บทที่ 504

เหอเหลียนตกใจร้องไห้และพูดว่า “ท่านอาจารย์เย่ ฉันผิดไปแล้ว หากท่านต้องการเงิน ฉันจะนำเงินทั้งหมดที่ฉันมีมาให้ท่าน!ฉันอยู่ที่มาเก๊ามาหลายปี ก็มีเงินเก็บมากมาย ในมือฉันตอนนี้มียี่สิบล้าน ให้ท่านทั้งหมดเลย แต่ได้โปรดปล่อยลูกชายและลูกสาวของฉันไปเถอะ!”

ขณะที่พูดอยู่นั้น เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดบัญชีธนาคารให้เย่เฉินดู

ในบัญชีของเธอนั้นมีมูลค่ากว่ายี่สิบเอ็ดล้าน

เย่เฉินกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เงินกว่ายี่สิบเอ็ดล้านนี้ ให้เธอบริจาคให้กับ project hope ทั้งหมด!”

จากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดบัญชีของ project hope จากนั้นก็ส่งให้เหอเหลียนพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “โอนเดี๋ยวนี้”

เหอเหลียนรีบถามออกไปว่า “ท่านอาจารย์เย่ ถ้าฉันบริจาคเงินนี้ให้ท่านแล้ว ท่านจะปล่อยฉันไปใช่ไหม?”

เย่เฉินหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาและพูดว่า “นี่ยังจะกล้ามาต่อรองกับผมอีกเหรอครับ?”

เหอเหลียนตกใจแทบตาย รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโอนเงินให้บัญชีของ project hope ที่เย่เฉินหามาให้ทันที

เมื่อโอนเสร็จแล้ว เธอยื่นโทรศัพท์ให้กับเย่เฉิน พร้อมกับร้องไห้และพูดว่า “ท่านอาจารย์เย่ ฉันเอาเงินทั้งหมดที่ฉันมีบริจาคไปหมดแล้ว ยอดเงินในบัญชีก็เป็นศูนย์ ท่านปล่อยฉันไปได้แล้วใช่ไหม?”

หลังจากที่เย่เฉินมั่นใจแล้วว่าเธอได้บริจาคเงินทั้งหมดแล้ว จึงพูดอย่างเย็นชา “คุณอย่าลืมล่ะ เมื่อกี้ที่เราเล่นเป่ายิ้งฉุบกัน คุณเป็นหนี้ผมร้อยล้าน เงินยี่สิบล้านที่บริจาคมา แสดงว่าคุณยังเป็นหนี้ผมอีกมากกว่าเจ็ดสิบล้านนะ”

เหอเหลียนร้องไห้และกล่าวว่า “ท่านอาจารย์เย่ เงินยี่สิบล้านหยวนที่ฉันให้ไป มันเป็นทรัพย์สินทั้งหมดที่ฉันมีแล้วนะคะ…..”

เย่เฉินพยักหน้าและพูดว่า “ฉันไม่ได้พูดไปแล้วเหรอ?ส่งคนในทะเบียนบ้านของเธอไปขุดถ่านที่เหมืองถ่านหินดำ หนึ่งเดือนได้สองพันหยวน เมื่อไหร่ที่พวกคุณจ่ายเงินครบเจ็ดสิบล้านแล้ว เวลานั้นก็จะปล่อยพวกเธอไป”

เหอเหลียนทรุดลงและโพล่งออกมาว่า “ท่านอาจารย์เย่ หนึ่งเดือนสองพันหยวน หนึ่งปีก็แค่สองหมื่นสี่พันหยวน ต่อให้จ่ายเงินจนตายก็ไม่มีทางจ่ายคืนท่านได้หมดหรอก!”

เย่เฉินถามกลับไปว่า “คนที่ถูกเธอโกงจนบ้านเขาต้องล้มละลาย พวกคนที่เป็นหนี้พวกนั้น จ่ายหนี้ยังไงกันล่ะ?เธอเคยคิดบ้างไหม?ถ้ารู้แต่แรกแล้วจะทำทำไม?”

หลังจากนั้นเย่เฉินก็ถามเหอหัวเฉียงว่า “บอกกับฉันมาตรงๆ สมาชิกในบ้านที่สนิทของป้าคนที่สองนี้มีใครบ้าง?”

เหอหัวเฉียงรีบพูดออกไปว่า “หล่อนมีสามี มีลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายเพิ่งแต่งงานเมื่อปีก่อน บ้านลูกสะใภ้เปิดคาสิโนดำในจินหลิง ส่วนลูกสาวของเธอแต่งงานไปเมื่อเดือนที่แล้ว ลูกเขยทำเกี่ยวกับพวกเงินกู้ครับ เชี่ยวชาญทำกับพวกนักศึกษา บังคับให้นักศึกษากระโดดตึกมาหลายคนแล้วครับ”

เย่เฉินพยักหน้าและพูดว่า “โอเค คนโกงนี่มีลูกสองคน คนหนึ่งแต่งกับลูกสาวเจ้าของคาสิโน ส่วนอีกคนก็แต่งกับคนทำเงินกู้ พวกเธอนี่คบค้าสมาคมแต่กับพวกคนชั่วจริงๆ”

จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความวีแชทให้กับเฉินจื๋อข่าย

เนื้อหาในวีแชทก็คือ “ในจินหลิงมีคนโกงที่เพิ่งกลับมาจากมาเก๊า มีชื่อว่าเหอเหลียน นายช่วยฉันตรวจสอบ สามี ลูกชายลูกสะใภ้ ลูกสาวลูกเขย เอาทั้งหมดมาส่งให้ที่ Tomsom Rivieraที”

หงห้าถึงแม้ว่าจะเป็นคนมีอำนาจใต้ดินของเมืองจินหลิงก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงโลกใต้ดินเท่านั้น ถ้าให้เขาไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนี้ ดูจากความอดทนของเขา ต่อให้เอามาไว้ด้วยกันได้ แต่ก็คงมีเรื่องตามมาอย่างแน่นอน

แต่สำหรับเฉินจื๋อข่ายนั้นไม่เหมือนกัน

เฉินจื๋อข่ายเป็นโฆษกในจินหลิงของตระกูลเย่ อยู่ที่จินหลิง แม้แต่นายซ่งจากตระกูลซ่ง ก็ต่างทำตัวสุภาพเกรงใจเมื่อพบเขา

ดังนั้น เฉินจื๋อข่ายหากอยู่ที่จินหลิง ไม่มีเรื่องใดที่เขาจะทำไม่สำเร็จ

เมื่อได้รับคำสั่งของเย่เฉินแล้ว เฉินจื๋อข่ายก็ไม่รอช้า รีบส่งคนไปตรวจสอบครอบครัวของเหอเหลียนในทันที

เหอเหลียนร้องไห้อย่างขมขื่น เธอคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับก้มหัวให้แก่เย่เฉิน ได้แต่ขอร้องให้ยกโทษให้ เธอกระแทกหน้าลงกับพื้นนั่นทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุด

แต่เย่เฉินก็ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจเธอ

เธอทำลายคนจำนวนมาก ทำให้พวกเขาต้องล้มละลาย ถึงเวลาแล้วที่เธอจะได้ลิ้มรสความพังพินาศของครอบครัวตัวเองเสียบ้าง!

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอได้ลิ้มรสถึงความล้มละลายเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นมันก็ถือว่าดีสำหรับเธอมากแล้ว!