ตอนที่ 1893 ข่าวของลี่เอ๋อ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ภายนอกเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นมา

ชายหนุ่มคนนี้ยืนมือไขว้หลังอยู่กลางอากาศมองดูเมืองน้อยๆ ที่เบื้องล่างด้วยสายตาเหยียดหยาม

ซู่!

เมื่อชายหนุ่มคนนี้ปล่อยคลื่นพลังออกมามันก็ทำให้เกิดกระแสพลังปั่นป่วนไปทั่วทั้งเมือง

โซชูเจียและเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นเดิมทีต่างกำลังถามเรื่องราวคำถามต่างๆ นาๆ กับหนิงเทียนปิงอยู่

พวกเขานั้นติดใจสงสัยอย่างมากว่าเย่หยวนไปทำเรื่องใดมากันแน่ในเวลาหลายร้อยปีนี้และแน่นอนว่าต้องพยายามที่จะรู้ถึงมันให้ได้

แต่ในเวลานั้นเองที่เกิดคลื่นพลังอันแสนน่ากลัวเกรงนี้เข้ามาปกคลุมเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์

โซชูเจียหน้าถอดสีจนขาวซีดทันทีพร้อมด้วยเหงื่อเย็นเหยียบไหลลงมาตามหน้าผาก

“นี่มัน… ช่างเป็นพลังที่แสนยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้?” โซชูเจียได้แต่ทำหน้าเหยเกพูดออกมา

คลื่นพลังนี้มันสุดแสนรุนแรงจนทำให้ผู้คนต้องหมดสิ้นหวังที่จะต่อต้าน

ส่วนเรื่องที่ว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหนกันนั้นโซชูเจียไม่อาจจะวัดประเมินได้เลย

ตงน้อยที่กำลังเล่นกับหมูสมบัติอยู่เมื่อสัมผัสได้เช่นนี้เขาก็แสดงใบหน้ามึนงงออกมาก่อนจะพูดขึ้น “ดูจากคลื่นพลังนี้แล้ว มันคงเป็นเทพสวรรค์แน่”

นั่นทำให้ทุกผู้คนหน้าถอดสีมองดูตงน้อยอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“ท-เทพสวรรค์? ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย?” โซชูเจียเป็นคนแรกที่พูดขัดขึ้น

เขานั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ถึงได้มีเทพสวรรค์มาเยี่ยมเยียน

“เย่หยวนอยู่หรือไม่? ให้มันออกมาพบเทพสวรรค์ผู้นี้!” ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงหนึ่งดังลั่นขึ้นทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ เป็นการยืนยันคำของตงน้อย

เมื่ออีกฝ่ายเรียกตัวเองว่าเทพสวรรค์เช่นนี้แล้วมันก็คงเป็นเทพสวรรค์ไม่ผิดแน่!

หลังจากหายตื่นตกใจโซชูเจียก็ได้นำพาเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายรีบรุดไปรับหน้าเขาผู้นี้

ร่างที่ยืนอยู่บนอากาศนั้นมันดูเลื่อนลอยแต่ก็เจิดจ้า ทำให้เหล่าโซชูเจียทั้งหลายไม่มีใครกล้าจะมองมันตรงๆ เสียด้วยซ้ำ

โซชูเจียคุกเข่าลงอย่างมีมารยาทก่อนจะถามขึ้น “เจ้าเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ โซชูเจียขอคารวะท่านเทพสวรรค์!”

แม้ว่าเขาจะไม่กล้ามองอีกฝ่ายตรงๆ เขาก็ยังพอจะจับเงาร่างได้จากหางตาและได้เห็นว่าเทพสวรรค์ผู้นี้ยังหนุ่มอยู่มาก ทำให้โซชูเจียต้องรู้สึกตื่นตะลึงขึ้นมาในหัวใจ

เขานั้นย่อมไม่เคยพบเคยเจอเทพสวรรค์มาก่อนในชีวิต แต่ต่อให้เป็นคนโง่แค่ไหนมันก็ยังพอรู้ว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นคือเฒ่าที่มีอายุนับล้านๆ ปีมาแล้วทั้งสิ้น

แต่ชายหนุ่มเบื้องหน้าเขานี้กลับไม่ใช่!

เทพสวรรค์หนุ่มคนนี้มาจากที่ใดกันแน่?

ชายหนุ่มคนนั้นรับคำคารวะไว้และถามขึ้น “ใครคือเย่หยวน?”

ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีไปทันที ดูท่าเทพสวรรค์คนนี้จะมาเพื่อตามหาเย่หยวน

ในวินาทีนั้นบรรยากาศรอบๆ มันเงียบสงัดลงทันที

“ดูท่าพวกเจ้าจะคิดว่าเทพสวรรค์คนนี้เป็นเพื่อนเล่นสินะ?”

ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาทำให้บรรยากาศฟ้าเมฆเปลี่ยนแปลงไปทันที!

ฟ้าดินในระยะหนึ่งหมื่นกิโลเมตรรอบๆ นี้ต่างเกิดความโกลาหลวิปริตขึ้น

เมื่อจู่ๆ เทพสวรรค์ปล่อยพลังออกมาเช่นนี้ฟ้าดินมันย่อมเปลี่ยนสีจากหน้ามือเป็นหลังมือ!

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของผู้คนทั้งหลายที่จะได้เห็นพลังของเทพสวรรค์กับตาตัวเอง

และค่าเข้าชมนั้นมันคือชีวิต

หากมือนี้ซัดลงมา เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ทั้งเมืองคงแบนราบเป็นหน้ากลอง

โซชูเจียพยายามที่จะใช้พลังทั้งหมดในร่างออกมาเพื่อจะโกนร้องบอก “ท่านเทพสวรรค์โปรดสงบใจก่อน เย่หยวนนั้น… เขาไม่ได้อยู่ในเมือง ณ เวลานี้!”

นั่นทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้น “ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ใด จงไปตามมันมาหาข้า”

คำสั่งนี้มันเป็นอะไรที่สุดแสนไร้เหตุผลและแน่นอนว่าย่อมไม่มีพวกเขาคนใดที่จะทำได้

แต่จะทำอย่างไรได้?

อย่างว่าแต่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์น้อยๆ นี้เลย ต่อให้เป็นเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่นก็คงไม่มีทางต่อต้านกับเทพสวรรค์ได้

จึงทำให้ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมพื้นที่อีกครั้ง

ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวขึ้นด้วยท่าทางหมดความอดทน “เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไปตายกันเสียก่อนเถอะ!”

เมื่อขยับมือนี้คลื่นลมเมฆทั้งหลายก็หมุนวนด้วยพลังปราณเทวะอันมหาศาล

แค่ลมที่พัดผ่านนี้ยังทำให้ใบหน้าของโซชูเจียเจ็บปวดขึ้นมา

“หยุด!”

ตอนนั้นเองที่มิติเกิดแยกออกเผยให้เห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่ง

เมื่อทุกคนได้เห็นเงาร่างนั้นสีหน้าของพวกเขาทั้งหลายก็เปลี่ยนไปทันที

“นายใหญ่ท่านรีบไป!” หนิงเทียนปิงร้อง

เย่หยวนนั้นไม่คิดจะไปไหน สายตาของเขามองขึ้นไปยังชายหนุ่มที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่ามิใช่คนที่เคยรู้จักเจอหน้ากันมาก่อน

ชายหนุ่มคนนี้มีใบหน้าที่หล่อเหลาคมเป็นสัน ผมไม่สั้นไม่ยาวดูอบอุ่นเหมือนพี่ชายข้างบ้าน

แต่คลื่นพลังอันแสนชั่วร้ายนี้มันย่อมไม่มีทางจะปิดบังไว้ได้

ดูท่าแล้วเขาคงไม่ได้คิดดีต่อเย่หยวนแน่

“เจ้าตามหาข้า?” เย่หยวนถาม

“เจ้ารู้จักเยวี่ยเมิ่งลี่?” ชายหนุ่มตอบคำถามด้วยคำถาม

เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างของเย่หยวนก็สั่นสะท้านทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างก่อนจะถามขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ “เจ้ารู้จักลี่เอ๋อ?”

ปัง!

เขายังไม่ทันได้เห็นชายหนุ่มขยับตัวแม้แต่น้อยแต่ร่างของเย่หยวนกลับถูกซัดจนลอยปลิวไปตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว

“อย่างเจ้าก็มีหน้ามาเรียกว่าลี่เอ๋อได้หรือ?” ชายหนุ่มหรี่ตาลงด้วยความไม่พอใจ

เย่หยวนกระอักเลือดออกมาคำโต ดูท่าเขาคงบาดเจ็บหนักแล้ว

เพราะสถานที่แห่งนี้มันมิใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเจอหน้าเทพสวรรค์เช่นนี้เขาย่อมไม่มีปัญญาจะไปต่อต้านสู้รบได้เลย

ต่อให้อีกฝ่ายจะแค่ปล่อยพลังโลกออกมาเขาก็ไม่อาจต้านทานได้

แต่สภาพจิตใจของเย่หยวนในตอนนี้กำลังตื่นเต้นอย่างมาก

หลายร้อยปีมานี้เขาไม่เคยได้รับข่าวของลี่เอ๋อเลย

แต่ในวันนี้ ฟังจากปากของชายหนุ่มคนนี้ ดูท่าลี่เอ๋อจะยังไม่ตาย

ร่างของเขาขยับ เย่หยวนกลับมายืนต่อหน้าชายหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง

อาการบาดเจ็บของเขานั้นหนักหนาอย่างมากแต่เขาก็ยังคงยืนอยู่อย่างมั่นคง

“เจ้าเป็นใคร? ลี่เอ๋อ… สบายดีหรือไม่?” เย่หยวนไม่คิดสนใจอาการบาดเจ็บใดๆ ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าลี่เอ๋อสบายดีไหม

ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นก่อนจะปล่อยพลังออกมาอีกครั้ง

ปัง!

เย่หยวนถูกตบร่วงลงสู่พื้นอีกครา!

ชายหนุ่มกล่าวขึ้นมา “ข้าบอกแล้ว เจ้านั้นไม่มีศิษย์มาเรียกว่าลี่เอ๋ออีก! ครั้งหน้าเจ้าได้ตายแน่!”

ฟุบ!

เย่หยวนลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง แม้คลื่นพลังจากกายเขานั้นจะแปรปรวนจนหาที่เปรียบมิได้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลก็ตาม

ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นดูท่าคงไม่ค่อยชอบกับความหัวรั้นของเย่หยวนนี้สักเท่าไหร่นัก

ฝ่ามือทั้งสองนั้นเขาไม่ได้ออมแรงแม้แต่น้อย หากเป็นนักยุทธนภาสวรรค์ทั่วๆ ไปที่รับไว้ อย่าว่าแต่กลับมาลุกยืน แค่นอนตายให้เหลือซากร่างยังยาก

แต่เย่หยวนกลับลุกขึ้นมายืนต่อหน้าเขาอย่างดื้อรั้น

ไม่มีใครพูดใดๆ ภายใต้ฟ้าดินนี้มีแต่ความเงียบงัน

ทุกคนต่างมองดูเย่หยวนด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความกังวล

พวกเขารู้นิสัยของเย่หยวนเป็นอย่างดี รวมไปถึงความสนิทสนมที่เย่หยวนมีกับเยวี่ยเมิ่งลี่ พวกเขาทั้งหลายก็ทราบ

แต่เทพสวรรค์ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมานี้ไม่อนุญาตให้เขาเรียกแม้แต่ชื่อนาง มีหรือที่เย่หยวนจะทนทานได้?

แต่แม้จะเห็นความโกรธนี้ของเย่หยวน ชายหนุ่มก็ไม่คิดสนใจ

ชายหนุ่มมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้านิ่งเฉย “แค่มดนภาสวรรค์ เจ้ามีสิทธิใดมาโกรธเคือง? ข้านั้นแค่จะมาบอกว่าศิษย์น้องเมิ่งลี่นั่นมิใช่คนในโลกเดียวกับเจ้าอีกต่อไป จากวันนี้ไปจงลืมนางเสีย! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้รู้ผลที่ตามมาแน่!”

ในเวลานั้นเย่หยวนก็ขยับ

หนึ่งก้าว สองก้าว…

เขาค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยลายสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากร่างที่ค่อยๆ พลุ่งพล่านไปยังตัวชายหนุ่ม

เมื่อได้เห็นเช่นนี้ชายหนุ่มที่ทำตัวเงียบขรึมมาตลบอดก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก

ดวงตาของเขาเปิดกว้างพร้อมร้องออกมาอย่างตื่นตกใจ “ลายพระเจ้า! นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?”

ลายสีฟ้าทั้งหลายนี้ค่อยๆ รวมตัวกันหนาขึ้นจนแทบปกคลุมทั้งพื้นที่ไป

ดวงตาทั้งสองของเย่หยวนกลับกลายเป็นความเย็นชาไม่มีอารมณ์ใดๆ แฝงอยู่อีก

เมื่อได้เห็นดวงตาคู่นั้นของเย่หยวนไม่ทราบทำไมแต่ตัวเขานั้นกลับรู้สึกกลัวขึ้นมาจับขั้วหัวใจ

สำหรับเทพสวรรค์แล้ว นภาสวรรค์นั้นมันมิใช่ตัวตนที่จะเป็นภัยได้เลย

แต่ในวินาทีนี้สัญชาตญาณของเขากลับกำลังร่ำร้องถึงอันตรายออกมาอย่างสุดแรง

…………………………