หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1149 พลังอำนาจหมัดปีศาจ
ตู้ม ตู้ม ตู้ม**!**
รัศมีสังหารไร้ขอบเขตพวยพุ่งจากร่างมู่เฉินในรูปแบบควัน ย้อมน้ำในทะเลสาบสวรรค์เป็นสีแดงเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสมรภูมิที่โหดร้าย
เมื่อผู้ชมเห็นสิ่งนี้ใบหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างควบคุมไม่ได้ เนื่องจากพวกเขารู้สึกถึงเลือดเดือดพล่าน เจตนาฆ่าที่เพิ่มขึ้นในหัวใจ ทำให้พวกเขาสูญเสียการควบคุมเล็กน้อย
“ไอสังหารกดขี่อะไรอย่างนี้!”
เมื่อสัมผัสได้หัวใจทุกคนก็สั่นสะท้าน ก่อนที่จะถอยกันจ้าละหวั่น เพราะกลัวว่าจะถูกปนเปื้อนจากเจตนาฆ่าและสูญเสียสติไป
“มู่เฉินฝึกวิชาอะไรกัน? ทำไมไอสังหารถึงน่ากลัวขนาดนี้?!” ผู้คนมองมู่เฉินด้วยความหวาดผวาในดวงตา
“นั่นวิทยายุทธะดับเสินทง!”
มีผู้ชมดวงตาเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ จากนั้นก็อดอุทานออกมาไม่ได้ มีเพียงวิทยายุทธระดับเสินทงแท้จริงเท่านั้นที่จะมีพลังซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คน
“เขาสามารถฝึกฝนวิทยายุทธระดับเสินทงได้รึ?” มีคนรู้สึกว่านี่ช่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าวิทยายุทธระดับเสินทงจะทรงพลัง แต่ทุกคนก็รู้ดีว่ามีเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้ ต่อให้จอมยุทธ์ธรรมดาจะได้รับไป ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝน ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นมู่เฉินใช้กระบวนท่าระดับเสินทงแบบนี้ หัวใจพวกเขาก็สั่นสะท้านด้วยความตกใจ
อันที่จริงไม่ใช่แค่ผู้ชมที่ตกใจ แม้แต่เซี่ยหยู่ก็อดมีสีหน้าเปลี่ยนไปไม่ได้เมื่อสัมผัสได้ถึงไอสังหาร สายตาที่มองไปทางมู่เฉินก็ปรากฏร่องรอยความกลัวเป็นครั้งแรก
แคว้นเซี่ยเองก็มีวิทยายุทธระดับเสินทง เขาจึงมีความรู้บางอย่างเกี่ยวกับวิชาเหล่านี้ ดังนั้นเขารู้ว่ายากเพียงใดที่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าจะปล่อยกระบวนท่าได้สำเร็จ
แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่เคยสำเร็จในการปล่อยกระบวนท่าเลย
“มู่เฉินมีความสามารถแท้จริง วันนี้ต้องฆ่ามันให้ได้!” เซี่ยหยู่กัดฟันพร้อมกับไอเย็นเยือกในดวงตา จิตสังหารพวยพุ่งขึ้นในใจ ความสามารถและศักยภาพที่มู่เฉินแสดงออกมาทำให้เซี่ยหยู่ตกใจกลัว ในเมื่อตอนนี้มู่เฉินก็เป็นศัตรูตัวฉกาจของแคว้นเซี่ยอยู่แล้ว ดังนั้นเขาต้องฆ่ามู่เฉินเท่านั้น เพื่อไม่ให้ได้เติบโตจนนำไปสู่หายนะ!
“ขอข้าดูหน่อยว่าวิทยายุทธระดับเสินทงของแกที่ฝืนใช้จะแน่แค่ไหน!”
เซี่ยหยู่คำราม เวลานี้เขาปิดผนึกร่างเทห์สวรรค์ของมู่เฉินซึ่งทำให้อีกฝ่ายอยู่ในสภาพอ่อนแอที่สุด ต่อให้จะฝืนปล่อยกระบวนท่าได้ แต่พลังก็น่าจะมีจำกัด กลับกันตัวเขามีร่างราชันฟากฟ้าขยายความแข็งแกร่งซึ่งเพียงพอที่จะปราบปรามมู่เฉิน
คิดถึงจุดนี้ หมัดราชันก็เล็งไปที่มู่เฉินปลดปล่อยรังสีนับไม่ถ้วน ความผันผวนของการทำลายล้างกระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง
เส้นเลือดคืบคลานขึ้นในนัยน์ตาของมู่เฉิน เขาจ้องมองหมัดราชันที่ปกคลุมตัวเขาเอาไว้ แววตาไม่มีความรู้สึกใดๆ เพราะในขณะนี้เขาได้กำจายรัศมีการเสียสละตนเองอยู่รอบตัว
ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยหยู่ ต่อให้ที่ยืนตรงหน้าเป็นจอมยุทธ์เทียนจื้อจุน มู่เฉินก็ไม่ลังเลที่จะเสี่ยงชีวิต
หากหมัดปีศาจสละชีพไม่ได้ครอบครองรัศมีการเสียสละตัวเองใดๆ ก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยกระบวนท่าออกมาและไม่สามารถปลดปล่อยพลังได้ ดังนั้นเมื่อมู่เฉินดำเนินการสำเร็จ เขาก็พร้อมที่จะสละชีวิตของตนเองแล้ว
ในเมื่อเขาไม่มีความกลัวกับความเป็นตายแล้วมีอะไรต้องกลัวระหว่างฟ้าดิน?
ดังนั้นภายใต้การเคลื่อนไหวที่ไม่เกรงกลัวนี้ มู่เฉินก็ค่อยๆ ชกหมัดออกไป ซึ่งในวินาทีนั้นฟ้าดินในดวงตาเขาก็ได้เงียบงันลง
ริ้วไอสีดำห่อหุ้มหมัดเขา นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้ดูผิดปกติอะไร เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวหมัดราชันของเซี่ยหยู่ดูแข็งแกร่งกว่าหลายเท่าอย่างชัดเจน
ทว่ามู่เฉินดูราวกับว่าไม่ได้สังเกตเห็น เขาเหยียดหมัดออกอย่างใจเย็นปะทะกับหมัดราชันที่ซัดลงมา
หมัดราชันมีขนาดประมาณหนึ่งพันจั้งห่อหุ้มด้วยแสงหลิง ซึ่งยังมีใบหน้าทรงเกียรติของราชัน สามารถข่มขู่จอมยุทธ์ธรรมดา จนถึงจุดที่พวกเขาสูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
เมื่อเทียบสองหมัดนี้ หมัดของมู่เฉินมีขนาดเล็กจิ๋วยิ่งนัก
ทว่าจังหวะปะทะกันทุกคนก็มองเห็นระลอกคลื่นกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
ม่านตาของเซี่ยหยู่หดเกร็งลงทันที
นั่นเป็นเพราะเขาเห็นว่าเมื่อหมัดปะทะกัน ร่างและหมัดของมู่เฉินไม่ได้ถูกผลักออกไป คล้ายกับศิลาที่ดูมั่นคงอย่างแท้จริง
ตรงกันข้ามที่เป็นกำปั้นใหญ่โตสั่นสะเทือนรุนแรง
ความไม่หวาดหวั่นที่ไม่แม้แต่จะกลัวความตายแผ่ออกมาจากหมัดกระแทกเข้าที่หัวใจเซี่ยหยู่ ทำให้หัวใจเขาสั่นสะท้าน ใบหน้าเขียวคล้ำเมื่อมองไปที่มู่เฉิน
การแบกไว้ดังกล่าวทำให้เขาเข้าใจว่ามู่เฉินได้สละชีวิตเพื่อต่อสู้กับความเป็นตายกับเขาแล้ว
“โคตรบ้า!”
เซี่ยหยู่พึมพำ เห็นได้ชัดว่าเขาถูกข่มขู่โดยมู่เฉิน นั่นเป็นเพราะตั้งแต่แรกเขาก็ไม่มีความคิดที่จะต่อสู้กับมู่เฉินด้วยชีวิตบนเส้นทางนี้ เขาเป็นองค์รัชทายาทแคว้นเซี่ยที่มีสมบัติป้องกันหลายประเภท แล้วเขาจะโง่พอที่จะละทิ้งทุกสิ่งและวางชีวิตไว้กับมู่เฉินได้อย่างไร?
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการมีชีวิตรอด
ด้วยความคิดนี้ทำให้เกิดความตั้งใจที่จะถอยออกมาในใจของเซี่ยหยู่ เขาไม่ต้องการสู้กับคนคลั่งแบบนี้อีกต่อไป
ทว่า… ทุกอย่างเหมือนจะสายไปสำหรับความคิดนี้
แกร็ก!
หมัดของมู่เฉินซึ่งปกคลุมไปด้วยรัศมีสีดำ ทำให้รอยแตกละเอียดปรากฏบนหมัดราชัน จากนั้นรอยแตกก็ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่ลมหายใจก็ห่อหุ้มหมัดทั้งหมดไว้แล้ว
ปัง!
เมื่อรอยแตกกระจายออกไปจนสุด การโจมตีที่เค้นพลังทั้งหมดของเซี่ยหยู่ก็พังทลายลง กระจัดกระจายออกเป็นประกายแสง
ผู้ชมอ้าปากเหวอ การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเซี่ยหยู่ถูกทำลายลงอย่างง่ายดายโดยมู่เฉินอย่างนี้เลยเหรอ?
ขณะที่พวกเขาตกตะลึง เซี่ยหยู่ก็ถูกทะลวงอย่างหนักหน่วง รัศมีการเสียสละตัวเองที่ห่อหุ้มกำปั้นของมู่เฉินถูกส่งเข้าไปในส่วนลึกของหัวใจของเซี่ยหยู่ ดังนั้นไม่เพียงแต่เขาจะได้รับบาดเจ็บหนัก กระทั่งความตั้งใจในการต่อสู้ในใจก็สลายไปอย่างสมบูรณ์
อ็อก!
เลือดคำหนึ่งพ่นออกมาจากปากเซี่ยหยู่ ร่างถูกเป่ากลับ พลังงานหลิงไร้ขอบเขตที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายก็ลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว
การทำลายหมัดราชัน ทำให้เส้นเลือดในดวงตาของมู่เฉินหนาแน่นขึ้น เขาไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เท้าก้าวออกไปปรากฏตัวต่อหน้าเซี่ยหยู่ เล็งกำปั้นไปที่หน้าอกของเซี่ยหยู่
นี่ยังคงเป็นหมัดเรียบง่าย แต่รัศมีการเสียสละตัวเองประหนึ่งเทพความตายโอบล้อมเซี่ยหยู่ ทำให้เกิดความกลัวพล่านในดวงตาเขา
นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่าถ้าโดนโจมตีครั้งนี้ เขาตายคาที่แน่นอน!
“ตราราชันไศลนี ม่านไศลนที!”
ในวินาทีความเป็นตาย เซี่ยหยู่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเร้าตราราชันไศลนทีและใช้โอกาสครั้งสุดท้ายในการเปิดใช้งาน ตราปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพร้อมกับแนวป้องกัน
ตู้ม!
หมัดมู่เฉินกระแทกเข้ากับแนวป้องกันจังใหญ่ เลือดสดกระเซ็นออกมาจากหมัดพร้อมกับผิวหนังฉีกขาด ทว่าเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ กลับใส่พลังมากขึ้นด้วยสีหน้าไม่แยแส
ตู้ม ตู้ม!
เมื่อทะลวงแนวป้องกัน มู่เฉินก็ไม่ได้ใส่ใจสายตาจ้องมองไปที่เซี่ยหยู่ขณะฟาดหมัดเต็มเหนี่ยว
“ไอ้บ้า! ไอ้บ้า!”
เซี่ยหยู่รู้สึกหวาดกลัวกับกระบวนท่าของมู่เฉินที่ไม่สนใจกระทั่งชีวิตตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็คำราม “มู่เฉิน เจ้าโหดจริงๆ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้! ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้!”
แม้ว่ามู่เฉินจะใช้วิทยายุทธระดับเสินทง แต่ก็จะตกอยู่ในสถานะอ่อนแอหลังจากนั้น ในเวลานั้นเซี่ยหยู่ค่อยย้อนกลับมาฆ่าได้
ตู้ม ตู้ม!
ทว่าสิ่งที่เกินความคาดหมายของเซี่ยหยู่ก็คือ ต่อให้เขายอมรับความพ่ายแพ้ ใบหน้าของมู่เฉินก็ไม่มีการแสดงออกใดๆ มู่เฉินยังคงกำหมัดแน่น แม้ว่าหมัดจะเต็มไปด้วยบาดแผล
ในที่สุดเซี่ยหยู่ก็รู้สึกกลัวเมื่อเห็นภาพนี้
ปัง!
เผชิญหน้ากับหมัดที่น่ากลัวของมู่เฉิน ในที่สุดตราราชันไศลนทีก็ไม่สามารถรับผลกระทบ แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
อ็อก!
เมื่อม่านพลังพังลง เซี่ยหยู่ก็กระอักเลือดออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียว ก่อนที่จะมองด้วยความกลัวขณะมู่เฉินยกกำปั้นขึ้นราวกับหมัดยมทูต
“มู่เฉิน ถ้าแกกล้าฆ่าข้า ท่านพ่อข้าไม่มีวันปล่อยแกไปแน่! ถึงเวลานั้นแคว้นเซี่ยจะทำให้แกจ่ายราคากระอักแน่!” เซี่ยหยู่คำราม
เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเซี่ยหยู่ หมัดของมู่เฉินก็หยุดลงจังหวะหนึ่ง
นี่ทำให้เซี่ยหยู่ดีใจกับภาพนี้ แม้ว่ามู่เฉินจะเป็นบ้า แต่ก็ยังรู้เกี่ยวกับผลของการละเมิดฮ่องเต้เซี่ย
ทว่าขณะที่เขากำลังยินดีเตรียมที่จะล่าถอย ดวงตาแดงก่ำของมู่เฉินก็มองมาเห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยอยู่ภายใน
“แกพูดเหมือนว่าแคว้นเซี่ยจะไม่ตามล่าข้า แม้ว่าข้าจะปล่อยแกไป…”
มู่เฉินยิ้มอ่อน เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาไกลจนถึงขั้นขนาดนี้ ฮ่องเต้เซี่ยไม่มีทางยอมปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทำไมเขาถึงต้องผ่อนปรน?
ตู้ม!
ด้วยการแสดงออกที่ไม่แยแสมู่เฉินก็ชกหมัดออกไปอีกครั้ง
ใบหน้าของเซี่ยหยู่เต็มไปด้วยความกลัว คลื่นหลิงพุ่งขึ้นในร่างกายต้องการที่จะถอยหนีพร้อมกับนำมาตรการป้องกันทั้งหมดออกมา
ปัง!
ทว่าหมัดของมู่เฉินก็ทะลวงผ่านมิติอย่างรวดเร็ว กระแทกลงบนหัวของเซี่ยหยู่ แสงสีดำระเบิดขึ้นทำให้มิติแตกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับแก้ว
สะเก็ดมิติกระจัดกระจายพร้อมกับใบหน้าฉายความหวาดผวาและตกใจของเซี่ยหยู่…