ตอนที่ 830: ความเดือดดาลของราชาอีกา

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 830: ความเดือดดาลของราชาอีกา

ทันใดนั้นเอง เฮยยู่ที่นั่งทำสมาธิอยู่ข้าง ๆ นั้นก็ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เขามองไปที่รุยจินแล้วพูด “รุยจิน ข้ารู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของพยัคฆ์ปีกเทวะ มันมาแล้ว”

รุยจินจ้องอย่างเบลอ ๆ ไปที่มังกรแดงที่เพิ่งคืนชีพ หลังจานั้นสักพักเขาก็ละสายตาออกมาในที่สุดแล้วมองไปที่เฮยยู่ “ข้ารู้ นอกเหนือจากพยัคฆ์ปีกเทวะแล้ว แม้แต่มนุษย์ที่มีวัตถุเซียนก็มาด้วย เฮยยู่ เจ้าอยู่ในช่วงที่สำคัญที่สุด เจ้าทำสมาธิต่อไป อย่าได้ห่วง หลังจากที่เจ้าสำเร็จเป็นชั้นสวรรค์ที่ 9 แล้ว พวกเราจะไปหาวัตถุเซียนเพื่อให้เขารักษาแขนและขาของเจ้า” ถ้ามองดี ๆ แล้ว จะสังเกตเห็นได้ว่าแขนเสื้อด้านขวาของเฮยยู่นั้นว่างเปล่า เขาสูญเสียแขนขวาของเขาไปทั้งหมด

เฮยยู่พยักหน้า เขามองไปที่รุยจินด้วยความสำนึกแล้วพูด “รุยจิน ขอบคุณ ! ” เหตุผลเดียวว่าทำไมเขาถึงได้สามารถดูดซับพลังแห่งธรรมชาติในสุสานนี่ได้เป็นเพราะรุยจิน ด้วยการปิดบังพลังการมีอยู่ของเขาโดยรุยจิน วิญญาณมังกรจึงไม่สามารถตรวจจับได้ถึงเฮยยู่ว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก นอกเหนือไปจากนั้น เขายังใช้ความสามารถของเขาในการแปลงพลังงานในสุสานก่อนที่จะให้เฮยยู่ดูดซับเข้าไป

รุยจินคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า ความเศร้าโศกและความอ้างว้างอย่างสุดซึ้งปรากฏบนใบหน้าของเขา “ตลอดทั้งชีวิตของข้า ข้ามีเพื่อนเพียง 2 คน นอกเหนือจากหญิงสาวจากเผ่าฟีนิกซ์เทวะแล้วก็มีเพียงเจ้า เฮยยู่”

เฮยยู่มองไปที่รุยจินด้วยอารมณ์ต่าง ๆ เขาดูเหมือนจะเข้าใจอารมณ์ของรุยจินในตอนนี้และแววแห่งความอ้างว้างก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม เขากลับมาสนใจและตั้งใจอีกครั้ง เขาหลับตาลงอย่างช้า ๆ และทำสมาธิต่อไป เขาอยู่ในการเตรียมตัวเพื่อที่จะพยายามพัฒนาไปเป็นชั้นสวรรค์ที่ 9

รุยจินไม่ได้จากไปจากข้าง ๆ เฮยยู่ ในตอนนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เขาก็ไม่สามารถก้าวไปไหนได้ เขาจำเป็นจะต้องปกปิดการมีอยู่ของเฮยยู่เอาไว้เพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะปลอดภัย

แม้ว่าวิญญาณมังกรจะไม่มีสติปัญญาและไม่เป็นมิตร แต่พวกมันก็ไม่โจมตีเพื่อนร่วมตระกูล

ในถ้ำที่ค่อนข้างมืด ทั้งเจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้น เจี้ยนเฉินส่งเสือขาวกลับเข้าไปในมิติของวัตถุเซียน และให้มันเพิ่มความแข็งแกร่งของมันต่อโดยใช้สมบัติสวรรค์

ด้านนอกถ้ำ เสียงคำรามของวิญญาณมังกรดังเสียดท้องฟ้า มันทำให้แนวภูเขาสั่นไหวและทำให้พวกเขาทั้งสองไม่สามารถอยู่ได้อย่างสงบได้ในช่วงเวลานี้ นี่เป็นเพราะจำนวนของวิญญาณมังกรได้เพิ่มเป็นสามสิบกว่าตัวแล้วด้านนอก โดยระดับ 7 คือระดับที่อ่อนแอที่สุด จำนวนของวิญญาณมังกรระดับ 8 เพิ่มขึ้นเป็น 3 จากตอนแรกที่มีเพียง 1 วิญญาณมังกรสามสิบกว่าตัวตรวจตราไปมาในรัศมีหลายสิบกิโลเมตรโดยไม่ออกไปไหนเลยตั้งแต่เริ่มต้น

ภายในถ้ำ เจี้ยนเฉินลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เขายืนขึ้นและเดินไปเรื่อย ๆ คิ้วของเขาขมวดอย่างกังวล จากนั้นเขาก็มองไปที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์แล้วพูด “ท่าน มันไม่ดีแน่ถ้ายังเป็นแบบนี้ พวกวิญญาณมังกรจะเคลื่อนที่ไปมาอย่างนี้ข้างนอกไปตลอดอย่างนั้นหรือ ? มีทางไหนหรือไม่ที่จะทำให้พวกมันจากไป ? “

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ลืมตาขึ้นช้า ๆ และลังเลจากที่ชั่งใจเล็กน้อย นางก็พูด “มีอยู่วิธีหนึ่ง”

ตาของเจี้ยนเฉินสดใสขึ้นมาทันที เขาถามทันที “มันคืออะไรกัน ? “

“วิธีคือให้บางคนด้านนอกดึงดูดความสนใจของวิญญาณมังกรและล่อให้พวกมันจากไป” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดอย่างไม่สนใจ

เมื่อได้ยินดังนั้น ตาของเจี้ยนเฉินก็ฉายแววสิ้นหวังออกมา มหาสมุทรดวงดาวเป็นพื้นที่อันตรายเป็นอันดับที่ 2 รองจากรังมรณะบนทวีปเทียนหยวน มีคนจำนวนน้อยมากมากที่กล้าเข้ามาในสถานที่นี้ มันเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีใครเข้ามาที่นี่เป็นเวลาหลายทศวรรษ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีบางคนมาดึงดูดความสนใจจากวิญญาณมังกรด้านนอก

“ดูเหมือนว่า พวกเราจะทำได้แค่รอเท่านั้น” เจี้ยนเฉินถอนหายใจเบา ๆ เขานั่งลงอีกครั้ง

ในพริบตาเดียว เจ็ดวันได้ผ่านไป เขาและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ผ่านช่วงเวลานี้มาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรกันมากมาย ขณะเดียวกัน วิญญาณมังกรที่ตรวจตราอยู่ก็ยังไม่ได้จากไป และจำนวนยังเพิ่มขึ้นอีกไปถึงสี่สิบกว่าตัวจากสามสิบกว่าตัว วิญญาณมังกรตัวอื่นถูกลากเข้ามาจากวิญญาณมังกรที่มาในตอนแรก พวกมันเคลื่อนที่อย่างไม่มีสติและไม่มีจุดประสงค์ว่าจะค้นหาอะไร พวกมันไม่รู้ถึงการมีอยู่ของคนทั้งสองเลยแม้แต่น้อย

7 วันหลังจากนั้น เจี้ยนเฉินไม่สามารถนั่งอยู่ได้นานกว่านี้แล้ว เขายืนขึ้นแล้วคิด “ทำไมข้าไม่ฟื้นฟูพลังบรรพกาลแทนที่จะมานั่งเสียเวลาอยู่อย่างนี้ ? ” หลังจากที่คิด แสงสีทองก็พุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของเจี้ยนเฉิน มันเปลี่ยนเป็นหอคอยสีทองขนาดเท่าฝ่ามือ

“เจ้าจะทำอะไรน่ะ ? ” มันทีที่เจี้ยนเฉินกำลังจะทำอะไรบางอย่าง มันก็ได้ไปดึงดูดความสนใจของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ นางจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่สวยงามของนาง จากนั้นนางก็จ้องไปที่หอคอยสีทองโดยไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย นางมีทีท่าอยากรู้

ในตอนนี้ วิญญาณมังกรยังเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก พวกเขาอาศัยหินในการป้องกันทางเข้าของถ้ำเอาไว้เพื่อที่จะแยกการมีอยู่ของพวกเขาออกไปและป้องกันไม่ให้วิญญาณมังกรสังเกตเห็นพวกเขา ดังนั้น หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์จึงกังวลว่าเจี้ยนเฉินจะดึงดูดความสนใจมากเกินไปและไปทำให้พวกวิญญาณมังกรข้างนอกรู้ตัว

“ท่าน ข้าต้องการที่จะทำสมาธิเล็กน้อยและฟื้นฟูความแข็งแกร่งของข้า” เจี้ยนเฉินตอบกลับ

“ไม่ได้ ถ้ามีพลังงานแปลกปลอม มันจะไปดึงดูดความสนใจของวิญญาณมังกรด้านนอกอย่างแน่นอน” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดอย่างเคร่งเครียด น้ำเสียงของนางไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งนั้น

เจี้ยนเฉินมองไปที่หอคอยสีทองและพูดอย่างจริงจัง “ไม่ต้องเป็นห่วงไป ข้าจะทำสมาธิในอีกมิติ ดังนั้น มันจะไม่มีพลังงานแปลกปลอมเลย มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปทำให้วิญญาณมังกรด้านนอกรู้ตัว”

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์มองไปที่หอคอยสีทอง มันเป็นครั้งที่ 2 ที่นางเห็นสิ่งนี้และนางสงสัยในต้นกำเนิดของมันมาก นางถาม “มันคืออะไร ? “

เจี้ยนเฉินไม่ได้ปิดบังอะไร “ท่านอาจจะไม่เคยเห็นมัน แต่ท่านน่าจะเคยได้ยินชื่อของมันมาก่อน หอคอยนี้คือวัตถุเซียนของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง”

“อะไรนะ! วัตถุเซียนของสมาคม ! ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ตกใจมาก นางจ้องไปที่หอคอยอย่างเหลือเชื่อ “เป็นไปไม่ได้! ทำไมวัตถุเซียนถึงได้มาอยู่ในมือของเจ้าได้ ? “

เจี้ยนเฉินหัวเราะคิกคักและไม่ได้ให้คำอธิบายอะไรเพิ่มเติม เขากล่าว “ท่าน มันมีมิติที่แยกออกจากที่นี่ข้างในวัตถุเซียน มันปลอดภัยมากด้านใน ทำไมท่านไม่เข้าไปกับข้าล่ะ ? ถ้าเป็นแบบนี้ แม้ว่าที่ซ่อนของเราจะถูกเปิดเผยโดยพวกวิญญาณมังกรนั่น พวกเราก็จะไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย”

นางสงบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ตรึกตรองอยู่ นางถาม “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับวัตถุเซียนของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นวัตถุเซียนที่ทรงพลัง ข้าไม่คิดเลยว่ามันจะมาอยู่ในมือของเจ้า ข้าสงสัยว่าพวกเราจะสามารถใช้วัตถุเซียนนี้ออกไปจากที่นี่ได้ไหม”

เจี้ยนเฉินส่ายหัว “ไม่ พวกเราทำแบบนั้นไม่ได้ ข้าได้หารือกับวัตถุเซียนไปแล้ว วัตถุนี้ไม่ได้ถือกำเนิดมาจากมหาสมุทรดวงดาว ดังนั้นพลังของมันจะยังถูกวิญญาณมังกรตรวจจับได้อยู่ เมื่อวัตถุเซียนออกไปจากที่นี่ มันจะทำให้วิญญาณมังกรด้านนอกรู้ตัวและโจมตี มังกรระดับ 7 อาจจะไม่สามารถทำอันตรายกับวัตถุได้ แต่ยังมีวิญญาณมังกรที่เป็นเซียนจักรพรรดิอยู่ในสุสาน เมื่อวิญญาณมังกรพวกนั้นมา มันคงจะเป็นอันตรายแม้ว่าพวกเราจะซ่อนอยู่ในวัตถุเซียนก็ตาม”

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าพวกเราทำได้แค่รอให้วิญญาณมังกรจากไป เอาล่ะ ข้าจะเข้าไปในมิติของวัตถุเซียนกับเจ้า”

“วัตถุเซียน พาพวกเราเข้าไป” เจี้ยนเฉินสั่ง

เสาแสงสองเสาพุ่งออกมาจากวัตถุเซียนทันทีและห่อหุ้มร่างของพวกเขาทั้งสองเอาไว้ก่อนที่จะหายไป ในพริบตาเดียว ถ้ำมืดก็ว่างเปล่า เหลือเพียงวัตุเซียนที่ส่องแสงจาง ๆ สีทองที่ลอยอยู่กลางอากาศ

หลังจากนั้นไม่นาน วัตถุเซียนก็เริ่มที่จะหมองลงและกลับมาดูธรรมดาอีกครั้ง จากนั้นมันก็ลอยไปที่มุมมืดอย่างช้า ๆ และซ่อนตัวเองอยู่ด้านหลังหินก้อนใหญ่

ในตอนนี้มิติในวัตถุเซียนนั้นแตกต่างจากแต่ก่อน ก่อนหน้านี้ ตอนที่เจี้ยนเฉินและเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงได้เข้ามาแข่งขันกันที่นี่ มิติกว้างใหญ่นี้นั้นมีเพียงสัตว์อสูรระดับ 6 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยไม่มีสัตว์อสูรอื่นที่แข็งแกร่งมากกว่านั้นเลย

ในตอนนี้ มิติใหญ่มีสัตว์อสูรหลายชนิดทุกที่ พวกมันอยู่ในระดับ 1 ถึง 5 และยังมีสัตว์อสูรระดับ 6 บางตัวที่เคลื่อนที่ไปมา

บนทุ่งหญ้า มีสัตว์อสูรระดับ 5 สองตัวกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย คลื่นพลังจากการต่อสู้ที่รุนแรงได้ทำให้รอบข้างเละไปหมด หินและดินกระจายไปในอากาศ ในขณะที่สัตว์อสูรก็คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว

ในตอนนี้เอง เสาแสงสองเสาก็ได้ปรากฏขึ้นทันทีในท้องฟ้า เจี้ยนเฉินที่อยู่ในชุดรัดรูปและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ที่อยู่ในชุดม่วงได้ปรากฎตัวขึ้นมา หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถือพิณเอาไว้ในมือของนาง ทันทีที่พวกเขามาถึง นางก็อดไม่ได้ที่จะมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

การมาปรากฏอย่างกะทันหันของทั้งสองได้ไปดึงดูดความสนใจสัตว์อสูรทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันอยู่ พวกมันอดไม่ได้ที่จะหยุดและมองไปที่ท้องฟ้า พวกมันมองอย่างสุขุมไปที่คนทั้งงสองข้างบนด้วยสายตาที่ชั่วร้าย ด้วยสัญชาตญาณสัตว์ของพวกมัน มันสามารถรู้สึกได้ถึงความอันตรายจากพวกเขาทั้งสอง

ก๊า !

ในตอนนี้เอง เสียงเหมือนแผ่นดินสะเทือนก็ดังมาแต่ไกล หลังจากนั้นพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังและจิตสังการที่รุนแรงก็ปรากฎขึ้น

เจี้ยนเฉินหรี่ตาลงและมองไปที่ทิศทางของเสียง เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “มันคือราชาอีการะดับ 7 ข้าไม่คิดเลยว่ามันจะยังจำข้าได้ ดูเหมือนอีการะดับ 6 ที่ข้าสังหารไปครั้งก่อนจะเป็นญาติใกล้ชิดของมัน”

ความสามารถของเซียนผู้คุมกฎสามารถถูกใช้ได้ตามปรารถนาในมิติของวัตถุเซียน ราชาอีการะดับ 7 ใช้พลังมิติและหลอมรวมตัวเองเข้ากับมิติรอบ ๆ ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปที่เจี้ยนเฉินจากที่ไกล ๆ ในไม่กี่วินาที จุดสีดำก็ปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้าที่ทอดยาวไม่สิ้นสุด มันขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว มันมาถึงตรงหน้าของเจี้ยนเฉินอย่างเร็ว

มันเป็นอีกาตัวใหญ่สีดำเงาซึ่งสูงหลายสิบเมตร มันเปล่งพลังงานยิ่งใหญ่ออกมาทำให้สัตว์อสูรระดับ 5 ที่อยู่ด้านล่างหยุดต่อสู้ ทรุดลงไปที่พื้นและตัวสั่น ตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

อีกาจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยดวงตาสีเลือดของมัน โทสะพวยพุ่งในตาของมันและมันส่งเสียงร้องน่ากลัวไปบนท้องฟ้า มันหลายเป็นภาพพร่ามัวสีดำและพุ่งเข้าไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่กรงเล็บแหลมคมของมันกำลังส่องแสงอย่างเย็นชา และพุ่งเข้ามาที่หัวใจของเจี้ยนเฉิน