ตอนที่ 1217

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ใครจะไปคิดว่านิกายสวรรค์เยือกแข็งที่ครั้งหนึ่งอยู่คงกระพันจะถูกทำลายภายในวันเดียว?

ปรมาจารย์สามวิถีและจอมยุทธระดับดาราทั้งยี่สิบสี่คนต่างพากันหายตัวไป ถ้าพวกเขาไม่ตายก็เป็นเรื่องยากที่จะทำใจเชื่อ

แม้ว่านิกายสวรรค์เยือกแข็งจะพูดเสมอว่าพวกเขาไม่เคยแสวงหาอิทธิพลอำนาจ แต่แค่การมีอยู่ของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ก็เพียงพอที่จะส่งกระทบต่อทั้งจักรวาลแล้ว แล้วตอนนี้ในเมื่อตัวตนที่แข็งแกร่งเหล่านั้นหายตัวไป แน่นอนว่าจะนำพามาสู่ความโกลาหลในจักรวาลนี้

สงครามครั้งใหญ่ที่หายไปนานจะปะทุ ดาวแต่ละดวงจะทำสงครามกัน ซึ่งในไม่ใช่แค่การต่อสู้ระหว่างทวีป

สงครามแบบนั้นจะมีเพียงแค่จอมยุทธที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเป็นผู้ยืนหยัด

แล้วแน่นอนว่า ในเมื่อนิกายสวรรค์เยือกแข็งถูกทำลายไปแล้ว ศิษย์ของนิกายส่วนใหญ่ก็เดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัวและตระกูลของพวกเขา

แต่หลิงฮันยังคงพักอยู่บนดาวเฟยหยุนอีกพักหนึ่ง และใช้ความสัมพันธ์กับตระกูลโม่เพื่อค้นหาตำแหน่งของห้านิกายโบราณ แต่มันต้องใช้เวลาในการค้นหา ซึ่งระหว่างนี้หลิงฮันจะต้องรีบทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราให้เร็วที่สุด

ฮูหนิวบอกหลิงฮันเกี่ยวกับความลับของศาสตร์วรยุทธ เช่น ภูผาวารี สุริยันจันทราและดารานั่นไม่เพียงแต่ใช้เพื่อเก็บพลัง แต่ยังสามารถปลดปล่อยออกมาเพื่อใช้โจมตีคู่ต่อสู้ได้ด้วย

เมื่อมีเวลาว่างเขาก็จะลดระดับพลังของตัวเองและแลกเปลี่ยนวรยุทธกับติงผิง เฟิงโป๋วหยุนและคนอื่นๆ

“อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์สามวิถีสร้างวงวิถีจักรวาลหมุนขึ้นมาเพื่อปกป้องหยางฮ่าว ข้าคิดว่าเขาน่าจะเรียนรู้ทักษะลับนั่นในตอนที่เขาต่อสู้ในสงครามระหว่างสองดินแดน”

“แต่เขาไม่ได้ถ่ายทอดทักษะดังกล่าวให้กับศิษย์ในนิกาย บางทีคงมีเพียงแค่ศิษย์ที่แท้จริงของเขาเท่านั้นถึงจะได้รับการถ่ายทอดทักษะลับดังกล่าว”

แต่หลิงฮันไม่ใช่คนแบบนั้น ถึงเขาจะไม่สามารถถ่ายทอดทักษะลับให้กับทุกคนได้ก็ตาม แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับเฟิงโป๋วหยุน มู่หลงชิง ติงผิงและคนอื่นๆอย่างไม่เห็นแก่ตัว

นอกจากนั้นหูเฟยหยินยังได้รับการสอนด้วย ถึงนางจะเป็นร่างแยกของจักรพรรดินี และนางจะถ่ายทอดให้กับคนอื่นหรือไม่นั้นหลิงฮันไม่สนใจ

มันก็แค่กลอุบายที่จะใช้ภูผาวารี สุริยันจันทราและดวงดารา ไม่ใช่ความลับอะไรซักหน่อย

ไม่กี่วันต่อมา จักรพรรดิราชวงศ์ดาราหายนะก็ส่งเรือบินมาเพื่อรับคนของตัวเองกลับ หูเฟยหยิน หลี่เหว่ยเหว่ยและคนอื่นๆต่างก็ออกเดินทางกลับบ้าน เดิมทีหลิงฮันอยากจะฆ่าจ้าวหลุน แต่เจ้าหมอนั่นหลบหนีรวดเร็วมาก โดยใช้ประโยชน์จากเรือส่งสินค้าเพื่อกลับไปที่ดาวเหอหนิง

ส่วนเฟิงโป๋วหยุน มู่หลงชิงและคนอื่นๆไม่ได้กลับไปที่ดาวเหอหนิง พวกเขาอยากจะเดินทางไปที่ห้านิกายโบราณพร้อมกับหลิงฮัน เพราะพวกเขาต่างก็มาจากโลกใบเล็ก พวกเขาไม่มีทางลืมความชั่วร้ายของห้านิกายโบราณเป็นอันชาด

ทุกคนฝึกฝนบ่มเพาะพลังอย่างสุดความสามารถ เมื่อใดที่พวกเขาทราบตำแหน่งที่ตั้งของห้านิกายโบราณ พวกเขาก็จะมุ่งหน้าไปหาพวกมันทันที ในเวลานั้นย่อมมีการต่อสู้นองเลือด แล้วแน่นอนว่ายิ่งพวกเขาทุกคนแข็งแกร่งเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น

เนื่องจากการล่มสลายของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง จึงนำมาสู่สงครามแย่งชิงอาณาเขตของนิกายสวรรค์เยือกแข็งระหว่างจักรวรรดิราชวงศ์สี่สมุทรและจักรวรรดิราชวงศ์มหาสวรรค์

แต่เรื่องพวกนั้นไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับหลิงฮัน เขาแค่ปกป้องที่ดินผืนเล็กๆที่ใช้อาศัยอยู่ก็พอ และติดต่อกับร้านค้าตระกูลโม่เพื่อซื้อแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่จำนวนมากเพื่อยกระดับดาบอสูรนิรันดร์

ก่อนที่เขาจะออกเดินทางไปหาห้านิกายโบราณ เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้อยู่สองอย่าง คือ อย่างแรกทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทรา และอย่างที่สองยกระดับดาบอสูรนิรันดร์เป็นระดับห้า

ถึงเขาจะอยู่บนจุดสูงสุดของระดับภูผาวารีแล้ว แต่ใช่ว่าจะสามารถทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราเวลาใดก็ได้ มันจะต้องมีความเข้าใจมากพอเสียก่อน รวมถึงการสะสมพลังปราณด้วย

จากระดับภูผาวารีสู่ระดับสุริยันจันทรา นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มิฉะนั้นจะติดคอขวด

ในขณะที่หลิงฮันกำลังสะสมพลังปราณ เขาก็เตรียมเม็ดยาสำหรับตัวเอง ถ้าเขาสะสมพลังปราณได้ไม่มากพอ เขาก็สามารถพึ่งพาปัจจัยภายนอกอย่างเม็ดยา

เขาไม่มีเวลาฝึกฝนปรุงยา โดยปกติแล้วจะนั่งฝึกฝนอยู่ใต้ต้นสังสารวัฎทุกคนเพื่อค้นหาประตูสู่ระดับสุริยันจันทรา

ภายในพริบตา เวลาก็ผ่านไปครึ่งปี

สำหรับตัวตนระดับพระเจ้า เวลาครึ่งปีเหมือนกระพริบตา แต่สำหรับหลิงฮันและคนอื่นๆ นั่นเป็นเวลามากกว่าหนึ่งร้อยปีภายใต้ต้นสังสารวัฎ

หลิงฮันมีความมั่นใจพอที่จะทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราได้สำเร็จ แต่ในขณะนั้นเอง ในที่สุดก็มีข่าวดีจากตระกูลโม่ พวกเขาค้นพบตำแหน่งที่ตั้งของห้านิกายโบราณแล้ว

นั่นคือดาวหยุนติ่ง ทวีปดาราสาดส่อง ซึ่งอยู่ห่างจากดาวเฟยหยุนประมาณสองร้อยปี

นี่เป็นระยะทางที่ไกลมาก มิฉะนั้นตระกูลโม่คงไม่ใช้เวลาค้นหานานขนาดนี้ พวกเขาหาพบโดยใช้วิธีการกระจายข่าวผ่านพ่อค้าจากจักรวาลหนึ่งไปยังอีกจักรวาลหนึ่ง และในที่สุดก็ค้นพบตำแหน่งของห้านิกายโบราณ

โชคดีที่ฮูหนิวปรับแต่งพาหนะแหวกเมฆาให้ใหม่ แม้แต่หลิงฮันยังไม่รู้ว่าความเร็วของมันจะเร็วกว่าเรือบินทั่วไปกี่เท่า นอกจากนั้นนางยังใส่แผนที่ดวงดาวไว้ให้ด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทางอยู่ในอวกาศ

อย่างมาก…น่าจะใช้เวลาเดินทางสองปี

เอาล่ะ!

หลิงฮันเริ่มทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทรา

ผ่านไปแค่เจ็ดวัน เขาก็ทะลวงผ่านระดับใหม่ มีสีแดงของดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่ในตันเถียนและทัณฑ์สวรรค์ก็ตอบสนอง เขาเลยรีบออกมาจากหอคอยทมิฬทันที

หลิงฮันเริ่มกระบวนการทำลายและสร้างอีกครั้ง – ทำลายกระดูกของตัวเองและปรับแต่งมันภายใต้พลังของทัณฑ์สวรรค์เพื่อทำให้กระดูกแข็งแกร่งขึ้น

การประมูลหยดเซียนหยวนทั้งสี่หยดและสูตรเม็ดยาโบราณจำนวนมาก ทำให้หลิงฮันได้รับผลึกก่อเกิดมหาศาล ซึ่งเขาไม่เพียงแค่จ่ายหนี้เก่าที่ติดตระกูลโม่หมดเท่านั้น แต่ยังเหลือผลึกก่อเกิดอีกมากมาย ดังนั้นเขาจึงนำผลึกก่อเกิดทั้งหมดที่ได้รับไปซื้อแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่เพื่อปรับแต่งดาบอสูรนิรันดร์

หลังจากที่หลิงฮันปล่อยให้ดาบอสูรนิรันดร์กลืนกินแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ ในที่สุดมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและกลายเป็นระดับห้า

ทั้งคนและดาบกำลังรับทัณฑ์สวรรค์พร้อมกัน

เปรี๊ยง เปรี๊ยง กระดูกของหลิงฮันแตกหัก ส่วนดาบอสูรนิรันดร์เกิดรอยร้าว แต่มันไม่หัก และมีเศษเหล็กจำนวนมากลอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

มันคือกากแร่ ของเสียที่ไร้ประโยชน์ และดาบอสูรนิรันดร์เล่มนี้ดูเหมือนจะเกิดมาพร้อมกับความฉลาดของมันเองและพัฒนาเข้าสู่ระดับต่อไป

สายฟ้ากลายเป็นสายฝนเพื่อปิดกั้นท้องฟ้ากับหลิงฮันและดาบอสูรนิรันดร์ แล้วหลังจากนั้นแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ก็สาดส่องไปทั่วทั้งดาวอีกครั้ง