อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 920 เสือน้อยระดับสาม
ไป๋หลี่เจิ้นอดทนไม่ไหว หัวเราะออกมาเสียงดัง

เมื่อเขาหัวเราะ สายตาทุกคนก็ต่างหันไปมองเขา

กู้ชูหน่วนก็เช่นกัน

นางก้าวเดินไปหาไป๋หลี่เจิ้น

มองดูไป๋หลี่เจิ้น แล้วก็มองดูซ่างกวนชิง ชูมีดสั้นด้านข้างขึ้นมา กรีดเสื้อผ้าไป๋หลี่เจิ้นจนขาด ถอดออกมาแล้วเอาไปคลุมตัวซ่างกวนชิง พอปกปิดให้ซ่างกวนชิงได้บ้าง

ครั้งนี้กลายเป็นไป๋หลี่เจิ้นที่อึ้ง

รอยยิ้มของเขาหุบลงไปทันที จ้องมองดูกู้ชูหน่วนอย่างโกรธเคือง พร้อมพูดเตือนว่า

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร?”

“รู้สิ สุนัขตัวหนึ่งของตระกูลไป๋หลี่”

“บังอาจ ข้าเป็นถึงผู้อาวุโสระดับสี่ของตระกูลไป๋หลี่ เจ้าเป็นเพียงชีพจรยุทธ์ชั้นสามคนหนึ่ง ยังกล้า…”

“เอาล่ะ ข้าก็มาดูแลท่านแล้วไม่ใช่หรือ รีบร้อนอะไร ตระกูลซ่างกวนได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ตระกูลไป๋หลี่ก็จะต้องไม่ด้อยไปกว่ากัน”

กู้ชูหน่วนพูดแทรกคำพูดของเขาอย่างเย็นชา แล้วก็เริ่มค้นหาสิ่งของมีค่าบนตัวของพวกเขา

ต้องยอมรับว่า สิ่งของล้ำค่าของตระกูลไป๋หลี่นั้นมีเยอะกว่าตระกูลซ่างกวน

นอกจากยาชั้นเลิศ เงิน อาวุธอย่างดี ยังมีขุมทรัพย์แห่งสวรรค์ที่พวกเขาได้มาจากภูเขาเจียงเจ๋ออีกไม่น้อย ตลอดจนขวดเล็กๆแต่ละขวด

กู้ชูหน่วนเปิดฝาขวดเล็กออก สัตว์อสูรอึ๊บอึ๊บอึ๊บแต่ละตัววิ่งออกมา

“อย่าเปิด…..”

พวกไป๋หลี่เจิ้นตะโกนพูดขึ้น

แต่เสียดายสายไปแล้ว

สัตว์อสูรนับสิบวิ่งหนีไปหมดแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงา

เขาโกรธโมโหจนอยากที่จะฆ่ากู้ชูหน่วนทันที

“เอารู้ไหมว่าเพื่อจับสัตว์อสูรพวกนั้น พวกเราต้องลงทุนลงแรงขนาดไหน แล้วต้องสูญเสียเลือดเนื้อตั้งเท่าไหร่”

กู้ชูหน่วนกางมือ

“เจ้าไม่พูดข้าจะรู้ได้อย่างไร ข้าไม่ใช่พยาธิในท้องของเจ้า”

“เจ้า….ดี ดีมาก นับจากวันนี้ เจ้าเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของตระกูลไป๋หลี่”

กู้ชูหน่วนหัวเราะเย้ย

ต่อให้ไม่เกิดเรื่องในวันนี้

นางก็เป็นคนหมายเลขหนึ่งที่ตระกูลไป๋หลี่อยากกำจัด

ไม่ว่ายังไงก็ผิดใจแล้ว ก็ให้ถึงที่สุดไปเลยก็แล้วกัน

ขอเพียงกู้ชูหน่วนหาเจอขวดเล็ก ล้วนต่างก็เปิดออก ปล่อยสัตว์อสูรที่อยู่ข้างในออกมาให้หมด

คนตระกูลไป๋หลี่ต่างเลือดไหลอยู่ในใจ

สัตว์อสูรที่นี่ทุกตัว พวกเขาล้วนได้มาอย่างยากลำบาก เตรียมที่จะเอาไว้ใช้ในงานชุมนุมล่าสัตว์

ตอนนี้ปล่อยไปหมดแล้ว การมาภูเขาเจียงเจ๋อในครั้งนี้ พวกเขาเสียทั้งฮูหยินและรี้พล

เวลานี้อารมณ์ของคนตระกูลซ่างกวนค่อยดีขึ้นมาหน่อย

ทั่วทั้งทวีปปิงหลิง ตระกูลไป๋หลี่มีผู้ควบคุมสัตว์มากที่สุด สัตว์อสูรในครอบครองก็มีมากที่สุด

งานชุมนุมล่าสัตว์ต่างๆ จะว่าไปแล้ว ก็เป็นการให้พวกนักเรียนเข้าไปฝึกฝนในหุบเขาสัตว์อสูร หากโชคดีก็จะสามารถได้สัตว์อสูรมาครอบครอง ทำสัญญาระหว่างกัน กระทั่งกลายเป็นผู้ควบคุมสัตว์

ความจริงแล้ว สำนักมีชื่อเสียงไม่น้อย ตลอดจนวิทยาลัยขนาดใหญ่ต่างๆ ล้วนจับสัตว์อสูรกลับไปฝึกฝนก่อน รอเมื่อถึงงานชุมนุมล่าสัตว์ แล้วก็แอบยกให้ลูกศิษย์ภายในสำนัก

หนึ่งในนั้น ตระกูลไป๋หลี่ไร้ยางอายที่สุด

ทุกครั้งล้วนเป็นพวกเขาที่ทำการคดโกง

“หยุดนะ ข้าบอกให้เจ้าหยุด ได้ยินไหม” ไป๋หลี่เจิ้นตะคอกพูดขึ้น

กู้ชูหน่วนแกล้งทำเป็นตกใจจนขวดตกลงพื้น

นางพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า “ปล่อยไปหมดแล้ว ไม่เหลือสักตัว ทำไงดี?”

“เจ้า….เจ้าผู้หญิงบ้า เจ้าเป็นใครกันแน่”

“บางทีอาจจะยังเหลืออยู่บ้าง เพราะข้ายังไม่ได้ค้นตัวของเจ้า”

พูดเสร็จ กู้ชูหน่วนก็เริ่มค้นตัวไป๋หลี่เจิ้นอย่างไม่เกรงใจ

“หญ้าสีคราม? อันนี้เป็นยาสมุนไพรที่ไม่เลว ข้าช่วยเจ้าเก็บไว้”

“ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ อันนี้ยิ่งไม่เลว สิ้นเปลืองอย่างมาก ข้าก็ช่วยเจ้าเก็บไว้”

“ไอหยา ที่นี่ยังมีขวดเล็กขวดหนึ่งจริงๆด้วย ไม่รู้ว่าข้างในมีสัตว์อสูรไหม”

“ขวดนี้เจ้าห้ามแตะต้อง ได้ยินไหม? หากเจ้ากล้าแตะต้อง ไม่ว่าจะต้องปีนขึ้นฟ้าหรือลงนรกข้าก็จะตามฆ่าเจ้าให้ถึงที่สุด”

“จริงจังขนาดนี้ แสดงว่าสิ่งของในขวดจะต้องเป็นสิ่งของที่ดีมากแน่”

เขาไม่ให้นางเปิด

นางก็จะเปิดให้ได้

หลังจากเปิดแล้ว ข้างในเป็นเสือน้อยระดับสามตัวหนึ่ง

เสือน้อยได้รับอิสระ ดูเหมือนจะโกรธแค้นมาก

กรงเล็บเสือกลมกระโจนไปหาคนของตระกูลไป๋หลี่

ทุกอุ้งเท้าที่พุ่งไป ลูกศิษย์ของตระกูลไป๋หลี่บาดเจ็บล้มตามเป็นจำนวนมาก

แม้แต่ไป๋หลี่เจิ้นก็ถูกเจ้าเสือน้อยทำร้ายบาดเจ็บสาหัส

ซ่างกวนชิงพูดขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “เสือขาวตัวนี้น่าจะเป็นลูกเสือ ทำไมถึงมีพลังมากมายขนาดนี้?”

เซียวหยู่เซวียนมองดูทุกการกระทำของกู้ชูหน่วน มุมปากยักยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

ผู้หญิงคนนี้สร้างความร้าวฉาน ทำให้ทั้งสองตระกูลใหญ่ทะเลาะกัน

และใช้นางพญาผึ้งดึงดูดความสนใจของพวกเขา

สุดท้ายใช้พิษกลิ่นธูป ถือเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้พวกเขาล้มลง

พิษกลิ่นธูป……

พิษแบบนี้ แม้แต่หุบเขาตันหุยก็ยากที่จะทำขึ้นมา

นางกลับสามารถทพิษกลิ่นธูปำขึ้นมาภายในเวลาอันสั้นขนาดนี้

หากผ่านการฝึกฝน จะต้องกลายเป็นนักหลอมยายอดฝีมือแน่

เมื่อมองเห็นเจ้าเสือน้อย เซียวหยู่เซวียนอดไม่ได้ที่จะยืดตัวตรง

เจ้าเสือน้อยตัวนี้ท่าทางกำยำน่าเอ็นดู ตัวกลมน่ารัก

บนหัวยังมีตราสีแดง

มันเดินโซเซ ราวกับแก้วน้ำจะล้ม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งคลอดหรือเปล่า จึงยังเดินไม่ค่อยเป็น

แต่ความสามารถของมัน กลับมีถึงระดับสาม

เพิ่งคลอดก็มีพลังถึงระดับสาม?

ขนเสือก็ขาวสะอาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อนเลยสักนิด มองแวบเดียวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเสือ

เสือตัวนี้กลายพันธุ์หรือ?

ไม่….

นอกจากกลายพันธุ์ เกรงว่ามันคงมีเลือดเนื้อเชื้อสายอันสูงส่ง ไม่อย่างนั้นแค่เพิ่งคลอดแล้วจะมีพลังถึงระดับสามได้อย่างไร

“อั๊ก….”

เสือน้อยอ้าปากพุ่งกระฉูด มวลไฟพุ่งออกมา ไป๋หลี่เจิ้นถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน แม้แต่เสื้อผ้าก็ถูกเผาจนเกลี้ยง ย่ำแย่ยิ่งกว่าซ่างกวนชิง

ครั้งนี้กู้ชูหน่วนกางมืออย่างจนใจจริง

“ครั้งนี้ไม่ใช่ฝีมือข้า เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย เป็นคนร้ายก็ต้องชดใช้กรรม เจ้าจะต้องไปแก้แค้นมัน หรือไม่ก็ไปแก้แค้นแม่เสือที่คลอดมัน”

“ซี๊ด….”

หลังจากที่เสือน้อยอาละวาดเสร็จแล้ว ก็เดินบิดมาหากู้ชูหน่วน เสือน้อยลูบไล้ในอ้อมแขนของนางอย่างเสน่หา

กระทั่งตัวเสือน้อยคดไปทั้งตัว ซบอยู่อ้อมแขนกู้ชูหน่วนไม่ยอมปล่อย

นี่…..

นี่เกิดอะไรขึ้น?

เจ้าเสือน้อยเห็นผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่หรือ?

ไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง

เสือขาวเป็นเสือมีพลังถึงระดับสามเลยนะ

ส่วนผู้หญิงคนนั้น เป็นเพียงชีพจรยุทธ์ชั้นสามคนหนึ่งเท่านั้นเอง

สัตว์อสูรญาณทิพย์ ปกติจะเลือกคนที่แข็งแกร่งกว่าเป็นเจ้านาย แล้วจะเลือกคนไม่ได้เรื่องคนหนึ่งได้อย่างไร?

แม้แต่กู้ชูหน่วนเองก็อึ้ง

นางหิ้วเจ้าเสือน้อยขึ้นมา แล้วโยนไปด้านข้างอย่างรังเกียจ

“ข้าไม่มีนมเลี้ยงเจ้า เจ้ารีบไปหาแม่ของเจ้าเลย อย่ามายุ่งกับข้า”

คนโง่

ผู้หญิงคนนี้เป็นคนโง่อย่างแน่นอน

สัตว์อสูรระดับสาม ผู้ควบคุมสัตว์มากมายแค่ไหนที่ถวิลหาแม้ในยามฝัน

และก็มีคนอิจฉามากมายแค่ไหน

ตอนนี้นางไม่ต้องทำอะไรเลย เสือระดับสามก็เห็นนางเป็นเจ้านาย นางกลับรังเกียจ

พวกเขากล้ารับประกันว่า ต่อไปความสามารถของเสือตัวนี้ จะต้องไม่อยู่เพียงระดับสามแน่

สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งอึ้งก็คือ เผชิญกับการที่กู้ชูหน่วนรังเกียจ เจ้าเสือน้อยตะโกนร้อง พร้อมใช้อุ้งเท้าเสือวาดเป็นวงกลม ราวกับกำลังเอาใจกู้ชูหน่วน

ส่วนกู้ชูหน่วนยิ่งโยนมันไปไกล

ทุกคนอ้าปากค้าง

รอเมื่อกู้ชูหน่วนถอดเสื้อผ้าของพวกเขาจนหมดแล้ว พวกเขาค่อยได้สติกลับมา

“สิ่งของล้ำค่าของพวกเจ้ามีน้อยมาก ข้ายิ่งไม่มีเงิน จึงต้องถอดเสื้อผ้าของพวกเจ้าเพื่อแลกเงิน ลาก่อนนะทุกคน”

พูดเสร็จ นางก็หลบหนีไป ข้างหลังมีเจ้าเสือน้อยเดินตามอยู่อย่างบิดเบี้ยว แล้วก็หายลับเข้าไปในป่า

ผ่านไปตั้งนาน ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธแค้น

“อ้าก….อย่าให้ข้าจับตัวเจ้าได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ”