ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 654 ความสามารถหนึ่งเดียว

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ทิศตะวันออกเฉียงใต้มีประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำพุ่งมา ทุกที่ที่มันผ่าน การไหลของเวลาพากันปั่นป่วน เป็นคัมภีร์นภากาลเวลา หรือวิชากระบี่กาลเคลื่อนคล้อยเหมือนคังจิ่นหยวน

ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ แสงสว่างไร้สิ้นสุดสาดส่องแผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์ประหลาดของการขึ้นสลับกันของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ โดยมีแสงสว่างเป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงเป็นรอง คือกระบวนท่าวรยุทธ์ตะวันจันทราผสมผสานของสำนักแสงสว่างที่เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้คุ้นเคยเป็นอย่างดี

ประกายกระบี่ทิศตะวันออกเฉียงใต้มาเร็วกว่า คังจิ่นหยวนเห็นดังนั้นพลันยินดี “รีบมาช่วยข้าเร็ว!”

ความกล้าหาญของเขาที่หายไปก่อนหน้านี้ กลับคืนมาใหม่อีกครั้ง

คังจิ่นหยวนใช้พลังทั้งหมดของตัวเองต่อต้านการสะกดจากเยี่ยนจ้าวเกอ

ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสเวลาปรากฏขึ้น ม้วนพัดเข้าใส่เยี่ยนจ้าวเกอและร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก โต้ตอบชายหนุ่ม

เยี่ยนจ้าวเกอแค่นหัวเราะ ตัวเขากับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกลงมือพร้อมกัน กระแทกคังจิ่นหยวนกับเกราะฟ้าดินเข้าไปในเสาแสงขนาดมหึมานั้น

อีกฝ่ายพลันส่งเสียงคำรามน่ากลัว

ค่ายกลไม่สมบูรณ์ เป็นแค่การระเบิดของพลังบนเกาะเฉวียนหลิงที่เดียวเท่านั้น

ในตอนนี้เพลิงอัคคีที่หล่นลงจากท้องฟ้าอ่อนแอลงแล้ว เสาแสงเริ่มเปลี่ยนเป็นมั่นคง

ทว่าความสมดุลก่อนหน้าก็ค่อยๆ ถูกทำลายเช่นกัน พลังอันยิ่งใหญ่ที่เก็บสะสมไว้มีแนวโน้มระเบิด

เสาแสงกว้างขึ้นเรื่อยๆ กลืนกินมิติเวลาบริเวณรอบๆ ที่กว้างใหญ่ยิ่งกว่า

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็รู้ว่าตนไม่ควรอยู่ต่อ ไม่เช่นนั้นอาจะถูกม้วนเข้าไปในการระเบิดของพลังค่ายกล

เขายักไหล่ พุ่งเข้าลงไปในวังฝูงมังกรพร้อมร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก จากนั้นก็ออกห่างไปอย่างรวดเร็ว ลอยลิ่วเข้าไปในมหาสมุทรที่อยู่ไกลออกไป

น่านน้ำที่อยู่รอบๆ ลำแสงในตอนนี้โหมซัดกระหน่ำ ด้วยสภาวะพลิกฟ้าพลิกดิน

ชายหนุ่มหันหน้ากลับไปมอง เห็นประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสน้ำที่มาจากทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มาถึงแล้วหยุดนิ่ง ปรากฏเป็นเงาร่างของบุรุษอาภรณ์ขาวผู้หนึ่ง

บุรุษอาภรณ์ขาวผู้นั้นภายนอกมองไปเป็นคนหนุ่ม รูปร่างหน้าตาคล้ายคังจิ่นหยวนอยู่สี่ห้าส่วน แต่ว่าบุคลิกดูเป็นผู้ใหญ่กว่ามาก

“คังเม่าเซิง…” คังจิ่นหยวนตอนแรกยังร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากเห็นผู้มาชัดเจน พลันเงียบงันลง

บุรุษวัยกลางคนมองดูเสาแสงอันน่ากลัวที่กำลังจะระเบิดเบื้องหน้า กับวังฝูงมังกรที่ค่อยๆ ออกห่างไป ถอนใจคำหนึ่ง

ประกายกระบี่ของเขาขยายออกอย่างดุดัน ไม่ได้ไล่ตามเยี่ยนจ้าวเกอ แต่พุ่งใส่เสาแสงที่น่ากลัวนั้น หมายพาคังจิ่นหยวนหนี

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นคนผู้นี้ออกกระบี่ก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ‘อ้อ? เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้ายเหมือนกัน แต่เขาแกร่งกว่าคังจิ่นหยวนมาก แม้กระทั่งสู้กับหนงอวี่ซวนได้โดยไม่เสียเปรียบ’

ครั้งนี้จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เดิมทีกำลังเข้าใกล้ ตอนนี้ค่อยๆ หยุดเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

พลังของค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติรวมตัวกันที่น่านน้ำแห่งนี้กำลังจะระเบิดโดยสิ้นเชิง เขาไม่กล้าเข้าใกล้ และเคลื่อนไหวในบริเวณนี้อีก

คนที่เป็นผู้นำโผล่ขึ้น มองเสาแสงทะลุฟ้าแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาก็อยู่บนวังฝูงมังกรที่หายไปตรงปลายอีกด้านหนึ่งของผิวทะเล

เขาพลันตาเป็นประกาย

ก่อนที่เยี่ยนจ้าวเกอจะเข้าไปในทะเล ภาพสุดท้ายก็คือการสบตากับคนผู้นั้น

‘เหอะ พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา’ สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอแปลกประหลาดอยู่บ้าง

ผู้ที่นำกลุ่มจอมยุทธ์แสงสว่างที่มาที่นี่ ก็คือหนงอวี่ซวน

หนงอวี่ซวนมองเยี่ยนจ้าวเกอกับวังฝูงมังกรจมลงไปในมหาสมุทร ก่อนจะหายไปในพริบตาด้วยความคับข้องใจ

ครั้นคิดจะไล่ตาม เสาแสงที่น่ากลัวตรงหน้ายามนี้กลับระเบิดออกมาโดยสมบูรณ์ เพลิงสายฟ้ากระจายว่อนนภา ขัดขวางเส้นทาง

เขากับจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างคนอื่นที่อยู่ด้านข้างจนปัญญา ได้แต่หลบหลีกไปด้านหลัง

คังเม่าเซิงผู้สืบทอดกระบี่กาลเวลาเคลื่อนคล้อยที่มาถึงเมื่อครู่ หนงอวี่ซวนก็สังเกตเห็นแล้วเช่นกัน แต่ในตอนนี้กลับหายตัวไปในสายฟ้าพินาศเปลวเพลิงโหมกระหน่ำที่กำลังระเบิด ไม่สามารถหาตัวเจอ

จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่มาด้วยกันบนใบหน้าปรากฏแววตื่นตระหนก “เป็นค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติจริงๆ! แต่ลักษณะในตอนนี้ เท่ากับถูกทำลายแล้ว”

“ถึงแม้จะถูกทำลายไปแค่มุมหนึ่ง แต่พวกผู้คุมหอกระบี่ทะเลเหนือมีการเตรียมตัวแต่แรก คงไม่ปล่อยให้ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องฉวยโอกาสอีกครั้ง”

“เมื่อไม่มีค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคิดจะทำลายข่ายกระบี่บนเกาะโม๋หลู คงจะยากเย็นแสนเข็ญยิ่ง”

“ความสามารถหนึ่งเดียวในโลกโดยแท้ ใครเป็นคนทำกันแน่”

หนงอวี่ซวนเงียบงันอยู่เนิ่นนาน ครู่ต่อมาค่อยกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “เกรงว่าจะเป็นฝีมือของเยี่ยนจ้าวเกอผู้นั้นอีกแล้ว”

จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างด้านข้างเขางงงัน “มหาปรมาจารย์มีความสามารถเช่นนี้ด้วยหรือ? จอมยุทธ์ขั้นรวมรูปยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”

หนงอวี่ซวนแค่นเสียงคำหนึ่ง “ไปจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน”

เสาแสงระเบิดโดยสิ้นเชิง เพลิงสายฟ้าหลายสายโหมกระหน่ำ ด้านล่างยังมีไฟใต้พิภพลุกไหม้และพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง เผาน่านน้ำรอบๆ ให้กลายเป็นสีแดง

มีชั่วพริบตาหนึ่ง น่านน้ำทางเหนือของเกาะเฉวียนหลิงว่างเปล่าไปแถบหนึ่ง ไม่เห็นน้ำทะเลสักหยดเดียว

เนิ่นนานให้หลัง หลังจากการหมุนเวียนของปราณวิญญาณและใยดินสงบลง ในที่สุดแกนไฟใยดินก็เสถียรอีกครั้ง

ไฟใต้พิภพไม่พ่นออกมาอีก เพลิงสายฟ้ากลางอากาศเองก็สลายไปหมด

มหาสมุทรรอบๆ ซัดขึ้นซัดลง จึงค่อยถมน่านน้ำที่หายไปอีกครั้ง

ระหว่างนี้ก่อให้เกิดคลื่นโหมกระหน่ำ พายุฝนคลุ้มคลั่ง ปั่นป่วนเกาะเฉวียนหลิง ถึงขั้นส่งผลกระทบต่อทะเลของแต่ละทวีปที่อยู่รอบๆ

เยี่ยนจ้าวเกออยู่ในวังฝูงมังกร เงยหน้ามองตัววัง

ภายใต้การกระหน่ำจากคลื่นทะเลที่น่ากลัวจนแทบบิดมิติเวลาได้ ตัววังเองก็สั่นสะเทือนไม่หยุด โคลงเคลงตามคลื่นทะเล

“ก่อนหน้านี้ไม่นึกเลย ว่าหนงอวี่ซวนจะอยู่แถวเกาะเฉวียนหลิงพอดี” เยี่ยนจ้าวเกอนั่งขัดสมาธิ “ดูจากสภาพการณ์แล้ว ก่อนหน้านี้คงจะนำคนมาปิดล้อมเรา สุดท้ายมาถึงทางเหนือของทะเลหวงเจีย”

เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเขา

ฝ่ายแรกนั่งเงียบ สองตาเปิดออก แสงสีฟ้าสว่างขึ้นจากในดวงตาตามการหายใจ

ฝ่ายหลังพูดขึ้น “คุณชาย ตามคำพูดของคังจิ่นหยวนนั่น พวกเขากำลังตามหาคนที่เหมือนกับแม่นางซือคงอยู่จริงๆ จากนั้นก็ตามหาเซียนเยว่แห่งหอกระบี่ทะเลเหนือนั่นเจอตามลักษณะพิเศษของนาง”

“ด้วยเหตุนี้ พวกเขาอาจจะรู้ความลับเหมือนเฉินฉีกับโอวหยางฉีศิษย์อาจารย์ซึ่งเป็นลูกศิษย์เกาะภาพวาดในโลกแปดพิภพก็ได้”

ก่อนหน้านี้เฟิงอวิ่นเซิงกับอาหู่รู้เรื่องของพวกซือคงจิง โอวหยางฉี ฉางนิ่ง เหออิ่ง และเยว่เป่าฉีแล้ว เป็นคนจำนวนน้อยในเขากว่างเฉิงที่รู้เรื่อง

เมื่อครู่ได้ยินคำพูดของคังจิ่นหยวน ยังมองเบื้องหลังออกบ้าง

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าช้าๆ “สิ่งที่คังจิ่นหยวนผู้นี้รู้ยังมีจำกัด ดูเหมือนคนในกลุ่มเก้ากระบี่ผู้วิเศษของพวกเขา ต้องเป็นผู้นำแกนกลางจึงจะรู้รายละเอียด ทั้งยังเป็นบิดามารดาของคังจิ่นหยวนนั่น”

“กลับไม่รู้ว่า พวกเขาเพียงแค่รู้เรื่อง หรือควบคุมตัวคนที่เหมือนกับศิษย์น้องซือคง โอวหยางฉี หรือเยว่เป่าฉีไว้แล้ว”

ชายหนุ่มเงยหน้าครุ่นคิด “นอกจากนี้ ข้ายังรู้สึกว่า ผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอย่างเดียวเท่านั้น พวกเขาอาจจะมีเป้าหมายอื่น”

“ตอนนี้สิ่งที่ยืนยันไม่ได้ก็คือ เป้าหมายในตอนแรกของพวกเขาเป็นคนที่เหมือนกับศิษย์น้องซือคงอยู่แล้ว หรือว่าในขณะที่ทำให้เป้าหมายเดิมกลายเป็นจริง กลับได้รับเบาแสะใหญ่ เกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนขึ้น?”

เยี่ยนจ้าวเกอลูบคาง หลังจากไตร่ตรองครู่หนึ่ง ก็พลันโพล่งถามเฟิงอวิ๋นเซิงว่า “อวิ๋นเซิง ตอนนี้เจ้าทนได้นานขนาดไหน?”

แสงสีฟ้าในดวงตาทั้งสองข้างของเฟิงอวิ๋นเซิงเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด บางครั้งเปล่งประกายบางครั้งดับหาย “ตอนนี้ทนได้สี่ลมหายใจ”