ชายหนุ่มสองคนนั้นพาเฉินโม่เข้าไปในลานบ้าน หนึ่งคนในนั้นก็โค้งคำนับเฉินโม่แล้วกล่าว “เฉินไต้ซือ โปรดรอสักครู ผมเข้าไปเรียนอาจารย์ก่อนครับ!”

ท่าทีของชายหนุ่มต่างไปจากเมื่อกี้ มีความนอบน้อมมากขึ้น

ยังไม่ทันที่เฉินโม่จะพยักหน้า ทันใดนั้นก็ดังขึ้นด้วยเสียงที่ก้องกังวาน “เฉินไต้ซือ ไม่เจอกันนานเลย!”

ทันใดนั้นชายหนุ่มสองคนนี้ก็อุทานอย่างดีใจ “ครับอาจารย์!”

ในใจของเฉินโม่กระตุกไปหนึ่งที พลังบำเพ็ญนี้เมื่อเทียบกับของโอคาโมโตะ เมอิจิแล้วแข็งแกร่งกว่ามาก!

ดูแล้วประเทศต้าเหอจะมากไปด้วยคนเก่ง และความเก่งในด้านของโลกฝึกบู๊ก็ไม่ควรมองข้าม

เสียงนั้นยังคงพูดต่อ “พาเฉินไต้ซือเข้ามาเถอะ!”

“ครับ!” ชายหนุ่มสองคนนั้นทำความเคารพโดยการโค้งคำนับ ท่าทางนอบน้อมอย่างมาก

“เฉินไต้ซือ อาจารย์เรียนเชิญท่าน”

“เชิญนำทาง” เฉินโม่พูดจบ ก็เหลือบไปมองเล่หรูหั่ว ยิ้มแล้วพูด “ไม่ต้องกังวล ฉันบอกแล้ว มีฉันอยู่ จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีก”

เล่หรูหั่วพยักหน้า “ฉันเชื่อนาย”

เฉินโม่จูงมือของเล่หรู่หั่ว ตามชายหนุ่มสองคนนั้นเข้าไปในห้อง

ในห้องโถง บนพรมสีพื้นวางไว้ด้วยฟูกกลมสานสองอัน ชายชราที่มีจอนผมสีเทากำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนฟูกกลม

ชายชรามีรูปกายที่สง่างาม กำลังนั่งชงชาอย่างสบายใจ

เมื่อพวกเฉินโม่เข้ามาแล้ว ชายชราไม่ได้เงยหน้าขึ้น ยังคงรินชา “การมาของเฉินไต้ซือ ช่างเป็นเกียรติแก่โลกฝึกบู๊ของประเทศต้าเหอ!”

“ยินดีต้อนรับ!”

เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ “เกรงใจไปแล้ว”

ชายชราได้รินชาให้แก้วของตัวเองและแก้วที่อยู่ตรงหน้าจนเต็ม จากนั้นจึงได้วางมือลง แล้วมองเฉินโม่

“เฉินไต้ซือ เชิญ!” ชายชราชี้ไปยังที่นั่งที่อยู่ตรงหน้า พูดอย่างยิ้มๆ

เฉินโม่ก็ไม่ได้เกรงใจ พาเล่หรูหั่วเดินเข้าไป แล้วนั่งลงบนฟูกทรงกลม

ชายชราพูดกับลูกศิษย์ทั้งสองคน “พวกนายสองคนออกไปก่อน”

“ครับ!” ทั้งสองคนที่อยู่ต่อหน้าชายชรา ท่าทางนอบน้อมมาก

เฉินโม่มองชายชรา แล้วถามอย่างราบเรียบ “คุณก็คือยากิวยิโตะ”

แม้จะเป็นการถาม แต่เฉินโม่กลับใช้น้ำเสียงที่มั่นใจ

ชายชราพยักหน้า ใช่ ฉันก็คือยากิวยิโตะดาบเดียวผู้สืบทอดรุ่นปัจจุบันยากิวยิโตะ

“คุณหาผมมีเรื่องอันใด?” สีหน้าของเฉินโม่เฉยเมย ไม่ได้มีความสนใจเกี่ยวกับยากิวยิโตะดาบเดียวเลย

ยากิวยิโตะมองเฉินโม่ แล้วยกถ้วยชาเซรามิกขึ้นมา “ผมอยากขอคำแนะนำเฉินไต้ซือเกี่ยวกับเคล็ดวิชาของหัวเซี่ย!”

เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ “ขอโทษด้วย ผมไม่ได้สนใจ”

สีหน้าของยากิวยิโตะเปลี่ยนไปในทันที “พูดอย่างจริงจัง แล้วถ้าผมบอกว่าจะทวงความยุติธรรมให้กับตระกูลยามาดะ?”

เฉินโม่หรี่ตาลง “คุณมาเพื่อแก้แค้นแทนตระกูลยามาดะเหรอ?”

ยากิวยิโตะพูด “ตระกูลยามาดะแม้จะมีความผิด แต่ก็ไม่ถึงตาย นายกลับฆ่าล้างตระกูลยามาดะ ไม่เห็นโลกฝึกบู๊ของประเทศต้าเหอในสายตาเลยใช่มั้ย?”

เฉินโม่ลุกขึ้น มองยากิวยิโตะ “ถ้าหากคุณต้องการแก้แค้นแทนตระกูลยามาดะ ถ้างั้นก็นัดเวลามาได้เลย!”

ยากิวยิโตะมองเฉินโม่ ผ่านไปครู่หนึ่ง บนยอดเขาฟู่ถุ เรามาสู้ให้รู้แพ้รู้ชนะกันไปเลย

“เขาฟู่ถุอยู่ไหน?” เฉินโม่ถาม

“ก็เป็นเขาลูกที่นายฆ่าล้างตระกูลยามาดะ” ยากิวยิโตะพูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ

เฉินโม่พยักหน้า พาเล่หรู่หั่วกลับไป

เล่หรูหั่วถามอย่างกังวล “นายรับปากเขาจริงๆเหรอ? ถ้าหากเขาซุ่มโจมตีล่ะ?”

เฉินโม่ส่ายหัว “ไม่หรอก”

“เพราะอะไร?” เล่หรูหั่วไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินโม่ถึงได้เชื่อใจยากิวยิโตะขนาดนั้น

เฉินโม่มองไปข้างหน้า แววตาแน่วแน่ “เพราะว่าเขาเป็นนักบู๊ที่แท้จริง”

ทั้งสองคนหาโรงแรมที่อยู่แถวนั้น เฉินโม่และเล่หรูหั่วคนละหนึ่งห้อง

เวลายังเช้าอยู่ ทั้งสองคนจึงนั่งคุยกันในห้อง