ตอนที่ 1234

Alchemy Emperor of the Divine Dao

การขยับตัวทุกครั้งของหลินอวีฉีนั้นเย้ายวนมาก

ที่หลิงฮันประหลาดใจก็คือคำว่านายหญิงที่สาวใช้ใช้เรียกนางนั้น นางก็สมควรจะเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว แต่ชุดที่นางสวมใส่กลับไม่แสดงให้เห็นว่านางแต่งงานแม้แต่น้อย

แต่ถึงอย่างไรนั่นก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่ดี

รถม้าคันนี้มีขนาดใหญ่ หลินอวีฉีหันมามองเขาและยิ้ม “เชิญนายน้อยหลิงนั่งตามสบาย!”

หลิงฮันยิ้มและนั่งลง “ท่านชวนข้ามาเช่นนี้ไม่ทราบว่ามีธุระอันใด?” ตอนนี้เขากำลังจะมุ่งหน้าไปยังหุบเขาต้นกำเนิดวารีเพื่อตามหาสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ เขาไม่ต้องการเสียเวลาอยู่ที่นี่

เมื่อเห็นแววตาอันเร่งรีบของเขา หลินอวีฉีก็ชะงักทันที

นางเป็นสตรีที่งดงามและยั่วยวน นางชอบความรู้สึกที่ได้ทำให้ผู้คนลุ่มหลงและและไม่เคยปฏิเสธว่าตนเองเป็นปีศาจสาวทรงเสน่ห์ ก็ใครใช้ให้นางมีรูปลักษณ์ที่งดงามเช่นนี้กันล่ะ?

แววตาที่เหมือนจะเร่งรีบออกไปจากที่ของหลิงฮันทำให้นางรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก!

ถ้าหลิงฮันแค่ทำหน้าตาไม่สนใจนาง นางก็พอเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงจะแกล้ทำเป็นเสแสร้ง แต่ตอนนี้ใบหน้าของหลิงฮันนั้นสงบนิ่งและจ้องมองนางด้วยแววตาที่เร่งรีบ หลินอวีฉีจึงเชื่อว่าบุรุษตรงหน้าไม่ต้องการพบเจอนางจริงๆ

แววตาไม่มีทางโกหก… ยิ่งหลินอวีฉีคุ้นชินกับบุรษมามากแล้ว อีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่นั้นนางสามารถเดาได้ง่ายมาก

ช่างน่าหงุดหงิดอะไรเช่นนี้!

“หากไม่มีธุระอะไร ข้าจะคุยกับนายน้องหลิงไม่ได้รึไง?” นางกล่าว

หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ถ้าท่านไม่มีอะไรจะพูดข้าคงต้องขอตัวก่อน!”

เขายืนขึ้นและกำลังจะก้าวออกจากรถม้า

“หยุดก่อน! หยุดก่อน!” หลินอวีฉีระเบิดอารมณ์และอยู่ก็ปรากฏอยู่ด้านหน้าหลิงฮัน ความเร็วของนางนั้นรวดเร็วจนใบหน้าหลิงฮันชะงัก สตรีงดงามนางนี้ที่แท้ก็เป็นปรมาจารย์

การเคลื่อนไหวของนางเมื่อครู่เขามองเห็นได้เพียงเรือนราง ถ้าหากอีกฝ่ายต้องการโจมตีเขา เขาคงไม่มีทางรอด!

เพียงแต่ว่าด้วยการเคลื่อนไหวเมื่อครู่ ยอดเขาสองลูกของนางแทบจะถลนออกมาโดนตัวเขา หลิงฮันขมวดคิ้วและก้าวถอยกลับเข้ารถม้า

ขุมกำลังที่เขาไปล่วงเกินมีมากพอแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการจะล่วงเกินใครเพื่อสร้างศัตรูเพิ่มอีก

เมื่อหลินอวีฉีเห็นเช่นนั้นนางก็เผลอกระตาปริบๆด้วยท่าทางออดอ้อน ความเย้ายวนนี้เพียงพอจะทำให้นางมัดใจชายทั่วโลกได้ นางหัวเราะและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “เจ้าก้าวถอยเพราะหวาดกลัวอะไรรึ? หรือว่าเจ้ากลัวว่าข้าจะกินเจ้า?”

เป็นอย่างที่นางว่า!

หลิงฮันพยักหน้าไปตามตรงและกล่าว “นายหญิง ท่านควรจะรักนวลสงวนตัวกว่านี้หน่อย!”

หลินอวีฉียิ้มอย่างมีเลศนัย “ฮึฮึ แล้วเจ้าอยากจะลองชิมนายหญิงคนนี้ดูไหมล่ะ?”

เจ้าเด็กน้อยตัวดี… คราวนี้ติดกับข้ารึยังล่ะ?

ตราบใดที่เจ้าแสดงท่าทีน่ารังเกียจออกมาแม้แต่นิดเดียว ข้าจะสั่งสอนเจ้าในข้อหาที่ก่อนหน้านี้ทำให้ข้าเสียหน้า

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “นายหญิงคงจะดื่มหนักไปแล้ว ท่านไม่รู้รึไงว่าการดื่มจนเมาน่ะมันไม่ดี! เอาล่ะ ข้าไม่มีเวลามั่วเล่นกับท่านมากนัก ข้าขอลาตรงนี้แล้วกัน!”

หลินอวีฉีโอดครวญ บุรุษผู้นี้ปฏิเสธนางอีกแล้ว

“ฮืออ!” จู่ๆนางก็ล้มลงกับพื้นและร้องไห้น้ำตาคลอ

นี่เจ้าทำอะไร?

ข้ายังไม่ทันสัมผัสเจ้าแม้แต่ปลายเล็บ เหตุใดเจ้าถึงมีสภาพเช่นนั้นได้?

เลิกวุ่นวายกับข้าและปล่อยข้าไปได้แล้ว!

หลิงฮันต้องการจะยกเท้าก้าวเดินออกไป แต่หลินอวีฉีได้นั่งร้องไห้ขวางทางเขาเอาไว้ พลังของสตรีผู้นี้น่าสะพรึงกลัวมาก หลิงฮันจึงไม่รู้จะทำอย่างไหรกับนางที่ขวาทางเขาอยู่ดี

“คนอันธพาล!” หลินอวีฉีร้องไห้ ด้วยใบหน้าที่งดงามของนาง น้ำตาที่ไหลออกมาทำให้ดูยั่งยวนและน่าสงสาร ไม่ว่าชายใดก็ต้องเกิดแรงกระตุ้นอยากเข้าไปโอบปลอบนาง

หลิงฮันกัดฟัน เสน่ห์ของสตรีผู้นี้ไม่ใช่ธรรมดาเลย เราเริ่มรู้สึกหวั่นไหวบ้างแล้ว

เขารีบนึกถึงจักรพรรดินีแห่งดาราอย่างรวดเร็ว ใบหน้างดงามที่หาใครเปรียบของอีกฝ่ายทำให้จิตใจฟุ้งซ่านของหลิงฮันสงบและสตรีตรงหน้าก็ไม่สามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้อีกต่อไป

จักรพรรดินีเรียกได้ว่าเป็นย้าต้านเสน่ห์ชั้นดีสำหรับเขา!

หลินอวีฉีโอดครวญไม่สบอารมณ์อีกครั้ง ขนาดนางงัดไม้นี้ออกมาใช้แล้ว เข้ายังไม่แสดงท่าทีหื่นกระหายออกมาอีก?

หรือข้าจะต้องถอดเสื้อผ้าให้เขาดู?

นางส่ายหัวทันที นางเพียงแค่ต้องการเล่นกับความรู้สึกของบุรุษเท่านั้น นางไม่ได้อยากจะทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตัวนางต้องเสียหาย

“นายน้อยหลิง เชิญนั่งก่อน!” จู่ๆนางก็กล่าวขึ้นมา แล้วน้ำตาบนใบหน้าที่งดงามเมื่อครู่ล่ะหายไปไหนแล้ว?

หลิงฮันหงุดหงิดจนแทบจะบ้าคลั่ง เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นมิตรสหายกันรึอย่างไรถึงได้เล่นอะไรแบบนี้?

แต่พลังของสตรีผู้นี้ก็ยากจะหยั่งถึง ถ้านางไม่ปล่อยเขาไปหลิงฮันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหอคอยทมิฬ เพียงแต่ว่าตั้งแต่เขารู้ถึงการมีอยู่ของดินแดนแห่งเซียน หลิงฮันก็เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้นและไม่ต้องการเปิดเผยความลับของหอคอยทมิฬให้ผู้ใดรู้

หอคอยทมิฬเป็นสิ่งที่ล้ำค่าขนาดไหน?

มันสามารถทำให้ต้นสังสารวัฏที่ต้องใช้เวลาสิบสองล้านล้านปีในการเติบโตลดเหลือเพียงสามปีเท่านั้น ถึงแม้พลังของหอคอยทมิฬจะยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่แต่สนตอนนี้พลังของมันก็เรียกว่าท้าทายสวรรค์เกินพอแล้ว

แม้จะเป็นในดินแดนแห่งเซียน เกรงว่าหอคอยทมิฬก็คงนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่า?

เขายังไม่ทันจะบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งเลย หากตัวตนจากดินแดนแห่งเซียนรู้ว่าเขาครอบครองหอคอยทมิฬล่ะก็… เขาคงหนีไม่พ้นความตาย