จากบทสนทนาจากผู้แข็งแกร่งทั้งสามเผ่าพันธุ์ หลัวซิวเหมือนจะได้ยินความลับเล็กน้อยบางอย่าง

เมื่อหลายพันปีก่อน เผ่าพันธุ์ปีศาจมายังโลกแสงดาว เพื่อตามหาสิ่งของบางอย่าง

เหมือนจะพอดีกับตอนที่เทพสงครามเวหากาลตกต่ำ เมื่อคิดถึงตอนที่ เทพสงครามเวหากาลได้รับสมบัติวิเศษมาจากโลกพิภพระดับสูงชิ้นหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจมาที่โลกแสงดาว ก็เพื่อมาหาสมบัติวิเศษชิ้นนั้น

“แม้แต่ผู้แข็งแกร่งโลกพิภพระดับสูงยังโลภในสมบัติวิเศษ เห็นได้ชัดว่ามันวิเศษมาก แต่โลกแสงดาวกลับเป็นเพียงโลกพิภพระดับล่าง เทพสงครามเวหากาลตกลงมาที่นี่ เป็นเรื่องร้ายไม่ใช่เรื่องดี” สีหน้าของหลัวซิวค่อนข้างเป็นกังวล

ผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์มาร รู้เพียงว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจมาเยือนโลกแสงดาวเพื่อตามหาสมบัติบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าสมบัติชิ้นนี้คืออะไร และไม่รู้ว่าภัยใดจะนำมาสู่โลกแสงดาว

ผู้ยิ่งใหญ่อย่างเทพสงครามเวหากาล ยังตกต่ำได้เพราะสมบัติชิ้นนั้น โลกพิภพระดับล่างที่ต่ำต้อยเพียงนี้ สำหรับการดำรงอยู่ของผู้สูงส่ง ก็ไม่มีค่าควรกล่าวถึง

ในภวังค์ หลัวซิวรู้สึกได้ถึงเงามหึมาครอบงำโลกแสงดาวไว้ สามารถกลับตาลปัตรฟ้าดินได้ทุกเวลา

คิดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ โลกแสงดาวจะเกิดโศกนาฏกรรมใหญ่หลวงขึ้น หลัวซิวถึงกับอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่น

ทันใดนั้น หลัวซิวเรียกสติคืนมา เพราะเขารู้สึกถึงร่องรอยของเจตนาฆ่าที่ตกอยู่บนร่างของเขา

เจตนาฆ่าเหล่านี้ไม่ได้มาจากเพียงเผ่าพันธุ์ปีศาจ ยังมีเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์มารด้วย เห็นได้ชัดว่าทุกคนต้องการม้วนหยกในมือของเขา

เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์มารต่างก็รู้อยู่เต็มอกว่า สมบัติที่สามารถทำให้เผ่าพันธุ์ปีศาจมาเยือนโลกแสงดาวได้นั้น ต้องมีมูลค่ามากพอให้แย่งชิง ย่อมต้องไม่ใช่ของธรรมดา หากสามารถได้มันมาครอง ไม่แน่อาจเป็นโอกาสอันใหญ่หลวงส่วนหลัวซิวคนนี้ เขารู้สึกเหมือนไม่มีความสำคัญ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผลประโยชน์มหาศาล

และมีแค่เพียงหลัวซิวที่รู้ สิ่งที่ถูกแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ต่าง ๆ ของเผ่าพันธุ์มนุษย์มองว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่นั้น ไม่ใช่โอกาส แต่เป็นหายนะ!

“ในเมื่อพวกเจ้าต้องการฆ่าข้า เช่นนั้นก็อย่าโทษว่าข้าโหดร้าย”

หลัวซิวรี่ตาลงเล็กน้อย พลิกมือเรียกมกุฎอัคคีนภาเหลืองขึ้นมา ปล่อยมันลงสู่ทะเลสาบดำเบื้องล่าง

ปุด ปุด ปุด……

วินาทีที่เปลวเพลิงสีทองกับน้ำสีดำของทะเลสาบปะทะกัน ก็เกิดควันสีขาวโขมงไปทั่ว กองกำลังต่าง ๆ ที่ล้อมรอบทะเลสาบดำไว้นั้น เมื่อเห็นท่าทางของหลัวซิว ต่างก็พากันเผยสีหน้างุนงง ไม่เข้าใจว่าเขากำลังทำอะไร

สำหรับทะเลสาบมรณาจิ่วหยินแห่งนี้ หลายคนคุ้นเคย แต่ไม่มีใครรู้ว่าความลับจริง ๆ ของทะเลสาบดำแห่งนี้

“ใครมารบกวนการยอยของข้าอีกแล้ว?”

ทันใดนั้นเสียงตะโกนโกรธมาจากก้นทะเลสาบ เสียงเหมือนฟ้าผ่า ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียงทะเลสาบดำ อดไม่ได้ที่จะต้องปิดหูของพวกเขาเอาไว้ และมีเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด

หลัวซิวก็ยังตกใจจนเลือดสาด เห็นได้ชัดว่างูใหญ่สีดำกำลังโกรธมาก เพราะว่ามันเพิ่งตื่นจากการนอน อีกทั้งยังเป็นการตกใจตื่นอีกด้วย

ออร่าที่น่าเกรงกลัวแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศของทะเลสาบดำ ปิดตายพื้นที่แห่งนี้อย่างสมบูรณ์ ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ต่าง ๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์ รวมถึงผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มารและเผ่าพันธุ์ปีศาจ ต่างก็เผยสีหน้างุนงง ราวกับมีศัตรูที่ยิ่งใหญ่มาเยือน

ออร่าที่น่าหวาดผวาดั่งสายน้ำที่โหมกระหน่ำ ควบแน่น พุ่งทะยานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แผ่กระจายไปทั่วทั้งเหวปีศาจมรณา

น้ำที่อยู่ตรงกลางทะเลสาบดำค่อย ๆ สูงขึ้น หัวสามเหลี่ยมสีดำขนาดใหญ่เท่าเนินเขาปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

รูม่านตางูสีเลือดกลับหัวคู่นั้น กวาดไปรอบ ๆ ด้วยเจตนาฆ่าอย่างเย็นชา

“งูมรณาจิ่วหยิน!”

การปรากฏตัวของงูใหญ่สีดำ ผู้แข็งแกร่งมากมายจากเผ่าพันธุ์ปีศาจ มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

วาบ!

แสงสีดำที่เย็นยะเยือกสั่นไหว หัวงูยักษ์ทมิฬค่อย ๆ หายไป ถูกแทนที่ด้วยชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าไร้อารมณ์ แต่งกายด้วยชุดดำ ยืนอยู่ท่ามเหนือทะเลสาบดำ