อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2014 กินมันเสียเลยก็สิ้นเรื่อง!
“เป็นได้แค่ของล้ำค่าระดับอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์? คุณรู้หรือเปล่าว่าในทวีปนี้มีของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์อยู่เพียงหยิบมือเท่านั้น? เงื่อนไขของการหลอมของล้ำค่าระดับกึ่งสรวงสวรรค์นั้น ละเอียดยิบย่อยมาก จนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จ อย่าเสียเวลาสรรหาคำพูดมาหลอกลวงผมเลย!” ดาบถงซังคำราม
“ถ้าคุณคิดว่าจะเอาชนะผมได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำล่ะก็ อย่าเสียเวลา เปลืองแรงเปล่า”
ของล้ำค่าระดับดาบถงซังมีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตัวเอง มันไม่อาจยอมรับใครเป็นเจ้านายได้โดยง่าย แม้แต่เจ้านายคนเก่าของมันก็ยังต้องลำบากลำบนไม่น้อยกว่าจะทำให้มันยอมจำนนได้สำเร็จ
“หลอกลวง? คุณก็คิดมากไป ทุกอย่างที่ผมพูดน่ะเป็นความจริงทั้งนั้น ด้วยวัตถุดิบและกรรมวิธีการหลอมที่สร้างตัวคุณขึ้นมา โอกาสที่คุณจะได้เป็นอาวุธระดับกึ่งสรวงสวรรค์นั้นมีราว 10% และต้องอยู่ภายใต้ข้อสันนิษฐานที่ว่าเงื่อนไขเหล่านั้นสมบูรณ์แบบด้วย” จางเซวียนตอบพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แยแส
“แต่ถ้าอยู่กับผม ขอแค่ผมปรารถนา คุณก็มั่นใจได้เลยว่าจะได้เป็นอาวุธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ โดยโอกาสที่จะล้มเหลวนั้นเป็นศูนย์!”
“ดูคุณมั่นใจเหลือเกินนะ เอาเถอะ ผมจะฟังว่าคุณคิดอะไร” ดาบถงซังตอบอย่างเย็นชา แสดงความไม่มั่นใจออกนอกหน้า
ถ้าอาวุธชิ้นหนึ่งเข้าถึงระดับกึ่งสรวงสวรรค์ได้ง่ายๆ ในทวีปที่ถูกลืมแห่งนี้ก็คงไม่มีอาวุธระดับนั้นอยู่เพียงแค่หยิบมือ
ขนาดหานเจี้ยนชิวผู้ทรงพลังก็ยังทำไม่สำเร็จ จึงไม่มีทางที่นักรบขั้นเสมือนอมตะคนหนึ่งจะทำสำเร็จได้
“ง่ายนิดเดียว”
จางเซวียนเพ่งสมาธิไปที่เจตจำนงเพลงดาบที่ปลายนิ้วของเขาก่อนจะถ่ายทอดมันเข้าสู่ดาบถงซัง
มันคือเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าที่เขาทำความเข้าใจได้สำเร็จ!
เมื่อรู้สึกได้ถึงแนวคิดอันล้ำลึกที่อยู่เบื้องหลังเจตจำนงเพลงดาบ ดาบถงซังรู้สึกราวกับได้รับการจุมพิตจากเทพเจ้า มันเป็นความรู้สึกอันอบอุ่นลึกซึ้ง ดาบถงซังอุทานออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ “คุณทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จแล้วหรือ?”
“ก็ใช่น่ะสิ คุณก็น่าจะรู้ว่านักดาบที่ครอบครองเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าน่ะมีพละกำลังที่ต่อกรได้แม้แต่กับเทพเจ้า แล้วก็ควรจะรู้ด้วยว่ามีโอกาสสูงแค่ไหนที่คุณที่จะได้เป็นอาวุธระดับกึ่งสรวงสวรรค์ถ้าผมบ่มเพาะคุณด้วยเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้า” จางเซวียนพูด
ถ้าอาวุธระดับอมตะขั้นสูงชิ้นหนึ่งต้องการยกระดับตัวเองให้สูงขึ้น ก็ไม่มีวิธีไหนที่จะดีไปกว่าการบ่มเพาะมันด้วยเจตจำนงเพลงดาบ และแน่นอนว่าไม่มีเจตจำนงเพลงดาบชนิดไหนที่ทรงพลังกว่าเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้า
“ผมเข้าใจแล้ว ภายใต้การบ่มเพาะของคุณ ผมน่าจะกลายเป็นอาวุธระดับกึ่งสรวงสวรรค์ได้ แต่วรยุทธของคุณยังอ่อนด้อยเกินไป ผมไม่ยอมจำนนให้คุณหรอก” ดาบถงซังลังเลเล็กน้อย แต่ก็ตัดสินใจปฏิเสธจางเซวียน
ฟึ่บ!
ในตอนนั้นเอง น้ำเต้าตงฉู่ก็ปรากฏตัวและกลืนดาบถงซังเข้าไปทั้งเล่ม
“มัวเสียเวลาทำไมนักหนา? ถ้ามันไม่ยอมจำนนให้คุณล่ะก็ กินมันเสียเลยก็สิ้นเรื่อง!”
น้ำเต้าตงฉู่ออกอาการฟึดฟัด
“แก…”
นึกไม่ถึงว่าน้ำเต้าตงฉู่จะโหดเหี้ยมขนาดกลืนดาบระดับอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์เข้าไปทั้งเล่มแบบนั้น จางเซวียนรีบหยิบขวานออกมาแล้วจามลงไปบนตัวน้ำเต้าตงฉู่อย่างแรง “แกทำบ้าอะไรอยู่? รีบคายมันออกมาเดี๋ยวนี้!”
ดาบนี้จะเป็นไม้ตายที่ช่วยรับประกันความปลอดภัยของเขา หากปล่อยให้น้ำเต้ากลืนลงไป จะเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่!
เพราะถึงอย่างไร เขาก็ไม่อาจพึ่งพาน้ำเต้าตงฉู่ให้ช่วยปกป้องเขาได้
“ก็แค่ก้อนโลหะเสร่อๆก้อนหนึ่ง วางท่าใหญ่โตเสียราวกับเป็นเจ้าของโลกใบนี้ ทำไมคุณไม่ให้ผมกินเจ้าโง่นี่ซะ?” น้ำเต้าตงฉู่ทักท้วงพร้อมกับส่ายก้น
“เร็วๆเข้า คายมันออกมา! ไม่อย่างนั้นแกจะไม่ได้อะไรจากฉันอีกเลย!” จางเซวียนโมโหจนแทบปรี๊ดแตกเหมือนภูเขาไฟที่กำลังระเบิด
น้ำเต้าตงฉู่เป็นบ้าอะไร? สงสัยจะคิดเป็นอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องกิน!
แต่ถึงจางเซวียนจะโมโหน้ำเต้าตงฉู่แค่ไหน เขาก็ตกตะลึงมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ที่ผ่านมา เขาเคยคิดว่าประโยชน์เพียงอย่างเดียวของน้ำเต้าตงฉู่ก็คือน้ำที่ได้จากการต้มตัวมัน แต่ใครจะไปรู้ว่ามันทำได้ถึงขนาดกลืนดาบที่เป็นของล้ำค่าระดับอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์?
ถ้ามันเก่งกาจขนาดนี้ จะไม่หมายความว่ามันแข็งแกร่งกว่าของล้ำค่าระดับอมตะขั้นสูงอีกหรือ?
ด้วยการข่มขู่ของจางเซวียน น้ำเต้าตงฉู่ยึกยักครู่หนึ่งก่อนจะยอมคายดาบถงซังออกมาอย่างไม่เต็มใจ
มันไม่มีทางเลือก จึงต้องทำแบบนั้น น้ำเต้าตงฉู่รู้ดีว่าอะไรก็ตามที่นายท่านจะมอบให้ในอนาคตจะต้องมีค่ามากกว่าดาบขี้ปะติ๋วเล่มนี้ มันพอชั่งน้ำหนักได้เสียของสถานการณ์นี้ได้
ยังไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น ลำพังแค่พลังปราณของนายท่านก็เหนือชั้นเกินกว่าที่ดาบเพียงเล่มเดียวจะเทียบได้แล้ว
“แกเป็นใคร?” ดาบถงซังหวาดกลัวจนแทบขาดใจ
มันคือดาบที่มีวรยุทธระดับอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ ของล้ำค่าอันเลื่องชื่อของทวีปที่ถูกลืม…แต่กลับถูกกลืนลงไปทีเดียวทั้งเล่มโดยน้ำเต้าลูกหนึ่ง แถมทุกอย่างยังเลวร้ายกว่านั้นอีก เพราะมันไม่มีหนทางต่อสู้เลย!
แค่นึกถึงก็มากพอจะทำให้มันสั่นสะท้านไปทั้งตัวแล้ว
น้ำเต้าตงฉู่คำราม “แกมันไอ้งั่ง ถ้าไม่ยอมรับเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นเจ้านายเสีย ฉันจะเขมือบแกอีกรอบ แล้วหักแกเป็นชิ้นๆ!”
“ผม…”
ดาบถงซังสั่นสะท้านครู่หนึ่ง ก่อนจะตั้งคมดาบให้ตรงและประกาศก้อง “นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นนายท่าน ผมก็รู้แล้วว่าเขาคือคนพิเศษที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคต ในวินาทีนั้น ผมตัดสินใจทันทีว่าจะไม่รับใครอื่นเป็นเจ้านายนอกจากเขา ก่อนหน้านี้ที่ผมปฏิเสธไป…ก็เพื่อทดสอบความมุ่งมั่นของเขาเท่านั้น!”
จางเซวียนยกมือปิดหน้า พูดอะไรไม่ออก
เขาไม่คิดเลยว่าของล้ำค่าระดับอมตะขั้นสูงจะไร้ยางอายขนาดนี้!
จางเซวียนรีบดำเนินกระบวนการการยอมรับตัวเขาเป็นเจ้านาย ไม่ช้าก็รู้สึกได้ว่าดาบถงซังอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอย่างสมบูรณ์
ดูเหมือนน้ำเต้าตงฉู่จะไม่ใช่แค่ตะกละตะกลาม มันพอมีประโยชน์อยู่เหมือนกัน!
แม้หอสมุดเทียบฟ้าจะมองทะลุข้อบกพร่องของดาบถงซังได้ ซึ่งทำให้จางเซวียนมั่นใจว่าสุดท้ายเขาจะทำให้มันยอมจำนนได้สำเร็จ แต่ก็รู้ดีว่าคงไม่ราบรื่นขนาดนี้หากไม่ได้การข่มขู่ซ้ำจากน้ำเต้าตงฉู่
ดูเหมือนการควบคุมดาบที่มีวรยุทธระดับอมตะขั้นสูงจะยังเกินความสามารถของเราในเวลานี้ขนาดมีเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าเราก็ยังดึงศักยภาพสูงสุดของมันออกมาไม่ได้ จางเซวียนคิด
เมื่อบงการดาบถงซังได้แล้ว จางเซวียนถึงเพิ่งรู้ว่ามันน่าสะพรึงขนาดไหน นั่นอธิบายได้ว่าทำไมมันถึงไม่เต็มใจจะยอมจำนนให้เขา
หากเปรียบเทียบกับพละกำลังของมัน พละกำลังของนักรบขั้นเสมือนอมตะก็ไม่ต่างอะไรกับมดตัวหนึ่ง ด้วยความแข็งแกร่งที่จางเซวียนมีอยู่ในเวลานี้ เขาไม่อาจดึงศักยภาพของดาบถงซังออกมาได้ถึงหนึ่งในร้อยส่วนด้วยซ้ำ
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เมื่อมีดาบนี้ในมือ ก็ไม่มีนักรบคนไหนที่มีวรยุทธต่ำกว่าระดับอมตะขั้นสูงจะทำอันตรายเขาได้ อันที่จริง จางเซวียนอาจเล่นงานได้แม้แต่นักรบอมตะขั้นสูงหากคนเหล่านั้นไม่ทันระวังตัว
ด้วยสิ่งนี้ ในที่สุดเขาก็มีวิถีทางของการปกป้องตัวเอง
“เข้าไป!” จางเซวียนเก็บดาบถงซังเข้าสู่แหวนเก็บสมบัติ
เขาหันไปพยักหน้าอย่างให้การยอมรับในตัวน้ำเต้าตงฉู่ “คราวนี้แกทำดีมาก แล้วฉันจะซื้อยาให้เป็นรางวัล”
หลังจากชมเชยน้ำเต้าตงฉู่และส่งมันกลับเข้าจุดตันเถียนของเขาแล้ว จางเซวียนก็เดินออกจากห้อง
จากข้อมูลที่เขาได้จากหานเจี้ยนชิวเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนมีความเป็นไปได้สูงที่หลัวลั่วชิงจะเป็นเทพเจ้า เรื่องนี้ทำให้เขายิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้นอีก จางเซวียนคิดทันทีว่าการยกระดับวรยุทธคือภารกิจเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้
เขาสำเร็จวรยุทธระดับเสมือนอมตะสรวงสวรรค์ได้กว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ถือว่าเวลาผ่านไปไม่น้อยนับตั้งแต่การฝ่าด่านวรยุทธครั้งสุดท้าย ถึงเวลาเริ่มตามหาหนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะตัวจริงเพื่อฝ่าด่านวรยุทธอีกครั้ง
ขอแค่เขาได้เป็นนักรบอมตะตัวจริง ด้วยความบริสุทธิ์ที่เป็นสุดยอดของพลังปราณเทียบฟ้า ผนวกกับเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าและดาบถงซัง เขาก็จะเก่งกาจเทียบชั้นได้แม้แต่กับนักรบอมตะขั้นสูง
จางเซวียนเดินไปหาไป๋เหรินชิงและเอ่ยปากขอยืมอสูรบินได้ของเธอ จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับสู่ยอดเขาซึ่งเป็นที่พำนักของเหล่าผู้อาวุโส
ก็เหมือนกับการที่หนังสือส่วนใหญ่ในหอสมุดของศิษย์สายตรงฝ่ายในเป็นหนังสือของวรยุทธที่ต่ำกว่าขั้นเสมือนอมตะลงไป หนังสือส่วนใหญ่ที่อยู่ในหอสมุดของศิษย์สายตรงขั้นสูงสุดก็เป็นหนังสือของวรยุทธที่ต่ำกว่าขั้นอมตะตัวจริงลงไปเช่นกัน หากเขาอยากรวบรวมหนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะตัวจริง หรือแม้แต่หนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะขั้นสูงให้ได้มากพอ ก็จะต้องเข้าสู่หอสมุดของผู้อาวุโส
เมื่อถึงที่หมาย จางเซวียนแสดงตราสัญลักษณ์ที่ได้มาจากหานเจี้ยนชิว ซึ่งก็เป็นอย่างที่อีกฝ่ายบอกไว้ เขาเข้าไปในนั้นได้ทันที
หอสมุดของผู้อาวุโสไม่ได้ใหญ่โตเหมือนหอสมุดของศิษย์สายตรงขั้นสูงสุด เป็นเพียงตึก 2 ชั้นที่มี ชั้นหนังสือไม่กี่ชั้นกระจัดกระจายอยู่รอบห้อง จางเซวียนขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะรีบกวาดสายตามองหนังสือที่อยู่รอบตัว
มีหนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะตัวจริงอยู่ที่นี่จริงๆ แต่ดูจะมีไม่มากนัก เพียงไม่นาน จางเซวียนก็ถ่ายโอนทุกอย่างเข้าสู่หอสมุดเทียบฟ้าได้สำเร็จ
“แค่ 600 เล่มเองหรือ?” จางเซวียนถอนหายใจเฮือก
จำนวนของมันห่างไกลจากโดยปกติที่เขาต้องใช้หนังสือเป็นพันเล่มเพื่อประมวลเคล็ดวิชาเทียบฟ้า
จางเซวียนส่ายหน้าแล้วเดินขึ้นไปชั้น 2 ที่นี่มีหนังสือเทคนิควรยุทธระดับอมตะขั้นสูง แต่ปริมาณก็น้อยกว่าเดิมเสียอีก รวมแล้วมีเพียง 12 เล่มเท่านั้น
“เฮ้ย…” จางเซวียนถึงกับไปต่อไม่ถูก
จริงอยู่ว่านักรบส่วนใหญ่ต้องการหนังสือเทคนิควรยุทธที่เหมาะสมเพียงเล่มเดียวเพื่อยกระดับวรยุทธของตัวเองให้สูงขึ้น แต่เขาต้องการหนังสือในปริมาณมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อประมวลเคล็ดวิชาเทียบฟ้าฉบับสมบูรณ์…
จะว่าไป จำนวนหนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะตัวจริงที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่มีน้อยมาก ซึ่งนอกจากสำนักใหญ่อย่างสำนักดาบเมฆเหิน ก็คงไม่มีที่ไหนอีกแล้วในทวีปที่ถูกลืมที่จะมีโอกาสได้พบหนังสือจำนวนมากขนาดนี้…แต่มันก็ยังห่างไกลเหลือเกินกับจำนวนที่เขาต้องการ
ประมวล*!*
ด้วยความหวังอันน้อยนิด จางเซวียนพยายามรวบรวมหนังสือเทคนิควรยุทธขั้นอมตะตัวจริงเข้าด้วยกัน เขาพลิกดูหน้าหนังสือที่ประมวลขึ้นใหม่ ไม่ช้าก็หน้าถอดสีด้วยความผิดหวัง