หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1148 ตราราชันไศลนที
ตึง**!**
คลื่นกระแทกรุนแรงกวาดหายนะในทะเลสาบสวรรค์คลื่นทุกลูกทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะปลายสุดถึงกับหนังหัวชาหนึบ พวกเขารู้ว่าหากถูกกระบวนท่านี้เข้าคงตายคาที่แน่ แม้ว่าจะใช้ทุกทักษะที่มีออกมาก็ตาม
ดังนั้นสามารถเห็นได้ว่ามู่เฉินน่ากลัวเพียงใด แม้ว่าจะเป็นเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นก็ตาม
หลายคนทอดถอนหายใจในใจขณะที่มองไปที่สมรภูมิดุเดือด ขณะนี้มีร่างเทห์สวรรค์ใหญ่โตสองร่างที่เอิบอาบคลื่นทรงพลังพร้อมกับการโจมตีด้วยคลื่นหลิงจำนวนมากซัดไปหาอีกฝ่าย
การโจมตีเหล่านั้นทำให้โลกสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น พลังงานหลิงที่มีก็หมดลงมาก ตอนแรกเมื่อเซี่ยหยู่เห็นว่าไม่สามารถเอาชนะมู่เฉินได้อย่างรวดเร็ว เขาก็เลิกใช้ความเร็วและเลือกที่จะทำให้คู่ต่อสู้หมดแรง
เพราะเขาอยู่ในขั้นเก้าระยะเต็มแล้วโดยอยู่ห่างจากระดับตี้จื้อจุนเพียงก้าวเดียว ในแง่ของความหนาแน่นพลังงานหลิงของเขาเข้มข้นกว่ามู่เฉิน
ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเขาเชื่อว่าจะสามารถทำให้มู่เฉินหมดแรงได้
ทว่าความคิดมักดีเสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ค่อยๆ ตระหนักว่าร่างเทพสุริยะที่อยู่ใต้เท้าของมู่เฉินยังคงเปล่งประกายแวววาว
พลังงานของอีกฝ่ายดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดและเทียบได้กับเขาเลยทีเดียว
“เป็นไปได้ยังไง?!”
ใบหน้าของเซี่ยหยู่เขียวคล้ำ เขาไม่รู้ว่าหลังจากรวมกับเพลิงอมตะคลื่นหลิงของมู่เฉินก็มีลักษณะไม่มีวันหมดสิ้น ดังนั้นความยากลำบากในการทำให้มู่เฉินเหนื่อยล้าเกินจินตนาการของเซี่ยหยู่ไปไกล
“ร่างเทห์สวรรค์ของมันทรงพลังมากเกินไปบวกกับพลังกายก็น่ากลัวยิ่งกว่า ถ้าต้องการฆ่ามัน ก็ต้องแยกมันออกจากร่างเทห์สววรค์แล้วจัดการทันที!”
แต่เซี่ยหยู่ก็ไม่ใช่ธรรมดา เขายังหาทางได้แม้แต่ในเวลานี้ หนึ่งในเหตุผลหลักที่มู่เฉินสามารถต่อสู้กับเขาได้ก็เนื่องมาจากร่างเทพสุริยะลึกลับ
ตราบใดที่เขาสามารถแยกมู่เฉินออกจากร่างเทพสุริยะได้ เซี่ยหยู่เชื่อว่าจะสามารถฆ่ามู่เฉินได้ไม่ยาก
แต่เขาจะต้องใช้วิธีการบางอย่างเพื่อแยกมู่เฉินออกจากร่างเทห์สวรรค์ ซึ่งนี่ทำให้เขาลังเล ตอนแรกเขาเตรียมใช้ทักษะนี้กับจาโหลหลัว ถ้าเขาใช้ตอนนี้อนาคตก็จะถูกจาโหลหลัวตั้งระวังไว้
ความลังเลเกิดขึ้นชั่วครู่ก่อนที่เซี่ยหยู่จะปัดออกไปอย่างเด็ดขาด ตราบใดที่เขาสามารถจับมู่เฉินและได้รับร่างเทห์สวรรค์นี้ การเก็บเกี่ยวก็จะคุ้มค่า
ฮา
ด้วยการตัดสินใจนี้ เซี่ยหยู่มองไปที่มู่เฉินอย่างน่าขนพองสยองเกล้าก่อนที่เขาจะกัดลิ้นพ่นเลือดออกมาพร้อมกับแสงสีดำเปล่งออกมาจากเลือด
แสงสีดำสนิทขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตราหยกสีดำที่มีภูเขาและแม่น้ำสลักอยู่กำลังเปล่งความหนักหน่วงอันทรงพลังจนแม้แต่มิติก็พังทลาย
“นั่นคือ…สมบัติล้ำค่าของแคว้นเซี่ยตราราชันไศลนที?” เมื่อผู้ชมเห็นตราหยกดำนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็ฉาบด้วยความตกใจขณะอุทาน
“เป็นไปได้ยังไง?! ตราราชันไศลนทีเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นกลางที่สามารถควบคุมได้โดยจอมยุทธ์ระดับตี้จื้อจุนเท่านั้น นอกจากนี้นั่นก็เป็นสมบัติของฮ่องเต้เซี่ยทำไมเขาถึงมอบให้เซี่ยหยู่? ถ้าเซี่ยหยู่สูญเสียไปละก็จะเป็นผลกระทบใหญ่ต่อขุมกำลังของแคว้นเซี่ยเลยนะ!”
“นั่นไม่ใช่ตราราชันไศลนทีของจริง! น่าจะเป็นแบบจำลองที่ชำระโดยฮ่องเต้เซี่ย แม้ว่าการใช้งานจะจำกัด แต่ความสามารถก็เทียบได้กับอาวุธมหสรรค์ขั้นต่ำ!” มีสายตาแหลมคมบางคู่แยกแยะออกมาได้
“แม้ว่าจะเป็นของจำลอง แต่ความสามารถก็ยังน่ากลัว ดูเหมือนว่าเซี่ยหยู่ตัดสินใจฆ่ามู่เฉิน ถึงเอาไม้ตายนี้ออกมา!” มีคนถอนหายใจ เซี่ยหยู่ซ่อนสิ่งนี้ไว้ลึกมาก แต่ตอนนี้เขาถูกบังคับให้นำออกมา
เมื่อความวุ่นวายระเบิดขึ้น มู่เฉินก็มองไปที่ตราหยกดำก่อนที่จะหดดวงตา ที่แท้นั่นก็คือสมบัติประจำแคว้นเซี่ย แบบจำลองของตราราชันไศลนทีหรอ?
ดูเหมือนว่าเซี่ยหยู่ก็มีไม้ตายอยู่ในมือ!
“แกน่าจะภูมิใจที่บังคับให้ข้ามาไกลขนาดนี้!” เซี่ยหยู่มองไปที่มู่เฉินอย่างมืดมน จากนั้นเขาก็วาดตราประทับขึ้นก่อนที่ตราหยกดำจะสั่นเบาๆ ภาพสลักบนตราหยกราวกับกลายเป็นภาพเหมือนจริง
“ตราราชันไศลนที ม่านไศลนที!”
เซี่ยหยู่สะบัดนิ้วบนตราหยกเสียงก็ดังกระหึ่มออกมา จากนั้นทุกคนก็เห็นภาพเหมือนพุ่งออกไปเป็นแนวกั้นกดลงมาจากท้องฟ้า ห่อหุ้มร่างเทพสุริยะไว้
เมื่อม่านล้อมรอบตัว มู่เฉินก็สามารถรู้สึกได้ว่าการเชื่อมโยงของเขากับร่างเทพสุริยะถูกตัดขาดจากกัน
ดังนั้นคลื่นหลิงไร้ขอบเขตที่ปล่อยออกมาจากมู่เฉินจึงอ่อนแอลงอย่างมาก
สายตาของมู่เฉินกลายเป็นเคร่งเครียด ม่านนี้แปลกเกินไป กระทั่งตั้งระวังไว้ แต่ม่านก็ยังคลี่ผ่านแนวป้องกันของเขา ห่อหุ้มร่างเทพสุริยะได้
“อาวุธมหสวรรค์ที่มุ่งเป้าไปที่ร่างเทห์สวรรค์โดยเฉพาะเรอะ?” มู่เฉินตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอาวุธประเภทนี้ ดังนั้นเขาจึงสามารถบอกได้ว่าตราราชันไศลนทีทรงพลังเพียงใด หากสามารถปิดผนึกร่างเทห์สวรรค์ของอีกฝ่ายตอนสู้กัน นั่นเท่ากับว่าจะอยู่ยงคงกระพันในสมรภูมนี้
มิน่าล่ะชื่อเสียงของฮ่องเต้เซี่ยในทวีปทวีปเทียนหลัวถึงได้โด่งดังมาก ที่แท้ก็เพราะมีอาวุธมหสวรรค์ที่ทรงพลังเช่นนี้… แม้แต่แบบจำลองก็มีพลังมาก ดังนั้นจึงยากที่จะจินตนาการได้ว่าตราของแท้จะทรงพลังเพียงใด
“มู่เฉินสายไปที่จะเสียใจ!” เซี่ยหยู่มองสีหน้าของมู่เฉินที่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มประหลาด ตอนนี้มู่เฉินไม่สามารถหลบจากเงื้อมมือของเขาได้อีกต่อไป
สายตาของมู่เฉินวูบไหว แม้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไป แต่ในใจเขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกมากเกินไป ตราราชันไศลนทีทรงพลังอย่างแท้จริง แต่ตัวเขาก็มีพัดเทพสายลมเหมือนกัน ถ้าเขานำพัดออกมาก็จะสามารถลบม่านนี้ลงได้
ทว่ามู่เฉินไม่คิดจะใช้เนื่องจากเก็บไว้เป็นไม้เด็ด เขาไม่ต้องการนำออกมาที่นี่ เพราะจะเก็บไว้ใช้กับจาโหลหลัว
ตู้ม!
ขณะที่ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในใจมู่เฉิน เซี่ยหยู่ก็ไม่ลังเลกระทืบเท้าลงไป ร่างราชันฟากฟ้าที่อยู่ใต้เท้าระเบิดออกมาพร้อมกับแสงหลิงนับไม่ถ้วน คลื่นหลิงไร้ขอบเขตหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ขยายขนาดดูราวกับเหมือนยักษ์ขนาดเล็ก นอกจากนี้พื้นผิวร่างกายยังปกคลุมไปด้วยลวดลาย ความผันผวนที่น่ากลัวกระเพื่อมออกมา
แกร็ก
เซี่ยหยู่ค่อยๆ กำหมัดแน่น เสียงแตกเสียดแก้วหู เมื่อมองไปที่มู่เฉินรอยยิ้มน่ากลัวก็ปรากฏบนใบหน้า มู่เฉินสูญเสียการสนับสนุนจากร่างเทห์สวรรค์ ส่วนเขาสามารถพึ่งพาร่างราชันฟากฟ้าได้ ดังนั้นทั้งคู่ไม่อยู่ในระดับเดียวกันอีกต่อไป
ผลลัพธ์ถูกกำหนดแล้ว
ปัง!
เซี่ยหยู่ยิ้มและพุ่งออกมาเป็นริ้วแสง ยิงตรงไปที่มู่เฉิน ภาพซ้อนปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดคลื่นเสียงเจาะแก้วหู
“หมัดราชัน!”
เซี่ยหยู่คำรามขณะเหวี่ยงหมัดออกไปพร้อมกับคลื่นหลิงไร้ขอบเขตพวยพุ่งออกมา ขณะนี้เขาคล้ายกับดวงอาทิตย์เอิบอาบด้วยแรงกดดันคลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัว ใบหน้าทรงเกียรติปรากฏบนดวงอาทิตย์ประหนึ่งจักรพรรดิ
ความกดดันที่น่ากลัวห่อหุ้มลงมา ทำให้มู่เฉินรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่างกาย จิตวิญญาณมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงบินฉวัดเฉวียนอยู่บนพื้นผิวร่างกายส่งเสียงคำรามออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกมันสัมผัสได้ถึงอันตรายเช่นกัน
ถ้ามู่เฉินถูกกระบวนท่านี้ซัด แม้จะมีพลังกายแข็งแกร่งก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทุกคนถอนหายใจ พวกเขาทั้งหมดคิดว่ามู่เฉินคงจะจบชีวิตที่นี่แล้ว
หมัดราชันขยายออกไปอย่างรวดเร็วในดวงตาของมู่เฉิน ไอความตายทำให้ม่านตาของมู่เฉินหดลง แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือมู่เฉินไม่ได้ถอยหนี ตรงกันข้ามเขายังยืนมั่นอยู่ในตำแหน่งเดิม
“กลัวจนขาแข็งเลยเรอะ!” รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากเซี่ยหยู่
มู่เฉินไม่ได้ใส่ใจ เขารู้สึกได้ถึงไอความตายก่อนที่จะหลับตาลงท่ามกลางสายตาหวาดผวานับไม่ถ้วนราวกับว่ายอมแพ้
“เขายอมแพ้แล้ว” หลายคนถอนหายใจ หลังจากสูญเสียร่างเทห์สวรรค์ก็ชัดที่มู่เฉินจะรู้ตัวว่าไม่สามารถต่อสู้กับเซี่ยหยู่ได้
ทว่าขณะที่ทุกคนมีความคิดเช่นนั้น จังหวะนั้นมู่เฉินก็ลืมตาโพลง เส้นเลือดพล่านไปทั่วม่านตา
รัศมีการสังหารที่ไม่อาจจินตนาการได้รวมตัวกันรุนแรงภายในร่างกายของมู่เฉิน
เขารู้สึกได้ถึงไอความตายอีกครั้งจากหมัดของเซี่ยหยู่
หากเขาต้องการฝ่าสถานการณ์นี้ เขาก็ต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของตนเท่านั้น!
มู่เฉินค่อยๆ กำหมัดแน่น รัศมีการสังหารรุนแรงพุ่งออกมา ยามนี้แม้แต่ทะเลสาบสวรรค์ก็ดูเหมือนว่าถูกย้อมด้วยรัศมีสังหาร
มู่เฉินยกกำปั้นขึ้นก่อนที่จะค่อยๆ ชกออกไป
ทว่าเมื่อหมัดที่ดูธรรมดาเหวี่ยงออกไป น้ำในทะเลสาบก็ระเบิดขึ้นกะทันหัน
รัศมีการเสียสละตัวเองกลายเป็นปีศาจทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
สังเวยร่างกายปีศาจของข้า ทำลายอดีตและปัจจุบัน!
หมัดปีศาจพลีชีพ!