ตอนที่ 1233

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หนึ่งในศิษย์ของเขาเจียนเยว่ซวน ตอนนี้อยู่ที่นิกายดาบสวรรค์ ส่วนเฉินหลุยเจียงได้ออกเดินทางฝึกยุทธทั่วทวีป เขาเป็นจอมยุทธ แน่นอนว่าจำเป็นต้องยดระดับพลังของตนเอง

ในส่วนของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ ตอนนี้นางอาศัยอยู่ที่หุบเขาต้นกำเนิดวารี สถานที่แห่งนั้นอยู่ห่างไกลเพียงสามพันไมล์เท่านั้น

หลิงฮันตัดสินใจไปหาสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ทันที

เรื่องแก้แค้นห้านิกายโบราณเอาไว้ที่หลังได้ แต่เขาไม่ได้พบหน้าสตรีของเขาผู้นี้มาหนึ่งหมื่นปีแล้ว เขาไม่ต้องการจะรอคอยอีกต่อไป

ในขระที่เขาออกมาจากตำหนักฮันหลิงและกำลังจะเดินทาง รถม้าคันหนึ่งก็เคลื่อนที่มาปิดกั้นทางเขาเอาไว้ สาวใช้ที่ควบคุมรถม้ากล่าวกับเขา “ปรมาจารย์หลิง นายหญิงของข้าต้องการพูดคุยกับท่าน”

“นายหญิงของเจ้า?” หลิงฮันมึนงงเล็กน้อย “ใครกัน?”

“ไว้ปรมาจารย์หลิงขึ้นรถม้ามาท่านก็จะรู้เอง” สาวใช้ยิ้มอย่างมีเลศนัย รอยยิ้มของนางดูแล้วช่างยั่วยวนเป็นอย่างมาก

ดูจากชุดที่นางสวมใส่นางคงเป็นคนรับใช้ไม่ผิดแน่นอน แต่ขนาดคบรับใช้ยังมีเสน่ห์เช่นนี้ นายหญิงของนางจะยั่วยวนขนาดไหน?

แต่หลิงฮันในตอนนี้จะมีอารมณ์เช่นนั้นรึ?

เขาส่ายหัวและกล่าว “งั้นก็ช่างมันแล้วกัน” เขาสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป

“เดี๋ยวก่อน!” สาวใช้รีบลงจากรถม้าและปิดกั้นทางของหลิงฮันเอาไว้ หน้าอกอันอวบอิ่มของนางแทบจะสัมผัสกับร่างของหลิงฮันจนหลิงฮันต้องยอมก้าวถอยหลบไปด้านหลังเล็กน้อย

“ปรมาจารย์หลิง นายหญิงของข้าเป็นสตรีที่งดงามที่สุดภายใต้ดวงตะวันและจันทรา ไม่รู้ว่ามีบุรามากมายเท่าใดที่ต่อแถวเรียงกันขอเข้าพบนายหญิงของข้า แต่นายหญิงของข้าจะยอมพบไหมนั่นก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนาง” สาวใช้กล่าวด้วยท่าทีภูมิใจ “ครั้งนี้นายหญิงของข้าเป็นฝ่ายเชิญชวนท่านก่อน หากปฏิเสธท่านไม่กลัวว่านายหญิงของข้าจะเสียใจรึอย่างไร?”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า?” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส

“เช่นนั้นก็ช่วยไม่ได้!” สาวใช้กล่าวและเอื้อมมือไปคว้าจับหลิงฮัน “ปรมาจารย์หลิง ในเมื่อท่านไม่ยอมขึ้นรถม้าแต่โดยดี ข้าก็ต้องใช้กำลังบังคับท่าน!”

‘ครืนนน’ ออร่าที่ทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของนาง ที่แท้นางก็เป็มจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา!

หลิงฮันประหลาดใจ จอมยุทธระดับสุริยันจันทรายังเป็นได้เพียงคนรับใช้?

แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว

เขาปล่อยหมัดเข้าใส่อีกฝ่าย เนื่องจากเขาได้คิดค้นทักษะดาบฟ้าคำรามขึ้นมาและทำความเข้าใจบททดสอบสายฟ้าสวรรค์ได้สำเร็จ หมัดของเขาจึงไม่เพียงทรงพลังแต่ยังแฝงไว้ด้วยอำนาจทำลายล้างของสายฟ้าอีกด้วย

‘ตูม’ ประกายสายฟ้าส่องสว่างเจิดจ้า

สาวใช้เผยสีหน้าตกตะลึงทันที นางไม่มีเวลาตั้งท่าป้องกันจึงใช้มือที่เอออกไปกระแทกเข้ากับหมัดของหลิงฮัน ‘ปัง’ เกิดเสียงปะทะที่ดังก้อง ทั้งสองคนล่าถอยออกไปสองสามก้าว

สาวใช้ผู้นี้มีพลังบ่มเพาะระดับสุริยันจันทราขั้นกลางชั้นปลาย ดังนั้นพลังต่อสู้ของนางจึงเทียบเท่าหลิงฮัน พลังทำลายที่เกิดจากหมัดที่แฝงไว้ด้วยอำนาจของบททดสอบสายฟ้าสวรรค์ทำให้ฝ่ามือของนางสั่นสะท้าน

“ข้าไม่คิดเลยว่าปรมาจารย์หลิงฮันจะเชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งวรยุทธด้วยเช่นกัน!” สาวใช้โคจรทักษะบ่มเพาะเพื่อหยุดโลหิตที่ไหลจากฝ่ามือ บนใบหน้าของนางปรากฏสีหน้าตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่ได้ร้อนลน “แต่ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นคำสั่งที่ได้รับจากนายหญิง ปรมาจารย์ต้องให้ความร่วมมือกับข้า!”

‘ครืนน’ สุริยันจันทราสองดวงปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของนาง มันไม่ได้ปล่อยคลื่นความร้อนแต่กลับเป็นคลื่นอากาศอันเย็นยะเยือก พื้นที่โดยรอบถูกแช่เป็นน้ำแข็งและมีหิมะตกลงมา

จอมยุทธบางคนฝึกฝนทักษะธาตุน้ำแข็ง พลังสุริยันจันทราของพวกเขาจึงเป็นพลังแห่งเหมันต์และปลดปล่อยความเย็นยะเยือกอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา

หลิงฮันพยักหน้า ระดับยุทธของดาวแห่งนี้เหนือกว่าจักรวาลของดาวเหอหนิง อย่างน้อยในจักรวาลของดาวเหอหนิงก็มีเพียงปรมาจารย์สามวิถีที่บรรลุระดับวารีนิรันดร์ได้ จอมยุทธคนอื่นๆก็บรรลุแค่ระดับภูผาวารี สุริยนัจันทราและดารา

ไอเย็นที่สาวใช้ผู้นี้ปลดปล่อยออกมาทำให้โลหิตในร่างของหลิงฮันแข็งตัว ร่างของเขาเองก็ขยับไม่ได้

เพียงแต่ว่าหากจะเขาชนะเขา แค่นี้มันยังไม่เพียงพอ!

‘พรึบ’ ประกายสายฟ้าปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา ประกายสายฟ้าค่อยๆผสานเข้าด้วยกันและทำให้ความเย็นค่อยๆสลายไปจากร่างของเขา

“หอกเหมันต์!” สาวใช้เค้นเสียง ปราณเหมันต์ถูกควบแน่นกลายเป็นหอกน้ำแข็งเล่มยาวและแทงหอกไปด้านหน้า สายลมรอบข้างหอกเหมันห์ได้ถูกแช่แข็งและกลายสภาพเป็นคมมีดเหมันต์นับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน

หลิงฮันชี้นิ้วปลดปล่อยเจตจำนงแห่งดาบที่ผสานกับอำนาจอัสนีออกไปปะทะเข้ากับคมมีดเหมันต์

‘เพล๊ง เพล๊ง เพล๊ง’ คมมีดนับไม่ถ้วนแตกสลายทันที

หลิงฮันยืดตัวและกล่าว “เท่านี้พอรึยัง?”

สาวใช้คำราม “ยัง!”

นางโจมตีอีกครั้ง รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างปรากฏขึ้นที่หอกเหมันต์

หลิงฮันเค้นเสียง เขาไม่ปิดบังพลังต่อสู้อีกต่อไปและกระใช้ปล่อยหมัดเข้าใส่หอกเหมันต์

‘แกร่ก แกร่ก แกร่ก’ รอยร้าวปรากฏขึ้นบนหอหเหมันต์ หลังจากโดนโจมตีด้วยหมัดของหลิงฮันหลายครั้งในที่มุดมันก็หักและแตกสลาย สีหน้าของสาวใช้กลายเป็นซีดเผือด ผมของนางกระเซอะกระเซิงไม่เหลือเสน่ห์เย้ายวนอีกต่อไป

นางอดคิดไม่ได้ว่าหลิงฮันมีพลังบ่มเพาะระดับสุริยันจันทราขั้นต้นแท้ๆ แต่เขากับเอาชนะนางด้วยการต่อสู้ซึ่งๆหน้าได้ พลังของเขาอัศจรรย์กินไป! นางไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และนำตราอักขระออกมา

“ฉินหลัว พอได้แล้ว!” เสียงหนึ่งดังออกมาจากรถม้า มันคือเสียงของหลินอวีฉีเจ้าของตำหนักเป่าหลินสาขาเมืองต้าหยิง

ประตูรถม้าเปิดออก เผยให้เห็นสตรีงดงามที่นั่งอยู่ด้านใน ความเย้ายวนของนางนัน้ทำให้บุรุษทุกคนที่จ้องมองต้องตกอยู่ในภวังค์

“ปรมาจารย์หลิง ข้าไม่ใช่สัตว์กินเนื้อเสียหน่อย ท่านไม่ต้องกังวลว่าข้าจะกินท่าน” นางหัวเราะอย่างทรงเสน่ห์และเย้ายวน

เมื่อนางปรากฏตัวหลิงฮันก็ไม่สามารถจากไปเฉยๆได้อีกต่อไป เขายิ้มและกล่าว “ไม่ทราบว่าท่านมีธุระอันใดกับข้า?”

“อย่างไรก็ขึ้นรถม้ามาก่อนสิ” หลินอวีฉียิ้ม

หลิงฮันลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้าและเดินขึ้นรถม้า