บทที่ 2897 ท่านไม่กล่าวโทษข้าหรือ 3
“ข้าสมมุติ!”
กู้ซีจิ่วผงะไป นี่เขาตั้งคำถามเชิงปรนัยหรือ?
ตี้ฝูอีเสริมไปอีกประโยคหนึ่ง “ท่านจะเบิกตามองข้าตัวระเบิดตายไปหรือ?”
“ย่อมมิใช่” ซีจิ่วตอบโดยไม่หยุดคิดเลย
ดวงตาตี้ฝูอีส่องประกายนิดๆ “เช่นนั้นท่านจะทำอย่างไร?”
กู้ซีจิ่วลำบากใจอยู่บ้าง คิดดูเล็กน้อย ลองเอ่ยไปว่า “เช่นนั้นข้าหาสตรีสักนางมาให้เจ้าดีไหม?”
สีหน้าตี้ฝูอีย่ำแย่ลงทันที เธอจึงรีบเอ่ยเสริมไปอีกประโยคว่า “วางใจเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้ารักสะอาด สตรีทั่วไปไม่มีทางเข้าตาเจ้า จะต้องหาหญิงดีมีสกุลสักคน…”
ตี้ฝูอีเอ่ยขัดนางอย่างเยียบเย็น “ท่านคิดจะให้ข้าทำร้ายหญิงดีมีสกุลหรือ?”
กู้ซีจิ่วเอ่ยตอบ “ก็ไม่นับว่า…ทำร้ายกระมัง? ตอนนี้ด้านนอกมีสตรีที่ชมชอบเจ้าอยู่มากมายก่ายกอง ปักหลักรออยู่นอกจวนรับรอง เพียงเพื่อได้มองเจ้าสักแวบก็มีอยู่มากเหมือนกัน พวกเราสามารถคัดเลือกมาสักคนจากในบรรดานี้เพื่อคลายพิษให้เจ้า…”
“เช่นนั้นหลังจากแก้พิษได้แล้วล่ะ? ก็จะไม่ไยดีนางรึ?” เสียงตี้ฝูอีเยียบเย็นยิ่งกว่าเดิม
กู้ซีจิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่ยตอบ “ย่อมไม่ไยดีมิได้ เจ้าก็รับนางไว้…”
“ท่านบอกไว้มิใช่หรือว่าถ้าข้าแต่งกับท่านแล้วไม่อาจรับอนุได้?”
กู้ซีจิ่วถอนหายใจ “รับไม่ได้เพียงในนามเท่านั้น เจ้าสามารถให้นางเป็นเวลาสามปีได้ หลังผ่านไปสามปีพวกเราหย่าขาดกันแล้ว เจ้าย่อมสามารถรับนางไว้ได้ ถึงขั้นที่จะแต่งกับนางเลยก็ได้ หากว่านางรอสามปีไม่ไหว…เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร เรื่องราวฉุกละหุก จบเรื่องแล้วรับนางไว้เลยก็ได้ ถึงอย่างไรงานแต่งของพวกเราก็จะจัดขึ้นในอีกสิบวันให้หลัง ถ้ารับนางเอาไว้ก่อน คนนอกก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว”
เธอยังคงใจกว้ายิ่งนัก ในเมื่อทำลายชื่อเสียงของแม่นางบ้านผู้อื่นไปแล้วก็ไม่อาจละเลยทิ้งขว้างได้
เธอมั่นใจว่าตัวเองตริตรองรอบคอบแล้ว ตอบเช่นนี้ตี้ฝูอีจะต้องพอใจมากแน่นอน กลับคาดไม่ถึงว่าสีหน้าเขาจะทะมึนยิ่งกว่าเดิม ในดวงตามีความขมุกขมัวอยู่ เขายิ้มยะเยือกแวบหนึ่ง “ท่านช่างใจกว้างเป็นอย่างยิ่ง!” ไม่สนใจเธออีก หันหลังก้าวออกไป
กู้ซีจิ่วไม่เข้าใจ
เธออดไม่ได้ที่จะก้าวตามไป เอ่ยถามประโยคหนึ่ง “เจ้าจะไปไหน?” ยังไม่รู้เลยว่าพิษในร่างของเขาคลี่คลายไปหรือยัง!
“ไปหาหญิงดีมีสกุล!” ตี้ฝูอีทิ้งวาจาเยียบเย็นประโยคหนึ่งไว้ สะบัดแขนเสื้อจากไป
กู้ซีจิ่วนิ่งไป
เขาโกรธหรือ?
เธอพูดอะไรผิดไปใช่ไหม? เธอคิดเพื่อเขาขนาดนี้แล้ว เขายังคิดจะให้เธอทำยังไงอีก?
จะว่าไปพิษในร่างของเขาน่าจะคลี่คลายแล้วกระมัง? ที่บอกว่าจะไปหาหญิงดีมีสกุลก็น่าจะประชด…
กู้ซีจิ่วไม่ได้พบหน้าตี้ฝูอีเลยสองวันติด เขายุ่งมาก ไม่เพียงแต่ไม่กลับมาในตอนเที่ยงเท่านั้น แม้แต่ตอนค่ำก็ไม่ได้กลับมาเลย เมื่อถามเด็กรับใช้ที่อยู่เฝ้า เด็กรับใช้ก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเขาไปไหน
เพียงแต่ กู้ซีจิ่วกลับพบว่าเด็กรับใช้ข้างกายหายไปคนหนึ่ง เด็กรับใช้คนนั้นเดิมทีคอยทำงานจิปาถะให้เธอ เก็บกวาดเรือนให้เธอ ตอนนี้จู่ๆ ก็หายไปเลยกู้ซีจิ่วค่อนข้างแปลกใจแล้ว
เธอสอบถามคู่หูที่มักจะอยู่กับเด็กรับใช้คนนั้นบ่อยๆ คู่หูคนนั้นบอกเธอว่า เด็กรับใช้คนนั้นถูกตี้ฝูอีพาตัวไปเมื่อครึ่งวันก่อน คาดว่าตอนนี้คงติดตามอยู่ข้างกายเขา
ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจอีก
สองวันมานี้เกิดเรื่องใหญ่โตอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ในความคาดหมายของกู้ซีจิ่วอยู่แล้วขึ้น จอมมารถูกลอบปลงพระชนม์! ภพมารที่เดิมทีระส่ำระส่ายอยู่แล้วก็ยิ่งปั่นป่วนขึ้นไปอีก
ทางเมืองประกาศใช้กฎอัยการศึก ตามจับตัวคนร้าย
แน่นอน เรื่องพวกนี้ไม่ส่งผลอะไรต่อกู้ซีจิ่วเลย เธอยังคงไปรวบรวมศิลาวิญญาณตามปกติ
เนื่องจากตี้ฝูอีไม่กลับมา กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าคงจะไม่ต้องแสดงความรักกันชั่วคราว ดังนั้นตอนออกไปในวันที่สาม เธอจึงไม่ได้กลับมาอีก
เนินศิลาวิญญาณอยู่ห่างจากจวนรับรองของเธอไกลมาก พอตกค่ำ เธอจึงพักอยู่ที่เนินศิลาวิญญาณเสียเลย
————————————————————————————-
บทที่ 2898 บังเอิญพบ
เนินศิลาวิญญาณอยู่ห่างจากจวนรับรองของเธอไกลมาก พอตกค่ำ เธอจึงพักอยู่ที่เนินศิลาวิญญาณเสียเลย เธอคำนวณดูแล้ว ยังขาดหินผลึกอยู่กว่าสามสิบก้อน พรุ่งนี้ถ้ารวบรวมต่อทั้งวันน่าจะได้พอสมควรแล้ว
เธอคร้านจะกลับไปอีก พอตกค่ำจึงค้างคืนที่เนินหินผลึกเสียเลย
เนินหินผลึกเป็นจุดชมจันทร์เพ็ญที่พบเห็นได้ยากที่สุดในภพมาร
เป็นคืนเพ็ญสิบห้าค่ำพอดี จันทรากลมมน บนนภามีเมฆขาวล่องลอย
หินผลึกที่อยู่ข้างกายเสมือนดาราที่ส่องกะพริบ งดงามตระการตาเช่นกัน
กู้ซีจิ่วขยับข้อมือที่ค่อนข้างปวดเมื่อยเล็กน้อย จึงกอดอกพิงหินผลึกก้อนหนึ่งชมจันทร์เสียเลย
บนเนินหินผลึกมีสัตว์ร้ายบางส่วนอยู่ด้วย ระดับก็ไม่ต่ำเลย และเป็นเพราะหินผลึกที่มีอยู่แค่ในภพมารแห่งนี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อชาวภพมารเลย ดังนั้นจึงมีคนมาน้อยยิ่ง
เธอนั่งอยู่ที่นี่ได้โดยไม่มีผู้คนมารบกวน
ปัจจุบันวรยุท์ของเธอสูงล้ำ สัตว์ร้ายเหล่านั้นทำอันตรายเธอไม่ได้ อีกอย่างเธอก็ติดเขตแดนคุ้มกายชั้นหนึ่งไว้รอบตัวแล้ว ต่อให้นอนอยู่ที่นี่ สัตว์ร้ายเหล่านั้นก็โจมตีไม่โดนตัวเธอ
อาจเป็นเพราะวันนี้รวบรวมหินผลึกมากเกินไป เธอจึงอ่อนล้ายิ่ง มองไปมองมาก็ค่อนข้างง่วงงุนแล้ว เอนพิงก้อนศิลาสะลึมสะลือใกล้จะเข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว
พลันได้ยินเสียงสนทนาแว่วขึ้นไม่ไกล
“ท่านราชครู ที่นี่คือสถานที่ ที่งดงามที่สุดในภพมารของพวกเรา น่ามองหรือไม่?” น้ำเสียงสดใสร่าเริง เป็นท่านหญิงน้อยผู้นั้น
“ไม่เลวเลย” เสียงของตี้ฝูอีก็ดังขึ้นมา สุ้มเสียงยังคงเฉื่อยชาเรื่อยเปื่อยเช่นเดิม
กู้ซีจิ่วชะงักไปแวบหนึ่ง ความง่วงหายไปแล้ว
เธอลืมตาขึ้นแล้วมองไปตามเสียง เห็นตี้ฝูอีกับท่านหญิงน้อยหลิวเมิ่งชิงเดินเคียงกันมา
เขตแดนนี้ที่กู้ซีจิ่วติดตั้งไว้เพียงป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายบุกเข้ามาเท่านั้น แต่ไม่มีคุณสมบัติในการบดบังสายตา ดังนั้นสองคนนั้นจึงพบเห็นเธอแทบจะในเวลาเดียวกันเลย
ท่านหญิงน้อยเลิกคิ้วขึ้นสูง “เอ๊ะ นี่มิใช่…แม่นางอาจิ่วหรอกหรือ?”
ภายใต้แสงจันทร์ดวงตาตี้ฝูอีลุ่มลึกปานทะเลสาบ สายตากวาดผ่านร่างเธอแวบหนึ่ง “เจ้ามาค้างแรมที่นี่เหรอ?”
กู้ซีจิ่วปัดเศษหญ้าออกจากร่างแล้วลุกขึ้นมา ตอบอืมคำหนึ่ง “ถึงอย่างไรวันพรุ่งก็ต้องมาอีก จึงคร้านจะกลับไป”
เธออดไม่ได้ที่จะมองสองคนแวบหนึ่ง ตอนที่ตี้ฝูอีออกไปวันนั้นได้บอกว่าจะไปหา ‘หญิงดีมีสกุล’ คงมิใช่ว่าที่ไปหาคือท่านหญิงน้อยผู้นี้กระมัง?
ไม่ถูกสิ ตอนนั้นพิษของเขาน่าจะคลี่คลายแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องไปหาสตรีมาถอนพิษอีก…
ท่านหญิงน้อยสนใจแต่จะมองเธอ เท้าสะดุดสิ่งใดเข้า ร่างกายพลันโงนเงน ล้มใส่ร่างของตี้ฝูอี
แววตาตี้ฝูอีวูบไหวนิดๆ คล้ายจะทำอันใด สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ ยื่นมือไปพยุงนาง “ระวังหน่อย”
ท่านหญิงน้อยหน้าแดง ดวงตาส่องประกาย พยักหน้ารับคำ “อื้ม เจ้าค่ะ เชื่อฟังท่านราชครู”
สายตาเสมองไปทางกู้ซีจิ่วแวบหนึ่งอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ คล้ายจะโอ้อวดและคล้ายจะข่ม
“ท่านราชครู พวกเราไปทางนั้นกันดีไหม? เนินเขาเล็กๆ ที่อยู่ทางนั้นเป็นจุดชมจันทร์ที่ดีที่สุด” ท่านหญิงน้อยเสนอความเห็น
“ได้” คืนนี้ตี้ฝูอีคุยง่ายเป็นพิเศษ ไม่พูดพร่ำทำเพลงอันใดจากไปพร้อมกับท่านหญิงน้อยเลย มุ่งไปยังเนินเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก
กู้ซีจิ่วนั่งลงไปอีกครั้ง เธอนวดคลึงหว่างคิ้ว
ตี้ฝูอีดูห่างเหินกับเธอแล้ว หมางเมินเธอยิ่งนัก ดูเหมือนจะยังไม่หายโกรธ…
ช่างเถอะ พรุ่งนี้รวบรวมหินผลึกเสร็จแล้วค่อยหาเวลาไปคุยกับเขาก็แล้วกัน วันนี้เธอเหนื่อยเกินไป คร้านจะไปสนเรื่องพวกนี้แล้ว เธอหลับตาลงอีกครั้ง
นอนซะ! เธอต้องหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณให้ดี พรุ่งนี้ยังต้องทำงานต่อนะ!
แต่เธอกลับหลับไม่ลงแล้ว!
เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวแว่วมาจากบนเนินเขาอยู่ตลอด กู้ซีจิ่วไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า ท่านหญิงน้อยคนนี้จะช่างจ้อปานนี้ แถมยังชอบอุทานวี้ดว้ายด้วย
“หวา งามนัก! ที่นี่เป็นสถานที่ที่งดงามที่สุดจริงๆ!”
————————————————————————————-