บทที่ 1417 ทำตามที่พูด

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

บทที่ 1417 : ทำตามที่พูด
  ก่อนหน้านี้หลัวหย่งฉีไล่ล่าเย่ซิงเฉินและแต่ละครั้งที่เขาจู่โจมเข้าใส่ก็หมายเอาชีวิตของนางให้ได้ ทำให้หลิงหยุนโกรธแค้นหลัวหย่งฉีอย่างมาก ทันทีที่ตัดสินใจเป็นฝ่ายบุกจู่โจม เขาก็ลงมืออย่างดุดันหมายสังหารหลัวหย่งฉีให้ตายในทันทีเช่นเดียวกัน!
  “ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าเป็นคนแรก!”
  หลิงหยุนทำการเผาเสินหยวนและเวลานี้เขาก็สามารถเคลื่อนที่ไปได้ด้วยความเร็วที่ไวกว่าเสียงถึงห้าเท่า
  อาวุธทั้งหมดของศิษย์คุนหลุนทั้งสี่ต่างก็พุ่งจู่โจมเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นกระบี่เหินและขวานยักษ์ของหลัวหย่งฉี หรือกระบี่เหินของตู้เจี๋ยและจ้าวหมิงถัง
  ไม่เพียงเท่านั้นจ้าวหมิงถังยังได้สร้างโล่ลมปราณขึ้น เพื่อปกป้องเหวียนถงจากหอกมังกรทองของหลิงหยุนอีกด้วย  จ้าวหมิงถังเห็นแล้วว่าด้วยความแข็งแกร่งของหลิงหยุนนั้นเขาสามารถสังหารเหวียนถงได้ไม่ยาก และหากเขาปล่อยให้เหวียนถงถูกสังหารตาย ต่อให้จับตัวหลิงหยุนได้ เขาก็คงไม่มีหน้าจะกลับคุนหลุนเป็นแน่
  หลังจากที่เคยลิ้มรสชาติของหอกมังกรทองแล้วเวลานี้เหวียนถงเองก็ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้หลิงหยุน
  “อาวุธพวกนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!”
  หลิงหยุนร้องตะโกนออกไปพร้อมกับหลบกระบี่เหินของตู้เจี๋ยที่พุ่งเข้าใส่ร่างของตนได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันก็ใช้ตราหยกจักรพรรดิแทนโล่ปกป้องตนเองจากระบี่เหินของจ้าวหมิงถัง!
  ในบรรดาศิษย์คุนหลุนทั้งสี่นั้นจ้าวหมิงถังเป็นผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด และเป็นศัตรูที่หลิงหยุนจำเป็นต้องระมัดระวังให้มาก
  ในระหว่างนั้นกระบี่โลหิตเทวะในมือของหลิงหยุนก็ฟาดฟันเข้าใส่อาวุธทั้งสองของหลัวหย่งฉี!   “ห๊ะ!เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
  ภายใต้จิตหยั่งรู้ของหลัวหย่งฉีเขาถึงกับตกใจอย่างมาก เมื่อพบว่าอาวุธทั้งสองของตนถูกกระบี่ในมือของหลิงหยุนกระหน่ำฟันเข้าใส่เช่นนั้น
  “เพียงแค่ขั้นพลังชี่เหตุใดจึงได้แข็งแกร่งและเหาะได้รวดเร็วถึงเพียงนี้”
  จะไม่ให้หลัวหย่งฉีตกใจได้อย่างไรกันแม้เขาจะมองไม่เห็นระดับพลังที่แท้จริงของหลิงหยุน แต่เขาก็รู้ว่าหลิงหยุนต้องอยู่ในช่วงของการกลั่นปราณบ่มเพาะจิตวิญญาณ ซึ่งการฝึกฝนจะเน้นไปที่จุดซือไห่กลางหน้าผาก ผู้ที่ฝึกถึงขั้นนี้จะมีพลังจิตที่แข็งแกร่งกว่ากายเนื้อ แต่เวลานี้หลิงหยุนกลับใช้กระบี่ในมือของตน กระหน่ำฟันเข้าใส่อาวุธทั้งสองของเขา!
  “ศิษย์น้องหลัวเจ้าระมัดระวังตัวด้วย!”
  จ้าวหมิงถังเองก็คิดไม่ถึงว่าแม้แต่กระบี่เหินของเขาซึ่งใช้พลังจิตที่แข็งแกร่งของตนควบคุม แต่กลับทำได้เพียงแค่ต้านทานตราหยกจักรพรรดิของหลิงหยุนไว้เท่านั้น แต่มิได้ทำให้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบเลย เขาถึงกับตกตะลึงในพลังจิตที่แข็งแกร่งของหลิงหยุน!
  และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากที่สุดก็คืออัตราความเร็วในการเคลื่อนที่ของหลิงหยุน!
  เวลานี้หลิงหยุนสามารถเหาะไปมาได้ด้วยความเร็วที่ไม่แพ้ยอดฝีมือในขั้นก่อสร้างรากฐาน!
  และดูเหมือนความเร็วของหลิงหยุนจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเวลานี้หลัวหย่งฉีอยู่ห่างจากเขาไปเพียงแค่หนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น!
  “ศิษย์น้องหลัวเจ้ารีบไปสมทบกับศิษย์น้องตู้เร็วเข้า!”
  ในช่วงวินาทีแห่งชีวิตเช่นนี้จ้าวหมิงถังทำได้เพียงแค่ร้องตะโกนบอกหลัวหย่งฉีเท่านั้น เพราะหลิงหยุนว่องไวดุจพายุ และรุนแรงดุจสายฟ้าฟาด แผนที่จะล้อมเขาไว้ทั้งสี่ทิศจึงไม่อาจเป็นไปได้ และต้องเปลี่ยนแผนอย่างกะทันหัน  ตู้เจี๋ยเห็นกระบี่เหินทั้งสองของตนไม่อาจทำอะไรอาวุธของหลิงหยุนได้เขาจึงไม่เสียเวลาต่อ และบังคับกระบี่เหินทั้งสองเล่มของตนให้พุ่งไปทางหลัวหย่งฉี เพื่อช่วยเขารับมือกับหลิงหยุนแทน
  “ศิษย์คุนหลุนช่างขี้ขลาดสิ้นดี!”
  หลิงหยุนร้องตะโกนเย้ยหยันพร้อมกับใช้กระบี่ในมือกระหน่ำฟันเข้าใส่กระบี่เหินทั้งสองทันที
  หลัวหย่งฉีเห็นหลิงหยุนดุร้ายราวกับพยัคฆ์เช่นนี้จึงมิกล้าเหิมเกริมดังเดิมอีก และขณะที่หลิงหยุนกำลังต้านทานกระบี่เหินของตู้เจี๋ยอยู่นั้น หลัวหย่งฉีก็รีบเหาะหนี เพื่อที่จะเข้าไปรวมกับตู้เจี๋ยทันที
  แม้ว่าเขาจะอยู่ในขั้นที่เหนือกว่าและสามารถเหาะไปได้ด้วยความเร็วที่สูงมาก แต่ก็ยังต้องคอยบังคับกระบี่เหินและขวานยักษ์ของตนสะกัดหลิงหยุนไว้ แล้วจึงค่อยเหาะไปหาตู้เจี๋ยด้วยความหวาดผวายิ่งนัก
  “เด็กหนุ่มผู้นี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”   ตู้เจี๋ยเรียกกระบี่เหินของตนกลับมาและปล่อยให้อาวุธทั้งสองของหลัวหย่งฉีสะกัดกั้นหลิงหยุนไว้แทน เขาเอ่ยตอบหลัวหย่งฉียิ้มๆในขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างของหลิงหยุน
  “ศิษย์พี่ท่านเพียงแค่ตกตะลึงไปชั่วครู่เท่านั้น อย่าลืมว่าพวกเราต่างก็มีเกราะป้องกันในระดับกลางขั้นก่อสร้างรากฐาน เด็กนั่นจะทำอะไรพวกเราได้”
  หลิงหยุนหันกลับไปและพุ่งตามร่างของศิษย์คุนหลุนทั้งสองไปทันที ในพริบตาเดียวเขาก็อยู่ห่างจากคนทั้งคู่เพียงแค่หนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น
  แสงสีแดงเจิดจ้าพุ่งออกจากกระบี่โลหิตเทวะเป็นทางยาวกว่าหนึ่งร้อยเมตรรัศมีรุนแรงนี้พุ่งตรงไปทางร่างของยอดฝีมือทั้งสองทันที
  ปัง!
  อาวุธวิเศษทั้งสี่ชนิดลอยพุ่งออกไปสะกัดกั้นรัศมีกระบี่ของหลิงหยุนไว้ได้ทันท่วงทีท่ามกลางท้องนภาที่มืดมิด เกิดเป็นแสงสว่างเจิดจ้า ก่อนจะตามมาด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งปฐพี!
  ปัง!
  แต่แล้วแสงสว่างจากอาวุธทั้งสี่ของศิษย์คุนหลุนก็ค่อยๆดับสลัวลงตามมาด้วยร่างของหลิงหยุนที่เหาะตรงเข้าไปอย่างรวดเร็วพร้อมกระบี่ในมือ เขาควบคุมร่างที่สั่นสะท้านรุนแรงของตนเอง เร่งเหาะตรงเข้าหาศิษย์คุนหลุนทั้งสอง
  “ตาย!”
  กระบี่ในมือของหลิงหยุนยังคงไม่พุ่งเป้าไปที่ผู้อื่นนอกจากหลัวหย่งฉีเพียงผู้เดียว!
  เวลานี้อาวุธทั้งสองของเขาได้ถูกหลิงหยุนกระหน่ำฟันอย่างแรงก่อนหน้าและจุดซือไห่กลางหว่างคิ้วยังสะเทือนรุนแรงไม่หาย ในวินาทีแห่งความเป็นความตายนี้ หลัวหย่งฉีทำได้เพียงแค่ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศรีษะ เพื่อปกป้องกระบี่ที่หลิงหยุนกำลังจะฟันลงมา  ในจังหวะนั้นเองเขาก็เห็นรอยยิ้มเยือกเย็นของหลิงหยุน
  ชัวะ!
  กระบี่โลหิตเทวะในมือหลิงหยุนฟันเข้าที่ท่อนแขนทั้งสองข้างของหลัวหย่งฉีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องดังลั่น
  แขนทั้งสองข้างของหลัวหย่งฉีถูกหลิงหยุนตัดขาดพร้อมกันในคราวเดียวและโลหิตสีแดงก็พุ่งกระฉูดออกมา!
  แต่กระบี่โลหิตเทวะยังมิได้หยุดนิ่งอยู่เพียงเท่านั้นหลิงหยุนยังฝากรอยแผลไว้ที่หน้าอกของหลัวหย่งฉีอีกหนึ่งแห่ง ทำให้หลัวหย่งฉีได้รับบาดเจ็บสาหัส
  แม้เวลานี้หลิงหยุนจะถูกกระบี่เหินสามเล่มจู่โจมเข้าใส่ร่างพร้อมกันแต่เขาก็มีทั้งโล่ลมปราณ ดาราคุ้มกาย และกายที่แกร่งดั่งเพชร เมื่อถูกกระบี่เหินทั้งสามทิ่มแทงเข้าใส่ จึงได้รับบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น  “คนแซ่หลัวถึงคราตายของเจ้าแล้ว!”
  คืนนี้..ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสังหารหลัวหย่งฉีให้จงได้ ในขณะที่หลัวหย่งฉีได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่นี้ หลิงหยุนจึงได้เหาะตรงเข้าไปหา และเงื้อกระบี่ในมือฟันเข้าใส่ร่างของหลัวหย่งฉีอีกครั้ง!
  หลิงหยุนต้องการที่จะสังหารหลัวหย่งฉีให้ตายในดาบเดียวเขาพุ่งฝ่ากระบี่เหินสามเล่มที่สะกัดกั้นไว้ ตรงเข้าหาร่างของหลัวหย่งฉีที่กำลังร่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว!
  “หลิงหยุนเจ้ากล้ารึ”
  จ้าวหมิงถังเห็นหลิงหยุนทำร้ายหลัวหย่งฉีจนได้รับบาดเจ็บถึงเพียงนั้นถังกับเดือดดาลเป็นอย่างมาก แม้เขาจะต้องคอยคุ้มกันเหวียนถง แต่ก็รีบใช้พลังจิตของตนเสกโล่ขึ้นกั้นระหว่างหลิงหยุนกับหลัวหย่งฉีไว้ทันที
  ในเวลานั้นหลิงหยุนเองก็ได้บังคับตราหยกจักรพรรดิของตนเข้าสะกัดโล่ของจ้าวหมิงถังไว้เช่นกัน ในขณะเดียวกันก็บังคับกระบี่เหินเงาธนูและกระบี่กังฉี ให้พุ่งหลบขึ้นบนฟ้าก่อนจะทิ่มลงพุ่งเข้าใส่ร่างของหลัวหย่งฉี!
  “ศิษย์น้องตู้เจี๋ยเจ้ารีบสะกัดเขาไว้เร็วเข้า!”
  จ้าวหมิงถังคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะดุดันและบ้าระห่ำไม่เกรงกลัวผู้ใดถึงเพียงนี้..
  หลัวหย่งฉีถูกหลิงหยุนฟันแขนขาดทั้งสองข้าและหน้าอกเป็นแผลฉกรรจ์ แต่กลับมีโลหิตไหลพุ่งออกมาไม่มากนัก
  ภายใต้จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนเวลานี้ใบหน้าของหลัวหย่งฉีซีดเผือด และดูคล้ายกำลังจะหมดสติ ในสถานการณ์เช่นนี้ หลิงหยุนสามารถสังหารเขาได้ไม่ยาก จ้าวหมิงถังจึงรีบสั่งให้ตู้เจี๋ยใช้กระบี่เหินทั้งสองสะกัดกระบี่เหินของหลิงหยุนไว้
  เมื่อเห็นหลัวหย่งฉีได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ตู้เจี๋ยก็รีบบังคับกระบี่เหินของตนพุ่งเข้าสะกัดกั้นกระบี่เหินเงาธนู และกระบี่กังฉีของหลิงหยุนทันที
  หลิงหยุนแสยะยิ้มและจู่ๆหอกมังกรทองก็พุ่งเข้าใส่ร่างของเหวียนถงอีกครั้ง!
  “ห๊ะ!แย่แล้ว..”
  เหวียนถงกรีดร้องออกมาด้วยความกลัวตายและรีบบังคับกระบี่เหินของตนให้พุ่งออกไปสะกัดกั้นหอกมังกรทองของหลิงหยุนไว้ทันที!
  “หลิงหยุนคิดจะสังหารศิษย์น้องของข้า เจ้าฝันไปแล้ว!”
  จ้าวหมิงถังร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโหแทบคลุ้มคลั่งร่างของเขาพุ่งตรงเข้าไปช่วยเหวยีนถงสะกัดกั้นหอกมังกรทองไว้ได้อย่างรวดเร็ว
  “นี่..พวกเจ้าล้วนเป็นยอดฝีมือขั้นก่อสร้างรากฐาน แต่กลับรุมข้าเพียงผู้เดียว ไม่รู้สึกอับอายขายหน้าบ้างเลยรึ”
  หลังจากเย้ยหยันศิษย์คุนหลุนไปแล้วหลิงหยุนก็ทำการปล่อยโซ่กังฉีออกมา เวลานี้แสงสีดำและสีขาวซึ่งมีความยาวกว่าสามร้อยเมตรนั้น ได้พุ่งออกจากร่างของหลิงหยุน  โซ่กังฉีไม่ต่างจากมังกรดุร้ายสองตัวที่พุ่งโฉบเข้าใส่ร่างของหลัวหย่งฉีซึ่งอยู่ด้านล่างและตรงเข้ารัดรึงร่างของเขาไว้แน่น!
  “แย่แล้ว!ตัดโซ่ของมันทิ้งเสียก่อน!”
  จ้าวหมิงถังร้องตะโกนบอกด้วยความตกใจ!
  แต่เวลานี้เขากำลังสะกัดกั้นหอกมังกรทองของหลิงหยุนอยู่และกำลังใช้พลังจิตบังคับควบคุมโล่สะกัดกั้นตราหยกจักรพรรดิอยู่ ในขณะที่กระบี่เหินทั้งสองของตู้เจี๋ยก็กำลังสะกัดกั้นกระบี่เหินทั้งสองของหลิงหยุน ส่วนกระบี่เหินของจ้าวหมิงถังเองนั้น ก็กำลังปะทะอยู่กับกระบี่โลหิตเทวะในมือของหลิงหยุน จึงเหลือเพียงแค่กระบี่เหินของเหวียนถงเพียงผู้เดียวเท่านั้น
  แต่เวลานี้เหวียนถงอยู่ห่างจากหลัวหย่งฉีมากต่อให้เขาลงมือ ก็ยากที่จะทันการ!
  ในระหว่างนั้นเองจู่ๆ กระบี่เหินเล่มใหญ่ก็พุ่งเข้าหมายฟันใส่โซ่กังฉีของหลิงหยุนทั้งสองเส้น!   “ท่านเจ้าสำนักมาทันเวลาพอดี!”
  ตี๋เฮ่อหมิงเร่งรุดมาอย่างรวดเร็วเขาไม่สามารถปล่อยให้ศิษย์คุนหลุนถูกสังหารตายภายในสำนักกระบี่เทียนซานของตนได้ มิเช่นนั้นแล้ว สิ่งที่เขาเฝ้าเพียรสร้างมาหลายปี จะต้องจบลงอย่างแน่นอน!
  “เจ้ามาก็ดีข้าจะได้คิดบัญชีกับเจ้าพร้อมกันไปเลย!”
  หลิงหยุนร้องตะโกนบอกเสียงดังในขณะที่มือก็ฟาดฟันกระบี่เข้าใส่กระบี่เหินของจ้าวหมิงถังในขณะเดียวกันก็ใช้พลังจิตของตนควบคุมโซ่กังฉีหลบหลีกกระบี่เหินของตี๋เฮ่อหมิง ระหว่างที่หลบหลีกนั้น ก็ค่อยๆดึงร่างของหลัวหย่งฉีเข้าใกล้ตัวเองมากขึ้นเรื่อย
  ระหว่างที่หลิงหยุนใช้โซ่กังฉีรัดร่างของหลัวหย่งฉีไว้นั้นเขาก็ได้ดูดซับเอาพลังปราณจากร่างของหลัวหย่งฉีเข้าไปในร่างของตนเองด้วย
  หากได้พลังปราณของยอดฝีมือขั้นก่อสร้างรากฐานเข้าไปจะเป็นประโยชน์ต่อหลิงหยุนอย่างมากมายมหาศาล
  “เจ้ากล้าทำร้ายภรรยาของข้าข้าต้องคิดบัญชีกับเจ้า!”
  เวลานี้ร่างของหลัวหย่งฉีมาอยู่ตรงหน้าหลิงหยุนแล้ว สายตาของคนทั้งคู่ประสานกัน แววตาของหลัวหย่งฉีเต็มไปด้วยความสะพรึงกลัว ในขณะที่ดวงตาของหลิงหยุนยังคงสงบนิ่ง
  “ข้าบอกแล้วว่าจะสังหารเจ้าเป็นคนแรก..ฉะนั้น เจ้าเตรียมลงนรกไปได้แล้ว!”
  แสงสีแดงสว่างจ้าจากกระบี่ในมือของหลิงหยุนปะทะเข้ากับลำคอของหลัวหย่งฉี!
  แล้วหลิงหยุนก็สามารถทำตามคำพูดของตนเองได้สำเร็จ!