Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 929 ฉันยอมรับไม่ได้
เย่เซิ่งเทียนแปลกใจอย่างมาก ชายชราผู้นี้ตกลงหมายความว่าอย่างไรกันแน่
คุณท่านเหย้จิบน้ำชาอีกคำ และพูดขึ้นว่า: “เพียงแต่ นายเคยได้พิจารณาถึงชื่อเสียงของหลิงเอ๋อร์ของพวกเราบ้างไหม? หล่อนเป็นผู้หญิง ตอนนี้แม้ว่าจะแต่งงานปลอมกับนาย แต่เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป คนด้านนอกต่างก็ถือว่าเป็นความจริง อีกทั้งตอนนี้หลิงเอ๋อร์ก็กำลังตั้งครรภ์ หากจะแต่งงานกับนายอีก ต่อไปไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่เป็นผลดีกับหลิงเอ๋อร์ทั้งนั้น”
เย่เซิ่งเทียนเข้าใจแล้วว่า ชายชราผู้นี้ต้องการที่จะให้การแต่งงานของเขากับเหย้ซูหลิงเป็นเรื่องจริง
ไม่ทันรอให้เย่เซิ่งเทียนพูด คุณท่านเหย้ก็พูดต่อว่า: “แน่นอนว่า ที่ฉันทำแบบนี้ก็เป็นผลดีกับนายด้วย เมื่อนายแต่งงานกับหลิงเอ๋อร์อย่างแท้จริงแล้ว อย่างนั้นพวกเราตระกูลเหย้ก็ต้องยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับนายแน่นอน”
เย่เซิ่งเทียนมองไปยังเหย้ซูหลิง เขาไม่แน่ใจว่านี่เป็นความตั้งใจของเหย้ซูหลิงเองหรือไม่
แต่เรื่องนี้ เขาไม่เห็นด้วยแน่นอน
และไม่มีทางที่จะเจรจาต่อรองกันได้
หลายปีมานี้ที่หวางซีอยู่ด้วยกันกับเขานั้น ได้รับความยากลำบากมากมาย และทนทุกข์ทรมานมานับครั้งไม่ถ้วน
ชีวิตนี้ นอกจากหวางซีแล้ว เขาไม่มีทางที่จะแบ่งปันความรู้สึกของตนเองให้กับหญิงอื่นอีก
เย่เซิ่งเทียนพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “ขอบคุณในความเมตตาของคุณท่านเหย้ แต่ฉันยอมรับไม่ได้ ฉันมีภรรยาและลูกแล้ว ฉันไม่สามารถละทิ้งภรรยาที่ร่วมสุขร่วมสุขด้วยกันได้ ชั่วชีวิตของฉันนี้คงจะไม่มีทางไปชื่นชอบผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว ที่ฉันมา ก็เพื่อร่วมมือกับตระกูลเหย้ หากว่าตระกูลเหย้ไม่ให้ความร่วมมือ ฉันเข้าใจได้ และจะไปคิดหาวิธีการอื่นแทน”
คำพูดนี้เด็ดเดี่ยวตรงไปตรงมาอย่างที่สุด
ไม่มีการต่อรองแต่อย่างใด
เหย้ซูหลิงแสดงแววตาที่ผิดหวังออกมาเล็กน้อย
พร้อมกับความไม่ยินยอม
เทียบกันเรื่องวงศ์ตระกูล เธออยู่บนฟ้า หวางซีอยู่ใต้ดิน
เทียบกันเรื่องหน้าตา เธอก็ยังสวยงดงามกว่าหวางซีอีก
ที่สำคัญก็คือ เธอกับเย่เซิ่งเทียน ยังมีข้อตกลงการแต่งงานกันระหว่างตระกูลอีกด้วย
แต่ในตอนนี้ เย่เซิ่งเทียนก็ยังคงปฏิเสธ
ปฏิเสธโดยที่ไม่แม้แต่จะลังเลใจเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยงามคนไหน ในขณะที่กำลังทอดสะพานให้กับผู้ชายอยู่นั้นต่างก็จะกระหยิ่มยิ้มย่อง เพราะนี่คือต้นทุนของตัวเธอ
แต่เมื่อผู้ชายปฏิเสธ ก็จะรู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย
คุณท่านเหย้สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาลง และพูดขึ้นว่า: “หรือว่าหลิงเอ๋อร์ของฉันสวยงามสู้ภรรยาของนายไม่ได้? ”
เย่เซิ่งเทียนส่ายศีรษะและพูดว่า: “เหย้ซูหลิงสวยงามกว่าภรรยาของฉัน”
คุณท่านเหย้ถามต่อว่า: “หรือว่าวงศ์ตระกูลของหลิงเอ๋อร์เทียบกันกับภรรยาของนายไม่ได้? ”
เย่เซิ่งเทียนส่ายศีรษะอีก: “ภรรยาของฉันเป็นหญิงสาวของตระกูลธรรมดาทั่วไป ไม่ฉลาดเหมือนกับเหย้ซูหลิง ไม่ได้สวยงามไปกว่าเหย้ซูหลิง และก็ไม่ได้มีความรู้ความสามารถอย่างกับเหย้ซูหลิงด้วย แต่ว่า ซีเอ๋อร์ก็ยังคงเป็นภรรยาของฉัน มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความสวยงามและวงศ์ตระกูลเลย”
คุณท่านเหย้เผยความโกรธเคืองออกมาเล็กน้อย และพูดอย่างหนักแน่นว่า: “ฉันจะถามนายอีกว่า ถ้าหากเด็กในครรภ์ของหลิงเอ๋อร์คือลูกของนายล่ะ? ”
เย่เซิ่งเทียนพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า: “ไม่มีคำว่าถ้า และก็เป็นไปไม่ได้ที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นด้วย”
คุณท่านเหย้หรี่ตาลงเล็กน้อย: “ฉันพูดว่า ถ้า”
เย่เซิ่งเทียนจ้องมองไปที่ดวงตาของคุณท่านเหย้ โดยที่ไม่ได้เกรงกลัวพลังความสามารถที่แข็งแกร่ง ของอีกฝ่ายหนึ่งเลย แล้วพูดขึ้นว่า: “ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นล่ะก็ ฉันจะรับผิดชอบ แต่เหตุการณ์แบบนั้น ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำตอบแบบนี้แล้ว เหย้ซูหลิงก็ใจแป้ว เสียใจผิดหวังอย่างมาก
เพราะว่าเย่เซิ่งเทียนพูดว่า จะรับผิดชอบ
ใช่ ก็แค่รับผิดชอบ
ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น เขาจะรับผิดชอบ
นี่คือลักษณะท่าทีทั่วไปของผู้ชายคนหนึ่ง
แต่รับผิดชอบกับความรู้สึกนั้น มันคนละเรื่องกัน
ที่คุณท่านเหย้ต้องการนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบ
ที่เหย้ซูหลิงต้องการนั้น ก็ไม่เพียงแต่ความรับผิดชอบ
“คุณปู่ เรื่องนี้ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย ท่านพูดเรื่องนี้ไปทำไมกัน วันนี้พวกเรามาพูดคุยกันในเรื่องความร่วมมือต่างหาก”
เหย้ซูหลิงพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
คุณท่านเหย้จ้องมองไปที่เหย้ซูหลิงด้วยสายตาที่ดุดัน และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาขึ้นกว่าเมื่อครู่ไม่น้อย: “เรื่องความร่วมมือ ทางหลิงเอ๋อร์เป็นคนรับผิดชอบ ฉันไม่แทรกแซง นี่คือเรื่องระหว่างพวกเธอทั้งสองคน ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเหย้ ฉันจะพักผ่อนแล้ว หากไม่มีธุระอะไรอีกก็กลับไปเถอะ”
เมื่อพูดจบ คุณท่านเหย้ก็ลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน
เย่เซิ่งเทียนเองก็ไม่ได้ใส่ใจ
ก็แค่ร่วมมือกันเท่านั้น
หากไม่ต้องการร่วมมือ เขาก็ไปหาคนอื่นแทน
และเขายังเชื่อว่า หากในอนาคตตนเองสามารถทำลายสรวงสวรรค์ได้สำเร็จ สิ่งที่เขาจะตอบแทนให้กับตระกูลเหย้นั้น จะมากกว่าสิ่งที่ตระกูลเหย้เสียสละอีกหลายเท่าเลย