บทที่ 2895 ท่านไม่กล่าวโทษข้าหรือ
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเขายังไม่ทันได้ทำอันใดเลย ก็ทำราวกับถูกผู้อื่นจับได้เสียแล้ว…
“ข้า…ทำไมไม่รับไว้ให้ดี? ช่างเถิด ข้าจะสั่งให้คนไปทำมาอีกชาม” ตี้ฝูอีชิงเอ่ยสะกดผู้อื่นไปสองสามประโยค แล้วหันหลังหมายจะถอยร่นออกไปอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก่อน!” จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็ยื่นมือมาดึงแขนเสื้อของเขาไว้
ฝีเท้าตี้ฝูอีชะงักไป “ท่าน…”
หันกลับไปก็สะดุ้งโหยงอีกครั้ง! กู้ซีจิ่วยืนขึ้นมาแล้ว ดวงหน้าพริ้มเพราอยู่ใกล้กับเขา ห่างกันไม่ถึงหนึ่งฉื่อ! ลมหายใจอุ่นร้อนแทบจะเป่ารดใบหน้าของเขาแล้ว
ยามนี้ยังเป็นฝ่ายโผเข้าสู่อ้อมแขนด้วยตัวเองอีก! หรือว่านางจะ…กับเขาเหมือนกัน
ถึงอย่างไรเมื่อครู่ตอนที่นางหลับอยู่ก็เรียกชื่อเขาออกมา…
หัวใจตี้ฝูอีเต้นกระหน่ำ ลมหายใจแทบจะขาดห้วงแล้ว “ท...ทำไม?”
นางอยู่ใกล้เขาเกินไปแล้ว! ใกล้จนขอเพียงเขาก้มลงไปนิดเดียวก็สามารถจุมพิตนางได้! โลหิตร้อนๆ ในร่างที่เขาฝืนสะกดควบคุมไว้พลันแล่นขึ้นสู่ยอดศีรษะ แทบจะทำลายสติความมีเหตุมีผลที่ไม่ง่ายเลยกว่าเขากู้คืนมาได้ไป…
เขายังไม่ทันใคร่ครวญให้กระจ่างว่าตนควรทำอย่างไร ก็พลันดึงนางเข้ามา ทำให้นางเข้าสู่อ้อมแขนของตนอย่างสมบูรณ์ จากนั้นสองแขนก็โอบรัดเอวบางของนางไว้แน่น ก้มหน้าจุมพิตลงไป!
เขาจุมพิตไม่โดนริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของนาง แต่จุมพิตถูกนิ้วมือนิ้วหนึ่ง
ปลายนิ้วของนางกดลงบนริมฝีปากของเขา เขาไม่ทันระวัง นิ้วนั้นจึงเข้าปากไปครึ่งนิ้ว
เขาอมนิ้วมือของนางแข็งทื่อไปแล้ว
กู้ซีจิ่วกลับชักนิ้วของตนกลับมาอย่างรวดเร็วยิ่ง จ่อปลายจมูกแล้วดมเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยตัดสิน “เจ้าถูกพิษแล้ว!”
เขายังคงกอดนางเอาไว้แน่น และหลังจากนางเอ่ยตัดสินออกมา นิ้วมือปัดฝ่านหลายจุดบนร่างของเขาอย่างต่อเนื่องเสมือนดีดผีผา…
เลือดลมที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในร่างตี้ฝูอีราวกับถูกคนสกัดกั้นการไหลเวียน ในที่สุดสติความมีเหตุมีผลของเขาก็กลับขึ้นมาบ้างแล้ว เขาถอยหลังไปเล็กน้อย เสียงแหบพร่า “ท่าน…”
“เจ้าถูกพิษแล้ว” กู้ซีจิ่วชูนิ้วข้างนั้นขึ้นมาโบกตรงหน้าเขาเล็กน้อย ขณะเดียวกันดวงตาก็จับจ้องนัยน์ตาของเขาไปด้วย วิเคราะห์ออกมาอย่างมีเหตุมีผล “ดวงตาของเจ้าปรากฏภาวะโลหิตคั่ง ถึงแม้ในยามที่ตื่นตัวจะมีอาการแบบนี้ แต่การตื่นตัวตามปกติตาขาวจะไม่เป็นสีฟ้าจางๆ ม่านตาก็จะไม่มีสีสันเช่นนี้ สีของปากเจ้าก็ผิดปกติเช่นกัน ถึงจะดูเหมือนปกติ แต่กลับมันวาวนิดๆ…” เธอเอ่ยถึงจุดที่ผิดปกติทั้งหมดบนร่างกายเขาออกมาว่าในคราวเดียว สุดท้ายก็วินิจฉัยว่า “นี่เป็นสัญญาณของการถูกพิษกำหนัด”
ตี้ฝูอีพูดไม่ออกเลย
เขามองตานาง น้ำเสียงแหบพร่ายิ่งนัก “ท่านไม่กล่าวโทษข้าหรือ?”
“เหตุใดต้องกล่าวโทษเจ้าด้วยเล่า? เจ้าก็แค่ถูกพิษเท่านั้น ถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เช่นนี้ วางใจเถอะ พิษนี้ข้าน่าจะแก้ไขได้” กู้ซีจิ่วปลอบใจเขา
แววตาของตี้ฝูอีมืดมนลง เขาเฉลียวฉลาดยิ่งยามนี้พิษในร่างของเขาน่าจะถูกนางใช้วิธีพิเศษสกัดการไหลเวียน ย่อมทำให้สติความมีเหตุมีผลของเขากลับคืนมา ใคร่ครวญดูเพียงนิด ก็เข้าใจแล้วว่าตนถูกพิษจริงๆ…
เป็นผู้ใดที่วางพิษประเดี๋ยวเขาจะไปตรวจสอบดูด้วยตัวเอง แต่พอเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าวินิจฉัยอย่างจริงจัง นางแทบจะไม่มีระลอกคลื่นอารมณ์อันใดเลย หัวใจเขาก็จมดิ่งลงไป
ที่แท้การโผตัวเข้าหาเมื่อครู่นี้ของนางก็เพียงจะตรวจสอบพิษของเขา…
พิษในกายยังคงลุกโหมอยู่ แต่หัวใจของเขากลับเยียบเย็นอยู่บ้าง หยักยิ้มแวบหนึ่ง“หากว่าเป็นผู้อื่นที่ต้องพิษนี้ ท่านจะ…”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว ไม่ใคร่เข้าใจว่าคิดอะไรอยู่ จึงเอ่ยตอบไป “ข้าก็จะแก้ให้เหมือนกันไง ไหนเลยจะทนเห็นคนถูกพิษจนกระทำเรื่องบัดสีได้? อีกอย่างพวกเราก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันด้วย เจ้าช่วยงานข้ามากขนาดนี้ ข้ายิ่งต้องแสดงความรับผิดชอบ”
ตี้ฝูอีเงียบไป
สายตาของเขากวาดผ่านร่างนางแวบหนึ่ง “จะช่วยผู้อื่นด้วยสภาพนี้หรือ?”
————————————————————————————-
บทที่ 2896 ท่านไม่กล่าวโทษข้าหรือ 2
สภาพแบบนี้? สภาพอะไรกัน?
กู้ซีจิ่วเหลือบมองร่างของตนตามสัญชาตญาณ ถึงได้พบว่าเสื้อผ้าอาภรณ์ของตนไม่เรียบร้อยอย่างยิ่งสาบเสื้อเปิดอ้ากึ่งหนึ่ง กางเกงที่อยู่ใต้กระโปรงก็หายไปแล้ว…
ใบหน้าพริ้มเพราของเธอร้อนวูบ สบถคำหนึ่ง รีบจัดการทันที เธอรู้ว่าตอนเธอเมาจะเหลวไหลยิ่ง ชอบนอนดิ้นไปทั่วเตียง แถมยังขี้ร้อน เตะผ้าห่มอยู่เสมอ บางครั้งก็ทนไม่ไหวดึงทึ้งอาภรณ์ออก…
หลายปีมานี้เธอเมามายน้อยมาก ต่อให้เมาก็มักจะขังตัวเองอยู่ในห้องเงียบๆ หลังจากได้สติกลับมาค่อยออกไป
เธอมักจะเมาอย่างเลยเถิดเสมอมา ครั้งนี้เธอรู้สึกว่าเธอควบคุมปริมาณไว้แล้ว คาดไม่ถึงเลยว่ายังคงจะเมามายอย่างร้ายแรงถึงเพียงนี้
เป็นเพราะสุรานี้ดีกรีแรงเกินไป หรือเป็นเพราะสมรรถภาพร่างกายของเธอถดถอยลงเกินไป?
คำถามนี้ไม่อาจเข้าใจได้ในทันที เธอคร้านจะใคร่ครวญต่อแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องแก้พิษให้ตี้ฝูอี...
รอจนเธอจัดการจนเรียบร้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าตี้ฝูอีกำลังนั่งสมาธิขับพิษแล้ว
เขานั่งดุจพุทธองค์ รอบกายมีแสงส่องกะพริบอยู่รางๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาลืมตาขึ้น ความประหลาดใจฉาบผ่านนัยน์ตา
ร่างกายของเขามีความพิเศษ ไม่ถูกพิษง่ายๆ
ต่อให้บังเอิญถูกพิษเข้า เขาก็ใช้วิธีของตัวเองนั่งสมาธิเล็กน้อยก็สามารถขับพิษทั้งหมดออกมาได้แล้ว
แต่ครั้งนี้กลับไม่ได้ผล!
พิษนั้นยังคงอยู่ในร่าง ถึงขั้นที่มีทีท่าว่าจะปะทุขึ้นมาอีกครั้งด้วย ทำให้คอของเขาเริ่มแห้งผากขึ้นมาอีกครั้ง
พิษนี้ค่อนข้างประหลาด!
กู้ซีจิ่วย่อมพบเห็นความผิดปกติของพิษนี้เช่นกัน “ให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะ”
วิชาแพทย์ของเธอเลิศล้ำเป็นที่สุด ใต้หล้านี้ยังไม่มีพิษใดที่เธอแก้ไขไม่ได้ แค่พิษกำหนัดเท่านั้น เรื่องจิ๊บๆ!
ตี้ฝูอีจ้องมองนาง “แก้อย่างไร?”
ในดวงตาของเขาราวกับมีเพลิงอยู่ ทว่ากู้ซีจิ่วกลับตบไหล่เขาเบาๆ ราวกับกล่อมเด็ก “วางใจเถอะ ข้ามีวิธี”
เธอเริ่มยุ่งง่วนอยู่รอบกายเขา…
ร่างกายตี้ฝูอีร้อนผ่าวดุจไฟเผา ดวงตาแดงก่ำรางๆ มีความคิดที่อยากจะโผเข้าใส่คนที่อยู่ตรงหน้าอย่างท่วมท้น แต่เขาฝืนควบคุมเอาไว้ตลอด ตั้งแต่ต้นจนจบสีหน้าสงบราบเรียบอยู่เสมอ
กู้ซีจิ่วเคยเห็นสภาพของผู้ที่ถูกพิษกำหนัดมาแล้ว โผเข้าใส่สตรีอย่างบ้างคลั่ง อาวุธก็ไม่อาจสกัดขวางได้
แต่ยามนี้เห็นได้ชัดว่าตี้ฝูอีทรมานยิ่ง ทว่าเขาสามารถอดทนอยู่นิ่งๆ ได้ ความอดทนของหนุ่มน้อยคนนี้ช่างเป็นเลิศโดยแท้!
กู้ซีจิ่วชื่นชมอยู่ในใจ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอทดลองวิธีแก้พิษไปสามสี่อย่างแล้วก็ยังคงไม่เป็นผล คิ้วเรียวก็ขมวดขึ้นนิดๆ แล้ว
เธอยังไม่เคยพบเห็นพิษกำหนัดที่ไม่อาจแก้ได้มาก่อนเลย…
หรือว่าจะเป็นชนิดใหม่?
นี่ร้ายกาจเกินไปแล้ว!
ยังมีอีก ถึงแม้เธอเพิ่งจะเคยเห็นพิษชนิดนี้เป็นครั้งแรก ทว่ามีความรู้สึกคุ้นเคยอยู่รางๆ อย่างน่าประหลาด
เดิมทีเธอนึกว่ายาแก้พิษที่พกติดตัวมา จะเพียงพอใช้แก้พิษได้แล้ว ตอนนี้เห็นทีว่าคงจะไม่ได้เรื่องแล้ว เธอยังคงต้องคิดหาวิธีอื่นแล้ว
โชคดีที่เธอพกพาข้าวของติดตัวครบครันยิ่ง หลังจากได้วัตถุดิบที่เหมาะสมแล้วก็เริ่มหลอมกลั่นโอสถเลย
บัดนี้พิษกำหนัดบนร่างตี้ฝูอีออกฤทธิ์โดยสมบูรณ์แล้ว หยาดเหงื่อหยดกลิ้งดั่งไข่มุก ทว่าชั่วพริบตาเดียวก็ถูกอุณหภูมิร่างกายที่ร้อนรุ่มจนแทบจะลุกไหม้แล้วของเขาทำให้เหือดระเหยไป
ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็หลอมยาออกมาได้แล้ว เธอยื่นให้เขา “มาเถอะ ลองนี่ดู”
ตี้ฝูอีก็ไม่ปฏิเสธ กินยาเม็ดนั้นเข้าไปทันที
ดวงตาของกู้ซีจิ่วมองเขาด้วยนัยน์ตาที่เจิดจ้า เห็นว่าสีเลือดที่ย้อมใบหน้าหล่อเหลาของเขาให้แดงก่ำค่อยๆ จางหายไปแล้ว มีแนวโน้มว่ากำลังจะกลับมาเป็นติ
เมื่อจับชีพจรของเขาดูอีกครั้ง ชีพจรที่เดิมทีเต้นถี่กระชั้นปานฝนตกหนักก็สงบลงแล้ว
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก นี่คือได้ผลแล้วกระมัง? เธอรู้อยู่แล้วว่าบนโลกนี้ไม่มีพิษใดที่เธอแก้ไขไม่ได้!
“อาจิ่ว หากว่าพิษนี้ในกายข้าไม่อาจแก้ไขด้วยวิธีธรรมดาได้ ท่าจะทำอย่างไร?” จู่ๆ ตี้ฝูอีก็เอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “เจ้าไม่เชื่อถือในความสามารถของข้าหรือ? วางใจเถอะ ใต้หล้านี้ไม่มีพิษใดที่ข้าแก้ไขไม่ได้!”
————————————————————————————-