บทที่ 1777 ใสเหมือนน้ำแข็ง บริสุทธิ์เหมือนอัญมณี! / บทที่ 1778 สายตาไม่ได้ต่ำขนาดนั้น

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1777 ใสเหมือนน้ำแข็ง บริสุทธิ์เหมือนอัญมณี!

“ใช่ครับผู้นำ” ฟู่หมิงซีเงียบเสียงอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเบียดเป่ยโต่วออกแล้วเข้าไปอยู่ติดเยี่ยหวันหวั่นอย่างสงบเสงี่ยมทันที

ในเวลานี้ มือถือของฟู่หมิงซีพลันดังขึ้นมา

ฟู่หมิงซีกวาดมองชื่อคนโทรมาส่งๆ ก่อนจะรับสายอย่างเปี่ยมความรำคาญ

“ฮัลโหล มีอะไร”

เสียงของผู้จัดการฟู่หมิงซีดังขึ้นจากปลายสายมือถือ “หมิงซี ฉันเองนะ วันนี้วันอะไร นายคงไม่ลืมหรอกใช่ไหม”

“วันอะไร” ฟู่หมิงซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่แยแส

ผู้จัดการร้อนใจแล้ว รีบเอ่ยปากเตือน “หมิงซี วันนี้เป็นวันจัดงานเลี้ยงวันเกิดของเส้าเหิง ก่อนหน้านี้ก็บอกนายล่วงหน้าแล้วแล้วนะ! ยังไงเส้าเหิงก็เป็นหลานชายของสวีเสี้ยวหาว คนเขาเป็นกรรมการผู้จัดการของฝั่งซิงเฉินกรุ๊ป นายไปฉลองเส้าเหิงสักหน่อย สานสัมพันธ์กับเบื้องบนของฝั่งซิงเฉินกรุ๊ปสักนิด จะมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษกับนายนะ!”

เรื่องที่ฟู่หมิงซีเป็นหลายชายของประธานบริหารซิงเฉินกรุ๊ปนี้เป็นความลับ ในซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ไร้คนล่วงรู้ รวมไปถึงผู้จัดการของเขา

ฟู่หมิงซีได้ยินดังนั้นพลันเบ้ปาก “จิ๊…”

ฟู่หมิงซีมีสีหน้าดูแคลนกับคำพูดของผู้จัดการ

สวีเสี้ยนหาวนับเป็นอะไรกัน ก็แค่กรรมการผู้จัดการเล็กๆ คนหนึ่งของสาขาในประเทศจีนเท่านั้น ส่วนปู่เขาฟู่หงหรูเป็นถึงประธานบริหารของซิงเฉินกรุ๊ป ผู้อาวุโสรองของพันธมิตรอู๋เว่ยเชียวนะ

แถมในอนาคต เขายังจะเป็นผู้ชายของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยอีกด้วย!

เขาฟู่หมิงซีก็คือเบื้องบนของเบื้องบน ยังต้องอาสัยเส้าเหิงที่ไม่รู้มาจากหน่อไหนนั่นสานสัมพันธ์กับซิงเฉินกรุ๊ปหรือไง

“วันนี้ฉันมีธุระสำคัญมาก นายช่วยฉันปัดที” ฟู่หมิงซีเอ่ยอย่างไม่สนใจ

ผู้จัดการได้ยินดังนั้นก็พลันมีสีหน้าลำบากใจ ฟู่หมิงซีเป็นบุคคลสำคัญระดับนานาชาติที่ทรงอิทธิพลจนไม่ว่าใครก็ไม่กล้าแตะต้องที่สุดในซิงเฉิงเอนเตอร์เทนเมนต์ แม้แต่เขาผู้จัดการคนนี้ก็ไม่อาจสั่งเขาให้ทำอะไรได้

ผู้จัดการได้แต่โน้มน้าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “หมิงซี แค่ไปงานก็ได้ ไม่เสียเวลาเท่าไรหรอก ครึ่งชั่วโมง ไม่สิ สิบนาที อยู่แค่สิบนาทีได้ไหม”

เพื่อให้ฟู่หมิงซีเห็นด้วย ผู้จัดการกลอกตาคิดแล้วจึงเอ่ยปาก “จริงสิๆ ไม่ใช่ว่านายสนใจเจียงเยียนหรานราชินีจอเงินอะไรนั่นมากเหรอ วันนี้ศิลปินของฝั่งจูเสินสือไต้ก็มางานกันหมดนะ”

เยี่ยหวันหวั่นกับฟู่หมิงซีอยู่ใกล้กันมาก ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็พอได้ยินเนื้อหาในโทรศัพท์รางๆ ด้วย

เวลานี้ได้ยินชื่อเจียงเยียนหรานกับจูเสินสือไต้ เธอเงยหน้ามองฟู่หมิงซีด้วยไม่รู้ตัว

ฟู่หมิงซีตกใจจนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ด่ากราดผู้จัดการตรงนั้นทันที “พะ…พูดมั่วซั่ว! ใครปล่อยข่าวลือกัน! อยากตายเหรอ! เจียงหรงเจียนหรานอะไรนั่น ฉันไม่รู้จักสักนิด!”

เขาแค่มองว่าทักษะการแสดงของผู้หญิงคนนั้นไม่เลว เลยหลุดปากพูดชมไปหนึ่งประโยคตกลงไหม! นี่ทำงานไม่ได้เรื่องยังจะสร้างปัญหาเพิ่ม ถึงกับมาทำเขาด่างพร้อย!

“เอ่อ…” ผู้จัดการงุนงง ไม่รู้ว่าทำไมฟู่หมิงซู่จู่ๆ ถึงอารมณ์พลุ่งพล่านอย่างนี้แม้แต่น้อย

ฟู่หมิงซีวางสายป้าบ จากนั้นก็รีบหันไปอธิบายกับเยี่ยหวันหวั่น “ผู้นำ ผู้นำอย่าเข้าใจผิดเด็ดขาดเลยนะครับ ผู้จัดการผมเขาพูดมั่ว แม้แต่มีความรักผมยังไม่เคยมีเลยนะ…”

เยี่ยหวันหวั่นตัดบทคำแถลง ‘ใสดุจน้ำแข็งบริสุทธิ์ดุจหยก’ ของฟู่หมิงซีอย่างเอือมระอา “เมื่อกี้ที่ผู้จัดการพูดคือ…งานเลี้ยงวันเกิดของเส้าเหิง? ”

“ใช่ครับ แค่หลานชายของผู้รับผิดชอบสาขาหนึ่งเท่านั้น ผู้นำไม่ต้องสนใจ” ฟู่หมิงซีเอ่ยปาก

“ตอนนี้เส้าเหิงเป็นศิลปินของหวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนต์? ” เยี่ยหวันหวั่นถามอีก

“ก่อนหน้านี้อยู่ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์แต่อยู่ไม่รอดเลยไปหวงเทียน อาศัยเกาะความนิยมล้วนๆ ถึงดังขึ้นมาได้เท่านั้นครับ” ฟู่หมิงซีมีสีหน้าเปี่ยมความดูถูก

———————————————————————–

บทที่ 1778 สายตาไม่ได้ต่ำขนาดนั้น

ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นเคยติดตามข่าวที่เกี่ยวกับเส้าเหิงมาก่อน รู้ว่าเส้าเหิงเป็นไพ่ตายที่เยี่ยอีอีหยิบมาใช้กดจูเสินสือไต้ พวกหานเซี่ยอวี่ถูกเอาเปรียบในมือเขาไม่น้อย

ฟู่หมิงซีเบ้ปาก “ก็แค่หลานชายของผู้รับผิดชอบสาขาหนึ่งเท่านั้น ถึงกับเรียกว่าตัวเองว่าเป็นองค์ชายของซิงเฉินกรุ๊ปอะไรนั่น ให้ตายสิ! ฉันของแท้ยังไม่พูดอะไรเลยนะ! เจ้านั้นถือตัวเองมาจากไหนกัน”

เยี่ยหวันหวั่นคิดเล็กน้อย จากนั้นจึงหันไปมองฟู่หมิงซีแล้วเอ่ยปาก “ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีธุระ ไปดูหน่อยเถอะ”

เมื่อได้ยินฟู่หมิงซีก็ตะลึงทันที จากนั้นก็ไม่รู้คิดอะไรได้ เขาพลันหน้าเปลี่ยนสี “อะไร ผู้นำจะไปงานเลี้ยงวันเกิดของเส้าเหิง ผะ…ผู้นำ…คงไม่ได้…คงไม่ได้ถูกใจเส้าเหิงหรอกนะ!”

ไม่งั้นทำไมอยู่ดีๆ จะสนใจเส้าเหิงขนาดนี้ แถมยังถามตั้งมากมาย

สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นพลันดำดุจก้นหม้อ

นี่มันวงจรสมองอะไร ประโยคไหนของเธอเหมือนว่าถูกใจเส้าเหิงกันหา

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “นายคิดมากแล้ว แค่นึกได้ว่าวันนี้เพื่อนๆ ก็จะไปที่นั่นน่ะ”

ฟู่หมิงซีเอ่ย “อย่างนี้เอง…”

ก่อนหน้านี้คุณปู่เคยเล่าสถานการณ์ของพันธมิตรอู๋เว่ยอย่างละเอียดให้เขาฟังแล้ว ดังนั้นฟู่หมิงซีจึงนึกออกทันที ก่อนหน้านี้คุณปู่เคยพูดว่าตอนผู้นำอยู่ประเทศเป็นคนก่อตั้งจูเสินสือไต้ ดูแลพวกลั่วเฉิน กงซวี่และเจียงเยียนหราน

ที่แท้เพราะคนของจูเสินสือไต้ก็อยู่ด้วย…

“ไม่มีปัญหา ให้ผมจัดการ! ผมจะให้ผู้จัดการไปเตรียมรถ!” ฟู่หมิงซีถอนหายใจแล้วเอ่ยปาก “ผู้นำไม่มีบัตรเชิญ ต้องลำบากผู้นำให้เข้างานในฐานะคู่รักของผมแล้ว…”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ตามสบายเถอะ ได้หมด”

ฟู่หมิงซีได้ยินดังนั้นก็ตื่นเต้นทันที ผู้นำยอมเป็นคู่รักของเขาแล้ว ก็เท่ากับยอมรับตัวตนของเขาอย่างหยวนๆ แล้ว!

“นั่นอะไรนะ เป่ยโต่ว ชีซิง ผู้นำมีฉันคอยดูแล พวกนายก็กลับไปเถอะ อีกอย่างก็ไม่มีจดหมายเชิญเหลือแล้ว” ฟู่หมิงซีแทบอยากจะส่งก้างขวางคอสองคนนี้ไปไม่ไหวแล้ว

“ดูแลกับผีสิ ฉันว่าแกหาเศษหาเลย! ต้องใช้บัตรเชิญบ้าบออะไร ฉันจะดูว่าใครกล้าขวางคุณชาย!” เป่ยโต่วถกแขนเสื้อพลางเอ่ยปาก

ฟู่หมิงซีจัดชายแขนเสื้อหรูหราก่อนชายตามองเป่ยโต่ว “เป่ยโต่ว ที่นี่คือประเทศจีนไม่ใช่รัฐอิสระ ทุกอย่างต้องว่ากันตามกฎ นายไม่เข้าใจก็อย่าสร้างความลำบากให้ผู้นำ”

“แกพูดอะไรหา! ฉันไม่เข้าใจ? ฉันสร้างปัญหาให้ผู้นำ! ตอนฉันอยู่ข้างกายพี่เฟิง แกยังเล่นโคลนอยู่เลย!”

“เป่ยโต่ว พวกนายรออยู่ข้างนอกเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นตัดบทการทะเลาะของทั้งสองคนอย่างจนใจ

ผู้นำเอ่ยปากแล้ว เป่ยโต่วก็ได้แต่ต้องเงียบลง เขาโกรธจนกระซิบข้างหูชีซิงที่ด้านหลัง “เชี่ย! คงจะไม่ได้ให้เจ้าเด็กนั่นขึ้นตำแหน่งจริงๆ หรอกมั้ง ชีซิง นายคิดวิธีหน่อยสิ!”

ชีซิงที่สงบนิ่งตั้งแต่ต้นจนจบได้ยินดังนั้นก็เอ่ยหนึ่งประโยคอย่างเรียบๆ “กลัวไม่เข้าเรื่อง”

เป่ยโต่วพูดอย่างโมโห “อย่างฉันทำไมถึงเรียกว่ากลัวไม่เข้าเรื่องได้ล่ะ นายดูเจ้าเด็กนั่นเองเถอะ แทบจะเกาะติดบนตัวพี่เฟิงอยู่แล้ว!”

ชีซิงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “พี่เฟิงไม่ได้สายตาต่ำขนาดนั้น”

เป่ยโต่วพึมพำ “หา? นี่ยังต่ำเหรอ บอกตามตรง หน้าตาฟู่หมิงซีเจ้าเด็กนั่นว่าไม่ได้นา…”

ขณะเดียวกัน

ในโรงแรมเวสเทอร์แกรนด์

วันนี้โรงแรมระดับหกดาวถูกเหมาทั้งโรงแรม แขกเหรื่อที่มาไม่ขาดสาย

ศิลปินชื่อดังในวงการบันเทิงมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง สถานที่จัดงานเปล่งประกายระยิบระยับ นอกจากนั้นยังมีคนดังในโลกธุรกิจและนักการเมือง ฉากงานไม่ด้อยไปกว่างานมอบรางวัลจินหราน

……………………………….