมเผ่าที่ตายไปแล้วถึงได้เปลี่ยนเป็นอะไรแบบนี้?”

“และก็เพื่อนร่วมเผ่าของข้า พวกเจ้าไปไหนกันหมด? พวกเจ้าหายไปไหนกัน…..”

“มันเหมือนกับที่เซียนราชามนุษย์อธิบายเอาไว้งั้นหรือ ที่ว่าตระกูลมังกรของข้าได้หายไปจากทวีปเทียนหยวนพร้อมกับเผ่าฟีนิกซ์เทวะ แม้แต่พยัคฆ์ปีกเทวะโบราณก็หายไปกับพวกเขาด้วย….”

“เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้กับเพื่อนร่วมตระกูลของข้าและตระกูลฟีนิกซ์เทวะ ? ทำไมอยู่ดี ๆ พวกเจ้าก็หายตัวไป ? พวกเจ้าตายกันหมดหรือย้ายไปอยู่ที่อื่นกันแน่ ? “

“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์และพวกสัตว์อสูรบนเกาะนี้ ? ทำไมพวกเขาถึงได้เป็นแบบนี้ ? พวกเขาได้กลายเป็นศพมีชีวิตที่ไม่มีวิญญาณพร้อมทั้งมีร่างกายที่ทำลายไม่ได้”

ทันใดนั้น รุยจินก็จ้องออกไปไกล มังกรแดงได้ก่อร่างขึ้นมาบนป้ายหลุมศพสูง 30 เมตร

รุยจินจ้องอย่างเบลอ ๆ ไปที่มังกรแดง เขาพึมพำ “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ? ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ? วิญญาณของเขาถูกกำจัดไปแล้วโดยบางคน ดังนั้นทำไมเขาจึงกลับมาก่อร่างขึ้นใหม่อีกล่ะ ? ทำไมเรื่องทุกอย่างนี้ถึงได้เกิดขึ้น ? “