ตอนที่ 831 แกนอสูรของจิตวิญญาณวัตถุเซียน
“เจ้ากล้ารึ ? “
ทันใดนั้นเองเกิดเสียงตะโกนก้องอย่างโกรธแค้น มิติโดยรอบพลันหยุดนิ่ง ราวกับกลายเป็นน้ำแข็ง กักขังราชาอีกาเอาไว้อย่างแน่นหนา ขยับไม่ได้แม้แต่น้อย
ดวงตาของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หรี่ลงหลังเห็นราชาอีการะดับ 7 ติดกับ นางรู้ว่าราชาอีกานั้นอยู่ระดับ 7 คนที่ควบคุมมันได้อย่างง่ายดายเช่นนี้นั้นย่อมต้องแข็งแกร่งเป็นอันมาก การตรึงสัตว์อสูรระดับสูงไว้กลางอากาศได้เช่นนี้นั้น อย่างน้อย ๆ ต้องเป็นเซียนราชาถึงจะทำได้
จิตวิญญาณวัตถุเซียนปรากฏตัวขึ้นมาข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน ก่อนจะคำนับเจี้ยนเฉินโดยไม่ชายตามองราชาอีกาเลยแม้แต่น้อย “ข้าน้อยคารวะนายท่าน”
นางตกใจทันทียามที่เห็นจิตวิญญาณตนนั้นพูดคำว่านายท่าน ก่อนจะหันไปมองเจี้ยนเฉินและจิตวิญญาณในร่างชายมีอายุสลับไปมาอย่างตกตะลึง
ขณะเดียวกันราชาอีกาเองก็ได้ยินคำพูดของจิตวิญญาณสมบัติเซียนและสถานะของเจี้ยนเฉิน ท่าทางของมันนั้นตกตะลึงเสียยิ่งกว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ มันตกตะลึงถึงขีดสุด ก่อนจะตามมาด้วยความสิ้นหวังอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวอีกาเองนั้นเกิดและเติบโตภายในมิติของวัตถุเซียน มันย่อมรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณวัตถุเซียน
“ปล่อยอีกาตัวนั้นได้แล้ว” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น
“ขอรับนายท่าน” จิตวิญญาณตอบรับอย่างนอบน้อมก่อนปลดปล่อยมิติรอบข้างให้กลับเป็นเช่นเดิม ราชาอีกากลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง
แต่ราชาอีกาก็ไม่กล้าโจมตีเจี้ยนเฉินอีกต่อไป มันรีบเปลี่ยนร่างเป็นชายแก่สวมชุดคลุมสั้นสีดำ แล้วคุกเข่าพร้อมพูดอย่างนอบน้อม “โม่หยูคารวะท่านจิตวิญญาณวัตถุเซียน”
จิตวิญญาณจ้องมองราชาอีกาก่อนพูดด้วยเสียงเย็นเยียบ “เจ้ากล้านักถึงได้ทำตัวยโสโอหังต่อหน้านายท่านของข้า”
ราชาอีกาตัวสั่น แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนพูดน้ำเสียงสั่น “ได้โปรดให้อภัยข้าด้วยท่านจิตวิญญาณวัตถุเซียน ให้อภัยข้าด้วย โม่หยูมีตาแต่หามีแววไม่ ไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้านายของท่าน หากข้าทำอะไรผิดไป ได้โปรดให้อภัยข้าด้วย”
ภายเบื้องหน้าทำให้หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ประหลาดใจมากขึ้นไปเรื่อย ๆ สัตว์อสูรระดับ 7 อันทรงพลังกลับมาคุกเข่าร้องขอชีวิตกับจิตวิญญาณวัตถุเซียนเป็นภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะถึงอย่างไรก็ตามสัตว์อสูรระดับ 7 นั้นก็มีพลังเทียนเท่าเซียนผู้คุมกฎซึ่งเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสโอหัง นี่ยังไม่นับเรื่องที่ว่าราชาอีกานี้อยู่ระดับ 7 อีก ต่อให้อยู่ต่อหน้าเซียนราชา มันเพียงแค่ทำตัวสุภาพก็นับว่าเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องสั่นกลัวถึงเพียงนี้
หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้ลองคาดคะเนความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณวัตถุเซียนใหม่อีกครั้งหลังจากได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องหน้า แต่สิ่งที่ทำให้นางตกตะลึงยิ่งกว่าอื่นใดคือการที่จิตวิญญาณวัตถุเซียนที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้กลับยอมสยบรับเซียนผู้คุมกฏเป็นเจ้านาย นี่นับเป็นข่าวใหญ่มากทีเดียว
“เจ้าเป็นอะไรกับอีการะดับ 6 ที่ข้าฆ่าไปหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้น
ทันทีที่ได้ยินคำถาม อีกาในร่างชายแก่ดูลังเลอยู่ชั่วครู่ มันไม่อยากจะตอบคำถามของเจี้ยนเฉิน แต่เมื่อนึกความสัมพันธ์ของเจี้ยนเฉินกับจิตวิญญาณวัตถุเซียน มันก็จำใจตอบอย่างเชื่อฟัง “มันเป็นหนึ่งในแปดศิษย์ของข้า รวมทั้งเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดด้วย โอกาสที่จะขึ้นมาระดับ 7 ก็นับว่าสูงที่สุด”
เจี้ยนเฉินดูสบายใจขึ้นก่อนพูดต่อ “เจ้าไปได้แล้ว หากในอนาคตเจ้าคิดจะล้างแค้น ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่”
ชายแก่ลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไรก่อนหันไปมองจิตวิญญาณวัตถุเซียน
จิตวิญญาณวัตถุเซียนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ในเมื่อนายท่านไม่ต้องการเอาเรื่องเจ้า ข้าจะปล่อยเจ้าไปในครานี้ ไปเถอะ”
ชายแก่ค้อมคำนับจิตวิญญาณวัตถุเซียนก่อนจะหันตัวแล้วจากไป
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉิน หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ และจิตวิญญาณวัตถุเซียนก็มาถึงปราสาทใจกลางมิติ นางไม่ได้ถามคำถามอะไรมากนักเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องโถงห้องหนึ่งเงียบ ๆ นางตั้งใจไว้ว่าจะเก็บตัวฝึกตนคนเดียวสักพัก
หลังจากจิตวิญญาณวัตถุเซียนจากไป เจี้ยนเฉินก็เลือกห้องโถงอีกห้องหนึ่งก่อนเข้าไปปิดประตูฝึกตน ตั้งใจจะรวบรวมพลังบรรพกาลกลับคืนมา
ภายในห้องโถงเย็นเยียบ เจี้ยนเฉินนั่งขัดสมาธิอยู่กลางห้อง ก่อนนำแกนอสูรทั้งหมดที่มีออกมาจากแหวนมิติ เขาตั้งใจจะหลอมแกนอสูรทั้งหมดให้เป็นพลังบรรพกาล ยามนี้กองแกนอสูรทั้งหมดนั้นกองรอบตัวเขาราวกับภูเขากองหย่อม ๆ
หลังจากคัดแยกแกนอสูรทั้งหมดแล้ว เจี้ยนเฉินจึงหยุดพักก่อนติดต่อกับจิตวิญญาณกระบี่ที่กำลังดูบซับหินหลากสีภายในความคิดให้มาช่วยหลอมแกนอสูร
จือหยิงและฉิงโซวปรากฏตัวขึ้นเหนือหัวเจี้ยนเฉิน ก่อนจะสะบัดมือพาแกนอสูรกองเล็ก ๆ ลอยขึ้นมาระหว่างทั้งสอง ก่อนจะหลอมรวมกลายเป็นสายพลังบรรพกาล
กองแกนอสูรรอบตัวค่อย ๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว ภายใต้ฝีมือของจิตวิญญาณกระบี่ทั้งสอง สายพลังบรรพกาลค่อย ๆ หลั่งไหลเข้าไปในตันเถียนของเจี้ยนเฉิน สายพลังนั้นเข้มเสียจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
หลังจากผ่านไป 2 วัน กองภูเขาแกนอสูรรอบตัวถูกดูดซับไปไม่เหลือแม้แต่อันเดียว พลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินขยายขนาดจากเท่าเมล็ดถั่วกลายเป็นขนาดหัวแม่มือ พลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินในยามนี้นั้นนับว่ามีเพียงแค่หนึ่งในร้อยจากครั้งที่ได้จากเมืองทหารรับจ้าง
นั่นเพราะแกนอสูรส่วนใหญ่นั้นอยู่ในระดับ 3, 4 และ 5 ส่วนแกนอสูรระดับ 6 นั้นเขาใช้ไปก่อนหน้านี้แล้วบ้าง จึงเหลือน้อยมาก
เจี้ยนเฉินค่อย ๆ ลืมตา คิ้วขมวดกันด้วยความกังวล ยามนี้เขาใช้แกนอสูรทั้งหมดที่มีไปหมดแล้ว นอกจากยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎและกระบี่สังหารมังกร เขาก็ไม่มีอะไรที่จะนำมาหลอมให้เป็นพลังบรรพกาลแล้ว
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน ก่อนพึมพำกับตัวเอง “ภายในมิติวัตถุเซียนดูจะมีสัตว์อสูรระดับ 7 อยู่ไม่น้อย อยากรู้นักพวกสัตว์อสูรที่แก่ตายจะเหลือแกนไว้มั้ย ถ้ามี…” แววตาของเจี้ยนเฉินตื่นเต้นขึ้นตามลำดับก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน แล้ววิ่งออกนอกห้องโถงฝึกตน
“จิตวิญญาณวัตถุเซียน ! ” ภายนอก เจี้ยนเฉินเรียกจิตวิญญาณวัตถุเซียนออกมาพบทันที
“ไม่ทราบนายท่านประสงค์ให้ข้าน้อยทำสิ่งใด ? ” จิตวิญญาณวัตถุเซียนปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเจี้ยนเฉินอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง
“จิตวิญญาณวัตถุ มิติมีสัตว์อสูรตั้งเยอะไม่ใช่หรือ ? เวลาพวกมันตายได้ทิ้งแกนอสูรไว้บ้างหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินรีบถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“มีแกนอสูรอยู่จำนวนไม่น้อย แกนอสูรมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ดูดซับได้ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับสัตว์อสูรเวทย์ แต่หลังจากที่พวกมันตาย ลูกหลานของพวกมันมักจะเก็บรวบรวมไว้บูชา หากนายท่านต้องการ ข้าสามารถไปรวบรวมทั้งหมดมาให้นายท่านได้ทันที” จิตวิญญาณตอบ
เจี้ยนเฉินตื่นเต้น จะไม่อาจระงับหัวใจไม่ให้เต้นรัวได้ ก่อนพูดอย่างรวดเร็ว “จิตวิญญาณวัตถุเซียน ข้าต้องการแกนอสูรจำนวนมาก ไปรวบรวมทั้งหมดมาให้ข้า”
“ขอรับนายท่าน”
หลังจากนั้น ทุกสายพันธ์สัตว์อสูรเวทย์ที่อยู่ในมิติก็วุ่นวาย แกนอสูรทั้งหมดที่แต่ละสายพันธ์รวบรวมไว้ต่างบินพุ่งออกมา ห้องโถงที่เคยเก็บรวบรวมแกนอสูรของเหล่าบรรพบุรุษไว้จำนวนมากมายต่างกลายเป็นว่างเปล่า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับสัตว์อสูรเวทย์ทุกสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ที่มิติแห่งนี้ แกนอสูรไม่ว่าจะระดับสูงต่ำเพียงใดบินออกมาทั้งหมด พวกมันทั้งหลายได้แต่มองตาปริบ ๆ สัตว์อสูรระดับ 7 อันทรงพลังบางตัวพยายามขัดขวาง แต่ทันทีที่พวกมันขยับตัว พลังของวัตถุเซียนก็ตรึงร่างพวกมันไว้ไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย ท้ายที่สุดพวกมันทำได้แค่เพียงมองแกนอสูรของบรรพชนที่ทิ้งเอาไว้หายไปลับสายตา
“ท่านจิตวิญญาณวัตถุเซียน ท่านจิตวิญญาณเอาแกนอสูรของเหล่าบรรพชนไปเสียหมด”
สัตว์อสูรเวทย์ระดับ 7 หลายตัวเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว แม้จะมีสัตว์อสูรหลายตัวที่โกรธแค้น แต่ก็ไม่กล้าแสดงท่าทีออกมามากนัก ภายในมิติแห่งนี้ จิตวิญญาณวัตถุเซียนนั้นไม่ต่างจากพระเจ้า อยู่สูงสุดในมิติแห่งนี้
นอกจากนั้น แกนอสูรที่ฝังลึกอยู่ภายในผืนดิน พุ่งทะลุออกมาตรงไปยังปราสาทที่อยู่ใจกลางมิติ แกนอสูรที่สะสมมาหลายแสนปี จำนวนที่มีนั้นมากจะน่ากลัวหากมีคนพบเห็นคงจะตกใจกลัว นอกเหนือจากส่วนน้อยที่ผู้เข้าแข่งขันจากสมาคมผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ส่วนที่เหลือยังคงอยู่ภายในมิตินี้อยู่ดี
ภายในห้องโถง เจี้ยนเฉินมองภาพตรงหน้าอย่างตะลึงงัน ภาพแกนอสูรจำนวนนับไม่ถ้วนบินเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ก่อนมารวมตัวกันเบื้องหน้าอย่างเป็นระเบียบ ภาพในไม่กี่ชั่วลมหายใจ กองภูเขาแกนอสูรกองพะเนินบนบังทุกอย่างที่อยู่รอบตัวไม่เสียสิ้น
“นายท่าน ข้าเก็บแกนอสูรทั้งหมดไว้ที่นี่แล้ว แต่ยามนี้ไม่มีพื้นที่พอเก็บอีกแล้ว ข้าเลยนำบางส่วนไปเก็บไว้ห้องอื่น หากนายท่านต้องการ ท่านสามารถไปเอาเมื่อไหร่ก็ได้” เสียงของจิตวิญญาณวัตถุเซียนดังขึ้น
รอบตัวเขามองเห็นเพียงภูเขาแกนอสูรจำนวนนับไม่ถ้วน เจี้ยนเฉินเองก็ตกใจมากจนคุมตัวเองไว้ไม่ค่อยอยู่ หากแกนอสูรทั้งหมดที่นี่นับเป็นช้าง แกนอสูรในแหวนมิติของเขาก็ไม่ต่างจากมดตัวน้อยเท่านั้น
“จิตวิญญาณวัตถุเซียน ที่นี่มีสัตว์อสูรระดับสูงทั้งหมดอยู่กี่ตัว?” เจี้ยนเฉินถามขึ้นอย่างยากลำบาก
“ฝ่าบาท ตลอดหลายแสนปีที่ผ่านมา มีสัตว์อสูรระดับ 8 มากกว่า 2,000 ตัว และสัตว์อสูรระดับ 7 อีกมากกว่า 50,000 ตัวเกิดขึ้นมาภายในมิติแห่งนี้ นอกเหนือจากสัตว์อสูรระดับ 8 ที่ออกไปไม่กี่วันก่อน แกนอสูรทั้งหมดที่เหลือได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ ยามนี้มีแกนอสูรระดับ 8 มากกว่า 2,000 อัน, แกนอสูรระดับ 7 มากกว่า 50,000 อัน ส่วนที่ต่ำกว่าระดับ 7 นั้นมากมายนับไม่ถ้วน”
เจี้ยนเฉินตะลึงไปครู่ใหญ่ ยามนี้ห้วงความคิดของเขาหยุดนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงเสียงของจิตวิญญาณวัตถุเซียนก้องอยู่ภายในหัว
“แกนอสูรระดับ 8 มากกว่า 2,000 ชิ้น, แกนอสูรระดับ 7 มากกว่า 50,000 ชิ้น……แกนอสูรระดับ 8 มากกว่า 2,000 ชิ้น, แกนอสูรระดับ 7 มากกว่า 50,000 ชิ้น…แกนอสูรระดับ 8 มากกว่า 2,000 ชิ้น, แกนอสูรระดับ 7 มากกว่า 50,000 ชิ้น………….”
เจี้ยนเฉินพึมพำราวกับคนเสียสติ เสียงสั่นอย่างตื่นเต้น ความรู้สึกยินดีถาโถมไปทั่วร่าง ดื่มด่ำความสุขอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ครู่พักใหญ่