บทที่ 2921 งานวิวาห์ 5
กู้ซีจิ่วอดใจไม่อยู่เพ่งพิศดูอีกสองสามครา จู่ๆ ก็พบว่าตนคล้ายจะชื่นชอบการตกแต่งของที่นี่มากกว่า
เธอนึกว่าแค่รอตี้ฝูอีอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว คาดไม่ถึงว่าพ่อบ้านคนนั้นจะพาเธอไปเดินวนที่นี่รอบหนึ่ง จากนั้นก็พาเธอไปยังเรือนนอนที่อยู่ด้านหลัง
การตกแต่งภายในเรือนนอนเรียบง่ายหรูหราแฝงความหมาย กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าที่นี่คล้ายห้องหอยิ่งนัก
ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะไม่ค่อยเข้าใจธรรมเนียมการวิวาห์นัก แต่คนทั่วไปเมื่อแต่งสตรีเข้าเรือน การตกแต่งโถงวิวาห์ล้วนเป็นหน้าที่ของฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงแค่แปะอักษรมงคลก็นับว่าเข้าท่าแล้ว
ตอนนี้เรื่องราวกลับกัน เช่นนั้นการตกแต่งที่นี่ของตี้ฝูอีก็น่าจะเรียบง่ายกว่านี้หน่อยไหม? เรื่องที่สองฝ่ายต่างจัดห้องโถงวิวาห์เธอยังไม่เคยได้ยินมาก่อน วันนี้ควรจะมีฝ่ายเดียวที่ได้เล่นใหญ่สิ
การตกแต่งภายในห้องหอนี้ของเขาวิจิตรงดงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าห้องหอที่หุบเขาเสียงสวรรค์ของเธอเลย ถึงขั้นที่ให้ความรู้สึกเหนือกว่ารางๆ
ตอนที่เธอเข้ามา ตี้ฝูอีกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะ เบื้องหน้ามีกาสุราหนึ่งกา จอกสองใบ
ไม่น่าเชื่อว่าจะยังสวมชุดอยู่บ้านอยู่ อาภรณ์ม่วงไหวกระเพื่อมดั่งระลอกคลื่น ขับเน้นขนงเนตรเขาให้ดูหล่อเหลางามสง่ายิ่ง
“การตกแต่งของห้องหอนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” ตี้ฝูอีถามเธอ
“เยี่ยมมาก! งดงามมาก!” กู้ซีจิ่วชมเชย
“ชอบหรือไม่?”
“ชอบ…” กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามไปว่า “เพียงแต่ด้านนอกจวนเจ้าเงียบวังเวง ท่าทางไม่คล้ายมีงานมงคลเลยสักนิด ซ้ำประตูใหญ่ยังปิดสนิทอีก ข้าหลงนึกว่าเจ้าหนีงานแต่งไปเสียแล้ว”
ตี้ฝูอีมองนาง ยิ้มแวบหนึ่ง “จะเป็นไปได้ยังไงกัน? ข้าตั้งตารอเวลานี้มานานยิ่งนักแล้ว!”
กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก เอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “ข้ารู้อยู่แล้วเจ้ารักษาสัจจะ” แล้วเพ่งพิศรอบข้างเล็กน้อย “เพียงแต่ เจ้าต้องไปที่นั่นกับข้า การตกแต่งที่นี่ต่อให้ให้ยอดเยี่ยมเพียงใดก็เกรงว่าจะไม่ได้ใช้การแล้วกระมัง?”
ตี้ฝูอียิ้ม “ความหมายของท่านคือ ข้าต้องอยู่ที่นั่นกับท่านตลอดไป…ท่านไม่กลัวว่าข้าจะทำเรื่องเท็จให้เป็นเรื่องจริงหรือ? หรือว่าวางแผนจะร่วมหอกับข้าในคืนนี้จริงๆ”
วาจานี้เจือทำนองกลั้วหัวเราะเอาไว้ กู้ซีจิ่วใจเต้นแวบหนึ่ง ใบหน้าแดงเรื่อนิดๆ กระแอมคราหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “เจ้าล้อเล่นแล้ว”
มุมปากตี้ฝูอีแต้มรอยยิ้มจางๆ “ใช่แล้ว ข้าก็แค่ล้อเล่น พวกเราแค่เล่นละครฉากหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นหลังจากงานวิวาห์ฉากนี้จบลงแล้ว พวกเราก็ต่างคนต่างนอน”
ในใจกู้ซีจิ่วรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็ไม่อาจพูดจาเป็นอื่นได้ ได้แต่เบี่ยงหัวข้อสนทนาไป “ห้องหอนี้ของเจ้าตกแต่งได้มีมาตรฐานยิ่ง วันหน้าเมื่อเจ้าได้วิวาห์กับนางในดวงใจ ก็สามารถตกแต่งตามรูปแบบนี้ได้เลย”
นิ้วมือที่กุมจอกสุราของตี้ฝูอีพลันกำแน่น ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ท่านพูดถูกจริงๆ เรือนหอและโถงพิธีของข้าเตรียมไว้เพื่อนางในดวงใจ วันหน้าข้าจะจัดงานวิวาห์ที่ยิ่งใหญ่ให้นาง แต่งนางเข้าเรือนอย่างเอิกเกริก ทำให้คนทั้งหล้าได้ทราบกันทั่วว่านางคือภรรยาของข้าผู้แซ่ตี้”
คล้ายว่าเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พลันยกมือ ในมือปรากฏอาภรณ์ตั้งหนึ่งขึ้น วางลงตรงหน้ากู้ซีจิ่ว
ม่านตากู้ซีจิ่วหดตัวนิดๆ นี่คือชุดเจ้าสาวชุดหนึ่ง!
“นี่คือชุดเจ้าสาวที่ข้าจัดเตรียมไว้เพื่อนางในดวงใจ มาเถอะ ขอพระองค์เจ้าโปรดใช้สายตาอันเลิศล้ำ ช่วยดูให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วเงียบงัน
เธอมองชุดเจ้าสาวชุดนั้นตามสัญชาตญาณ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าอะไรที่เรียกว่า ‘สิ่งใดด้อยกว่าก็ควรทิ้งเสีย’ ชุดที่สวมอยู่บนร่างเธอนี้วิจิตรงดงามพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับชุดที่วางอยู่ตรงหน้าแล้ว ราวกับหนึ่งคือฟ้าหนึ่งคือเหวเลยทีเดียว
วัสดุหลักของอาภรณ์ชุดนี้ถักทอขึ้นจากไหมเงือก ไหมเงือกคือเส้นใยที่ชาวเงือกใช้วิธีการพิเศษควบรวมขึ้นภายใต้แสงอาทิตย์ ผ้าไหมหนึ่งชุ่นก็เป็นราคาหมื่นตำลึงทองแล้ว ซ้ำยังมีราคาทว่าไร้แหล่งค้า ไม่มีทางซื้อหาได้
แต่ตอนนี้ชุดเจ้าสาวที่เธอเห็นชุดนี้ใช้ผ้าอย่างน้อยๆ ก็สองจั้งแล้ว คุณค่าราคายิ่งไม่อาจประเมินค่าได้เลย
————————————————————————————-
บทที่ 2922 งานวิวาห์ 6
ยิ่งไปกว่านั้นคือบนอาภรณ์ชุดนี้ยังประดับอัญมณีไว้ด้วย อัญมณีเหล่านี้สุกสกาว ร้อยเรียงเป็นแผนภูมินภาดาราฉากหนึ่ง หรูหราประณีตยิ่งและงดงามทรงคุณค่า
อัญมณีที่อยู่ด้านบนเหล่านี้ย่อมเป็นของดีชั้นเลิศ สุ่มแงะออกมาสักเม็ดก็เพียงพอจะซื้อเมืองได้สักแห่งแล้ว
ไหมเงือกอ่อนนุ่ม ยามที่ถือไว้ในมือราวกับได้จับแสงจันทร์ที่อ่อนโยนสายหนึ่งเอาไว้
หากว่าสวมไว้บนร่าง เช่นนั้นจะต้องเรียบเนียนเบาสบายมากแน่นอน
กู้ซีจิ่วก็เป็นผู้มีความรู้คนหนึ่ง เธอคำนวณดูคร่าวๆ แล้ว การตัดเย็บชุดเจ้าสาวนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ ยี่สิบปี ไม่ใช่สิ่งที่ชุดเจ้าสาวที่ตัดขึ้นภายในไม่กี่วันตัวนี้จะไปเทียบชั้นได้
ในอนาคตชุดเจ้าสาวชุดนี้จะสวมลงบนร่างของผู้ใดกันหนอ?
สตรีที่ได้สวมชุดเจ้าสาวชุดนี้จะต้องมีความสุขอย่างยิ่งกระมัง?
เพียงน่าเสียดายที่เธอจะไม่ได้เห็นแล้ว
จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็รู้สึกว่าชุดนี้ที่สวมอยู่บนร่างตนช่างน่าประดักประเดิดนัก ในใจรู้สึกอึดอัดอยู่รางๆ อีกครั้ง
“เป็นอย่างไร? พระองค์เจ้ามีคำวิจารณ์ใดต่อชุดนี้บ้าง?” สายตาเจิดจ้าของตี้ฝูอีมองดูเธอ
“สูงส่ง งามสง่า โสภา…” กู้ซีจิ่วเอ่ยคำศัพท์ความงามทั้งหมดที่สามารถคิดได้มาบรรยายถึงชุดเจ้าสาวชุดนี้ แต่กลับไม่ยอมลูบคลำต่อแล้ว เลี่ยงไม่ให้ในใจอึดอัดขึ้นมาอีก
โชคดีที่ตี้ฝูอีเก็บชุดเจ้าสาวนั้นเข้าไปอีกครั้งแล้ว ไม่วางไว้ด้านนอกให้ทิ่มแทงสายตาของเธออีกต่อไป
กู้ซีจิ่วมองนาฬิกาทราย เอ่ยเร่งเขา “เวลาไม่เช้าแล้ว เจ้าควรแต่งตัวได้แล้วมิใช่หรือ? ทำไมยังสวมชุดนี้อยู่ล่ะ?”
“ท่านหวังให้ข้าสวมชุดวิวาห์หรือ?”
“แน่นอน”
ถ้าเขาแต่งชุดลำลองก็ดูตามสบายเกินไปหน่อยแล้ว
“ได้ เช่นนั้นท่านก็ช่วยข้าสวมสิ!”
“หา?”
“ท่านต้องช่วยข้าสวม” ตี้ฝูอียืนอยู่ตรงนั้น กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจ
กู้ซีจิ่วชะงักไปแวบหนึ่ง เมื่อนึกถึงว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้ทำให้ตี้ฝูอีต้องเสียเปรียบแล้ว เช่นนั้นเธอปรนนิบัติเขาแต่งตัวสักครั้งก็ไม่เห็นเป็นไร
เธอจึงตอบตกลง
รูปแบบชุดเจ้าบ่าวของตี้ฝูอีเรียบง่ายยิ่ง และไม่ได้เป็นสีแดงไปเสียทั้งหมดด้วย บนชุดปักลวดลายมังกรไว้ ค่อนข้างเข้าคู่กับชุดที่เธอสวมอยู่ในปัจจุบันนี้
กู้ซีจิ่วพยายามข่มกลั้นไว้ แต่ก็ยังคงเอ่ยคำถามหนึ่งออกมา “เจ้าคงจะเตรียมชุดเจ้าบ่าวที่เข้าคู่กับชุดเจ้าสาวดาราสกาวชุดนั้นเอาไว้แล้วใช่ไหม? ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ตี้ฝูอีไม่ได้หันกลับไป เอ่ยเรียบๆ ว่า “แน่นอน เพียงแต่ ยังไม่จำเป็นต้องให้ท่านเห็นในตอนนี้”
กู้ซีจิ่วถูกตอกกลับจนพูดไม่ออกแล้ว ช่างเถอะ ผู้ใหญ่อย่างเธอไม่ถือสาผู้น้อย ไม่เอาเรื่องเอาราวกับเขาหรอก
ไม่ดูก็ไม่ดูสิ วันหน้าต่อให้เขาอยากเอาให้เธอดูเธอก็ดูไม่ได้แล้ว!
ช่วงที่เธอเหม่อลอยไปชั่วขณะ เขาก็ถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกแล้ว จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมตัวในออกอีกครั้ง รอจนกู้ซีจิ่วรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาก็ถอดจนเหลือแค่กางเกงตัวในแล้ว…
เรือนร่างของเขางดงามสมบูรณ์แบบยิ่ง ทำให้คนเห็นหนแรกก็อยากมองเป็นหนที่สอง
ยามที่ปฏิกิริยาตอบสนองของกู้ซีจิ่วกลับมาอีกครั้ง เธอกำลังมองเป็นหนที่สามแล้ว!
“ช้าก่อน! หยุด!”กู้ซีจิ่วรีบผละสายตาไปจากร่างของเขาทันที “ไม่จำเป็นต้องถอดขนาดนี้กระมัง? เรื่องนั้น…เจ้าเปลี่ยนแค่เสื้อคลุมตัวนอกก็พอแล้ว ตัวในไม่ต้องหรอก”
ถ้าถอดอีกเขาก็เปลือยแล้ว!
ตี้ฝูอีกล่าวอย่างเฉยเมย “ต่อให้เป็นแค่ละครข้าก็อยากจะทำให้สมบูรณ์สักครั้ง เจ้าบ่าว ในเมื่อเป็นเจ้าบ่าว ตามหลักแล้วอาภรณ์เครื่องประดับตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนต้องเป็นของใหม่ ถึงจะเป็นนิมิตหมายมงคล”
ในที่สุดเขาก็หันมาพินิจเธอแวบหนึ่งแล้ว “หรือว่าด้านในท่านก็ยังสวมชุดเก่าอยู่?”
นี่ไม่ใช่อยู่แล้ว ชุดเจ้าสาวที่เตรียมไว้ให้เธอพรั่งพร้อมเหลือเกิน แม้แต่เอี๊ยมตัวในก็ล้วนเป็นของใหม่ทั้งสิ้น…
เขาจะแต่งชุดเจ้าบ่าวอย่างเต็มยศเธอไม่ค้าน แต่เธอไม่อยากแต่งตัวให้เขาอย่างครบชุดนี่นา!
สุดท้ายหลังจากเจรจาต่อรองกันไปยกหนึ่ง เสื้อตัวในกับกางเกงตัวในเขาจะสวมด้วยตัวเอง กู้ซีจิ่วเพียงรับผิดชอบสวมเสื้อคลุมตัวนอกให้เขาก็พอแล้ว
กู้ซีจิ่วนึกว่าการสวมเสื้อคลุมตัวนอกง่ายดายยิ่งนัก แต่พอถึงเวลาที่ต้องลงมือจริงๆ เธอถึงได้รู้ว่าไม่ค่อยง่ายเลย
————————————————————————————-