เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1174

เพียงแวบเดียวก็ผ่านไปสองสามวันแล้ว ลู่ฝานผ่านมาท่ามกลางการฝึกฝนที่สงบ

หายใจเข้าหายใจออก ปราณชี่เคลื่อนไหวในมือ พลานุภาพบนตัวลู่ฝานกำลังแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน

หลังจากโดนโลกใบเล็กของจักรพรรดิอู่ถอดรกเปลี่ยนกระดูกอีกครั้ง ลู่ฝานรู้สึกว่าการฝึกฝนของตัวเอง สามารถใช้คำว่าก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาบรรยายได้

วิชากลายร่างฟ้าดิน เมื่อฝึกก็เข้าใจทันที

วิชาจิตบู๊ไท่อี่ เมื่อเรียนก็สามารถทำได้

วิชากระบี่บำเพ็ญเพียร แค่ลองก็เข้าใจแล้วส่วนหนึ่ง

สรรพสิ่งห้าธาตุ ก็รู้เบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว

ลู่ฝานแทบจะเปลี่ยนการฝึกฝนวันละอย่าง รวมถึงวิชาหนึ่งเดียวแดนไกลโพ้น ที่ไม่ได้ฝึกฝนอย่างดีในตอนนั้นด้วย ตอนนี้มีความรู้ความเข้าใจใหม่แล้วเช่นกัน

ด้านหน้าบ้านไม้ ลู่ฝานหลับตา มือเคลื่อนไหวไปตามจิตใจ จิตใจเคลื่อนไหวตามปราณ ปราณเคลื่อนไหวตามฟ้า

การเคลื่อนไหวช้ามาก แต่แอบมีกลิ่นอายของวิถี ทำให้คนรู้สึกอัศจรรย์เป็นอย่างมาก

ประสานมือเป็นวงกลม ไม่ได้ใช้ปราณชี่ แต่สามารถรวมลมรอบตัวไว้ในมือ ให้กลายเป็นวัตถุทรงกลมได้เอง

เมื่อวาดฝีเท้า ใบไม้ร่วงลอยขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นรูปร่างคนมากมาย เคลื่อนไหวไปมาตามการเคลื่อนไหวของลู่ฝาน

ลมหมุนทั้งเก้าลูกบนตัวกำลังกะพริบ มีเสียงเบาๆ ดังออกมาจากตันเถียนอย่างต่อเนื่อง เหมือนบ่มเพาะสายฟ้าออกมา

เจ้าดำกับสิบสามยืนดูอยู่ด้านข้าง

มือของสิบสามเคลื่อนไหวตามลู่ฝานอย่างต่อเนื่อง เหมือนจะเลียนแบบอะไรจากในนั้น

ส่วนเจ้าดำใช้กรงเล็บขูดไปมา มันไม่ได้กำลังฝึก แต่กำลังเพ้อเจ้อ

จู่ๆ มีเสียงฝีเท้าดังมาจากไกลๆ

ลู่ฝานจิตใจวูบไหว เขาสะบัดฝ่ามือไปทางตำแหน่งที่มีเสียงดังออกมา

“โอ๊ย! ไอ้เด็กลู่ฝาน นายจะฆ่าฉันหรือไง!”

เสียงหานอู๋ซวงดังมา ลู่ฝานค่อยๆ ลืมตาขึ้น

พลานุภาพหายไป ใบไม้ร่วงหล่นลงมา สายลมพัดกระจายไปรอบๆ จนปกคอเสื้อของสิบสามปลิวไปมา

ตอนนี้เงาของหานอู๋ซวงเพิ่งปรากฏในสายตา หานอู๋ซวงมองลู่ฝาน แล้วชี้รอยฝ่ามือดำตรงหน้าอกตัวเอง “ไอ้เด็กลู่ฝาน นายบอกฉันมาให้ชัดเจนว่านายกำลังฝึกวิชาบ้าบออะไรอยู่ พลังฝ่ามือนี้ เทียบกับเคล็ดวิชาบู๊ระดับดินขั้นสูงสุดได้เลยนะ”

ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เคล็ดวิชาบู๊ที่ชื่อว่าวิชาจิตบู๊ไท่อี่ เมื่อกี้เพิ่งจับต้นชนปลายได้ ลุงหานมาเรียกฉันเหรอ”

หานอู๋ซวงพูดว่า “ใช่ ไปกับฉัน พวกผู้อาวุโสย้ายของมาแล้ว นายตามฉันไปที่ลานประลองบู๊!”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “โอเค”

ลู่ฝานหันไปพูดกับสิบสามว่า “ไปด้วยกันไหม!”

สิบสามพยักหน้าหงึกๆ แล้วเดินตามลู่ฝานไป

ลู่ฝานรีบเดินตามหานอู๋ซวงไปยังลานประลองบู๊ตระกูลหาน ตอนพวกเขาเดินลงจากภูเขา จู่ๆ พบว่าเหมือนด้านหลังเขาตระกูลหาน ไม่มีใครเลยสักคน

ลู่ฝานเดินต่อไปข้างหน้าพร้อมความสงสัย เพิ่งเดินออกมาจากประตูหลังบ้าน ลู่ฝานเห็นลูกหลานตระกูลหานจำนวนมากกำลังมุงดูกันอยู่

“พี่ลู่ฝานมาแล้ว หลีกไป หลีกไปให้หมด!”

ทันใดนั้น เด็กน้อยคนหนึ่งเห็นลู่ฝานกับหานอู๋ซวง ก็รีบตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที

ลูกหลานตระกูลหานนับไม่ถ้วน ส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้องตามไปด้วย

“ลู่ฝาน! ลู่ฝาน! ลู่ฝาน!”

กลุ่มคนแยกออกจากกัน ให้ลู่ฝานกับหานอู๋ซวงเดินไปข้างหน้า

ในลานประลองบู๊ มีผู้อาวุโสเคราขาวนั่งอยู่เป็นแถว มีไข่มุกขนาดใหญ่ลอยอยู่ด้านหน้าพวกเขา เหมือนด้านในมีภาพกะพริบอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมองอย่างละเอียด กลับมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

ตอนนี้ชายร่างกายกำยำคนหนึ่ง กำลังพยายามขยับมือตัวเองอย่างสุดชีวิต ร่างกายแดงเถือกไปทั้งตัว ฝ่าเท้าจมลึกลงไปในพื้น เหมือนใช้แรงจนสุดกำลังแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถขยับตราประทับได้สักนิด

นี่หานสงไม่ใช่เหรอ ลู่ฝานเกือบจำเขาไม่ได้แล้ว เขากำลังทำอะไรอยู่เหรอ