ตอนที่ 1216

Alchemy Emperor of the Divine Dao

มับ!

โสมเฒ่าแค่อยากจะทำอะไรลามก แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าถูกฮูหนิวจับแน่น ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นสาวน้อยคนนี้อยู่ตรงหน้า นางอ้าปากเล็กน้อยและมีน้ำลายไหลออกมา

“หลิงฮัน หลิงฮัน ดูนี่สิ หนิวจับราชาโสมเฒ่าได้!” ฮูหนิวยังคงตะกละเหมือนเดิม ขณะที่นางเช็ดน้ำลายของตัวเอง นางก็มอบรอบข้างและพูดว่า “หม้อ หม้ออยู่ไหน หนิวอยากตุ๋นราชาโสมเฒ่า!”

“ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย!” โสมเฒ่ารีบส่งเสียงกรีดร้อง

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “โสมเฒ่านี่ยังมีประโยชน์ พวกเราอย่าเพิ่งจับลงหม้อจะดีกว่า”

“อืมมม….” ฮูหนิวพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ และต่อรองว่า “ถ้างั้นหั่นครึ่งได้ไหม?”

“ไม่ได้!” โสมเฒ่ากรีดร้องอีกครั้ง “นี่เจ้าเป็นใครกัน? เจ้าไม่รู้หรือไงว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือราชาโสมที่กำเนิดจากสวรรค์และปฐพี เจ้าควรเคารพเทิดทูนข้าซะ!”

ฮูหนิวไม่สนใจที่โสมเฒ่าพูด นางเพียงแค่หันไปมองหลิงฮัน

หลิงฮันหัวเราะและพูดกับโสมเฒ่าว่า “ถ้าเจ้าเจอคนตะกละอย่างนาง ข้าขอแนะนำเจ้าว่ายอมเสียแค่ส่วนหนึ่งร่างกายของเจ้าดีกว่าถูกกินทั้งตัว!”

โสมเฒ่าไม่มีทางเลือก นอกจากดึงส่วนหนึ่งของร่างกายให้หลิงฮัน จากนั้นหลิงฮันก็เปิดฝาหม้อและใส่เนื้อสัตว์อสูรกับสมุนไพรลงไป และกลายเป็นเนื้อตุ๋มโสมที่สมบูรณ์แบบ

“กลิ่นหอมมาก!” ถึงฮูหนิวจะทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่งแล้ว แต่นิสัยการกินของนางก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย นางตั้งหน้าตั้งตารอกินด้วยความตื่นเต้น ราวกับไม่ใช่จอมยุทธระดับเซียน แต่เหมือนลูกลิงมากกว่า

หลังจากที่ทุกคนได้ยินหลิงฮันพูดว่าฮูหนิวเป็นจอมยุทธระดับเซียน นี่ทำให้พวกเขาแต่ละคนแทบจะหมดเป็นลม

ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตัวตนระดับเซียนหมายถึงจุดสิ้นสุดของวิถีวรยุทธและกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล ทว่าฮูหนิวกลับทะลวงผ่านด้วยเวลาแค่ไม่กี่ปี พวกเขาจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร?

แต่หลิงฮันไม่มีทางโกหกพวกเขา

แม้ว่าพวกเขาจะกินเนื้อและซุปหม้อเดียวกัน แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนความฝัน

สามวันต่อมา ฮูหนิวเกาะติดหลิงฮันตลอดทั้งวัน และพยายามระดมสมองคิดแผนที่จะหนีไปพร้อมกับหลิงฮัน อย่างไรก็ตาม ทันทีที่นางมีแผนดังกล่าว หญิงชราชุดฟ้าก็จะปรากฏตัวออกมาอย่างกะทันหันและหยุดฮูหนิว มันน่ารำคาญมาก

“ไม่ต้องกังวล ถึงข้าจะไม่รู้ว่าดินแดนแห่งเซียนอยู่ที่นี่ แต่ข้าจะไปหาเจ้าที่นั่นอย่างแน่นอน!” หลิงฮันกล่าวด้วยเสียงที่หนักแน่น ไม่เพียงแค่ไปหาฮูหนิวคนเดียว แต่ยังรวมถึงพ่อแม่ ลูกชายและภรรยาที่อยู่ที่นั่น

“หนิวจะเชื่อหลิงฮัน!” ฮูหนิวพยักหน้า “หนิวจะอดใจรออย่างอดทน แม้จะต้องรอหลายร้อยปีก็ตาม หลิงฮันจะต้องไปที่ดินแดนแห่งเซียนได้อย่างแน่นอน!”

ฮูหนิวหันไปมองรอบๆและพูดว่า “หนิวจะบอกความลับบางอย่างกับหลิงฮัน!”

แม้ว่าการกระทำของฮูหนิวจะไม่ค่อยน่าไว้วางใจ แต่นางก็ไม่ได้เล่น นางบอกความลับของวิถีวรยุทธให้หลิงฮันฟัง และยังปรับแต่งพาหนะแหวกเมฆาของหลิงฮันให้หลิงฮันมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อที่จะเดินทางบนอวกาศได้และสามารถเก็บแผนที่ดวงดาวได้

สำหรับจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่ง นี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย กระทั่งโลกยังสร้างขึ้นได้!

ในช่วงเวลาวสามวันที่ผ่านมา หลิงฮันพยายามดูดซับความรู้ทุกอย่างจากฮูหนิว ทำให้เขามีเวลาอยู่กับฮูหนิวน้อยมาก

ในวันที่สี่ หญิงชราชุดฟ้าปรากฏตัวอย่างกะทันหันและคว้าร่างของฮูหนิวที่ส่งเสียงกรีดร้องโวยวายแล้วเดินจากไปในพริบตา แน่นอนด้วยความต้องการอันแรงกล้าของฮูหนิว สุ่ยเยี่ยนยวี่จึงถูกพาตัวไปด้วย

ความหึงหวงของเด็กสาวตัวน้อยคนนี้…ช่างแรงกล้ายิ่งนัก นี่ถ้าหูเฟยหยินไม่ได้อยู่ในหอคอยทมิฬ นางคงถูกพาตัวไปด้วยอย่างแน่นอน

เนื้อตัวของหลิงฮันยังคงมีกลิ่นของฮูหนิวติดอยู่ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน

การปรากฏตัวของฮูหนิวทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับเขา

เขารีบเข้าไปในหอคอยทมิฬทันที เพื่อไปหาเซียนหวู่เซียง

“ผู้อาวุโส มันมีระดับพลังที่เหนือกว่าระดับสร้างสรรพสิ่งหรือไม่?” หลิงฮันถามตรงๆ

เซียนหวู่เซียงรีบตอบกลับทันทีว่า “ไม่มีทางเป็นไปได้ ข้าฝึกฝนตนเองถึงจุดสิ้นสุดของวิถีวรยุทธ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีระดับเหนือกว่านั้น!”

“แล้วผู้อาวุโสเคยได้ยินดินแดนแห่งเซียนหรือไม่?” หลิงฮันถามอีกครั้ง

“ดินแดนแห่งเซียน?” เซียนหวู่เซียงพึมพัม ถ้าตอนนี้เขายังมีกายหยาบ เขาจะต้องเผยสีหน้าตกตะลึงออกมาให้เห็นแน่

“เฮ้อ!” หอคอยน้อยถอนหายใจและโผล่ออกมา “ข้าไม่อยากให้เจ้ารู้เรื่องพวกนั้นเร็วนัก แต่ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องพวกนั้นแล้ว ข้าก็จะบอกเจ้าเองเพื่อไม่ให้มีอะไรค้างคาใจ”

“นี่เจ้ารู้อย่างนั้นรึ?” หลิงฮันถาม

หอคอยน้อยเมินหลิงฮันและพูดว่า “ขอบเขตพลังที่สูงกว่าระดับสร้างสรรพสิ่ง แน่นอนว่าจะต้องมีอยู่ และดินแดนแห่งเซียน…เป็นสถานที่ที่คนเหล่านั้นอาศัยอยู่”

“เป็นไปไม่ได้!” เซียนหวู่เซียงอุทานออกมาทันที

“ถ้างั้นดินแดนแห่งเซียนอยู่ที่ไหน?” หลิงฮันถาม เนื่องจากเขามาจากโลกใบเล็ก ในเมืองดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือโลกใบเล็ก เช่นนั้นจะไม่มีดินแดนที่อยู่สูงกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?

หอคอยทมิฬน้อยสงบนิ่งเหมือนบ่อน้ำโบราณและพูดว่า “เมื่อใดที่เจ้าทะลวงผ่านจุดสูงสุดของระดับสร้างสรรพสิ่งและเชี่ยวชาญการควบคุมพลังแห่งการสรรสร้างและพลังแห่งการทำลาย เจ้าก็จะมีพลังที่สามารถเปิดทางเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มิฉะนั้นเจ้าจะไม่มีวันหามันพบ”

พลังแห่งการสรรสร้างและพลังแห่งการทำลาย?

หัวใจของหลิงฮันเต้นรัว เซียนคือพลังแห่งการสรรสร้าง ในขณะที่จ้าวอสูรคือพลังแห่งการทำลาย ซึ่งเขาจะต้องควบคุมพลังทั้งสองอย่างให้ได้พร้อมกันเสียก่อนถึงจะเปิดทางเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนได้

“นี่คือดินแดนที่สูงสุดแล้ว?” หลิงฮันถาม

“ไม่ ดินแดนแห่งเซียนเป็นแค่ส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มันถูกปิดผนึก” หอคอยน้อยกล่าว

ในทางกลับกัน เซียนหวู่เซียงดูเหมือนเป็นคนโง่ ถึงเขาจะเป็นเซียน แต่ความจริงดังกล่าวทำให้เขาตกตะลึงเกินไป

“ปิดผนึก? ใครเป็นคนปิดผนึก แล้วทำไมถึงทำเช่นนั้น?” หลิงฮันถาม

“ความทรงจำของข้าเพิ่งกลับมาเล็กน้อย มันไม่มีประโยชน์ที่เจ้าจะถามข้าต่อ” หอคอยน้อยไม่ตอบคำถามและพูดว่า “อย่างแรกที่เจ้าต้องทำคือฝึกฝนให้หนัก ในเวลาเดียวกันเจ้าจะต้องเชี่ยวชาญการใช้พลังแห่งการสรรสร้าง แล้วนั่นจะทำให้เจ้าสามารถเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนและคำตอบของเจ้าจะอยู่ที่นั่น”

หลิงฮันพยักหน้าและเกิดความรู้สึกอันแรงกล้าในใจ

เห็นได้ชัดว่าหอคอยทมิฬหรือคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์มาจากดินแดนแห่งเซียน มิฉะนั้นหอคอยทมิฬคงไม่มีความสามารถที่น่าทึ่งขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเร่งเวลาการเพาะปลูกสมุนไพร หรือเป็นสถานที่ซ่อนตัวให้กับเขา โดยที่ไม่มีใครเห็น

เพราะพลังอำนาจของหอคอยทมิฬนั้นอยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

เช่นนั้น เจ้าของดั้งเดิมของหอคอยทมิฬอาจได้รับบาดเจ็บและถูกจอมยุทธจากดินแดนแห่งเซียนสังหาร ศัตรูที่แข็งแกร่งแบบนั้น…อาจกำลังรอเขาอยู่ที่ดินแดนแห่งเซียนก็เป็นได้

แม้ว่าความก้าวหน้าของเขาจะรวดเร็วมาก แต่เมื่อเทียบกับฮูหนิวแล้ว มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับนางมากที่จะทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่งในดินแดนแห่งเซียน

แน่นอนว่าตำหนักมัจฉาวายุภักษ์เป็นขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขุมพลังทั่วไปคงไม่มีทางปลุกปั่นฮูหนิวให้แข็งแกร่งรวดเร็วขนาดนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นบรรพบุรุษของฮูหนิวเองก็เป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่ง หากรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ตอนนี้ฮูหนิวได้กลายเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวไปแล้ว

แต่ก็สามารถจินตนาการได้ว่าที่ดินแดนแห่งเซียนจะต้องมีสุดยอดอัจฉริยะอยู่นับไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่ง

และเขาอาจจะต้องแข่งขันกับสุดยอดอัจฉริยะของดินแดนแห่งเซียน และท้ายที่สุดก็ต้องต่อสู้กับจอมยุทธที่แข็งแกร่งของดินแดนแห่งเซียน!

ไม่ใช่ว่ามันฟังดูน่าสนุกหรอกหรือ?