อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2005 กี่กระบวนท่า?
ในตอนนั้นเองที่พวกเขารับรู้ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดธรรมดาๆ
“หมอนี่ประหลาดมาก พวกเราควรร่วมมือกันสังหารเขา!”
“ผมว่าเขาน่าจะไม่ใช่ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดหรอก!”
ใครคนหนึ่งตะโกน
ต่อให้ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดที่แข็งแกร่งที่สุด คือเหอจิ้งชวน ก็ยังไม่อาจสังหารหลิวยู่เหลียนได้ด้วยการฟาดฟันเพียงครั้งเดียวแบบนี้ แต่หมอนี่กลับทำได้ มีบางอย่างผิดปกติแน่ๆ…
“เฮ่อ…การยื้อเวลาเพื่อจะชักดาบนี่ช่างน่าเบื่อจริงๆ!” จางเซวียนคำราม
ใครจะไปคิดว่าคนกลุ่มนี้จะหน้าไม่อายถึงขนาดหาข้อแก้ตัวทุกรูปแบบและพยายามสังหารเขาเพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้หนี้?
เราอยากแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างละมุนละม่อม แต่ดูเหมือนคนในโลกนี้จะคุยกันรู้เรื่องด้วยการใช้พละกำลังเท่านั้น
ซึ่งในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็ขอผมสั่งสอนบทเรียนที่พวกคุณจะไม่มีวันลืมก็แล้วกัน!
นี่จะเป็นการตัดสินใจอันเลวร้ายที่สุดที่พวกคุณเคยทำมาชั่วชีวิต ตราบใดที่คุณยังปฏิเสธไม่ยอมใช้หนี้ ผมก็จะสังหารพวกคุณทุกคนจนกว่าจะไม่มีใครกล้าเข้าสู่หอนิรันดร์อีกเลย
ฟึ่บ!
จางเซวียนกระโจนเข้าใส่ใจกลางฝูงชน ในชั่วพริบตา กระแสดาบฉีก็ระเบิดออกไปโดยรอบ พื้นดินสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ผู้อาวุโสไป๋เย่ที่ถูกตัดลิ้นและตัดข้อมือจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าซีดเผือด ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าหอนิรันดร์กำลังจะถูกทำลาย!
หมอนี่หนักมือเกินไปเสียแล้ว หลังจากสร้างความวุ่นวายในหอนิรันดร์ของศิษย์สายตรงฝ่ายใน ก็ยังคิดจะทำแบบเดียวกันที่หอนิรันดร์ของศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดด้วย…ผู้อาวุโสไป๋เย่ครุ่นคิดอย่างโกรธเกรี้ยว
เขากัดฟันอดทนกับความเจ็บปวด จากนั้นก็ก้าวออกไปและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ก็พอดีกับที่ รู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่แทงทะลุลำคอของเขา
ฟิ้วววว!
กระแสดาบฉีสายหนึ่งพุ่งออกจากใจกลางสนามประลอง ตัดศีรษะของเขาในทันที
ผู้อาวุโสไป๋เย่
กว่าเขาจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็กลับมาอยู่ที่บ้านพักของตัวเองแล้ว ตรงหน้าเขาคือไป๋เฟิงกับชายชราคนหนึ่งที่กำลังมองหน้ากันด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง ใบหน้าของทั้งคู่ดูจะยับย่นกว่าเดิมหลายเท่า ราวกับแก่ไปอีกเป็นสิบปี
ในฐานะนักรบอมตะขั้นสูง พวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของทวีปที่ถูกลืม เป็นผู้มีอิทธิพลต่อการเมืองของโลกใบนี้ในทุกย่างก้าว แต่เมื่อครู่นี้เอง…ที่หอนิรันดร์ของศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด พวกเขาพ่ายแพ้ให้ชายหนุ่มคนหนึ่งภายในกระบวนท่าเดียว
ไม่อาจเทียบชั้นกับอีกฝ่ายได้เลย!
“คุณ…คุณก็ถูกสังหารหรือ!” ชายชราร้องออกมาเมื่อเห็นผู้อาวุโสไป๋ฟื้นคืนสติอีกครั้ง
“ใช่…” ผู้อาวุโสไป๋เย่พยักหน้าช้าๆ
“กี่กระบวนท่า?” ชายชราตั้งคำถาม
เขากำลังจะถามผู้อาวุโสไป๋เย่ว่าเอาตัวรอดจากกระบวนท่าของชายหนุ่มคนนั้นได้กี่กระบวนท่า เพราะตัวเขาถูกสังหารไปก่อนหน้านี้ จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
ผู้อาวุโสไป๋เย่ชู 3 นิ้ว
“3 กระบวนท่าหรือ? นั่นถือว่ามากแล้วนะ…”
เมื่อหวนนึกถึงการที่เขาถูกสังหารภายในกระบวนท่าเดียว ชายชรารู้สึกแน่นหน้าอกจนแทบจะตายไปเดี๋ยวนั้น เขาไม่เชื่อว่าผู้อาวุโสไป๋เย่จะต้านทานกระบวนท่าของอีกฝ่ายได้ถึง 3 กระบวนท่าจริงๆ จึงซักไซ้ต่อไป
“คุณใช้ศิลปะเพลงดาบชนิดไหน ถึงเอาตัวรอดได้ถึง 3 กระบวนท่า?”
ถึงผู้อาวุโสไป๋เย่จะแข็งแกร่งกว่าเขามาก แต่เขาก็ไม่คิดว่าความเหลื่อมล้ำระหว่างพละกำลังของทั้งคู่จะห่างไกลกันขนาดนั้น
“ผมไม่ได้ใช้ศิลปะเพลงดาบชนิดไหนเลย” ผู้อาวุโสไป๋เย่ตอบพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ
“คุณไม่ได้ใช้?” ชายชราส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ “เป็นไปไม่ได้ ด้วยความเร็วของดาบของหมอนั่น ไม่มีทางที่ใครก็ตามที่มีวรยุทธระดับเดียวกันจะหลบเลี่ยงได้ คุณไม่มีทางเอาตัวรอดจากการโจมตีของเขาได้หรอกหากคุณไม่ได้ตอบโต้…”
“กระบวนท่าแรกที่เขาสำแดงออกมา เขาตัดข้อมือของผม ทำให้ดาบของผมร่วงลงไปกองกับพื้น” ผู้อาวุโสไป๋เย่พูด “กระบวนท่าที่ 2, เขาแทงเข้ามาในปากของผมและตัดลิ้นของผม ทำให้ผมพูดไม่ได้!”
ได้ยินคำนั้น ชายชราขนลุกขนชันไปทั่วทั้งตัวและแทบเข่าอ่อน “แต่นั่นไม่ทำให้ถึงตายนี่!”
“ใช่ มันไม่ใช่กระบวนท่าที่ทำให้ถึงตาย เพราะเขาไม่ได้จงใจจะฆ่าผมตั้งแต่แรก ผมจึงเอาตัวรอดมาได้ถึง 2 กระบวนท่า…” ผู้อาวุโสไป๋เย่หลับตาและถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ถ้าอย่างนั้น คุณ…” ชายชราถามต่อ
“ผมตั้งใจจะออกไปเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงและไกล่เกลี่ยสถานการณ์ขณะที่เขากำลังสังหารศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดคนอื่นๆอยู่ แต่ลงท้ายผมก็ถูกสังหารโดยกระแสดาบฉีสายหนึ่งที่หลุดรอดออกมาจากใจกลางสนามประลอง…” ผู้อาวุโสไป๋เย่พูด
“คุณถูกสังหารโดยกระแสดาบฉีสายหนึ่งที่หลุดรอดออกมา…” ชายชราจังงัง
มันเกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์นี้?
กระแสดาบฉีสายหนึ่งที่หลุดออกมาจากไหนก็ไม่รู้สามารถสังหาร 1 ใน 3 ผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักดาบเมฆเหินได้
เรื่องแบบนี้เป็นไปได้จริงด้วยหรือ?
“เขาคืออัจฉริยะผู้สามารถทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้ใช่ไหม?” ชายชราหรี่ตาขณะเกิดความเข้าใจบางอย่างขึ้นมา
แม้ตัวเขาจะเป็นถึงผู้อาวุโสขั้นสูงสุด แต่ความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงดาบก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ต่อให้จะรู้สึกคับข้องใจที่ต้องถูกสังหารภายในกระบวนท่าเดียว ก็ยังถือว่าพอรับได้
แต่สำหรับผู้อาวุโสไป๋เย่, 1 ใน 3 ผู้อาวุโสใหญ่…ต้องมาถูกสังหารด้วยกระแสดาบฉีที่ไหนก็ไม่รู้ที่เล็ดลอดออกมาจากสนามประลอง อีกฝ่ายจะต้องทรงพลังขนาดไหน?
ต่อให้เขาจะโง่เง่าขนาดไหน ก็รู้ดีว่าเรื่องแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่นักดาบธรรมดาสามัญจะทำได้ ให้ตายเถอะ…ต่อให้เจ้าสำนักก็คงทำไม่ได้เหมือนกัน!
มีเพียงคนเดียวในโลกใบนี้ที่จะสร้างวีรกรรมแบบนั้นได้ และนั่นก็คือชายผู้ทำให้ทั้งสภาผู้อาวุโสเกิดความวุ่นวายขนานใหญ่เมื่อไม่นานมานี้…อัจฉริยะผู้นั้น ผู้ที่สามารถทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้า!
“ก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ!” ผู้อาวุโสไป๋เย่พยักหน้า
ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้ยินไป๋เฟิงพร่ำรำพันเรื่องผมน่ะถ่อมตัว ถึงเขาจะรู้ว่าไป๋เฟิงไม่ใช่คนชนิดที่ชอบพูดจาใส่สีตีไข่ แต่ก็ยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูจะยกย่องพละกำลังของผมนะถ่อมตัวเกินไปสักหน่อย
แต่เพียงชั่วระยะเวลาอันสั้นที่เขาได้เผชิญหน้ากับผมน่ะถ่อมตัว ก็รู้แล้วว่าคำยกย่องเหล่านั้นไม่ได้เกินไปจากความจริงเลย!
แม้ศิลปะเพลงดาบของอีกฝ่ายจะดูเรียบง่ายและธรรมดาสามัญ แต่การควบคุมการเคลื่อนไหวของเขาแม่นยำและตรงจุด ทุกข้อบกพร่องที่เขาสามารถจะเล่นงานคู่ต่อสู้ได้ถูกเล่นงานจนหมด ทำให้ทุกกระบวนท่าที่ผู้อาวุโสไป๋เย่สำแดงออกไปล้วนแต่ไร้ประโยชน์
ราวกับเขาถูกจับแก้ผ้าจนล่อนจ้อนต่อหน้าอีกฝ่าย ไม่มีสิ่งใดที่เขาจะปกปิดชายผู้นั้นได้เลย
“ไม่ใช่ มีบางอย่างไม่ถูกต้องแล้วล่ะ เมื่อครู่นี้คุณบอกว่าเขากำลังสังหารศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดคนอื่นๆไม่ใช่หรือ? นั่นก็หมายความว่าเขาท้าทายทุกคนพร้อมกันในคราวเดียว เหมือนกับที่ทำเมื่อตอนอยู่ในหอนิรันดร์ของศิษย์สายตรงฝ่ายในใช่ไหม?” ชายชราหรี่ตาด้วยความพรั่นพรึงขณะพลันนึกขึ้นได้
“แล้วเราจะมัวรีรออยู่ที่นี่เพื่ออะไร? ต้องไปยับยั้งเขา!”
“สายไปแล้วล่ะ…” ผู้อาวุโสไป๋เย่ส่ายหน้าและถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ป่านนี้เขาคงสังหารศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดทั้งหมดแล้ว”
“เขาสังหารพวกนั้นจนหมดแล้ว?”
ชายชรากับไป๋เฟิงถึงกับจังงังในสิ่งที่ได้ยิน
เบ็ดเสร็จแล้ว ก็น่าจะไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำตั้งแต่พวกเขาสลายตัวออกจากหอนิรันดร์…แล้วภายในระยะเวลาอันสั้นขนาดนั้น ศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดหลายสิบคนจะถูกสังหารหมดเชียวหรือ?
“เราควรรีบรายงานผู้อาวุโสเหอกับคนอื่นๆให้รับรู้เรื่องนี้ ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังไม่รู้อะไร คงยังอยู่ที่ศาลาเพลงดาบ พวกเขาน่าจะหาที่อยู่ของผมน่ะถ่อมตัวได้…” ชายชราเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะอุทานอย่างร้อนใจ
“ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก ผมพอรู้ว่าเขาเป็นใคร ไปพบเขาตอนนี้เลยดีกว่า!” ผู้อาวุโสไป๋เย่พูดขณะลุกขึ้นยืน เขามองชายชราอีกครั้งและสั่งการ “ไปตามหาผู้อาวุโสเหอและรายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหอนิรันดร์ของศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดให้เขาฟังอย่างละเอียดนะ จากนั้น ผมอยากให้คุณเชิญผู้อาวุโสเหอกลับสู่สภาอาวุโสพร้อมกับผู้อาวุโสคนอื่นๆ ในระหว่างนี้ ไป๋เฟิงกับผมจะไปตามหาผมน่ะถ่อมตัว ไม่นาน เราก็น่าจะพาตัวเขามาได้…”
หลังจากพูดจบ ผู้อาวุโสไป๋เย่ก็ร้องเรียกไป๋เฟิงให้ตามไปก่อนจะก้าวยาวๆออกจากบ้านพัก
…..
ที่บ้านพักของจางเซวียน
หลังจากที่ไป๋เหรินชิงถูกเหอจิ้งชวนสังหารได้ไม่นาน เธอก็นำตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลอันใหม่มาใช้และกลับสู่หอนิรันดร์ของศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด
“…ทุกคนไปไหนกันหมด?”
เธอประหลาดใจที่พบว่าพื้นที่บริเวณรอบสังเวียนประลองล้วนว่างเปล่า
เมื่อครู่นี้ยังมีฝูงชนอยู่เต็มไปหมด ทำไมจู่ๆพวกเขาถึงหายตัวในขณะที่เธอจากไปเพียงไม่นาน?
ขณะที่ไป๋เหรินชิงกำลังครุ่นคิด ชายที่ถูกสังหารพร้อมกับเธอเมื่อครู่นี้, เหอจิ้งชวน ก็ปรากฏตัวไม่ห่างออกไปนักด้วยสีหน้างุนงงเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” ไป๋เหรินชิงตั้งคำถามด้วยความประหลาดใจ
“ผมเพิ่งได้ข่าวว่าชายที่มีสมญาว่าผมน่ะหล่อมากเล่นงานศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดหมดทุกคน…” เหอจิ้งชวนตอบด้วยสายตาที่ยังคงบ่งบอกความงุนงง
เขากำลังครุ่นคิดเรื่องการต่อสู้กับไป๋เหรินชิงเมื่อครู่นี้ ก็พอดีกับที่ได้ข่าวว่ามีนักรบผู้ไร้เทียมทานคนหนึ่งท้าทายศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดทุกคน จึงรีบกลับสู่หอนิรันดร์ ตั้งใจจะมาช่วย
แต่ใครจะไปคิดว่าทุกคนจะถูกฆ่าตายเรียบวุธ!
ศิลปะเพลงดาบของหมอนั่นจะทรงพลังไปหน่อยไหม?
“นี่แปลว่า…ผมน่ะหล่อมากสังหารทุกคนที่อยู่ที่นี่หมดเลยหรือ?” ไป๋เหรินชิงรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที เธอแทบลมจับ
อาจารย์ลุงคุณจะก่อการปฏิวัติที่นี่หรือไง?
ดูเหมือนที่คุณทำกับบรรดาศิษย์สายตรงฝ่ายในจะยังบันเทิงไม่พอสินะ ถึงมารังแกศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดถึงที่นี่…แล้วต่อไปคุณจะท้าทายสภาผู้อาวุโสด้วยหรือเปล่า?
“ฉันจะออกไปดู”
ไป๋เหรินชิงกุมขมับด้วยความว้าวุ่นใจก่อนจะออกจากหอนิรันดร์
ทันทีที่กลับถึงห้อง ก็เห็นจางเซวียนลุกขึ้นยืนพร้อมกับบิดขี้เกียจ
“อาจารย์ลุง คุณ…เอ่อ…บังเอิญสังหารศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดทุกคนในหอนิรันดร์จนหมดใช่ไหม?”
“พวกนั้นล้วนแต่ไม่เอาไหน ทั้งๆที่แพ้ดวล แต่ก็ไม่ยอมชดใช้ ผมจึงสังหารหมดทุกคนเพื่อสั่งสอนบทเรียน เพราะถึงอย่างไร อยู่ในหอนิรันดร์…พวกเขาก็ไม่เจ็บตัวอยู่แล้ว” จางเซวียนคำราม
ไป๋เหรินชิงแทบคลุ้มคลั่ง
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้คุณจำเป็นต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ?
“อ้อ ผมอยากให้คุณไปตรวจสอบดูว่าพวกนั้นใช้หนี้หรือยัง? ถ้าใช้คืนมาแล้วล่ะก็ รีบนำเงินจำนวนนั้นมาให้ผมด้วย ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ผมจะกลับไปที่หอนิรันดร์เพื่อจัดการพวกนั้นเอง!” จางเซวียนโบกมือ
ไป๋เหรินชิงหายใจหายคอไม่ออก